(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 23 - ชีวิตประจำวันของคนสามคน
023 – ชีวิตประจำวันของคนสามคน
“เจ้าสัตว์ร้าย”
“โอ๊ส ฉันเองแหละ”
“ไม่ได้ชมย่ะ!”
อัลม่าที่อยู่ตรงข้ามโมโหฟ่อๆ ใส่ผม
เรากลับมาที่ห้องทานอาหารกันอีกครั้งโดยที่มีมิมิยืนยิ้มกอดแขนผมอยู่ข้างๆ
“พึ่งทำฉันไปตั้งขนาดนั้นเมื่อวาน…แต่กลับ! กล้าดียังไงมาทำกับมิมิต่อตอนเช้าห๊ะ!?”
“ไม่คิดว่าความเท่าเทียมเองก็จำเป็นเหรอ?”
“เท่าเที…..!”
อัลม่ากัดลิ้นตัวเองตอนตอบกลับ น่าจะเผลอคิดถึงเรื่อง ‘ความเท่าเทียม’ ที่ผมหมายถึง
“อยู่ยานลำเดียว สนิทกัน ไม่ใชเรื่องดีเหรอ?”
“อ่า ดีกับนายน่ะสิ”
“อัลม่าเกลียดมิมิเหรอ?”
“ว่าไงนะ?! ม-ไม่อยู่แล้วสิ”
“งั้นทำไมไม่ได้ล่ะ? แล้วตั้งแต่แรก อัลม่าก็รู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับมิมิอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนมาเป็นลูกเรือนี่หน่า? แปลกจังนะที่ยกขึ้นมาพูดตอนนี้”
“คือว่า……อึก! ก็ แต่มัน……”
“ทุกคนสนิทกัน ทุกคนมีความสุข ไม่ดีเหรอ?”
“……เหมือนโดนล่อลวงแปลกๆ”
“ไม่จริงซะหน่อย”
ผมยิ้ม ถ้าผมกับมิมิโอเคกับเรื่องนี้ อัลม่าก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตามน้ำ ยังไงก็มีแค่พวกเราสามคนนี่หน่า
“เรื่องนี้เอาไว้ก่อนดีกว่าเนาะ”
“ไว้ก่อน……ก็ได้ ไม่คิดว่าพูดต่อจะช่วยอะไรได้ แล้วมีอะไรล่ะ?”
“อื้ม ฉันอยากจะตัดสินใจแนวทางการกระทำของเรานับจากวันนี้น่ะ”
“……เหมือนจะเป็นเรื่องจริงจังนะ”
“ในรูปแบบหนึ่งน่ะนะ ก่อนอื่น พวกเราต้องหาเงินเพิ่มให้ไวที่สุด ถึงจะพอมีเงินเก็บอยู่ แต่ถ้ายานเสียหายหนัก พูดตรงๆ ว่าเงินที่เหลืออยู่ตอนนี้อันตรายมาก”
“นั่นมัน……”
อัลม่าเกริ่นเหมือนอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็เงียบไป อื้ม เพราะเป็นผลจากค่าชดเชยของอัลม่าก็เลยพูดไม่ออก
“เรามีสองทางเลือกด้วยกัน หนึ่งคือรีบออกจากระบบดาวนี้และหาวิธีทำเงิน”
“ระบบดาวนี้ดีไม่พอเหรอคะ?”
“จำนวนโจรสลัดมันลดลง เลยไม่ค่อยมีงานให้ทำ และเหมือนจะมีกลิ่นตุๆ บางอย่างด้วย เลยคิดว่าออกจากระบบดาวนี้ไปน่าจะดีกว่า”
“อย่างงั้นแหละ”
อัลม่าพยักหน้าเห็นด้วยความความเห็นของผม
“หลังๆ มานี้ความตึงเครียดระหว่างจักรวรรดิกับสหพันธ์เพิ่มขึ้นมาก แล้วพื้นที่ระบบดาวชายแดนก็เสี่ยงที่จะกลายเป็นจุดปะทะ เพราะงั้นรีบเคลื่อนไหวจะปลอดภัยที่่สุด”
“ใช่ และอีกทางเลือกคืออยู่ที่ระบบดาวนี้ต่อแล้วล่าพวกโจรสลัดกระแสตามวงแหวนอุกกาบาตระหว่างรอให้เกิดการปะทะขึ้น แล้วถ้าการปะทะกันเกิดขึ้นความต้องการตัวทหารรับจ้างก็จะพุ่งตามแบบติดจรวด เราจะต้องสู้กับกองทัพประจำของประเทศอีกฝั่ง ความเสียงสูง แต่รางวัลก็สูงตามไปด้วย”
“จุดสำคัญคือ พวกโจรสลัดกระแสเองก็ค่อนข้างจะกระตือรือร้นกันช่วงนี้เหมือนกัน พอโจรสลัดกลุ่มใหญ่โดนปราบ กองทัพก็จะละเลยมากขึ้น ก็เลยเป็นเวลาที่ดีของพวกโจรสลัดเร่ร่อน พวกนี้หาตัวยาก อุปกรณ์ดี เพราะงั้นค่าหัวเลยสูงตาม แล้วก็มีโอกาสที่เราจะรวบไปร่วมวงการปะทะด้วย ทางเลือกนี้เลยเสี่ยงมากได้มาก”
“เข้าใจแล้วค่ะ……แล้วจะเลือกทางไหนเหรอคะ?”
“นั่นคือเหตุผลที่ยกขึ้นมาพูดนี่แหละ แล้วมิมิคิดว่าไงล่ะ?”
มิมิคิดเรื่องคำถามของผมสั้นๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ฉันว่าดีที่สุดคืออยู่ที่ระบบดาวนี้ต่อแล้วล่าโจรสลัดค่ะ”
“โฮ่ ทำไมล่ะ?”
“ด้วยความสามารถของท่านฮิโระกับอำนาจการยิงของกฤษณะ ต่อให้เป็นโจรสลัดที่มีของดีนิดหน่อยก็ไม่มีปัญหา แล้วถ้าเกิดการปะทะขึ้นมาเราจะหนีก็ได้ใช่ไหมคะ?”
“ใช่ แค่เกิดการปะทะขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมีส่วนร่วมเมื่อไร”
ผมพยักหน้าให้คำพูดของมิมิ มิมิพูดถูก แค่เกิดการปะทะขึ้นระหว่างจักรวรรดิกับสหพันธ์ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมีส่วนร่วมแน่ๆ ซักหน่อย แล้วในเวลาแบบนั้นน่ะ พวกโจรสลัดจะอาละวาดเป็นพิเศษโจมตียานประชาชน โจมตียานขนส่ง เราจะเลือกอยู่ล่าพวกนั้น หรือจะหนีก็ได้ทั้งนั้น
“ฉันเองก็แนะนำให้อยู่ที่ระบบดาวนี้ต่อนะ ด้วยความสามารถของนายคงมีส่วนช่วยในการปะทะได้เยอะ แล้วโจรสลัดเองก็ไม่ใช่ปัญหาด้วย”
“อัลม่าก็ด้วยเหรอ?”
“จ้าๆ ฉันก็ด้วย”
อัลม่าพยักหน้ารับสั้นๆ ผมดีใจนิดหน่อยนะที่มืออาชีพอย่างยัยนี่ชมฝีมือผม
“งั้นก็ลงตัวแล้วสินะ”
“หมายความว่าท่านฮิโระก็เห็นด้วยเหรอคะ?”
“ฉันมองต่างนิดหน่อย ฉันมองว่าต่อให้จะไปที่ระบบดาวอื่นก็อยากได้เงินติดมือไว้ก่อน เพราะไม่รู้เลยว่าเดินทางไกลแล้วจะเจออะไรบ้าง แถมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าปลายทางจะไปไหนด้วย”
“งี้นี่เอง ว่าแต่ตอนนี้มีอยู่เท่าไร?”
“ประมาณครึ่งล้าน”
“นั่นชวนให้ไม่สบายใจนิดๆ จริงๆ แหละ งั้นมาหาเงินกัน”
มิมิกับผมพยักหน้าตอบรับคำพูดของอัลม่าและเตรียมออกเดินทางกัน
☆★☆
พวกเราตัดสินใจว่าจะอยู่ที่ระบบดาวเทอเมนต่อและหาเงินเพิ่มกัน เราเลยออกเดินทางในทันที
งานก็ง่ายๆ ลาดตระเวนแถวๆ วงแหวนอุกกาบาตที่ทรัพยากรเยอะ หาโจรสลัดที่เล็งยานขุดเจาะ ไล่ตามและไล่ล่า บินหาพอเจอก็ฆ่า ไม่ก็ลดพลังงานของเครื่องกำเนิดพลังงานใกล้ๆ ยานขุดเจาะแล้วซุ่มโจมตีจมพวกโจรสลัดที่มาทำงานของตัวเอง
รายได้ดีมากๆ ล่าโจรสลัดได้ราวๆ เฉลี่ยสิบลำต่อวันเสมอ แถมยังได้ของจากคลังของพวกโจรสลัดกับค่าหัวของ ‘กระแส’ พวกนั้นที่อย่างน้อย 10,000 อีเนลต่อลำ แถมบางลำยังขึ้นไปถึง 30,000 อีเนล วันนี้เองก็ล่าโจรสลัดที่ทำ ‘งาน’ เสร็จแล้วได้โลหะหายากบริสุทธิ์มาด้วย
พอรวมกับพวกอุปกรณ์ที่แงะมาจากยานโจรสลัดกับของเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ที่เก็บมาแล้ว สัปดาห์นึงนั้นได้เงินมา 1.78 ล้านอีเนล
และก็ตัดสินใจว่าจะให้มิมิที่ 0.5% และอัลม่าที่ 3% เพราะงั้นส่วนแบ่งมิมิหลังจากที่รวมการขายของจากการปราบปรามครั้งใหญ่แล้วจะอยู่ที่ 12,900 อีเนล และอัลม่าเป็น 53,400 อีเนล
แล้วตอนนี้ผมก็จะมีเงินติดมืออยู่ที่ 2.2 ล้านอีเนล ซึ่งหมายความว่าพ้นจากเส้นอันตรายแล้วนั่นเอง
“วันนี้หาเงินได้เยอะเลย! คัมปาย!”
ยัยเอลฟ์อวกาศโชคร้ายหัวเราะโง่เง่าพร้อมยกแก้วเหล้าดื่มที่เดียวจนหมดแก้ว มันน่าหงุดหงิดอยู่เหมือนกันนะ ที่เห็นคอขาวๆ ขยับทุกครั้งที่กลืนแอลกอฮอร์แล้วรู้สึกว่ามันช่างยั่วยวนเนี่ย
ไงก็เถอะ ไอ้ที่บอกว่าเหล้าเนี่ยคือเอล อัลม่ากับพนักงานเสิร์ฟยืนยันว่ามันคือเบียร์ แต่ผมว่าเบียร์ที่ไม่ซ่ามันก็เป็นได้แค่เอลเท่านั้นแหละ
“อา คร๊าบ คร๊าบ คัมปาย คัมปาย”
แก้วที่ผมถืออยู่นั้นใส่ชาเย็นไว้ ถามว่าดื่มเหล้าไม่ได้เหรอ? ก็ได้อยู่ แต่ถ้าดื่มผมก็จะเมาร่วงอย่างไวเลย
ครับ ผมคออ่อน
“ฮิโระ นายเนี่ยเด็กกว่าที่ฉานคิดนะ ดื่มเหล้าม่ายด้ายเนี่ย~?”
“หนวกหู ร่างกายฉันมันเป็นงั้นนี่หว่า แล้วดื่มเหล้าไม่ได้ไม่เกี่ยวกับการเป็นผู้ใหญ่ว้อย”
อัลม่าที่นั่งข้างผมเอาแขนมาคล้องไหล่และโน้มตัวมาหา ยัยเอลฟ์อวกาศน่าสมเพชนี่เป็นสายเมาแล้วน่ารำคาญสินะ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวกว่าปกติ เห็นได้จากที่ถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนี้ แบบใช้ทั้งตัวเลย
“อัลม่าดื่มแล้วดูสนุกจังเลยนะคะ”
“สนุก—ใช่มะล่า? ทั้งอุ่น—ทั้งละมุน สุดยอดไปเลย!”
“นั่นไม่ได้”
“……ค่ะ”
ผมห้ามมิมิที่กำลังจ้องขวดเหล้าตาเป็นมัน เพราะหลังจากที่หาข้อมูลมา ผมก็ได้รู้ว่าโลกนี้ไม่มีระเบียบเรื่องอายุการดื่มเหล้า หรือต้องบอกว่ากาแลกซี่นี้ดี แต่ว่าการดื่มตอนอายุน้อยก็ยังนับว่าไม่ดีอยู่ดี
ในความเห็นผมมิมิยังคงเป็นเด็กอยู่ เพราะงั้นจะให้ดื่มเหล้าก็ยังเร็วไปหน่อย — แต่ถ้ามองว่ามิมิยังเด็ก ผมก็เป็นไอ้เดรัจฉานแตะต้องเด็กอะดิ?
ไม่สิ เราทั้งคู่เห็นด้วย เพราะงั้นโอเค พอมองแบบนั้นแล้วก็เห็นมีบอกว่าตราบใดที่เกิน 15 แล้วทั้งคู่ยอมรับก็โอเค เพราะงั้นไม่มีปัญหาไม่เป็นไร
“ถึงงั้นนายก็ความสามารถดีจังเลยนะ เห็นๆ กันอยู่ว่ายานลำนี้น่ะทรงพลัง แต่นายก็ยังใช้ได้เป็นอย่างดี แล้วยังเก่งเรื่องซุ่มกับลอบโจมตีด้วย”
“เหมือนว่าร่างกายมันจะยังจำได้อยู่ แปลกมากๆ ที่รู้สึกว่าทั้งสติกับร่างกายมันทำงานได้ดีขึ้นตอนเป็นการต่อสู้น่ะ”
“หื~ม……เน่ ไม่ได้ปิดบังอะไรพวกเราอยู่ใช่มะ?”
“ไม่ได้ปิดบังอะไร”
ผมตอบกลับอัลม่าที่จ้องมาจากระยะประชิดด้วยเสียงโมโนโทน ก็มีที่ซ่อนไว้แหละ แต่ไม่คิดว่าบอกตอนนี้จะเป็นเรื่องดีเท่าไร อย่างแบบ บอกว่ามาจากต่างโลก — หรือในกรณีนี้ควรเรียกว่าโลกจริงกันนะ? — และผมโกหกเรื่องเสียความทรงจำ และเรื่องที่รู้จักโลกนี้ในฐานะ ‘เกม’
ผมคิดว่าสนิทกับมิมิและอัลม่ามากกว่าปกติแล้ว แต่ให้สารภาพความจริงแนวนั้นตอนนี้ ทั้งสองคงคิดว่า ‘พูดเรื่องแปลกๆ’ แค่นั้นแหละ
“แหม กะด๊ะ ไม่ใช่เรื่องที่ฉันพูดอะไรได้นี่หน่า ใช่ไหมล่ะ? มิมิ”
“ฉันไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะคะ”
“อาร่า? จริงเหรอจ๊ะ? อย่างเรื่องน้ำหนักเร็วๆ นี้น่ะ”
“หวา! หวา! ไม่ได้นะคะไม่ได้นะคะ!”
จู่ๆ มิมิก็ตื่นตกใจขึ้นมา ส่วนอัลม่าก็หัวเราะลั่น เรื่องน้ำหนัก…….ในกรณีของมิมิน่าจะเป็นที่หน้าอกมากกว่าหน้าท้องนะ? เพราะเกราะส่วนอกนี่ระดับซูเปอร์เดรดนอท์ธเลย……ถึงรูปร่างจะเป็นระดับเรือพิฆาตก็เถอะ
“มิมิ”
“คะ?”
“เชื่อในเทรนเนอร์ แล้วไม่ต้องพยายามลดน้ำโดยไม่จำเป็นหรอก”
“ค่ะ……”
อาจจะเพราะว่าเขินที่ผมได้รู้ความจริง มิมิเลยเอามือปิดหน้าแดงๆ ของตัวเองไว้
อันที่จริง ผมว่ามิมิหนักขึ้นอีกสักหน่อยน่าจะดีกว่า นั่นแหละ คราวหน้าแอบไปปรับเซ็ตติ้งของ AI เทรนเนอร์ที่ห้องฝึกดีกว่า เฮะเฮะเฮะ
“แล้วก็นะแล้วก็นะ วันพรุ่งนี้น่ะ”
“พรุ่งนี้?”
“ใช่ๆ พรุ่งนี้น่ะ พรุ่งเราพักจากงานแล้วไปช๊อปปิ้งกันเถอะ ถือซะว่าพักหายใจด้วย”
“พักหายใจเหรอคะ?”
มิมิเอียงคอให้กับคำว่า ‘พัก’
“อา ล่าโจรสลัดกันติดต่อกันจนไม่ได้เอาเงินที่หาได้ไปใช้เลยนี่ไม่เหนื่อยกันเหรอ? เอาเงินไปใช้ได้ตั้งหลายอย่างนะ ทั้งกินดื่มของอร่อยๆ ซื้อของใช้ส่วนตัว หรือไม่ก็เสื้อผ้าเครื่องประดับไรงี้”
“นายก็แค่อยากพักใช่ไหมล่า~?”
ผมพยักหน้ารับคำหยอกล้อของอัลม่าอย่างว่าง่าย
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่เติมพลังให้เพียงพอ เดี๋ยวจะเผลอตัดสินใจพลาดเอา แต่ที่สำคัญที่สุดคืออยากให้มิมิมีประสบการณ์การใช้เงินที่หามาได้ด้วยตัวเองตามใจชอบน่ะ”
“อา— เข้าใจแล้ว เรื่องพวกนั้นเองก็สำคัญนี่หน่า”
อัลม่าพยักหน้า ท่าทีของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจัง หน้าแดงอยู่บ้างน่าจะเป็นเพราะแอลกอฮอร์ แต่ว่าดูเหมือนจะไม่ได้เมาแอ๋
“เอ่อ ฉันน่ะ……”
มิมิทำหน้าตาคิดมาก ก็สมเหตุสมผลแหละจำนวนค่าตอบแทนที่ผมให้มิมิไปจนถึงตอนนี้คือ 16,850 อีเนล ถ้าคำนวนด้วย 1 อีเนลเท่ากับ 100 เยน ก็จะเป็นเงิน 1,685,000 เยน ถ้าเด็กอายุประมาณมิมิโดนบอกว่า ‘นี่คือเงินที่เธอหาได้นะ’ แล้วโยนเงิน 1.6 ล้านเยนไปให้เด็กคนนั้นก็คงไม่เข้าใจเหมือนกัน
“ที่ฉันทำก็แค่นั่งอยู่ที่เก้าอีของตำแหน่งโอเปอเรเตอร์เองนะคะ……แล้วก็จำนวนเงินมันเยอะมากเลย”
“ก็จริงที่มิมิยังห่างไกลกับการเป็นโอเปอเรเตอร์เต็มตัว แต่ก็เป็นพรรคพวกบนยานลำเดียวกัน สู้เพื่อชีวิตอย่างเท่าเทียมใช่ไหมล่ะ? เงินตอบแทนเท่านี้และเหมาะสมแล้ว”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องอายหรอก ดูแลหมอนี่เองก็รวมอยู่ในจำนวนเงินนั่นเหมือนกันนะ”
“ไม่สิ เอ่อ……ถ้าไม่ชอบล่ะก็ฉัน— —”
“ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบสักหน่อยย่ะ!”
“ไม่ได้ไม่ชอบนะคะ!”
อัลม่ากับมิมิประสานเสียงกันเพื่อปฎิเสธสิ่งที่ผมกำลังพูด มิมิมองตรงมาที่ผมด้วยใบหน้าแดงแจ๋ อัลม่าเองก็เขินขึ้นมาหลังจากที่พูดเลยหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่หูเอลฟ์ยาวๆ นั่นก็แดงแจ๋เลยเช่นกัน
“ท่านฮิโระ ฉันรักท่านฮิโระหมดทั้งหัวใจค่ะ จากใจจริงๆ รักมากๆ เลยค่ะ ท่านฮิโระคือทุกอย่างของฉัน ฉันพร้อมจะมอบทุกๆ อย่างให้ท่านฮิโระนะคะ”
มิมิโน้มตัวมาทางโต๊ะและสารภาพรักด้วยใบหน้าขึ้นสี จนผมเองอดคิดไม่ได้ว่าการสารภาพรักที่เร่าร้อนขนาดนี้แม้แต่ในหนังหรือนิยายยังหายากเลย
และคนที่ได้รับคำสารภาพนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นตัวผมเอง…… นี่ผมไม่ได้เมาจนสลบแล้วฝันอยู่ใช่ไหมนะ
“ฉ-ฉันเองก็……ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอก? ต-แต่ก็ได้นายช่วยไว้? ถ้าไม่ได้นายช่วยไว้ตอนนี้ก็คงกำลังแย่อยู่แน่ๆ ? ต-ต้องบอกว่ารู้สึกติดค้างนิดหน่อย……หมายถึง รู้สึกขอบคุณน่ะ ไม่รู้สิ ฉันก็น่าจะชอบนายแหละ มั้ง? ถ้าไม่ใช่ ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ยอมมอบร่างกายให้หรอกนะ…… ตาโง่”
บางทีอาจจะเพราะได้รับอิทธิพลมาจากความเร่าร้อนของมิมิ อัลม่าเลยเริ่มพึมพำความรู้สึกของเธอต่อผมออกมาเช่นกัน
ผมเคยคิดว่าทั้งคู่ทำไปเพราะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณหรือเป็นวิธีตอบแทนความช่วยเหลือของผม แต่พอได้ยินคำพูดพวกนั้น ก็เหมือนน้ำหนักบนบ่ามันหายไป เป็นความรู้สึกโล่งใจ
“ไหงร้องไห้เล่า?”
“ท-ท่านฮิโระคะ?”
“ไม่เป็นไร โทษที มีความสุขเกินไปที่ได้ยินทั้งสองคนว่าแบบนั้น ตามตรงเลยคือฉันกังวลนิดหน่อย……ไม่สิ ค่อนข้างกังวลเลย”
“กังวลสินะคะ”
“งี่เง่าจังเลยนะ มีผู้หญิงไม่กี่คนหรอกนะที่จะไม่ตกหลุมรักเจ้าชายที่มาช่วยพวกเธอไว้จากเรื่องเลวร้ายน่ะ”
อัลม่าที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมหัวเราะ และหอมแก้มผมหลายที
“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันกลายเป็นของเล่นในคุกไปแล้ว นายช่วยฉันเอาไว้จากเรื่องนั้น เป็นเจ้าชายของฉันแน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องแปลกๆ เลยสักนิด”
“ฉันก็ด้วยค่ะ! ท่านฮิโระ! ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ฉันคงต้องเจอเรื่องเลวร้ายเหมือนกัน! ท่านฮิโระคือฮีโร่ของฉันนะคะ!”
มิมิลุกจากเก้าอี้และอ้อมมากอดผม ได้กลิ่นเหล้าด้วย……หรือว่าเข้าใจผิดว่าเหล้าเป็นน้ำผลไม้กันนะ?
“มิมิ มาทำให้คุณเจ้าชายเห็นกันว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา”
“ค-ค่ะ! ฉะพยายามเต็มที่ค่ะ!”
มือของทั้งคู่เอื้อมมาหาผม ผมไม่ต่อต้านและยอมรับทุกการกระทำของทั้งคู่
kloy1002 : อีตาฮิโระนี่ กินเนื้อทุกวันอร่อยจังนะะะะ
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือกดไลค์ คอมเม้น สับตะไคร้(????)ได้เลยคะ!
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ