(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 18 - ช๊อปปิ้งกับมิมิ รีเทิร์น
หลังจากจบภารกิจ เราใช้เวลาทั้งวันของวันถัดมากับวันถัดไปอีกในการพักผ่อนบนยาน ทั้งมิมิและผมปรึกษากันถึงเรื่องที่จะทำในอนาคต และเปลี่ยนของใช้ภายในยาน และวันนี้เป็นวันที่เงินจากกองทัพจะเข้า พวกเราทั้งสองคนเลยตั้งใจว่าจะออกจากยานไปหาซื้อของใช้ในยานกัน
“เอเฮะเฮะ”
“ฟังดูสนุกดีเนาะ”
“ค่ะ จะเฝ้ารอเลยค่ะ”
เป้าหมายในอนาคตของมิมิคือกินของอร่อยทั่วกาแลกซี่ แต่ว่าเธอเริ่มออกเดินทางเร็วกว่าที่ผมคาดไว้ซะอีก หลังจากจบการต่อสู้ มิมิก็ใช้เวลาระหว่างพักในห้องหาข้อมูลของอร่อยหลายๆ อย่างผ่านแท๊บเล็ท
แล้วระหว่างนั้นก็ได้เจออุปกรณ์ทำอาหารประสิทธิภาพสูงที่ทำอาหารอัตโนมัติจากวัตถุดิบแสนอร่อยออกมาได้อร่อยมาก และในเวลาเดียวกันก็หาเจอว่ามีคนขายอยู่ที่โคโลนี่เทอเมนไพรม์นี่ด้วย จากนั้นมิมิก็ใช้เวลาเมื่อวานทั้งวันในการโน้มน้าวผมด้วยทุกวิธีการที่หาได้จนผมเห็นด้วยและตัดสินใจปรับปรุงอุปกรณ์บนยานกฤษณะใหม่เลยทีเดียว
ใช้แล้ว อุปกรณ์ที่จะไปซื้อกันรอบนี้ไม่ใช่แค่เครื่องทำอาหารคุณภาพสูงแต่ยังมีแผนจะซื้ออุปกรณ์สำหรับอยู่อาศัยใหม่ยกเซ็ต ทั้งอ้างล่างหน้าในห้องน้ำ อุปกรณ์บำบัดน้ำ อุปกรณ์บำบัดอากาศ เครื่องปรับอากาศคุณภาพสูง และห้องน้ำที่ใช้สบายด้วย
แน่นอนว่าต้องใช้เงินพอตัวเลย แต่รวมๆ แล้วก็ยังน้อยกว่าเครื่องกำเนิดพลังงาน หรืออุปกรณ์สร้างโล่รุ่นล่าสุดอยู่ดี
วันนี้เราเลยกำลังมุ่งหน้าไปหาคนขายเพื่อจะได้ดูของที่ซื้อเปลี่ยนด้วยตาตัวเองว่าตรงกับที่ต้องการไหม
ซึ่งผมอยู่ในชุดแนวทหารรับจ้างตามปกติ แต่วันนี้มิมิสวมชุดสบายๆ ธรรมดา เลยทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย
“อื้อ น่ารัก หรือจะเรียกว่าสวยดี”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
“อื้อ ดูดีเลย เป็นสาวงามเลยล่ะ”
“เอ๊ะ เอเฮะเฮะ…”
พอชมชุดที่ใส่มิมิก็เอามือมาปิดแก้มแล้วบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย น่ารักจังเลยน๊า แต่ถ้าเป็นงี้ต่อไปน่าจะแผนล่มเพราะมัวแต่ชมมิมิแหง ก็เลยรีบออกจากยานแล้วตรงไปที่ร้านค้า
“อยู่ใกล้ๆ กับกิลด์ทหารรับจ้างสินะ”
“ค่ะ สำนักงานรัฐหลายๆ ที่ กิลด์ทหารรับจ้าง ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานรายใหญ่ แล้วก็คนขายอุปกรณ์ก็อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันหมด เพราะงั้นความปลอดภัยเลยค่อนข้างดีมากด้วย”
“แบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่ามิมิจะมีความสามารถในด้านการเป็นโอเปอเรเตอร์นะเนี่ย”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
“อื้อ ก็ดูวิธีการหาข้อมูลที่ต้องใช้ นำทาง แล้วก็อธิบายให้เข้าใจนี่สิ”
“เอเฮะเฮะ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ”
เมื่อมองไปที่มิมิที่ถือแท๊บเล็ทพลางยิ้มอยู่ผมก็อดยิ้มตามไปด้วยไม้ได้ ก็นะ วิธีสอนของผมคือให้กำลังใจแล้วชมตอนนักเรียนเก่งขึ้นน่ะนะ
ผมไม่ใช่พวกเชื่อในการดุด่าตบตีเพื่อให้พวกเขาเติบโตน่ะ ไม่ว่าคิดยังไง การที่กดดันจนแทบจะเสียสตินี่ก็ไม่น่าจะให้ผลลัพท์ดีๆ ได้ แล้วก็ตั้งแต่แรก เราจะมีความสัมพันธ์อันดีกับคนที่ทำร้ายจิตใจเรามากๆ ได้ยังไง? ไม่ใช่ผมล่ะคนนึง
มิมิกับผมคือคู่หูที่รับฝากชีวิตของกันและกันไว้ มันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมอย่างกัปตันและลูกเรือ เจ้าหนี้และลูกหนี้ คนแข็งแกร่งและคนอ่อนแอ แต่ที่สนามรบ พวกเราคือคู่หูที่ไว้ใจกันและระวังหลังให้กันได้ อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่เราทั้งสองคนพยายามจะเป็น
การจะมีความสัมพันธ์ที่เชื่อใจกันมันต้องเริ่มจากการให้ความจริงใจ ซื่อตรง และความรักเท่าที่ให้ได้
พูดกันตรงๆ ที่เข้มงวดด้วยไม่ได้เพราะผมเองน่าจะมีความรู้สึกดีๆ ให้มิมิไปแล้ว แต่ให้ทำไงเล่า! มิมิน่ารักนี่หน่า! อาจจะหลงเสน่ห์ไปเต็มเปาแล้วก็ได้ แต่ผมก็พยายามมองข้ามๆ ไปอยู่
ผมขึ้นลิฟท์ที่เชื่อต่อโรงจอดกับพื้นที่อยู่อาศัยและมองออกไปนอกอวกาศ ช่องลำเลียงลิฟท์ที่เชื่อมโรงจอดกับที่อยู่อาศัยนั้นทำจากโครงโลหะและวัสดุโปร่งแสงเลยสามารถมองออกไปนอกลิฟท์ได้
“ไม่ว่าดูกี่รอบก็ไม่เบื่อเลยนะ”
“ท่านฮิโระน่าจะเคยเห็นบ่อยเลยสินะคะ?”
“ไม่หรอก พึ่งจะเคยได้เห็นด้วยตาตัวเองเมื่อไม่นานมานี้เอง”
“อย่างงั้นเหรอคะ… ท่านฮิโระก่อนที่จะมาที่โคโลนี่เคยอยู่ที่ไหนมาก่อนเหรอคะ?”
“ก่อนมาที่โคโลนี่นี้…”
ผมคิดย้อนไปถึงชีวิตเมื่อก่อน ที่โลกเดิม แต่ก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องเสียความทรงจำที่เอาไว้เป็นฉากหน้า เกือบไปแล้ว เกือบบอกความจริงไปซะแล้ว
“จริงๆ แล้วความทรงจำฉันไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร คิดว่าน่าจะปลิวมาถึงระบบดาวเทอเมนเพราะอุบัติเหตุไฮเปอร์ไดรฟ์หรืออะไรราวๆ นั้น พวกเรื่องเกี่ยวกับเคยอยู่ที่ไหน ทำอะไรมา แล้วเคยใช้ชีวิตแบบไหนเลยคลุมเครือไปหมด”
“อาเระ?! จ-จริงเหรอคะ?! ลำบากมากเลยนะคะนั่น!”
“จะบอกว่าลำบากไหมก็ไม่ค่อยกังวลเท่าไรนะ เพราะว่าไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร”
เพราะว่าผมเองไม่ได้ความจำเสื่อมจริงๆ แค่ใช้เพื่อบังหน้านี่หน่า
“แต่ก็มีคิดไว้ว่าจะไปสถานีการแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอยู่”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นพอกลับมาเดี๋ยวฉันจะหาสถานีที่ใกล้ที่สุดที่มีเทคโนโลยีการแพทย์ระดับสูงให้นะคะ”
“ขอบใจนะ”
มิมิเป็นเด็กดีที่ห่วงเรื่องสุขภาพผมมาก ผมเองก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองมากๆ เข้าไว้ เพราะถ้าเป็นอะไรไป มิมิก็ต้องกลับไปอยู่ริมถนนอีก
แล้วผมก็ต้องทำให้มิมิที่ห่วงเรื่องสุขภาพของผมใจเย็นลง ก่อนที่จะไปที่ร้านค้ากันต่อ ซึ่งเพื่อให้ใจเย็นลงผมจำเป็นต้องตรวจสอบสัญญาณชีพในทุกๆ วัน แต่ถ้าให้มิมิสบายใจเรื่องแค่นี้เรื่องเล็ก ตรวจสัญญาณชีพเองก็ใช้เวลาไม่นานด้วย
มิมิเองก็สบายใจขึ้นตอนที่ได้ยินว่าผมสัญญาจะตรวจสัญญาณชีพทุกวัน แต่น่าจะยังกังวลอยู่เลยกอดเกาะติดผมแน่น… นุ่มนิ่มดีจังเลยนะ มีคนคอยห่วงนี่ดีจังเลย!
ร้านขายอยู่ตำแหน่งตรงกับที่มิมิหาข้อมูลเอาไว้ และเพราะว่าเราจองเอาไว้ก่อนแล้วพอมาถึงเลยได้รับการรับรองดูแลเต็มที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยการแอบดูถูกเลย
“นี่คือเครื่องทำอาหารคุณภาพสูงที่ทางมุซาชิโนะเทคภูมิใจ เทตซึจินที่ห้า ของในซี่รี่ย์เทตซึจินของเราติดลำดับท๊อปของตลาดอุตสาหกรรมเครื่องทำอาหารคุณภาพสูงมาโดยตลอดการขายอันยาวนาน และเจ้านี้เองก็เป็นตัวล่าสุดที่พึ่งปล่อยออกมาเมื่อสองเดือนที่แล้วนี้เอง”
“สองเดือน แล้วรุ่นก่อนหน้าปล่อยไปเมื่อตอนไหนเหรอ?”
“แปดปีที่แล้วครับ จุดขายของซีรี่ย์เทตซึจินนั้นไม่ใช่เพียงแค่การเป็นเครื่องทำอาหารอัตโนมัติที่ทำอาหารแสนอร่อยได้เท่านั้น แต่ยังมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างสูง ที่จะพัฒนาปรับปรุงผ่านข้อเสนอแนะที่มาจากความผิดปกติอันเกิดจากการใช้งานในสภาพพื้นที่อันเลวร้าย ซึ่งอัตราความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากเทตซึจินที่สี่ภายในสามปีจากการซื้อนั้นมีเพียง 0.004% เท่านั้น ความน่าเชื่อถือของการจัดเตรียมอาหารแสนอร่ยให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพพื้นที่เช่นไรคือจุดขายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แน่นอนว่าเทตซึจินที่ห้ารุ่นล่าสุดนั้นก็นำเอาลักษณะเฉพาะเหล่านั้นมาใช้ด้วยเช่นกัน”
“แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายการทำงานกับค่าบำรุงรักษาล่ะ?”
“ถึงการใช้พลังงานจะสูงไปบ้าง แต่ก็มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการบำรุงรักษาอัตโนมัติโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนาโนแมคชีน เพราะงั้นโดยพื้นฐานถือว่าไม่มีค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา การทำความสะอาดตัวกรองและชิ้นส่วนภายในก็จัดการอัตโนมัติผ่านนาโนแมคชีนในตอนที่ไม่ได้ทำงานเช่นกัน”
“เข้าใจแล้ว ดีจังนะที่บำรุงรักษาง่าย”
“ใช่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะคุณภาพสูงแค่ไหน แต่ถ้าต้องใช้เวลามากมายไปกับการบำรุงรักษาก็ไม่มีประโยชน์ ท่านฮิโระคะ เรื่องไฟฟ้าได้ใช่ไหมคะ?”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เครื่องกำเนิดพลังงานมีไฟเหลือให้ใช้อีกเยอะ”
เครื่องกำเนิดพลังงานที่ติดตั้งอยู่บนกฤษณะเป็นโมเดลคุณภาพระดับล่าสุดของกองทัพเลยมีพลังให้แบ่งไปใช้ได้อีกเหลือเฟือเลย
“งั้นมาลงทดสอบใช้งานกันดีกว่าครับ เริ่มจากทำแฮมเบอเกอร์ที่เป็นรูปแบบพื้นฐานที่สุดจากตลับอาหารที่หาซื้อได้ทั่วไป”
ระหว่างพูดพนักงงานก็จัดการสั่งให้เทตซึจินที่ห้าทำแฮมเบอเกอร์ ซึ่งแฮมเบอเกอร์เป็นรูปแบบอาหารพื้นฐานที่สุดที่ทำได้ด้วยเครื่องทำอาหารอัตโนมัติทุกเครื่อง ตั้งแต่ต้นเลยเคือครื่องทำอาหารอัตโนมัติเป็นสินค้าที่สามารถเรียกว่า เครื่องปริ้นอาหาร3D ก็ได้ มันจะผสมน้ำกับเครื่องปรุงเข้ากับของที่บรรจุในตลับอาหารที่เป็นพวกของแห้งอย่างสาหร่ายแปรรูปแล้วปรับแต่งรูปร่างหน้าตาและรสชาติให้ออกมาเป็นอาหาร ‘จริงๆ’
ไม่ว่าจะคุณภาพสูงแค่ไหน ก็ทำมาจากตลับอาหาร น้ำ แล้วก็เครื่องเทศเหมือนกันๆ ไม่น่าจะรสชาติต่างกันมาก…
“อร่อย… ทำไมกัน?”
“อร่อยจัง…”
ผมอดครางออกมาพร้อมมิมิไม่ได้ นี่ใช้ตลับอาหารเหมือนที่ใช้กับเครื่องทำอาหารอัตโนมัติบนยานจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย? เพราะอร่อยขนาดนี้จนอดคิดไม่ได้ว่า เมื่อเทียบกับแฮมเบอเกอร์อันนี้แล้ว แฮมเบอเกอร์ที่กินมาจนถึงตอนนี้ก็คือแฮมเบอเกอร์ที่เย็นชืดจนโดนเอามาขายชิ้นละร้อยเยนไปแล้ว เทียบกันไม่ติดเลย
“ทั้งสัมผัสและรสชาติสามารถเปลี่ยนได้กว้างมากขึ้นอยู่กับการผสมวัตถุดิบ การให้ความร้อน และการผสมเครื่องปรุงรสครับ ตัว AI ที่ใช้กับซีรีย์เทตซึจินจะเป็นการรวมรูปแบบข้อมูลกับเทคนิคการทำอาหารเข้าด้วยกันเพื่อให้กำเนิดรสชาตินี้ขึ้นมา”
“เข้าใจแล้ว… มิมิ เอาเจ้านี่แหละ”
“แต่มันแพงนะคะ?”
“ราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 48,000 อีเนล แต่เพราะว่าพวกคุณซื้อพร้อมของอย่างอื่นก็จะมีส่วนลดให้ 3,000 อีเนลทำให้ราคาอยู่แค่เพียง 45,000 อีเนล! และยิ่งไปกว่านั้น ราคานี้ยังรวมถึงประกันสามปีแล้วด้วย!”
“ว๊าว! เยี่ยมเลย เอาเจ้านี่แหละ ไปดูของอย่างอื่นต่อกัน”
“ขอบคุณมากๆ ครับ!”
การต่อรองเป็นไปเช่นนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งสุดท้ายแล้ว อุปกรณ์ทั้งหมดบนกฤษณะ ตั้งแต่เครื่องทำอาหารอัตโนมัติไปจนถึงเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์อื่นๆ สำหรับการใช้ชีวิตบนยานได้ถูกเปลี่ยนเป็นสินค้าระดับสูงที่สร้างขึ้นโดยมุซาชิโนะเทค
ราคารวมอยู่ที่ 300,000 อีเนล แต่สุขภาพจิตของลูกเรือขึ้นตรงกับสิ่งแวดล้อมความเป็นอยู่ที่สบาย ความเป็นอยู่ที่สบายดีต่อสุขภาพจิตมากกว่าความเป็นอยู่ที่แย่ เพราะงั้นก็เลยตัดสินใจไม่หวงเงินและใช้กับอุปกรณ์ระดับสูงเต็มที่
แล้วก็ 300,000 อีเนลนี่น้อยกว่าจ่ายหนี้บวกค่าใบรับรองการเดินทางเสรีให้มิมิซะอีก เรื่องแค่นี้ไม่มีผลกับการเงินของผมหรอก ต่อให้ซื้อมิมิมาก็ยังเหลือเงินตั้งสองล้านอีเนล
แล้วก็ค่าตอบแทนที่ได้จากการกำจัดโจรสลัดระหว่างภารกิจคราวก่อน ผมจัดการยานเล็กไปได้ 42 ลำ ขนาดกลาง 5 ลำ ค่าตอบแทนที่ได้จากกองทัพอย่างเดียวก็ 310,000 อีเนลเข้าไปแล้ว มากพอที่จะกลบค่าใช้จ่ายตรงนี้เลยด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ค่าหัวของโจรสลัดที่จมไปทั้งหมดคือ 480,000 อีเนล แล้วยังมีของที่ได้มากจายานของโจรสลัดอีก มันมีโลหะหายากพอตัวเลย กำไรจากการเอาไปขายน่าจะเยอะใช้ได้อยู่ ให้คำนวนคร่าวๆ น่าจะได้ประมาณ 800,000 อีเนล
หรือพูดรวมๆ ก็คือได้เงินมาประมาณ 1.6 ล้านอีเนลจากการกำจัดโจรสลัดรอบนี้ จากใจเลยก็คือเป็นจำนวนกำไรที่ทำให้หัวเราะไม่หยุดเลยล่ะ ถ้าลงทุนแค่ 300,000 อีเนลกับอุปกรณ์แล้วเพิ่มคุณภาพชีวิตด้านอาหาร เครื่องสวมใส่ แล้วก็ที่อยู่ได้อย่างเห็นได้ชัดก็นับว่าเป็นจำนวนเงินน้อยนิดเท่านั้น
รอบนี้เราเปลี่ยนเตียงเลยด้วยซ้ำ เตียงที่ห้องผมใหญ่ขึ้นจนสามารถนอนสองคนได้สบายๆ ทำไมน่ะเหรอ? อย่าให้บอกเลยน่าอายออก
ไงก็เถอะ ตอนที่มิมิสั่งเตียงนี่หน้าแดงจนไอน้ำออกหัวเลย พูดตรงๆ คือผมเองก็อาย แต่พอเห็นมิมิเป็นแบบนั้นเลยถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีล่ะ
หลังจากสั่งอุปกรณ์ยานเสร็จ เราก็ตัดสินใจไปที่กิลด์ทหารรับจ้างเพื่อรับเงินรางวัลจากภารกิจปราบปรามขนาดใหญ่ที่เสร็จสิ้นไป
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปล หรือจะเป็นค่าเหนื่อยไปซื้อชานมก็ได้ทั้งนั้นคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ