(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 14 - ธงที่ปังลงมิดด้าม
“นี่ ไม่เป็นไรหรอกน่า…”
“มะ มะ ไม่เป็นไร ไร คะ ค๊ะ ค่ะ”
“ดูยังไงก็เป็นนะ”
ไหนบอกว่าจะเป็นบทการต่อสู้เหรอ? โกหกไงล่ะ
เหลืออีกชั่วโมงก่อนจะออกเดินทางกัน เพื่อความปลอดภัยผมเลยสั่งให้ AI ช่วยเหลือทำการตรวจสอบและซ่อมบำรุงตัวเองไป จากนั้นก็พามิมิไปที่ห้องทานอาหารเพื่อจะได้ผ่อนคลาย
“ม-มะ มะ ไม่เป็นไรจริงๆ นะค๊ะะ?”
“ดูยังไงก็แย่แล้วนะนั่น”
มิมิสั่นอย่างกลับลูกกวางเกิดใหม่ไม่ก็ชิวาว่าแนะ เห็นแล้วน่าสงสารมากๆ ไม่แปลกหรอก ก็กำลังเข้าการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนี่หน่า เป็นธรรมดาที่จะเครียดและก็กลัวแบบนั้น มิมิก็คือรับรู้สถานการณ์และเข้าใจอย่างถูกต้องเท่านั้นเอง
ถ้าจะมีอะไรที่แปลก ก็คิดว่าเป็นตัวผมเองที่ไม่เครียดเลยสักนิด ทั้งๆ ที่กำลังจะไปฆ่าคนจริงๆ มันแปลกมากๆ ที่คนที่ไม่เคยจะแม้แต่ไปต่อยกับใครจริงจัง จะไม่เครียดกับการไปสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยสักนิด
พอลองมาคิดๆ ดูว่าทำไมถึงไม่เครียดเลย ก็พอจะนึกออกอยู่บ้าง
อย่างแรกเลย เพราะผมคิดไว้แล้วว่ากฤษณะสุดที่รักของผมอย่างน้อยก็แจ่มไม่น้อยไปกว่ายานลำไหนๆ ของโลกนี้—-หรือบางทีอาจจะเป็นระดับท๊อปคลาสของยานทหารรับจ้างเลยก็ได้ หรืออาจจะยิ่งกว่าในด้านความสามารถการต่อสู้ด้วยซ้ำ
เกือบจะเป็นอะไรที่มองว่าแน่นอนไปแล้วหลังจากที่ผมไปหาข้อมูลความสามารถของบรรดายานกับบรรดาอาวุธที่วางขายหมุนเวียนอยู่ในตลาดมา อาวุธล่าสุดที่กองทัพใช้แล้วก็ข้อมูลของยานรบหลายๆ ลำด้วย
ก็ไม่รู้หรอกว่าถ้าเอาไปเทียบกับยานรุ่นล่าสุดของจักรวรรดิกรัคคานหรือสหพันธรัฐเบลเบลม หรือยานจำพวกคลาสเรือประจันบาญที่คนละขนาดไปเลยจะเป็นยังไง แต่น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงได้อยู่
อีกเรื่องคือการตอบสนองของโจรสลัดที่เคยได้สู้ตอนพึ่งมาถึงโลกนี้ รวมถึงตาลุงกับอัลม่าที่กิลด์ทหารรับจ้างที่ได้เห็นการจำลองต่อสู้ของผมด้วย
ตัดสินจากการตอบรับดูเหมือนว่าความสามารถในการรบของผมที่ขับกฤษณะจะพิเศษนิดหน่อย หรือเรียกอีกอย่างคือเกินปกติไปบ้าง แน่นอนว่าความพิเศษของกฤษณะที่สเปคสูงมากๆ คือส่วนหลัก แต่ไม่ว่าตัวเครื่องจะสเปคดีแค่ไหน ขับไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์ เป็นได้แค่โลงศพ อย่างน้อยฝีมือการขับยานผมก็ไม่ทำให้กฤษณะเป็นแค่โลงศพเคลื่อนที่
พอจับสองข้อนี้มารวมกันแล้ว ผมเลยไม่คิดว่าภารกิจกวาดล้างโจรสลัดจะอันตรายขนาดนั้น เพราะรู้สึกแบบนั้นเลยยังใจเย็นอยู่
เพราะว่าอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ทั้งหมดนี้ พอมองจากมุมมองของผมแล้ว โลกนี้ก็ยังคล้ายกับโลกของสเตลล่าออนไลน์อยู่ดี เลยกลายเป็นว่าสลัดภาพความรู้สึกที่ว่า ‘เหมือนกับเกม’ ไม่หลุดไปจากมุมมองของผมสักที
เลยรู้สึกว่าจะไม่ตายในการต่อสู้
มันไม่รู้สึกว่าเป็นความจริง
ให้รู้สึกกลัวตายภายใต้อารมณ์เช่นนั้นมันทำไม่ได้ ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าโดนยิงก็ตายจริงก็เถอะ แต่ในสเตลล่าออนไลน์ที่โดนยิงร่วงก็นับนิ้วได้… และทั้งหมดที่โดนยิงร่วงคือตอนเป็นมือใหม่กำลังทำความเคยชินกับวิธีควบคุมอยู่
ถ้ายานโดนยิงจม ค่าซ่อมก็ไม่ต่างอะไรจากซื้อใหม่ ถ้ามีประกันก็ถูกลงหน่อย แต่ของในคลังก็ปลิวหายไปไหนต่อไหนหมดอยู่ดี ซึ่งก็เป็นความเสียหายมากมาย ดังนั้นเลยควรคิดถึงเรื่องความปลอดภัยให้มากพอเอาไว้ด้วย
ถ้าตัดสินเวลาถอยผิดแล้วโดนสอยจม ก็ต้องสูญเสียมหาศาล
ถ้าพูดว่ายังพอไหว ก็ไม่ควรไปต่อ ผมบอกตัวเองแบบนั้นและทำแบบนั้นด้วย ตัวอย่างเช่น กฤษณะมีโล่สามชั้นและเกราะที่ค่อนข้างหนา จากนั้นถึงจะเป็นตัวยานจริงๆ
ลึกเข้าไปต่อจากตัวยานจะมีชิลด์เซลล์ที่จะใช้เติมพลังงานให้โล่ได้อย่างรวดเร็ว ถึงจะมีจังหวะคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง แต่ก็ใช้เติมโล่ที่พลังงานอ่อนลงได้อย่างดี แต่ถ้าโล่มันหายไปเลย ใช้ชิลด์เซลล์ไปก็ไร้ประโยชน์
ไงก็เถอะ ชิลด์เซลล์น่ะ ติดตั้งไว้หลายที่ทั่วยาน ในกรณีของกฤษณะจะมีทั้งหมดห้าหน่วย หรือพูดอีกอย่าง ถ้าใช้ดีๆ จะปลอดภัยจนชิลด์เซลล์ทั้งห้าหน่วยจะถูกใช้หมดนั่นแหละ
ในตอนที่มีการต่อสู้ในสเตลล่าออนไลน์ ผมจะพยายามหนีตอนที่เหลือชิลด์เซลล์หนึ่งหน่วย จากประสบการณ์คือถ้าเหลือชิลด์เซลล์ไว้สักหน่วยนึง ก็มีโอกาสสูงที่จะหนีออกจากการต่อสู้โดยที่มีศัตรูตามล่าได้อย่างปลอดภัย
แน่นอนว่าถ้าวิ่งตรงก็โดนสอยตูดเป็นรูชัวร์ เพราะงั้นต้องเลือกวิธีหนีดีๆ ซึ่งพื้นฐานก็คือลดการจ่ายไฟให้อาวุธแล้วไปลงกับไอพ่นแล้วก็โล่แทน ซึ่งก็จะหนีจากคนที่ต้องลงพลังงานไปกับอาวุธได้ไม่ยากหรอก
“อื้อ ท่านฮิโระคะ…?”
“หืมม? อา โทษที กำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่พอดี”
มิมิเรียกผมกล้าๆ กลัวๆ อาจจะเพราะว่าอยู่ดีๆ ผมก็เงียบไป ผมเลยยิ้มแล้วส่ายหัวตอบว่าไม่มีอะไร
“ไม่ต้องกังวลนักหรอก ฉันเองก็เก่งพอตัวนะ ยานลำนี้เองก็แข็งแกร่งมากด้วย นอกจากนั้นก็อย่างที่คุยไปตอนประชุมก่อนหน้านี้จำได้ไหม? ถ้าอันตราย เราจะหนีก็ได้นะ ตอนฉันลุยคนเดียวก็ทำโดยคิดว่าปลอดภัยไว้ก่อน แล้วตอนนี้ยังมีมิมิมาด้วยกัน ฉันไม่พาทำอะไรเสี่ยงๆ หรอก”
“ฉ-ฉันไม่เป็นไรจริงๆ นะคะ?”
“เริ่มจากทำอะไรสักอย่างกับหน้าซีดๆ นั่นก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ แต่นี่ก็เป็นอะไรที่… เธอต้องทำตัวให้ชินไว้ล่ะนะ โอ้ แล้วก็บอกเผื่อ พยายามอย่ากินอะไรเยอะล่ะ ถ้าเกิดมันย้อนศรขึ้นมาเดี๋ยวเกิดหายนะเข้า”
“อุมุ… จะระวังค่ะ”
ผมไม่อยากให้มิมิที่น่ารักมีคาแรกเตอร์เป็นสายรุ้งพุ่งจากปากหรอกนะ แต่น่าจะไม่รู้สึกผิดหวังสักเท่าไรถ้าคนทำเป็นยัยเอลฟ์อวกาศโชคร้าย
แต่ก็เกรงว่าถ้ามีใครสักคนอาเจียนในค๊อกพิทกลิ่นมันจะทำให้มีสมาธิไม่ได้ ไม่ก็อาจจะทำให้ของบางจุดมันทำงานผิดปกตินี่สิ เอ่อ ไม่สิ ไม่คิดว่าอาเจียนจะทำให้พวกเครื่องจักรจะเป็นอะไรหรอก ยังไงก็อุปกรณ์ทางการทหารนี่หน่า
“การตรวจสอบด้วยตัวเองจะเสร็จแล้ว… มิมิ ถ้ากลัวไม่ไหวจริงๆ จะอยู่ที่โคโลนี่ก็ได้นะ? ฉันว่ากิลด์ไม่น่าว่าอะไรหรอก”
“ม-ไม่ค่ะ! ฉันจะไปด้วย! ฉันไม่คิดว่าจะชินได้เร็วๆ นี้ แต่ว่าถ้าหนีตอนนี้ฉันก็ไม่มีทางไล่ตามท่านฮิโระได้แน่!”
มิมิกำหมัดดันตัวขึ้นจนหน้าอกสั่นสะเทือน วันนี้มิมิใส่ชุดที่แนวทหารรับจ้างอันที่ดูไม่เหมือนการคอสเพลย์ อย่างกางเกงรัดรูป รองเท้าหุ้มข้อ เสื้อเชิ๊ตและแจ๊คเก็ตที่ดูทน จากใจเลยก็คือรู้สึกเหมือนมิมิจะพยายามหนักมากเพื่อจะได้ดูสมกับเป็นทหารรับจ้าง เพราะงั้นไม่นานก็น่าจะชินแล้ว บางทีนะ
มิมิดูจะเตรียมใจไว้แล้ว เราเลยย้ายไปอยู่ที่ค๊อกพิทแล้วเตรียมตัวบินกัน ระบบตรวจสอบยานเองก็เรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ออลกรีน ดูเหมือนจะไม่มีปัญหากับการออกยาน
“มิมิ เรากำลังจะปล่อยตัวแล้ว ติดต่อหน่วยควบคุม”
“ค-ค่ะ!”
มิมินั่งลงที่เก้าอี้ตำแหน่งโอเปอเรเตอร์ เงอะงะจัดการแผงควบคุมการสื่อสารและดำเนินการเรื่องขั้นตอนการออกตัว ไม่นานนักเวลาออกตัวก็แสดงบนจอหลัก ต่างจากการลงจอด ขั้นตอนการออกตัวจะจัดการโดย AI อัตโนมัติทั้งหมด
พอถึงเวลาที่กำหนด เครื่องยนต์ของกฤษณะก็ทำงานและเริ่มออกจากโรงจอด ขาจอดถูกเก็บเข้าในลำตัวยานและโผบินสู่อวกาศของโคโลนี่เทอเมนไพรม์อีกครั้งหลังไม่ออกมานาน
“ว๊าวว…”
“วิวอวกาศสุดยอดไปเลยเนาะ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว”
“ค่ะ! แล้วโคโลนี่ก็… รูปร่างแบบนั้น”
“เหมือนล้อจักรยาน”
“จักรยาน?”
“อา คือ เป็นยานพาหนะที่ใช้ล้อหน้าตาแบบนั้นน่ะ”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
เหมือนว่ามิมิจะไม่รู้จักจักรยาน ฮึ่มมม ทั้งๆ ที่ดูรักษ์โลกดูเหมาะกับการใช้เดินทางทั่วไปบนโคโลนี่แท้ๆ ใช่มะ? หรือจะมีปัญหากับแรงดึงดูดจำลองอะไรบบนั้น ลึกลับจังเลยนะ
พอเช็คสัญญาณก็เห็นว่ายานทหารรับจ้างจำนวนนึงมารออยู่ก่อนแล้ว ผมเลยเคลื่อนที่ไปรวมตัวกับพวกเขา
ยานที่ทหารรับจ้างใช้มีหลากหลายแบบมากๆ ไม่มีสักลำเลยที่เหมื่อนกันเป๊ะๆ ถ้ามองแบบเคร่งๆ หน่อยก็มียานที่เป็นพิมพ์เดียวกัน แต่ก็โดนแต่งให้เป็นไปตามความชอบเจ้าตัวอีกที เพราะงั้นในด้านรายละเอียดเลยต่างกัน
“ว้าว ยานหลายสีไปหมดเลย”
“คิดว่าน่าจะพยายามให้เด่นแหละนะ ไม่ว่าจะเพราะมั่นใจในความสามารถตัวเองหรือว่าจะพยายามเอาใจลูกค้าก็เถอะ…”
ส่วนกฤษณะของผมเป็นสีน้ำเงินเข้มด้านที่ให้ผลดีในการพรางตัว การทาสี ทำลวดลาย และติดตราให้ยานในสเตลล่าออนไลน์น่ะให้อิสระเยอะมาก แล้วก็มีคนที่ทำ ‘Itasha’ (รถลายการ์ตูน) ที่เป็นยานขนส่งลำใหญ่เป็นภาพตัวละครอนิเมะหรืออะไรแนวๆ นั้นแปะอยู่ ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ
“โอ้ ของหายากแฮะ…”
ในบรรดายานทหารรับจ้าง มียานขาวลำนึงที่โดดเด่นขึ้นมา ทรงเพียวบางสง่างาม รูปร่างทำให้นึงถึงหงษ์ที่มีไอพ่นท้ายยานใหญ่ให้ความรู้สึกว่า ‘เร็ว’ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ เพราะก็เป็นยานที่โดดเด่นในเรื่องความเร็วสูงอยู่แล้ว
โมเดลยานใช้ชื่อว่า ‘SSC-16 Galactic Swan’ – ยานโจ๊กที่ถูกผู้เล่นในสเตลล่าออนไลน์เรียกด้วยฉายา ‘ดางหางสีขาว (ในด้านความรู้สึกว่าจะเป็นกลายเป็นดาวได้ตลอดเวลา)’ ‘เฟอโร่ (เพราะว่าเป็นยานหรูที่แพงชิบหาย)’ และ ‘สุดยอดสายด่วนพุ่งตรง (สู่นรก)’
“ว๊าว เป็นยานที่สวยจัง!”
“โอ้ เอ่อ นั่นก็ใช่แหละ…”
“อะไรเหรอคะ? แปลกตรงไหนเหรอคะ?”
“แบบว่า คือ…”
ที่หนึ่งด้านความเร็ว ความคล่องตัว อำนาจการยิงแจ่มๆ และโล่พลังงานอันแข็งแกร่ง… ฟังแค่นี้ก็คือเป็นยานที่สุดยอดมากๆ แต่ปัญหาอยู่ตรงคำว่าคล่องตัวนี่แหละ
สั้นๆ เลยก็คือ มันมากเกินไป การควบคุมที่เซนซิทีฟเกินไป เพราะงั้นตอนนี้ที่บินตรงยาวก็จะคุมอะไรซับซ้อนไม่ได้เลย เคยมีครั้งนึงที่เพื่อนของผมเคยได้ขับ แต่มันก็เซนซิทีฟซะจนคุมอะไรไม่ได้เลย
อีกอย่างคือเรื่องที่ว่ามันแพงโคตรๆ เพราะความเร็วกับความคล่องตัวมันได้มาจากการที่ใช้วัสดุระดับสูงปรี๊ดโดยไม่มองกำไร เพราะงั้นราคาขายเลยสูงโคตรๆ และยิ่งกว่าราคาขายคือค่าซ่อมเองก็แพงไปด้วย แพงจนต้องบอกว่าก็แค่ยานขนาดกลางๆ ค่าซ่อมดันสูงกว่ายานประจันบาญอีก
แล้วท้ายที่สุด อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ ยานลำนี้มันแบกระเบิดขนาดใหญ่พิเศษไว้
เป็นการ ‘อาละวาด’* ที่จะเกิดขึ้นตอนเงื่อนไขบางอย่างทำงาน ถึงผมจะบอกว่าอาละวาด แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเปิดลำตัวยานเป็นปากแล้วไล่กินยานลำอื่นเองซะเมื่อไร มันแค่ ‘คุมไม่ได้’ ไม่ยอมรับคำสั่งควบคุมใดๆ แล้วบินมั่วซั่วด้วยความเร็วสูงจนกว่าเชื้อเพลิงจะหมด แล้วระเบิดเป็นชิ้นๆ
ตอนที่เจอฟังก์ชั่นนี้กันครั้งแรก ในเกมนี่คนให้ความสนใจกันเยอะมากเลย หลายๆ คนก็ว่า ‘นี่บัคหรือเปล่า!?’ แต่นี่มันบ้าสุดๆ เลย (อันนี้คือชมนะ) เพราะทีมทดลองน่ะหาเงื่อนไขที่จะทำให้เกิด ‘อาละวาด’ จนเจอ แล้วยังไงก็ไม่มีเกิดขึ้นกับเครื่องอื่น เพราะงั้นเลยสรุปกันว่ามันคือฟังก์ชั่นลับที่มีแค่ในยานลำนี้
และด้วยฟังก์ชั่นสุดอันตรายที่คุมไม่ได้ ความสามารถของยานที่สูงปรี๊ด ราคาซื้อและค่าซ่อมที่แรงจนตาถลน เลยโดนมองว่าเป็น ‘เครื่องโจ๊ก’ อย่างเต็มตัวในกลุ่มคนเล่นของสเตลล่าออนไลน์… แล้วพอมาคิดว่าดันมีทหารรับจ้างเอามาใช้ในสนามรบจริงที่เดิมพันด้วยชีวิต
เอาเถอะ ยังไงก็เป็นเครื่องที่ไม่แย่ถ้าใช้ได้ดีแหละเนาะ? ทั้งความเร็วทั้งการควบคุมถือว่าเหนือกว่ากฤษณะของผมซะอีก แต่ดันมีระบบน่ารำคาญที่จะทำลายตัวเองที่ดันส่งผลกับรอบๆ ด้วยนี่สิ สุดยอดปัญหาเลย
“เป็นยานที่ไร้ประโยชน์เหรอคะ?”
“ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอก เป็นยานที่แกร่งมากถ้าชินกับมันแล้วน่ะ แต่ว่าการควบคุมมันตอบสนองไวมากไปหน่อยสำหรับใช้งาน… พูดตรงๆ คือเป็นเครื่องที่มีปัญหาน่ะ”
“เครื่องบกพร่องเหรอคะ”
“พอมีเงื่อนไขบางอย่างครบ มันจะคลั่งเข้าความเร็วสูงสุดแล้วระเบิดเป็นชิ้นๆ น่ะ แต่ถ้าไม่สู้แบบเคลื่อนที่หนักๆ ยิงอาวุธลำแสงความร้อนสูงๆ มั่วซั่ว เงื่อนไขก็ไม่ครบหรอก”
“ไม่ใช่ว่าอันตรายสุดๆ ไปเลยเหรอคะ?”
“อันตรายสุดๆ ไปเลยแหละ เพราะงั้นคนขับก็เลยมีแค่มือฉมังนิสัยแปลกๆ ที่รู้พื้นที่ทุกซอกทุกมุม หรือไอ้โง่ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับยานเลยแล้วเลือกมาโดยดูแค่สเปคน่ะ”
“อย่างนี้เอง……”
พอจิ้มดูข้อมูลยานเพื่อดูชื่อเจ้าของ…กัปตันอัลม่า
“โอ้…”
“อะไรเหรอคะ?”
“ยานนั่นของอัลม่า”
“…อาเระ?!”
“เห็นเรียกตัวเองว่ามือฉมัง เพราะงั้น… น่าจะไม่เป็นไรมั้ง”
ตราบใดที่ไม่ติดอาวุธเป็นปืนเลเซอร์อะไรแบบนั้นทั้งเครื่อง ก็ไม่น่าหลุดควบคุม เพราะงั้นไม่เป็นไร มั่นใจได้ บางทีนะ บางที… ไม่หรอก ผมน่ะกำลังหลอกตัวเองอยู่ เครื่องโจ๊กโผล่มาในเวลาแบบนี้ แล้วจากคนมากมายเจ้าของดันเป็นยัยเอลฟ์อวกาศน่าผิดหวังอีก เป็นการปักธงว่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างสุดแรงเลย
“ภาวนาให้เธอปลอดภัยกันเถอะ… ยังไงก็ศึกแรกของมิมิด้วย”
“ค-ค่ะ อัลม่าจะต้องไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ”
ผมเกลียดการที่ต้องคิดว่าใครสักคนที่รู้จักจะต้องตาย แต่ยังไงถ้ายังเป็นทหารรับจ้างต่อไปอนาคตก็ต้องเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อขึ้นยานแล้วออกมาอวกาศแล้ว ผมก็ต้องรับผิดชอบต่อทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น
ผมอยากจะช่วยเท่าที่ทำได้ แต่ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะยังมีเวลาและพลังงานมากพอไหม… หรืออาจจะช่วยอะไรไม่ได้เลยถ้าอยู่ในจุดที่เราต้องแยกกัน พื้นฐานที่ทำได้เลยเหลือแค่ภาวนาให้พวกเขาปลอดภัยเท่านั้น
[เหลือ 30 นาทีก่อนจะเริ่มภารกิจ ดิฉันจะส่งตำแหน่งที่ซ่อนให้แต่ละยูนิท กรุณาออกเดินทางทันทีที่ภารกิจเริ่มขึ้น]
ตำแหน่งที่ซ่อนตัวที่ได้รับการมอบหมายโดยโอเปอเรเตอร์ของกองทัพแล้วก็ส่งมาถึงผม ที่วางกองกำลังของศัตรูเองก็ค่อนข้างละเอียดเลย บางทีน่าจะมีการส่งโดรนลาดตระเวณออกไปก่อนแล้ว
“แต่ไอ้นี่มัน…”
“อะไรเหรอคะ?”
“ไม่มีอะไร แค่คิดว่าน่าจะยุ่งยากนิดหน่อย แต่ไม่มีปัญหาอะไร”
จุดที่ผมได้รับมอบหมายไปเป็นจุดที่มีเงาศัตรูเยอะมาก ใช่สุ่มจริงรึเปล่านะ หรือว่า… แล้วพอนึกถึงรอยยิ้มของกัปตันเซเรน่า เลยอดคิดไม่ได้ว่าบางทีคงจะตั้งใจสินะ
“ไงก็ไม่ใช่ปัญหา”
ถ้าจำเป็นก็หนีได้ แค่ไม่คิดว่าจะต้องทำแบบนั้นหรอกนะ
————————————————————–
[*] จากฉายาด้านบนแปลไว้เป็น ‘สุดยอดสายด่วนพุ่งตรง’ ‘Runaway Super Express’ [暴走超特急]
แต่ตัว [暴] แปลเดี่ยวๆ จะได้คำความ ความรุนแรง
kloy1002 : มีใครเห็นด้วยมั่งว่าเอลฟ์โชคร้ายน่าจะไม่เป็นอะไรหรอกคะ เพราะโชคร้ายทั้งหมดมันไปลงตรงหน้าอกแล้วไงละ
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปล หรือจะเป็นค่าเหนื่อยไปซื้อชานมก็ได้ทั้งนั้นคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ