(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 19 - รับรางวัล
“โอะ โอะ โอ๊ะ โอ๋ มากับผู้หญิงซะด้วย จะมาหาเรื่องกันรึไง? โอ่ย!?”
ทันทีที่มาถึงโต๊ะรับแขกของกิลด์ทหารรับจ้าง ตาลุงที่ดูแข็งแรงคนนั้นก็เดินเข้ามาหาทันที
“เปลี่ยนกัน”
“เปลี่ยนอะไร–อ๊ออกก!?”
ทันทีที่ได้ยินความวุ่นวาย หญิงสาวคนหนึ่งจากกิลด์ทหารรับจ้างก็ปรากฏตัวขึ้นและฟาดแฟ้มเอกสารหนาๆ ใส่หัวของตาลุงรับแขก สันซะด้วย เจ็บแทนเลย แล้วตาลุงก็โดนโยนเข้าห้องด้านหลังไปพร้อมๆ กับท่าทางเจ็บปวด แล้วหญิงสาวคนนั้นก็มานั่งแทนที่
“มารับหน้าที่แทนแล้วค่ะ ไม่ทราบว่ามาเพื่อรับเงินรางวัลคำขอและค่าหัวถูกต้องไหมคะ?”
“อ่า ครับ”
ผมสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่เป็นศัตรูกับคนคนนี้เด็ดขาด ผู้หญิงบ้าอะไรโยนผู้ชายกล้ามปูตัวขนาดนั้นได้ด้วยมือข้างเดียว? หวังว่าจะไม่ใช่เพราะดัดแปลงเสริมร่างกายด้วยเครื่องจักรนะ ด้วยเทคโนโลยีของโลกนี้น่าจะทำได้ แล้วก็น่าจะเสริมพลังกล้ามเนื้อได้ด้วยเหมือนกัน… แต่ไม่ว่าทางไหนก็น่ากลัวอยู่ดี
ผมตรวจสอบกับคุณพี่สาวและได้รู้ว่ารางวัลการปราบปรามรวมค่าหัวค่อนข้างตรงกับที่ผมคำนวนไว้ ก็คือ 790,000 อีเนล ที่บอกว่าค่อนข้างเพราะเงินค่าหัวบนใบประกาศจับมักจะมีเลขเศษอยู่ด้วยบ่อยๆ ประมาณ 8,123 อีเนล
“แล้วก็อยากรีเควสซ่อมบำรุงยานกับเติมกระสุนด้วย”
“ได้ค่ะ เป็นกระสุนช๊อตกัน แกลบ*, แฟลร์, ชิลด์เซลล์ แล้วก็ของอื่นๆ ถูกต้องไหมคะ?”
“ถูกต้อง ขอบคุณมาก”
“ยินดีค่ะ”
คุณพนักงานยิ้มให้ แสดงว่าเรื่องการบำรุงรักษายานกับเติมกระสุนนี่จะเป็นส่วนที่ทางกิลด์ทหารรับจ้างใช้หากำไรในฐานะคนกลางละมั้ง
“ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่เลยนะคะ”
“ช่าย แต่ว่าถ้ามีตัวเด็ดๆ เยอะกว่านี้น่าจะทำเงินได้เยอะกว่านี้อีกนะ”
ผมพูดจริงจังนะเรื่องนี้ มียานเล็กเยอะๆ ก็ดี แต่ว่าเงินรางวัลกับค่าหัวก็น้อยตามไปด้วย ถ้าเป็นยานที่คุณภาพกับฝีมือดีกว่านี้ค่าหัวก็น่าจะดีตาม แต่โจรสลัดที่สู้รอบนี้มีแต่พวกตัวเล็กตัวน้อยที่เน้นจำนวนเข้าว่า ค่าหัวเลยน้อยมาก
ถ้ายานขนาดกลางเยอะกว่านี้ ก็น่าจะหาเงินได้เยอะกว่านี้อีก
“ไม่ว่าใครจะว่ายังไง แต่ระบบดาวนี้ความสงบเรียบร้อยดีมากเลยนะคะ เพราะมีหลายๆ ครั้งเช่นเดียวกับคราวนี้ที่ทางกองทัพเป็นผู้นำในการปราบปรามโจรสลัด”
“อย่างนี้เอง หมายความว่าถ้าอยากจะหาเงินมากกว่านี้ก็ต้องเล็งเป้าไปที่ระบบดาวที่ความปลอดภัยต่ำกว่านี้สินะ”
“ไม่ใช่ว่าจะอันตรายเหรอคะ?”
“แน่นอนว่าอันตรายค่ะ ที่ระบบดาวเหล่านั้นไม่ใช่ว่าจะมีแค่โจรสลัดเยอะขึ้น แต่ตัวอุปกรณ์ก็ดีขึ้นด้วย ถ้าความสามารถมากพอก็จะทำเงินได้มากมายเลยค่ะ”
คุณพี่สาวตอบคำถามของมิมิ แน่นอนว่ามันจะต้องอันตราย แต่ด้วยพลังการต่อสู้ปัจจุบันแล้ว โจรสลัดของระบบดาวนี้ค่อนข้างจะน่าเบื่อไปหน่อย ผมเองก็ไม่ใช่พวกบ้าการต่อสู้ เพราะงั้นก็เลยไม่ได้อยากเดินทางไปมาเพื่อหาศัตรูที่คู่ควรหรืออะไรแบบนั้น แต่ก็อยากได้พวกที่ทำเงินได้มากกว่านี้หน่อย
“แต่ด้วยความสามารถของคุณฮิโระแล้ว ไปหาเงินจากระบบดาวที่อันตรายกว่านี้ก็ไหวนะคะ”
“เพราะการปราบปรามครั้งนี้ ระบบดาวนี้ก็จะสงบสุขไปสักพักล่ะนะ”
“งานที่ทางกิลด์ทหารรับจ้างเป็นตัวกลางไม่ได้มีแค่ปราบปรามโจรสลัดหรอกนะคะ ยังมีงานคุ้มกันและขนส่งด้วย”
“ยานลำนี้ไม่เหมาะกับงานขนส่งน่ะ แล้วงานคุ้มกันก็ดูจะลำบากด้วย”
“ในฐานะกิลด์แล้ว ทางเราเองก็อยากให้คุณรับงานพวกนี้ไปทำนะคะ”
“ฉันว่าให้คนที่มีกองยานแล้วมีหลายๆ คนทำงานพวกนั้นจะดีกว่านะ”
กองยานที่เป็นการรวมกลุ่มของทหารรับจ้าง เหมือนการตั้งปาร์ตี้ เพราะว่างานคุ้มกันยานพ่อค้าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำคนเดียว เพราะถ้าปล่อยยานที่ต้องคุ้มกันเอาไว้ ก็จะโดนโจมตีได้ แต่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ตลอด ก็จะโดนโจมตีจากระยะไกลแทน
อย่างน้อยถ้ามียานคุ้มกันหลายลำก็ยังปล่อยให้พรรคพวกรับงานป้องกัน แล้วออกไปไล่ล่าเองได้ แต่เพราะว่าผมโซโล่ เลยอาจจะไม่สามารถทำได้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะไปจบที่คำว่าพังพินาศ เพราะงั้นเลยไม่มีความตั้งใจจะรับงานคุ้มกันเลยสักนิด
“งั้นทำไมไม่จัดกองยานล่ะคะ ถ้าเป็นคุณฮิโระน่าจะมีคนต้องการตัวเยอะมากแน่ๆ?”
“อ่า คงไม่ใช่เร็วๆ นี้น่ะ พอดียังมีเป้าหมายที่อยากจะทำอยู่”
พอมองไปที่มิมิ เธอก็หน้าแดงยิ้มตอบ ผมมีหลายสิ่งที่อยากจะทำ และจะต้องทำ ไหนจะต้องไปสถานีการแพทย์ ต้องหาเงินสำหรับบ้านพร้อมสวน
“……เข้าใจแล้วค่ะ”
คุณพนักงานต้อนรับที่เห็นพวกเราก็พยักหน้าและยิ้มมีเลศนัยให้ เหมือนว่าจะเข้าใจอะไรสักอย่างผิดนะ
“คุณฮิโระดูเหมือนจะขยันหาเงินต่อไปเรื่อยๆ นะคะ แล้วดูไม่ใช่คนที่ฮ๊อตเท่าไรด้วย ดูเชื่อถือไม่ได้นิดหน่อย หรือดูอันตรายนิดๆ แต่ก็ถือว่าเป็นสเน่ห์ของเขา แล้วกำลังฮันนีมูนกันอยู่สินะคะ? ขอให้มีความสุขนะคะ”
“เอเฮะเฮะ… ขอบคุณนะคะ”
มิมิยิ้มละลายเมื่อได้ยินคุณพี่สาวว่าแบบนั้น อาเระ? ไม่ปฎิเสธด้วย? หมายความว่านี่คือฮันนีมูน? อาเระ? เอ๊ะ?
“ก็ฮันนีมูนราวๆ นั้นแหละนะ…”
“ไม่เหมือนกันเหรอคะ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น…?”
คุณพนักงานต้อนรับมองผมด้วยท่าทีไม่เข้าใจ ส่วนฝั่งมิมิก็ดูจะร้องไห้
“คือ ไม่รู้สิ อาจจะเหมือนกันแหละมั้ง?”
มิมิที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ได้ยินผมว่าแบบนั้นก็ยิ้มแย้มทันที คุณพนักงานต้อนรับเลยมองเราด้วยความสนใจ
“ถึงจะช้าไปสักหน่อยที่จะถามคำถามนี้ แต่ว่าพวกคุณสองคนเป็นอะไรกันเหรอคะ…?”
“ยังไงดี… อธิบายยากจัง กัปตันและลูกเรือ ผู้ปกครองกับคนที่ได้รับการคุ้มครอง?”
“ใช่แล้วค่ะ… แล้วก็ ท่านฮิโระเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉัน แล้วก็…นายท่านของฉัน?”
“คุณฮิโระคะ?”
คุณพี่สาวมองมาที่ผมด้วยสายตาหวาดระแวง แย่แล้ว ถ้าตอบไม่ดีโดนทุบด้วยพละกำลังนั่นแน่ ต้องเลือกคำให้รอบคอบ
“ผมช่วยมิมิเอาไว้ตอนที่โดนโจรโจมตีที่เขตสาม แล้วเธอไม่มีที่ไป ก็เลยพามาเป็นลูกเรือน่ะครับ”
ผมเผลอตอบด้วยคำสุภาพตามสัญชาตญาณ ไม่มีใครที่อยากตายหรอกนะ ผมเองก็ด้วย
“ฉันโดนลดขั้นจากชนชั้นเขตสองเพราะว่าหนี้จำนวน 300,000 อีเนลที่ได้รับมาต่อจากครอบครัวน่ะค่ะ แล้วท่านฮิโระก็ช่วยจ่ายหนี้ให้ แถมยังจ่ายค่าใบรับรองการเดินทางเสรีให้ด้วย รวมเป็นเงินตั้ง 500,000 อีเนลเลยนะคะ สำหรับฉันที่ไม่มีที่ไปแล้ว… เลยตัดสินใจว่าจะมอบชีวิตนี้ให้ท่านฮิโระค่ะ”
มิมิพูดต่อด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า พอได้ยินแบบนั้นคุณพี่สาวก็หลับตาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“เซฟค่ะ”
“เยสสส!”
ได้รับการอภัยโทษ! ผมเผลอแอบกำหมัด อันตรายต่อชีวิตจากไปละว้อย…!
“เรื่องราวความรักที่เกิดจากหญิงสาวที่สูญเสียทุกๆ อย่างได้รับความช่วยเหลือจากทหารรับจ้างหยาบคายจนหลุดจากสถานการณ์อันเลวร้าย? ราวกับหลุดมาจากนิยายบันเทิงหรือสื่อโฮโลเลยนะคะ”
“ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะดีขนาดนั้นมั้ง”
เป็นความเป็นจริงที่มิมิมอบความบริสุทธิ์ให้กับผม เป็นเรื่องดีที่เธอไม่รังเกียจผม และยอมรับผม หากไม่ใช่แบบนั้น ผมก็จะกลายเป็นแค่ไอ้เดรัจฉานที่ใช้เงินเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการจากเด็กสาวที่น่าสงสารต่างหาก
“ไม่จริงหรอกค่ะ ฉันมีความสุขมากที่ได้เจอท่านฮิโระนะคะ ทั้งใจดี แล้วยังฟังคำขอเห็นแก่ตัวของฉันด้วย”
“ไม่เคยจะเห็นได้ยินอะไรที่เห็นแก่ตัวเลยนะ?”
“คุณยอมใช้เงินตั้ง 300,000 อีเนลเพื่ออัพเกรดอุปกรณ์ของยานให้ฉันเลยนะคะ”
“นั่นมันก็มีประโยชน์กับฉันเหมือนกัน เพราะงั้นจะบอกว่ามิมิเห็นแก่ตัวฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกนะ”
คุณพนักงานต้อนรับที่มองพวกเราคุยกันก็เอามือแนบแก้มตัวเองแล้วยิ้มออกมา
“เห็นทั้งสองคนเข้ากันได้ดีขนาดนี้แล้ว บางทีลาออกจากงานพนักงานต้อนรับของกิลด์แล้วไปเป็นลูกเรือของคุณฮิโระดีไหมน๊า”
“ม-ไม่ดีค่ะ…”
บางทีน่าจะสัมผัสได้ถึงรังสีอันตรายจากคำพูดของคุณพี่สาว มิมิเลยกอดแขนผมแน่น ซึ่งทำให้ความนุ่มนิ่มปกคลุมแขนผมเช่นเดิม รู้สึกดีจังเลยนะ
ตาลุงที่แอบมองผมกับมิมิจากที่ไกลๆ กัดผ้าเช็ดหน้าพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดให้ได้ ไม่ใช่แค่นั้น พวกทหารรับจ้างหนุ่มโสดเองก็เดาะลิ้นเสียงดัง เฮะเฮะ อิจฉาเหรอจ๊ะ? แต่มิมิทำแบบนี้แค่กับตูเฟ้ย
“น่าเสียดายจังเลยนะคะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า จบแค่นี้แล้วกันนะ… อ่า จริงด้วย”
ผมกำลังจะลุกออกไป แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่อยากถามอยู่
“อื้ม รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับอัลม่า? พอดีเธอคอยช่วยดูแลมิมิตอนที่เข้ามาเป็นลูกเรือฉันน่ะ แล้วดูเหมือนว่าจะไปสร้างความเสียหายกับยานกองทัพตอนภารกิจที่ผ่านมา ก็เลยเป็นห่วงอยู่”
“เอ่อ อ่า… อัลม่าสินะคะ?”
คุณพี่สาวดูไม่สบายใจอย่างแรง และยิ้มเกร็งๆ ให้
“หรือว่าบาดเจ็บหนักเหรอ…?”
“ไม่ค่ะ สบายดี แค่ว่า… คือสบายดี แค่แบบ ใบแจ้งค่าปรับจากกองทัพระบบดาวมันค่อนข้างจะ…”
แล้วผมก็เข้าใจทุกอย่าง บางทีจำนวนค่าปรับมันน่าจะมหาศาลมากแน่ๆ
“…คิดว่าคัมแบ๊คได้ไหม?”
“…ฉันว่าก็นิดหน่อย ไม่สิ ค่อนข้างลำบากเลยล่ะ”
“โอ้…”
“……?”
มิมิเอียงคอมองผมกับคุณพี่สาวแลกเปลี่ยนคำพูดกัน ฮึ่มม ผมว่ามันไม่คุ้มที่จะอธิบายให้ฟังเท่าไร… ไม่สิ ไม่รู้ว้อย
“อย่างที่เดาเอาไว้นั่นแหละ ดูเหมือนจะเกิดวิกฤตเพราะค่าซ่อมยานตัวเองแล้วก็ยานของกองทัพดวงดาวน่ะ”
“นั่นมันแย่แล้วนะคะ——! ต-แต่มัน…”
มิมิตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก แต่คำพูดก็หมดกำลังลง และค่อยๆ เบาลงราวกับลูกโป่งที่ค่อยๆ แฟบลง
“อ่า เป็นเรื่องลำบากเลยล่ะ”
ส่วนตัวแล้วผมอยากจะช่วยทำอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องถูกต้องที่จะสอดจมูกเข้าไปในเรื่องของคนอื่นโดยที่เขาไม่ได้ขอให้ช่วย แล้วผมก็พึ่งเคยรู้จักกับอัลม่าไม่กี่วัน แต่ดูจากนิสัยแล้ว… คือไม่คิดว่ายัยนั่นจะขอให้ช่วยนะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้ยัยนั่นหมดหนทางจริงๆ หรือยัง
“อัลม่าอยู่ที่ไหนเหรอ?”
“ตอนนี้ดูเหมือนกำลังดิ้นรนหาวิธีจ่ายเงินคืนกองทัพอยู่ค่ะ”
“ถ้าไม่จ่ายก็จะเจอแบบนี้ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
ผมทำท่าราวกับใส่กุญแจมือตัวเอง และคุณพี่สาวก็พยักหน้ารับโดยไม่ลังเล อย่างที่คิด ต่อให้ไม่รู้ว่าจะเป็นไงต่อ แต่ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายอะไรหรอก ก็แบบระบบดาวที่นี่มีสถานีคุกที่เอาไว้ขังอาชญากรแล้วให้ทำงานขุดเหมืองนี่หน่า
“จะถูกส่งไปที่สถานีคุกใช่ไหมนะ?”
“ก็ใช่ค่ะ… แต่ว่าเพราะจำนวนอาชญากรชายมีเยอะกว่ามาก อาชญากรหญิง… ค่อนข้างจะลำบากค่ะ”
“โถ่วโว้ย…”
เดาไม่ยากเลยว่าถ้าโยนอาชญากรหญิงลงไปกลางดงอาชญากรชายแล้วจะเป็นไง ไม่อยากให้อัลม่าต้องเจออะไรแบบนั้นด้วยสิ แต่ว่า… ฮึ่ยย
หมายถึงว่าที่นี่ไม่มีแยกผู้ชายกับผู้หญิงเลยเหรอ? เป็นประเทศที่น่ากลัวโคตรๆ
“…เผื่อไว้แล้วกันนะ ฝากบอกอัลม่าให้หน่อยได้ไหมว่าถ้าเกิดมีปัญหาอะไรให้บอกฉันได้เลย?”
“…จะไม่เป็นไรเหรอคะ?”
“คิดซะว่าเป็นโชคชะตาแล้วกัน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไปเหมือนกัน”
เพราะต่อให้มาขอให้ช่วย ก็มีโอกาสที่ว่าผมจะช่วยอะไรไม่ได้เลยอยู่เหมือนกัน สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงแค่ให้เงินไปนิดหน่อย บางทีอาจจะขอให้จ่ายคืนด้วยร่างกาย แต่ไม่ใช่ในเชิงอย่างว่านะ เป็นในแบบลูกเรือน่ะ เข้าใจใช่ไหม? เพราะว่าอัลม่าน่าจะเป็นคนที่เหมาะกับการช่วยสอนมิมิที่สุดแล้ว
แล้วก็ให้เงินส่วนแบ่งเป็นเงินเดือนตามงานที่ให้ทำเพื่อจะได้เอามาจ่ายหนีได้ก็น่าจะดี
“ไงก็เถอะ ถามหน่อยว่าปกติจ่ายเงินให้ลูกเรือเท่าไรกันเหรอ?”
“จำนวนก็ขึ้นอยู่กับว่าลงทุนไปกับยานเท่าไรแล้วก็ตำแหน่งบนยานน่ะค่ะ”
“งั้นสมมุติว่าถ้าเป็นมิมิล่ะ?”
“คุณมิมิเหรอ… อื้ม ยานนี่เป็นของคุณฮิโระเต็มร้อยเลยใช่ไหมคะ”
“ใช่”
“ถ้ากรณีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของลูกเรือด้วย… คุณมิมิมีความสัมพันธ์กับคุณฮิโระแล้วรึเปล่าคะ?”
“เอ๊ะ อ่า ก็แบบ”
“หากประเมินโดยคิดว่าการลงทุนกับยานอยู่ที่ศูนย์เปอร์เซ็น เป็นลูกเรือมือใหม่ฝึกหัดที่เป็นผู้หญิงของกัปตัน เรทรายได้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.1% ถึง 0.5% ค่ะ”
“0.5%… เยอะหรือน้อยล่ะนั่น”
ผมเอียงคอเมือได้ยินเรทรายได้ เงินรางวัลและค่าหัวรวมกันคราวนี้คือ 790,000 อีเนล ถ้ามองว่ารางวัลของมิมิคือ 0.5% ก็จะเป็น 3,950 อีเนล แล้วถ้ามองว่า 1 อีเนลมีค่าเท่ากับร้อยเยน รางวัลที่มิมิได้ก็จะออกมาเป็น 395,000 เยน ถ้าเหมือนจะไม่เยอะเท่าไรถ้าต้องทั้งเสี่ยงชีวิตแล้วก็เสียความบริสุทธิ์ด้วย… แต่บางทีอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นถ้ามองว่าผมมีที่พัก มีเสื้อผ้า แล้วก็อาหารให้ฟรีทั้งหมด?
“น้อยค่ะ แต่ว่าพอความสามารถในฐานะโอเปอเรเตอร์เพิ่มขึ้น จำนวนตรงนี้ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่สำหรับตอนนี้ถูกคำนวนแค่ในฐานะผู้หญิงคนนึงของกัปตันค่ะ แต่ว่านะ ในกรณีของคุณฮิโระน่ะ เขาหาเงินได้เยอะมากๆ… ถ้าคำนวนจากจำนวนเงินที่เขาได้แล้วคือ 3,950 อีเนล นั่นเยอะกว่าเงินเดือนของฉันอีกนะคะ…?”
ท่าทีของคุณพนักงานต้อนรับเปลี่ยนเป็นจริงจัง ราวกับตั้งใจพิจารณาว่าจะมาเป็นลูกเรือของผมจริงๆ ขอร้องละครับ ไม่ว่าจะเป็นสาวสวยขนาดไหน แต่การที่เป็นคนที่โยนผู้ชายตัวโตได้ด้วยมือเดียวผมก็กลัวอยู่ดี
“ย-เยอะ!? รับไว้เยอะขนาดนั้นไม่ไหวหรอกนะคะ!?”
“ไม่หรอก เป็นจำนวนที่ยุติธรรมดีแล้ว รับเอาไว้เถอะ”
“เอ๋…”
มิมิตัวสั่นกับจำนวนเงินที่จู่ๆ ได้มา แต่กับผมคือเป็นจำนวนที่เล็กน้อยมากๆ … แบบที่ปลิวหายไปได้ง่ายๆ เพราะค่าซ่อมยานกับเติมเสบียงเลย แล้วถ้าเอาเรื่องค่าจอดยานมาคิด การที่เงิน 4,000 อีเนลจอดได้แค่ไม่เกิน 20 วันเนี่ย มันน้อยนิดขนาดนั้นเลยนะ
“มิมิ ได้เงินเยอะไม่ใช่เรื่องแย่หรอกนะ ถ้าคิดว่าเยอะเกินก็แค่เก็บไว้ก็พอ”
“อย่างนั้นเหรอคะ…?”
มิมิยังคงดูไม่เห็นด้วย แต่ก็ยอมรับเงินค่าจ้างเอาไว้ การที่ดูแลเรื่องอาหารกิน เสื้อผ้า แล้วก็ที่พักให้แล้วไม่ยอมจ่ายค่าจ้างมันไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ เพราะว่าช่วยดูแลเรื่องส่วนตัวให้ด้วย แถมทุกคนก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนๆ กัน จริงๆ แล้วผมคิดว่าส่วนแบ่ง 5% หรือ 10% แทน 0.5% ยังได้เลย… แต่ว่ามันมีราคาตลาดอยู่ ก็เอาตามนั้นไปก่อน แล้วจากท่าทีตอบรับของมิมิแล้ว ถ้าให้ไปมากกว่านี้น่าจะเป็นปัญหาซะมากกว่า
บางทีเก็บเงินออมไว้ให้มิมิอาจจะดีก็ได้ ไว้ลองพิจารณาดูละกัน
หลังจากส่งเงินให้มิมิ ผมก็รับตารางอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมของลูกเรือมาจากคุณพี่สาว และออกมาจากกิลด์ทหารรับจ้างพร้อมมิมิ แต่เพราะว่าไม่มีแผนอื่นๆ แล้วในวันนี้ ก็เลยเดินเล่นแวะร้านตลอดเขตสามไปพร้อมมิมิจนหมดวัน
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะใช้เวลาสักสองสามวันไปกับการเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหลายบนยาน ซ่อมบำรุงยาน เติมกระสุนแล้วก็อื่นๆ มาพยายามให้ดีที่สุดกันเถอะ
———————————————–
*แกลบ : แกลบในที่นี้ไม่ใช่เปลือกข้าว แต่เป็นแกลบ(Chaff) มีที่ไว้รบกวนเรดาห์ ใช้โปรยเพื่อขวางมิสไซล์ติดตามด้วยเรดาห์ได้
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจผู้แปล หรือกดไลค์ คอมเม้น สับตะไคร้(????)ได้ฟรีเลยคะ!
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ