(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 9 - ฟาดด้วยเงิน
009 – ฟาดด้วยเงิน
สถานที่ที่อัลม่าพามาอยู่ข้างๆ กิลด์ทหารรับจ้าง ดูคล้ายๆ กับคาเฟ่จนทำให้นึกถึงคาเฟ่ Saint ○○rc เลย
ผมสั่งของที่คล้ายๆ คาเฟ่โอเล และของที่คล้ายๆ แซนวิช อัลม่าเองก็สั่งของที่คล้ายๆ คาเฟ่โอเล สาวน้อยนั้นปฎิเสธ ผมก็เลยสั่งของที่เหมือนคาเฟโอเลกับของที่เหมือนแซนวิสแบบเดียวกับของผมให้ไป
“แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ?”
“อื้อ… มิมิค่ะ”
“อ๋อจริงด้วย ฉันยังไม่ได้บอกชื่อสินะ ฉันฮิโระ”
“นายนะหุบปากไปก่อน แล้วมิมิน่ะทำอะไรได้มั่ง? อะไรที่คิดว่ามีประโยชน์กับการอยู่บนยานน่ะ?”
ใจร้าย มาบอกให้หุบปากเนี่ย… แนะนำตัวมันสำคัญนะรู้ไหม?
“อื้อ… มีอะไรที่ฉันควรจะทำได้บ้างเหรอ?”
“… ก็เข้าใจแหละนะ งั้นเดี๋ยวบอกให้ฟังล่ะกัน หมอนี่น่ะไม่ต้องใช้คนช่วยสำหรับการต่อสู้เลยสักนิด เพราะงั้นข้ามเลย อื่นๆ ก็ เตรียมของ จัดข้อมูล ต่อรองกับลูกค้า ติดต่อกับกิลด์ทหารรับจ้าง ติดต่อกับท่าเรือตอนจอดยานรึเอายานออก แล้วก็พวกงานพิธีการไรงี้”
“ไม่เคยมีประสบการณ์ทำอะไรแบบนั้นมาก่อนเลยค่ะ…”
“ก็คิดไว้แล้วแหละ ถ้างั้นที่ทำได้ก็น่าจะเป็นดูแลหมอนี่แหละ ทำอาหาร ซักผ้า… แล้วก็ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิง ดูแลพื้นที่ส่วนลับของหมอนี่ล่ะมั้ง”
“พรู๊ดด”
ผมพ่นน้ำออกจากปากทันทีที่จู่ๆ ได้ยินมุกใต้สะดือ รับผิดชอบเลยนะ! พูดกับสาวๆ ตรงไปแล้วว้อย!
“สกปรกย่ะ!”
อัลม่าที่อยู่ด้านหน้าผมถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ ขอโทษด้วยครับ
“นี่ ไอ้ที่ว่า ‘ส่วนลับ’ นี่หมายความว่าไงน่ะหา?!”
“อะไร? ไม่ใช่เหตุผลหลักที่อยากได้ยัยหนูนี่ขึ้นยานด้วยแต่แรกรึไง?”
อัลม่าว่าด้วยสีหน้าตกใจ ผมเหลือบตามองเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่ามิมิ แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะคิดแบบเดียวกัน เพราะเธอเองก็ตกใจกับท่าทีตอบรับของผมเหมือนกัน
“ก็คิดว่าน่ารักอยู่แหละ แต่แค่หวังว่าจะได้เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้คิดจะตรงแหน่วลงไปถึงใต้สะดือทันทีเมื่อไร ยัยโง่เอ๊ย!”
“อะไรเนี่ย? ใสซื่อจังนะนายเนี่ย? จริงๆ เป็นแค่เด็กเปรตสินะ?”
“ไม่ใช่แบบนั้นว้อย… คือแบบ อะไรเล่า อันนี้ก็ปกติเหรอ? ที่ถ้าผู้หญิงอยู่บนยานของผู้ชายจะต้องทำอะไรแบบนี้น่ะ”
“ถ้าความสัมพันธ์มันเท่าเทียมก็ไม่จำเป็นหรอก แต่ยัยหนูนี่ไม่ใช่ไงล่ะ เรื่องมันก็เลยควรเป็นงั้นอยู่แล้ว”
อย่างกับเกมเอโรเกะแน่ะ ไม่เคยเห็นมีเรื่องแบบนี้ในสเตลล่าออนไลน์เลย
“โน๊ว โน๊ โน ฉันไม่ได้มีเจตนาจะบังคับให้มาทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้สักหน่อย ไม่ได้เป็นตัวร้ายแบบนั้นนะ”
“หืมมม ไงก็ตาม ไม่ใช่เรื่องของฉันนิ แค่ทำให้นายรู้ว่าเป็นปกติที่จะโดนมองแบบนั้นก็ถือว่าจบเรื่อง”
“อึก…”
ผมเหลือบมองมิมิ เธอหน้าแดงก้มหน้างุด ม๊ายย ไม่ต้องทำท่าทางแบบนั้นก็ด๊าย! ไม่ได้บังคับให้ท๊ำ! ไม่ใช่เหตุผลที่ช่วยไว้ซะหน่อย!
อยากจะพูดออกมาให้ชัดๆ แต่ว่ารู้สึกเหมือนจะทำให้ดูเหมือนกำลังโกหก ก็เลยเงียบแล้วแสดงออกทางการกระทำแทน
“มิมิ อยากจะทำอะไรเหรอ? หมายถึงว่า ทำไมถึงออกมาเดินตะลอนในที่แบบนั้นน่ะ? สาวไร้เดียงสาอย่างเธอมาแถวๆ ที่แบบนี้ก็เลยเจออะไรแบบนั้นเนี่ยแหละ”
“คือว่า……”
“หรือทำผิดอะไรมาเลยหนีมาเขตสามเหรอ? แล้วผู้ปกครองล่ะ?”
“…”
เพียงได้ยินคำว่า ‘ผู้ปกครอง’ มิมิก็น้ำตาคลอทันที อ่า อย่าทำให้ร้องไห้เซะ…
มิมิเริ่มเล่าเรื่องของตัวเอง น้ำตาก็ไหลมาตามใบหน้า เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป เติบโตมาในครอบครัวปกติของเขตสอง แต่อยู่ๆ ครอบครัวที่ทำหน้าที่ดูแลโครงสร้างการผลิตออกซิเจนของโคโลนี่ก็ตายในอุบัติเหตุ
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความรับผิดชอบในอุบัติเหตุก็โดนโยนให้ครอบครัวของมิมิ มรดกเกือบทั้งหมดก็เลยถูกยึด มิมิที่เป็นแค่นักเรียนและยังไม่มีงานดีๆ เลยโดนเนรเทศมาอยู่เขตสามเพราะว่าจ่ายภาษีในฐานะผู้อยู่อาศัยของเขตสองไม่ไหว
“เอ๋… เป็นไปได้ด้วยเหรอ? ไม่มีเงินประกัน หรืออะไรแบบนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่รู้ย่ะ แต่ก็นั่นแหละ ที่สำคัญคือตอนนี้ยัยนี่น่ะไม่มีที่ไป”
“ก็จริง… ตัวเลือกมีไม่มากเท่าไร”
ถ้ามิมิไม่เลือกขึ้นยานผม ก็คือต้องกลับไปที่เขตสามตัวเปล่ามีแค่เสื้อผ้า แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นแบบวันนี้อีกก็ไม่มีทางจะหนีออกมาได้ปลอดภัยแน่ๆ
“อื้อ ขอร้องล่ะค่ะ… ให้ทำอะไรก็ได้ ขอขึ้นเป็นลูกเรือด้วยเถอะนะคะ”
มิมิก้มหัวให้อย่างสิ้นหวังด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา
“ได้สิ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวก็คิดอะไรสักอย่างออกเองแหละ เพราะงั้นไม่ต้องห่วง แล้วก็นี่กินแซนวิชซะสิ ยังไม่ได้กินอะไรดีๆ เลยนิหน่า?”
“ค่ะ…”
พอได้ยินแบบนั้นมิมิก็ดูโล่งใจขึ้น แล้วก็เริ่มกินแซนวิช ผมเลยหันไปหาอัลม่าที่ทำสีหน้าไม่พอใจเท่าไรอยู่
“แล้ว คุณรุ่นพี่อัลม่าผู้แสนใจดีมีน้ำใจครับ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่าทำไงถึงจะให้มิมิเป็นลูกเรือได้”
“เอาจริงสินะ?”
“จริงแท้แน่นอน”
“แพงนะ รู้ใช่ไหม?”
“ฮะ? แพง?”
☆★☆
“ค่าภาษีประชาชนเขตสองรวมค่าค้างชำระทั้งหมด ค่าธรรมเนียมการทำรายการล่าช้ากับค่าชดเชยที่สืบทอดมาจากครอบครัวของคุณ รวมแล้วห้าแสนอีเนลถ้วน จ่ายหมดก็อิสระที่จะทำตามใจได้”
“ล้อกันเล่นรึเปล่าเนี่ย?”
บุรุษในชุดสูทแน่นเปรี๊ยะพร้อมทรงผมหวีแสกแบ่งส่วน 7:3 ที่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าตายเรียกร้องเงินจำนวนสูงลิบลิ่ว ห้าแสนอีเนล? แปลงด้วยจำนวนเงินร้อยเยนต่อหนึ่งอีเนลนี่ห้าสิบล้านเลยนะว้อย ไปเอาราคานี้มาจากไหนเนี่ย?
ที่นี่คือสำนักทะเบียนราษฏร์สาขาเขตสามของโคโลนี่ค้าขายระบบดาวทาร์เมนไพรม์ หรือเรียกอีกอย่างคือหน่วยงานรัฐ
ผมมาเพื่อจัดการเอกสารสำหรับรับมิมิเป็นลูกเรือ แต่พอพวกนี้ยืนยันข้อมูลของมิมิเสร็จก็ลากผมมาที่ห้องด้านในแล้วเรียกเงินมหาศาลใส่ทันที ผมมั่นใจเลยว่าพวกคุณจะต้องไม่เข้าใจว่าไอ้พวกนี้มันพูดเรื่องอะไรอยู่ เพราะผมก็ด้วย
ไงก็ตามอัลม่าที่ไม่ชอบบรรยากาศของหน่วยงานรัฐก็เลยหนีไปทีอื่นในตอนที่พวกเราโดนพาย้ายห้อง มิมิมากับผม ซึ่งพอเธอได้ยินจำนวนเงินแล้วตัวสั่นหน้าซีดเป็นลูกสัตว์เลย
“ไม่ครับ ราคานี้ปัดลงทำให้ราคาต่ำลงแล้วด้วย จะดูรายละเอียดด้วยไหมครับ?”
“ดูได้เหรอ?”
แล้วผมก็ได้ดูรายละเอียด ซึ่งถึงผมจะเข้าใจสิ่งที่เขียนอยู่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าราคามันสมเหตุสมผลไหม
แค่ไอ้ภาษีเดินทางเสรีอย่างเดียวก็สอนแสนอีเนลเข้าไปแล้ว? อันนี้ไม่ได้ฉ้อโกงกันอยู่ใช่ปะ?
“…ให้เด็กที่อายุแค่นี้มารับหนี้ของครอบครัวเนี่ย? ไม่มีของอย่างพวกละเว้นการรับมรดกติดลบหรือการประกาศล้มละลายบ้างเหรอ?”
“ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ว่าทางฝั่งผู้เสียชีวิตจะต้องแจ้งยกเว้นหนี้ภายในสามเดือนเมื่อรับรู้ว่าได้รับหนี้ ซึ่งก็พ้นกำหนดมาแล้ว อนึ่งการย้ายไปอยู่ที่เขตสามก็จะสามารถละเว้นการชำระหนี้ได้ จะเรียกว่าเป็นประกันสังคมก็ได้”
พนักงานตอบโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน ประกันอย่างไส? ย้ายไปอยู่พื้นที่สลัมเลยไม่ต้องจ่ายหนี้ แต่ในทางกลับกันก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐเช่นกัน
คือก่อนอื่นเลยนะ โยนเด็กที่ทำงานไม่เป็นไปสลัมมันก็เห็นชัดๆ อยู่แล้วป่ะว่าจะเป็นยังไง นี่ไม่ใช่ประกันอะไรทั้งนั้นอะ แม่งคือการทอดทิ้งชัดๆ นะ? โคโลนี่แบบนี้ดีแล้วจริงๆ เหรอ?
“ผมได้ยินมาว่าเป็นทหารรับจ้างน่ะรายได้ดี แต่คงจ่ายเยอะขนาด 500,000 อีเนลไม่ไหวหรอกละมั้งครับ? ผมว่าเรากำลังเสียเวลาเปล่ากัน ผมก็ไม่รู้ว่ายังไง แต่ที่เขตสามก็ดูเป็นสนามเด็กเล่นที่เหมาะกับคุณดีนะครับ แค่หาความสุขแล้วจบไปไม่ต้องคิดอะไรเยอะดีกว่าไหมครับ?”
ไอ้ผมเป๋ข้างยิ้มชั่วราวกับเยาะเย้ย
หา? มึงว่าไงนะ? ก็รู้แหละว่าคำพูดของไอ้ห่านี่สื่อถึงมิมิแบบไหน แต่พูดออกมาแบบนี้นี่มัน?
หืมม… นี่แก? ล้อกันเล่นอยู่สินะ? ได้ดิ อยากจะไฟว์ใช่ปะ มามะ
“โอเค สบายๆ ห้านแสนอีเนลใช่ไหม? จ่ายสด”
“ห๊ะ?”
ไอ้หัวเป๋ดูตกใจทันทีที่ผมพูดออกไป สีหน้าดูดีนิ อันนี้ต่างหากที่อยากเห็น
“อะไร? ไม่ใช่แค่หยาบคายใจดำนิสัยแย่ แต่หูเองก็แย่ด้วยเหรอ? ก็บอกว่าจะจ่ายสด 500,000 ไง รีบๆ ทำเรื่องให้จบดิ๊”
“… ไม่ล้อเล่นสินะครับ?”
“เชิญผิดหวังไปละกัน บอกให้รีบๆ ทำให้จบไง”
พอผมดึงเทอมินัลออกมาจากประเป๋าแล้วแสดงให้เห็นว่าจะจ่ายเงินนะ ไอ้หัวเป๋ก็เดินเรื่องจ่ายเงินอย่างไม่เต็มใจ ถึงจะนิสัยแย่แต่ก็ทำงานไว ไม่นานการชำระเงินก็เสร็จสิ้น
การส่งเงิน 500,000 อีเนลจากบัญชีผมเข้าเทอเมนไพรม์ได้รับการยืนยัน แล้วก็ได้ใบรับรองว่าชำระหนีของมิมิเรียบร้อยแล้วมาพร้อมกับใบรับรองการเดินทางอย่างเสรี
ใบรับรองการเดินทางเสรีเป็นสิทธิพิเศษที่ทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีนอกจากว่าอนาคตลงหลักปักฐานอยู่ที่ไหนสักที แต่ก็แพงโคตรๆ แค่ใบนี้ใบเดียวก็สองแสนอีเนล อย่างกับจ่ายภาษีล่วงหน้าแนะ
หลังจากฟังคำแนะนำอย่างละเอียดจากพ่อผมเป๋แล้ว ผมก็รับเอกสารมาแล้วออกจากออฟฟิศ ทันทีทีออกมาตัวเทอมินัลของผมก็ส่งเสียงปี๊ป พอสงสัยแล้วเปิดดู ก็เห็นว่าข้อความจากอัลม่า ดูเหมือนว่าจะอยู่ร้านเสื้อผ้าใกล้ๆ มีข้อมูลนำทางแนบมาให้ด้วย
“โอเคไหม?”
“ค-ค่ะ… สบายดีค่ะ”
มิมิยังกึ่งๆ มึนอยู่ตั้งแต่ผมจ่ายเงินเสร็จ ไม่รู้ว่าตอนนี้ในหัวมิมิเป็นไงบ้าง เดาไม่ได้เลย แต่ว่าก็ได้ผมช่วยไว้ตอนโดนผู้ชายจู่โจม สารภาพเรื่องราวเจ็บปวดในชีวิตให้ฟังที่คาเฟ่ ได้เจอว่ามีหนี้ที่หน่วยงานรัฐ จากนั้นผมก็จัดการทุกอย่าง
ไม่รู้หรอกว่ายัยหนูนี่อายุเท่าไร แต่ถ้าผมอยู่สถานการณ์เดียวกัน ผมน่าจะเครียดจนเป็นบ้าไปแล้ว เลยอยากจะรีบพากลับไปพักที่ยาน แต่ยังต้องหาซื้อชุดใหม่ให้มิมิซะก่อน ไม่งั้นพรุ่งนี้ได้มีปัญหาเรื่องชุดแหง
ถึงจะรู้สึกไม่ดี แต่ยังไงก็ต้องไปซื้อชุดให้วันนี้ก่อนกลับยานล่ะนะ
“ผลเป็นไงบ้าง?”
“ค่าใช้จ่ายเป็นปึก – เลยฟาดด้วยอีเนลไป”
“เยี่ยม นี่แหละวิถีทหารรับจ้าง แล้วก็ฉันเลือกชุดไว้ให้มิมิแล้ว เอาไป”
อัลม่ายัดถุงชุดใส่มือพร้อมบิล ราคาก็… ไม่แพงแฮะ ไม่ได้ดูแพงเลย อาจจะเพราะเป็นชุดชั่วคราวเหรอ?
“อันนี้ฉันซื้อพวกเสื้อผ้ากับชุดชั้นในที่จะต้องใช้ทุกวันกับของอื่นๆ ที่ดูจำเป็นไว้ให้ บางทีอาจจะไม่พอ เพราะงั้นทั้งสองคนลองวนซื้อดูอีกรอบก็ได้นะ”
“ขอโทษที ช่วยได้เยอะเลย”
“ถ้าช่วยตอบแทนกันด้วยจะดีใจมากเลยล่ะ”
“จ่ายคืนคุ้มราคาไปแล้วนี่หน่า ฆ่าเวลาได้ดีใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่คุ้มเลยสักนิดย่ะ… นี่พูดจริงนะ แต่เอาเถอะ ก็ฆ่าเวลาได้แหละ ตอนนี้ก็แค่นี้แล้วกัน โอเคไหม? ฉันจะกลับยานแล้ว”
“ว่าจะกลับเหมือนกัน อยากให้มิมิได้พัก”
“ก็เป็นความคิดที่ดี แล้วก็เธอ เอาใจหมอนี่เยอะๆ ล่ะ แล้วก็ดูแลมันดีๆ ด้วย ปล่อยไว้คนเดียว เดี๋ยวก็สอดจมูกไปหาเรื่องแปลกๆ จนเดี้ยงเข้าสักวัน”
“ค-ค่ะ”
มิมิยืดหลังตรงรับคำอัลม่า เหมือนว่าในสายตามิมิเนี่ย อัลม่าจะกลายเป็นคุณพี่สาวที่น่าเชื่อถือไปซะแล้ว
“นายด้วย ดูแลมิมิดีๆ ล่ะ ถ้าสอดจมูกหาเรื่องจนตายห่าไปยัยนี่จะต้องกลายเป็นคนไร้บ้านอีกรอบเลยนะ เพราะงั้นเลิกทำเรื่องบ้าบิ่นได้แล้ว”
“เข้าใจแล้ว ถึงจะพูดงั้นพูดงี้ แต่รุ่นพี่อัลม่าเนี่ยเอาใจใส่กันจังเลยนะ”
“ประสบการณ์ไงล่ะ ประสบการณ์น่ะ เผื่อจะลืมไปแล้ว แต่ฉันแก่ว่านายเยอะนะ”
“พูดอีกก็ถูกอีก”
ช่วยไม่ได้นิหน่าก็อัลม่าดูเด็กจะตาย ถึงจะแก่กว่ากันเกือบสองรุ่น แต่นิสัยที่ดูอ่อนเยาว์ทำให้ไม่รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด
โอ้โห้ ฟาดด้วยเงิน อยากทำได้มั่งจังเลยยย
ไม่ขอเยอะแยะ ขอซัก 100 ล้านก็พอแล้วแหละ
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปล หรือจะเป็นค่าเหนื่อยไปซื้อชานมก็ได้ทั้งนั้นคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ