(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 7 ร้านของชำยุคอวกาศ
ระหว่างทางไปร้านของชำอัลม่าก็เล่าเรื่องทั่วๆ ไปเกี่ยวกับทหารรับจ้างในระบบดาวเทอเมน เห็นว่าเพราะว่ามีทั้งโจรสลัดที่เล็งยานค้าขายกับยานขุดเจาะทรัพยากรรวมถึงอยู่ใกล้ชายแดนของสหพันธ์เบลเบลม ที่นี่เลยกลายเป็นโซนร้อนแรงของเหล่าทหารรับจ้างเลย
“ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมทหารรับจ้างถึงมารวมตัวกันที่ระบบดาวนี้เนี่ยแหละ ส่วนนายก็มานี่โดยไม่รู้อะไรเลยเนี่ยนะ?”
“ก็แหม อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แหละ โดนอุบัติเหตุส่งมาที่ระบบดาวนี้แล้วจำไม่ค่อยได้แต่เหมือนว่าจะมีเออเร่อที่ระบบพยุงชีพนี่แหละ โชคดีที่ยานเองไม่เป็นไร”
แน่นอนว่าตอแหลเรื่องความจำหาย แต่ถ้าบอกไปว่ามาจากอีกมิตินี่โดนหาว่าบ้าแหง แล้วที่พูดแบบนั้นจะได้ใช้เป็นข้ออ้างที่ไม่รู้เรื่องทั่วๆ ไปของโลกนี่ด้วย
“นี่ ยังสบายดีอยู่ใช่ไหมน่ะ? เคยได้ยินว่ามีคนที่ตายทันทีหลังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ด้วยนะ ฉันว่านายไปตรวจสอบกับสถานีการแพทย์หน่อยก็ดีนะ”
“จริงดิ? หรือว่าฉันควรไปตรวจสักหน่อยนะ”
ถ้าเสียความจำเพราะระบบพยุงชีพเออเร่อจริง สิ่งที่อัลม่าพูดก็คงจะถูกแหละ แต่ถึงงั้นพอมาคิดว่าผ่านการเดินทางข้ามมิติมา ไปตรวจจริงจังบ้างสักรอบก็น่าจะดี เพราะงั้นตั้งหนึ่งในเป้าหมายเป็นการไปที่สถานีการแพทย์แล้วตรวจร่างกายละกัน
ระหว่างที่คิดเรื่องนั้นเรื่อยเปื่อย อัลม่าที่เดินข้างๆ ก็ชี้ไปด้านหน้าแล้วพูดขึ้น
“ตรงนั้น มองเห็นไหม นั่นแหละร้านของชำ”
“อันนั้นเหรอ?”
ตรงหน้ามีป้านขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ‘Oishii Mart’ ร้านของดีงี้เหรอ… ให้ว่าไงดี เป็นชื่อที่เข้าใจง่ายสำหรับผมดีนะ
“ชื่อง่ายดีนะ”
“จริงเหรอ? มันดูเหมือนภาษาโบราณนะ”
“อย่างงั้นเหรอ?”
ส่วนไหนอะ? ผมสงสัย แต่ก็คงไม่ถามลงลึกหรอก บางทีอาจจะเป็นส่วน “โออิชี่” แต่ก็นะ เหมือนว่าจะได้ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นกัน ก็เลย… หือ? ผมก็พูดญี่ปุ่นอยู่ไม่ใช่เหรอ? ไหงถึงคุยกับคนโลกนี้ได้ปกติอะ?
พอถามอัลม่าไป เธอก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติน่ะ นับตั้งแต่ที่สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญามีวัฒนธรรมที่เหมาะสมก็จะผ่านการ ‘ดูแล’ ให้สามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาอื่นๆ ได้
“เรื่องนั้นก็ลืมเหมือนกันเหรอ?”
“เหมือนว่าจะเป็นงั้น”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหมน่ะ? เริ่มจะกังวลจริงๆ แล้วนะ”
เอลฟ์อวกาศโชคร้ายมองผมด้วยความสงสาร ช่างเป็นเรื่องน่าอับอายอะไรเช่นนี้
“ยังไงก็ตาม มาเถอะ เข้าไปกัน”
“โอเค”
ผมเข้าร้านไปแล้วมองไปรอบๆ มีของขายหลายแบบเต็มไปหมด ตั้งแต่อาหารกระป๋องไปจนซีเรียลบาร์ อาหารบำรุงแบบหลอดแล้วก็ตลับอาหาร ของลึกลับที่บอกไม่ได้ว่าเป็นอาหารหรือเปล่า แล้วก็สัตว์น่ากลัวที่ดองในฟอร์มาลีน
“เต็มไปหมดเลยแฮะ”
“แน่นอนสิ อยากได้อะไรล่ะ?”
“ไม่รู้ว่าอะไรดี มีแนะนำหน่อยไหม?”
“ถ้ามีเครื่องทำอาหาร ก็เอาตลับอาหารไปไหม? หรือถ้าเงินพอที่นี่มีขายพวกเนื้อเทียมด้วยนะ”
“เนี้อเทียมเหรอ?”
“นั่นแหละ เคยได้ยินไหม? เป็นโปรตีนที่เพาะมาอย่างดี แพงกว่าปกติเยอะ แต่อร่อยมาก”
“แล้วเนื้อกับผักปกติล่ะ?”
“มันของที่คนโคตรรวยเขากินกัน ต่อให้จะทหารรับจ้างเงินดีแค่ไหนก็ไม่มีใครกินอาหารแบบนั้นกันเป็นปกติหรอก”
“อย่างงั้นเหรอ?”
แสดงว่าเนื้อปศุสัตว์กับผักที่เพาะไว้นับเป็นของหรูหรา ก็จริงเนาะ ให้เลี้ยงปศุสัตว์บนโคโลนี่ที่ลอยเคว้งกลางอวกาศก็ดูไม่มีประสิทธิภาพจริงๆ นั่นแหละ
ระหว่างที่คิดไปเรื่อยเปื่อยอัลม่าก็มองผมด้วยสีหน้าสงสัย
“ถ้าคิดว่าการกินเนื้อกับผักเป็นเรื่องที่พูดออกมาได้ปกตินี่นายน่าจะเป็นพวกลูกคนรวยอะไรแบบนั้นนะ?”
“ไม่รู้อะไรแบบนั้นด้วยหรอกนะ นึกไม่ออกเลย แต่นี่ดูเป็นแบบนั้นเหรอ?”
ผมกางแขนออกไปให้เธอดู ซึ่งเธอก็ส่ายหัวไม่เห็นด้วย
“ไม่เหมือนเลย ดูไงก็ไม่ใช่อะ”
“ก็ว่าแบบนั้นแหละ”
ผมฟังคำแนะนำของอัลม่าแล้วเลือกของอย่างอื่นต่อ เหมือนว่าจะสั่งน้ำจากที่นี่ได้ด้วย แล้วก็ถึงจะแพงหน่อยแต่ผมก็ซื้อเนื้อเทียมไปด้วย เลือกเอาตลับอาหารไป รวมถึงซีเรียลบาร์ที่เก็บได้นานแล้วก็อาหารเหลวแบบหลอด แล้วก็ของที่เหมือนเนื้อแห้งเองก็แนะนำ
“แล้วพวกอาหารประป๋องล่ะ?”
“ไม่แนะนำเลย เปิดบนยานที่แรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ปั๊ป หายนะปุ๊ป”
แน่นอนว่าทันทีที่เปิด ของข้างในก็จะกระจายออกมา หรือพวกที่เป็นน้ำก็จะพุ่งพรวด เพราะงั้นเลยแนะนำเป็นพวกอาหารแข็งอย่างซีเรียลบาร์หรือเนื้อแห้ง ไม่ก็พวกอาการกึ่งแหลวในหลอดมากกว่า
“อื้มมม… ไม่มีพวกน้ำอัดลมเหรอ?”
“น้ำอัดลม? อะไรล่ะน่ะ?”
“อาเระ? เอ่อ พวกโคล่า หรือโซดา… ที่หวานๆ ซ่าๆ เครื่องดื่มอร่อยๆ อะ”
“???”
อัลม่าเอียงคอ ดูเหมือนจะไม่รู้จริง
“งั้นมีพวกน้ำผลไม้ไหม?”
“มี หลายรสเลย”
“แล้วเอาก็เอาไปอัดลม – เติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์เข้าไปให้มันซ่าอะ”
“ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย”
“ว่า… อะไรนะ… ?!”
จะบอกว่าไม่มีพวกน้ำอัดลมที่โลกนี้อย่างงั้นเหรอ? ผมหันไปถามพนักงานร้านของชำ เขาก็บอกว่าไม่เคยได้ยินเหมือนกัน
“พระเจ้าน่ะตายไปแล้วสินะ…”
“พูดอะไรอย่างกับพวกที่เลิกศรัทธาอะไรสักอย่างแล้วกำลังจะตายเลยนะ?”
ไม่มีทางที่จะไม่มีน้ำอัดลมบนกาแลกซี่นี้… ไม่สิ เดี๋ยวนะ? จำได้ว่าเคยอ่านเจอบนเน็ตสักที่ว่าเราดื่มน้ำอัดลมบนอวกาศไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเพราะเรื่องน้ำหนักหรือว่าแรงดันอากาศ เลยอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมมันกลายเป็นของล้าสมัยไป?
ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีทั้งแรงโน้มถ่วงแล้วก็แรงกดอากาศทำงานได้จริง… ทำไมที่โคโลนี่ถึงไม่มีกันนะ? หรือเพราะว่าเป็นแรงโน้มถ่วงจำลองสร้างจากแรงหนีศูนย์กลาง? ไม่เข้าใจเลย เดาไม่ออกด้วย
แต่ถ้าเป็นดาวอยู่อาศัยก็ทำได้ใช่ไหมนะ? ที่พวกนั้นจะทำได้ใช่ไหมนะ?
“ฉันจะซื้อบ้านพร้อมสวนบนดาวสำหรับตั้งถิ่นฐานได้”
“ไหงจู่ๆ ก็… เพราะว่าเรื่องน้ำอัดลมเหรอ? ตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์นี่แพงโคตรๆ เลยนะรู้ใช่ไหม? ที่จักรวรรดิกรัคคานนี่มีแค่พลเมืองระดับเฟิร์สคลาสสัญชาติระดับสูงแหละที่ตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์ได้ แล้วราคาเองก็เกินร้อยล้านอีเนลไปแล้วถ้าซื้อที่ดินไม่ก็สถานะน่ะ”
“เอาจริงดิ นั่นซื้อยานลาดตระเวนคลาสวาฬได้เลยนะ?”
“จริงแท้แน่นอน ได้ยินมาจากทหารจักรวรรดิเลย”
ร้อยล้านอีเนลเหรอ… เวรเอ๊ย แพงชิบ แต่ว่านะ! ก็อยากได้น้ำอัดลมอะ!
“ต้องตั้งเป้าไว้ให้สูงแหละเนาะ”
“ตามใจเลยจ้า”
อัลม่ายักไหล่ไม่พอใจ แต่กันผมแล้วมันเรื่องคอขาดบาดตายเลยนะ หลังสั่งน้ำกับอาหารเสร็จผมก็ขอให้ขนขายส่งของไปที่ยาน ถือติดมือมาแค่ส่วนที่จะกินเลยตอนกลับถึงยาน ซึ่งสุดท้ายก็มีซื้อส่วนของอัลม่ามาด้วยเช่นกัน ถึงจะเป็นแค่น้ำผลไม้ขวดนึงก็เถอะ
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจ เป็นค่าปั่นไฟ ค่าคิดแคท ค่าหยุดอู้ ได้ทั้งหมดเลยคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ