(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 25 - ช๊อปปิ้งด้วยกันสามคน ส่วนที่ 2
“ต่อไปคือร้านของนำเข้าสินะ”
“ค่ะ! ดูเหมือนว่าจะมีวัตถุดิบหายากขายเยอะเลยนะคะ!”
มิมิที่ตั้งเป้าหมายลิ้มรสของอร่อยทั่วจักรวาลหายใจแรง
“ถ้าเป็นอาหารไม่น่ามีอะไรแปลกนะ”
“……นั่นสิน๊า”
อัลม่าที่เดินตามหลังมายิ้มกรุ้มกริ่ม ทำไมยิ้มแบบนั้นล่ะ?
และไม่นานก็ได้รู้คำตอบอย่างชัดเจน
“เหวอ……”
“ทะ ทะทะ ท่านฮิโระคะ นะ นะ นั่นมัน……”
มิมิชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่กรงที่มีตัวอะไรสักอย่างหน้าตาคล้าย F*ce Hugger กำลังคุ้มคลั่งอยู่ ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไร แต่มันน่ากลัวมาก ดูมุมไหนก็เป็นตัวอันตรายชัดๆ
“เหมือนจะเป็นของหรูเลยนะ ลองไหม?”
“ไงก็เถอะ อันนี้เป็นอันที่แปรรูปแล้ว”
“เหวออ…..!”
อัลม่าเอา F*ck Hugger ในห่อสุญญากาศมาจากที่ไหนสักที่ จะกินเหรอ? เอาจริง?
“เห็นว่าเป็นอาหารสนามของกองทหารจากระบบดาวไกลโพ้น เขาว่ากินได้หมดตั้งแต่หัวยันหางเลย”
“อร่อยเหรอ……?”
“มั้ง? ไม่เคยกินเลยไม่รู้อะ แต่เห็นว่าคุณค่าทางโภชนาการน่ะจัดเต็มเลยนะ?”
อัลม่ายักไหล่แล้วเหลือบมองมิมิ แต่ก็โดนสะบัดหัวใส่สุดแรง เข้าใจเลย ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน
“ถ้าอยากจะกินกาแลกซี่ นี่ก็แค่ของเริ่มต้นไม่ใช่เหรอ?”
“นี่ๆ พวกเราก็แค่มือใหม่ ต้องเริ่มจากอะไรที่เพลย์เซฟไว้ก่อนสิ”
“ช-ใช่ค่ะ โอ๊ะ ท่านฮิโระคะ! มีเนื้อที่ดูน่าอร่อยขายตรงนั้นด้วยค่ะ!”
“โอ้! ไปดูกันเถอะ!”
ผมหนีจากอัลม่าที่เคลื่อนที่เข้าหาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มและห่อสุญญากาศในมือ ไม่สิ นี่ไม่ใช่การหนี แค่เปลี่ยนไปยังเป้าหมายที่ต่างจากเดิมต่างหาก นั่นแหละ
“น-นี่มัน…… เนื้อมังงะ?!”
เป็นมวลเนื้อขนาดใหญ่ที่ห่อกระดูกท่อนเดียวเอาไว้ นี่คือเนื้อมังงะอย่างไม่ต้องสงสัย
“อิ้ม…… หนึ่งท่อนน้ำหนัก 3 กิโล ราคา 76 อีเนล สุกพร้อมกิน”
“เหมือนจะรมควันนะคะ”
“โย๊ช ซื้อกันเถอะ เห็นละอยากจะลองซักหน่อย”
“ค่ะ!”
เนื้อมังงะราคา 7,600 เยนต่อชิ้น……โคตรแพง! แพงมาก แต่ก็ห้ามใจไม่ได้!
อยากรู้จังว่าเป็นเนื้ออะไร? แต่ว่าเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นช่างมันไปเถอะ ให้จินตการไปเรื่อยก็ได้อยู่ แต่ว่าตอนนี้อยู่ในโลกที่มีการสร้างเนื้อจำลองเลยนะ
“เดี๋ยวฉันซื้อด้วยเงินเดือนเองค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ทุกคนเองก็กินด้วย เพราะงั้นเดี๋ยวฉันจ่ายเอง”
“ไม่ค่ะ ฉันอยากใช้เงินครั้งแรกกับเจ้านี่ เพราะงั้นมากินด้วยกันนะคะ”
มิมิหันดวงตาเป็นประกายมามองผม อื้มม ถ้าว่างั้นก็จะยอมแต่โดยดีแล้วกัน
“เข้าใจแล้ว งั้นเรามาฉลองกัน”
“ค่ะ! ไว้ใจได้เลย!”
มิมิใส่ห่อเนื้อมังงะสุญญากาศลงไปในรถเข็นแล้วหายใจแรง ซึ่งพอผมหันไปมองอัลม่าก็เห็นยัยนั่นยัดของที่ดูเหมือนเหล้าลงรถเข็นเหมือนกัน
“เอาล่ะ หาของตัวเองมั่งดีกว่า”
อย่างที่คิด ไม่มีอะไรอันตรายในร้านหรอก ผมเลยแยกกับมิมิแล้วเดินรอบร้านเพื่อตามหาวัตถุดิบแปลกๆ มีอาหารแปลกๆ ทุกแบบเลยแฮะ ตั้งแต่หนอนที่กินทั้งๆ ที่ดิ้นอยู่ได้ ไปยันโกเบบีฟดั้งเดิม……โกเบบีฟ!? โกเบบีฟเหรอ!?
ไม่มีคำอธิบายว่าเป็นมายังไง แต่ว่าเหมือนโกเบบีฟจะกระจายไปทั่วกาแลกซี่ในฐานะเนื้อคุณภาพสูงสุดๆ…… และราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 อีเนลต่อ 100 กรัม ราคาขึ้นอยู่กับว่าส่วนไหน แต่แพงโคตรๆ ถ้าอยากซื้อก็ซื้อไหว แต่ไม่รู้สึกอยากจะซื้อเลยนี่สิ
ระหว่างที่ผมกำลังหวาดกลัวกับราคาของโกเบมีท อัลม่าที่ผ่านมาพร้อมรถเข็นพอดีก็มองผมด้วยสายตาน่าสงสัย
“ได้เงินเยอะพอเลยจะกินของหรูเหรอ?”
“สเต็กชิ้น 300 กรัมนี่ค่ายานโจรสลัดลำนึงเลยนะ กินทุกวันไม่ไหวหรอกนะ รู้ใช่ไหม?”
“จากเงินที่นายหาได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากนี่หน่า”
“ไม่ได้สิ ความหรูหราคือศัตรู! กลางอวกาศกว้างใหญ่มันต้องมีของที่ถูกกว่าและอร่อยกว่าอยู่แน่ๆ! ขนาดสเต็กเนื้อสังเคราะห์ยังอร่อยขนาดนั้นเลย!”
คือสเต็กที่ทำจากเนื้อสังเคราะห์ราคาอยู่ที่ 5 อีเนลต่อ 100 กรัม ราคาต่างกันตั้ง 200 เท่าแน่ะ เพราะงั้นไม่เป็นไร เพราะรสนิยมผมตอนนี้คือเนื้อเทียมอร่อยเกินพอแล้ว
“นั่นก็จริง แพงไม่ได้ดีกว่าเสมอไปนี่หน่า”
อัลม่าพูดพลางออกจากโซนเนื้อไป แต่เหมือนเห็นห่อ Fa*e Hugger ในตะกร้าของอัลม่าด้วย คิดไปเองมั้ง? เอาเป็นสมมุติว่าไม่เห็นแล้วกัน
ต่อไปคือมุมเครื่องดื่ม มันมีน้ำน่าสงสัยที่ผมดูไม่เข้าใจอยู่เต็มไปหมดเลย…..แล้วโคล่าล่ะ? ไม่มีโคล่าเหรอ?!
“นี่มัน……!?”
น้ำสีเข้มในขวด และฉลากที่แปะเอาไว้ว่า ‘Coke’ ไม่พลาดแน่นอน! นี่แหละโคล่าของผม! ในที่สุดผมก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว!
ผมคว้าขวดแล้วพุ่งไปที่เคาทเตอร์คิดเงินทันที ถึงจะรู้สึกว่าพนักงานจะทำท่าทางกลัว แต่ผมก็จ่ายเงินโดยไม่สนใจ ออกมานอกร้านแล้วเปิดขวดทันที กลิ่นที่คุ้นเคยฟุ้งออกมา ผมยกขวดกระดกด้วยความคาดหวัง
“……อื้ม ก็นะ คิดอยู่แล้วแหละว่าต้องเป็นงี้”
ความหวานอมเปรี้ยวที่รับรสได้ และกลิ่นห้อมที่ยังโชยติดจมูกเป็นโคล่าแน่นอน แต่เป็นโคล่าที่ไม่ซ่าไม่สดชื่นเลยสักนิด เป็นโคล่าที่ไม่มีโซดา โอ่ย โอ่ย โอ่ย นี่มันเจ้าหมอนั่นต้องตายแน่สุดโด่งดังนี่หน่า*
แต่ก็เป็นกลิ่นโคล่าที่แสนล้ำค่า ถึงจะไม่สดชื่น แต่ก็เป็นโคล่า หลังจากหมดขวดผมก็กลับเข้าไปไหนร้านแล้วพูดกับพนักงาน
“มีเจ้านี่เก็บไว้เท่าไร?”
“เอะ เอโต……ตั้งหน้าร้านเจ็ดขวดและหลังร้านอีกเจ็ดลัง”
“เอามาให้หมด”
พนักงานทำตาโตระหว่างที่กำลังดูของที่น่าจะเป็นเครื่องจัดการคลัง
“ทั้งหมดที่มี”
“ไงทุกคน!”
ผมจ่ายเงินแล้วให้ไปส่งที่ยาน ฮ่าฮ่า เยี่ยมไปเลย ถึงจะยังต่างจากที่ต้องการ แต่รสชาติก็ไม่ได้แย่ พอใช้เป็นของทดแทนไปจนกว่าจะได้ดื่มโคล่าจริงๆ สักวันก็ได้…… หรือบางทีอาจจะเติมคาร์บอนไดออกไซด์เองได้?
คิดแบบนั้นผมเลยค้นเทอมินัลใกล้กับทางเข้าร้านเพื่อดูว่ามีของคล้ายๆ ที่คิดไหม แต่เหมือนว่าจะไม่มี ทำไมทั้งๆ ที่เทคโนโลยีไปไกลขนาดนั้นแต่กลับไม่มีเครื่องทำน้ำโซดาอะ? โลกนี้มัน……บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว ต้องซ่อม…….
“ท-ท่านฮิโระคะ?”
“สายตาน่ากลัวจังเลยนะนาย……”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องห่วงหรอก แค่ไม่พอใจนิดหน่อยน่ะ”
แหม ถ้าอยู่ดีๆ สำเร็จเป้าหมายก็ไม่สนุกสิเนาะ ตอนนี้ก็สัมผัสความผิดหวังไปก่อนเนาะ ความจริงอันขมขื่นก็เงี๊ยะ……เฮะเฮะเฮะ
หลังจากช๊อปปิ้งกันเสร็จเราก็กลับยานแล้วสนุกกับของที่ได้มากัน
เนื้อมังงะนั้นก็……เป็นเนื้อมังงะอย่างที่ควรเป็น อร่อยอย่างที่หวัง รสชาติเข้มข้น เคี้ยวมันส์กำลังดี…… แต่คนละชิ้นนี่เยอะไปหน่อย ต่อให้เอาน้ำหนักกระดูกออกก็ยังเหลือเนื้อตั้ง 2 กิโลกรัมแนะ! กินไม่หมดหรอก
คิดว่าดีที่สุดคือใช้มีดตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ แล้วกินด้วยกัน แต่ว่าเนื้อมังงะทั้งที ไม่แทะก็ไม่โรแมนติกดิ
แล้วอัลม่าก็ซื้อห่อ F*ce Hugger มาด้วย ผมคิดในใจแหละว่า ‘ล้อเล่นรึเปล่าเนี่ย’ แต่พอรวมรวมความกล้าลองกัดลงไปสักคำก็ได้รู้ว่าอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ต่างจากตัวหน้าตา เปลือกนุ่มกินได้ สัมผัสเหมือน**คามะโบโก(ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น) พอกัดลงไปก็จะเจอครีมที่มีรสหวานนิดๆ ไหลออกมา ถ้าให้อธิบาย ก็จะเป็น…… ไม่ใช่ครีมคร๊อกเก้ แต่เป็นครีมคามะโบโกไงล่ะ
“อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ”
“เจ้านี่แค่หน้าตาแย่เท่านั้นแหละ”
สีหน้าตะลึงมิมิที่มองผมกับอัลม่ากัดเจ้า F*ce Hugger นี่น่าประทับใจมากอยู่
แล้วโคล่าของผมล่ะ? ผมให้ทั้งสองลอง
“ไม่ชอบอะ กลิ่นเหมือนยาเลยนะ?”
“หวาน……”
อัลม่าพูดชัดๆ ว่าไม่ชอบ ส่วนมิมิไม่ได้พูดอะไรชัดเจน แต่มีการแสดงออกเล็กๆ ที่สีหน้าอยู่ ไม่เป็นไร อร่อยคนเดียวก็ได้ เดี๋ยวเอาไว้เร็วๆ นี้จะหาโคล่าอัดลมมาให้ดื่ม จำไว้เลยนะ
*HorrorDay: มุกมีม และฉันผู้ไม่ตามมีม ….
https://dic.pixiv.net/a/%E6%AD%BB%E3%81%AC%E3%82%8F%E3%82%A2%E3%82%A4%E3%83%84
ใครไม่รู้แล้วอยากรู้ก็ลองตามลิงค์ด้านบนไปนะ
แต่สรุปคราวๆ คือ มาจากเรื่องบากิ แล้วเป็นฉากก่อนสู้ของบากิที่บากิเขย่าขวดโค๊กให้หายซ่าแล้วค่อยกินเลยโดนตัวประกอบแซวว่า “หมอนั่นต้องตายแน่ๆ” ….
**HorrorDay: This is a ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น
**HorrorDay: This is a Face hugger
kloy 1002 : พระเอกนี่ติดน้ำอัดลมเอาเรื่องใช้ได้ แล้วจะกระซิบบอกอะไรให้นะคะ คนแปล(วันหลอน)ก็ติดเหมือนกัน เรียกได้ว่าเจ้าตัวอินจัดๆเลยคะ
และต่อให้ไอ้เจ้าปูมะพร้าวอวกาศมันจะอร่อยแค่ไหน แต่หน้าตามัน….ไม่ไหวหรอกนะ.. ขอกินแต่เบอร์เกอร์สังเคราะห์แทนแล้วกัน
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือค่าน้ำอัดลมได้ตรงนี้เลยคะ!
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ