(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ 10 - มิมิ
พอกลับมาถึงยานผมก็พามิมิไปดูห้องเป็นลำดับแรก ด้วยที่ว่าผมน่ะใช้ห้องส่วนตัวเป็นห้องตัวเองแล้ว ที่เหลือเลยเป็นห้องคู่สองห้อง ซึ่งทั้งคู่น่ะหันหน้าเข้าหากันอยู่ที่โถงทางเดิน เพราะงั้นจะห้องไหนก็ไม่ต่างกัน
“ให้ฉันอยู่ห้องนี้ อื้อ… จริงๆ เหรอคะ?”
“แน่นอนสิ เก็บของเสร็จก็อาบน้ำซะนะ เดี๋ยวจะตรวจสัญญาณชีพที่พ๊อดพยาบาลชั่วคราวซะหน่อย เตรียมตัวด้วยละ”
“อันนี้ก็มีด้วยสินะคะ… ยานนี่สุดยอดไปเลย อย่างกับที่อยู่ชั้นเฟิร์สคลาสแนะ”
“จริงเหรอ?”
เพราะว่าไม่รู้คอมมอนเซนส์เลยบอกไม่ได้เหมือนกันแฮะ พูดจบผมก็พาไปดูห้องซักผ้า ครัว ห้องพยาบาล ห้องฝึก ห้องคนขับ คลังสินค้า แล้วก็ที่อื่นๆ ยังไงโชว์ที่เดียวให้ครบก็มีประสิทธิภาพมากกว่าล่ะนะ
“อย่าเข้าห้องคนขับจนกว่าฉันจะอนุญาตนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
แล้วก็… อ่อ เดียวต้องซื้อเทอมินัลให้มิมิด้วยนี่หน่า
มีอุปกรณ์สื่อสารกับหาข้อมูลยังไงก็ดีกว่าละนะ บางทีซื้อแท๊บเล็ทด้วยเลยก็น่าจะดี
“อื้อ มันแพงอยู่นะคะ…”
“ฉันว่ามันเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นน่ะ”
ไม่ใช่อยู่บนยานแล้วจะต้องทำงานทั้งวันเลยเมื่อไร เอาไว้ไปซื้อให้พรุ่งนี้แล้วกัน จะได้เอาไว้ให้ใช้แก้เบื่อได้ด้วย แล้วก็จำได้ว่า เสื้อผ้าที่ซื้อมามันแค่จำนวนขั้นต่ำใช่ไหมนะ? น่าจะต้องซื้อเพิ่ม แล้วก็พวกของใช้ส่วนตัวด้วย?
“ไงก็เถอะ เธอน่าจะเหนื่อยมากแล้ว ก่อนอื่นไปอาบน้ำให้สบายตัวแล้วไปนอนไป ส่วนเรื่องสัญญาณชีพค่อยว่ากันทีหลังแล้วกัน”
“ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
“พูดว่าขอบคุณแทนขอโทษจะดีกว่านะ ใช้ห้องอาบน้ำเป็นใช่ไหม?”
“ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรแล้วแหละ ฉันจะอยู่ที่ห้องคนขับไม่ก็ห้องตัวเอง อยากได้อะไรก็บอกนะ ถ้าหิวก็บอกได้เลยไม่ต้องลังเล เดี๋ยวเราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องอายหรอก”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
มิมิพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย นี่แหละดีแล้ว ถ้าเงียบปล่อยให้ตัวเองหิวเดี๋ยวจะเป็นปัญหา เพราะงั้นแบบนี้แหละดี
แล้วจะให้ไปดูมิมิอาบน้ำก็ไม่ดี เลยออกมาจากห้องแล้วไปอยู่ที่ห้องคนขับแทน ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ถามว่ามิมิอายุเท่าไรแล้ว แต่ก็คิดว่าเยอะพอที่จะไม่ต้องดูแลใกล้ชิดทุกๆ อย่างหรอก แต่ว่าเท่าไรกันนะ?
จากที่ได้ยินคือยังเป็นนักเรียนอยู่ น่าจะวัยรุ่นกลางๆ ตัวเล็ก แต่ก็โตแล้ว… อื้มม ประมาณ 17 รึเปล่านะ? เอาไว้ถามที่หลังแล้วกัน
แล้วเพราะตอนนี้ผมว่าง ก็เลยมานั่งค้นคว้าเกี่ยวกับภูมิประเทศน์ของเขตสามสำหรับพรุ่งนี้ ต้องมีซื้อของใช้ส่วนตัวกับชุดของมิมิ ว่าไปก็น่าจะต้องซื้อยาเผื่อป่วยด้วย? คิดว่านะ แล้วก็ซื้อเทอมินัล ต้องวนหลายร้านเลยรึเปล่านะ?
ก็เลยหาข้อมูลของร้านในพื้นที่เขตสามกับชื่อเสียงของร้าน ซึ่งผลลัพท์ก็มีให้เห็นเพียบเลย ได้ของปลอมบ้าง ยาหมดอายุบ้าง เปิดกล่องมาแล้วเจอกล่องเปล่าไม่ก็มีแต่ขยะก็มี
ถ้าตัดร้านที่ว่าทิ้ง เขตสามก็พอจะมีร้าน ‘ดีๆ’ อยู่บ้าง และบังเอิญ ร้านของชำที่อัลม่าพาไป กับร้านที่อัลม่าซื้อชุดให้มิมิ ก็คือร้าน ‘ดีๆ’ ว่า คิดว่าว่าเป็นแค่เอลฟ์อวกาศโชคร้ายเฉยๆ ซะอีก แต่จริงๆ แล้วเหมือนจะไม่ใช่แฮะ
หลังจากหาข้อมูลไปซักพัก มิมิก็โผล่แค่หน้าเข้ามาทางประตูห้องคนขับที่เปิดไว้ โอ้ พออาบน้ำสะอาดแล้วก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสาวงามจริงๆ แฮะ แต่ไม่ใช่ว่าชุดบางไปหน่อยเหรอ? แต่อุณภูมิในยานกำลังพอดีเลย เพราะงั้นไม่น่าเป็นหวัดหรอกมั้ง
“หิวเหรอ?”
มิมิได้ยินก็หน้าแดงเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับจริงจัง
“โอเค ได้สิ ไปกินข้าวกัน บอกตรงๆ อย่างนี้แหละดีแล้ว”
“ค่ะ…”
ให้บอกคนอื่นว่าหิวมันก็น่าอายแหละ เข้าใจๆ
ผมเลยพามิมิที่กำลังอายไปที่ครัว แต่ถึงจะบอกว่าครัว ก็ไม่มีมีเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับทำอาหารจริงๆ อย่างใด อาหารทั้งหมดน่ะทำด้วยเครื่องทำอาหารอัตโนมัติ เพราะงั้นจริงๆ เรียกว่าห้องรับประทานอาหารจะตรงกว่า
“กินเท่าไรก็ได้นะ อ่อ พึ่งนึกออกว่าซื้อเนื้อสังเคราะห์มาด้วย ลองดีกว่า เอาด้วยไหมมิมิ?”
“เอาค่ะ”
ผมเลือกเมนูที่ทำจากเนื้อสังเคราะห์บนเครื่องทำอาหารอัตโนมัติแล้วกดยืนยัน ผมเลือกเป็นชิ้นใหญ่และมิมิเลือกเป็นขนาดปกติ ไม่นานเครื่องทำอาหารอัตโนมัติก็ส่งเสียงบอกให้รู้ว่าอาหารของเราพร้อมแล้ว
“ไอ้เนื้อสังเคราะห์นี่มัน… สีขาว แต่ดูไม่น่าอร่อยเลยนะ?”
“นั่นสิคะ”
บนจานคือเนื้อที่เกือบจะขาวล้วน ดูเหมือนเนื้อปลา ราดด้วยซอสบางอย่าง มีของที่เหมือนพิลาฟ แล้วก็สลัดมันฝรั่ง ด้วยความที่สั่งจานใหญ่ เลยดูเต็มจานไปเลย
“หืมม… ผิดคาดแฮะ”
“อร่อยจัง”
เนื้อสังเคราะห์อร่อยกว่าที่คิดไม่เหนียวเกินไป ติดหวานนิดๆ ติดมันไม่เยอะ กินกับซอสยิ่งอร่อย ของที่เหมือนพิลาฟดูเหมือนจะใช้มันจากตอนย่างเนื้อสังเคราห์ เลยรสชาติเหมือนเนื้อเลย ส่วนของสลัดมันฝรั่ง? รสชาติเหมือนสลัดมันฝรั่งทั่วไปเลย
“ไม่ต้องฝืนกินก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ…”
เหมือนว่าจานขนาดปกติจะเยอะไปสำหรับมิมิ ดูยังไงก็ฝืนกิน ไว้คราวหน้าสั่งเป็นจานเล็กแล้วกันเนาะ
แล้วพอผมเอาจานใส่เครื่องล้างจาน มิมิก็มองผม อะไรเหรอ? มิมิเอียงหัว
“จากนี้จะทำอะไรต่อเหรอคะ?”
“จากนี้เหรอ? อื้มม ถ้ากินแล้วนอนเลยเดี๋ยวน้ำหนักจะขึ้น งั้นไปออกกำลังที่ห้องฝึกหน่อยไหม?”
ห้องฝึกกฤษณะน่ะค่อนข้างชวนประทับใจเลย อุปกรณ์อะไรก็มีเยอะแยะ น่าจะมีไว้เพื่อเลี่ยงการที่กล้ามเนื้อฝ่อเพราะอยู่บนอวกาศเป็นเวลานานละมั้ง แล้วผมเองก็ติดอยู่กับยานลำนี้ตั้งแต่มาที่โลกนี้ เลยมีลองออกกำลังกายอยู่อย่างน้อยวันละรอบเพื่อให้น้ำหนักไม่ขึ้นล่ะนะ
“จะไปพักผ่อนก่อนเลยก็ได้นะมิมิ น่าจะเหนื่อยมากแล้วนิ”
วันนี้เกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะเลย ขนาดผมยังเหนื่อย แล้วมิมิจะสบายดีได้ยังไงล่ะ
“ไม่…ก็ได้ค่ะ”
มิมิตอนแรกจะปฎิเสธ แต่หลังจากคิดอยู่ครู่นึงก็เปลี่ยนใจแล้วพยักหน้ารับ “อื้อ ไปพักเถอะ” ผมบอกฝันดีกับมิมิ แล้วตรงไปห้องฝึก
ผมไม่ได้ตั้งใจจะเล่นกล้ามหรืออะไร เลยไม่ได้ฝึกเยอะนัก แค่ทำตามที่ AI แนะนำแล้วฝึกจนจบเมนูฝึกเงียบๆ ซึ่งไอ้ AI แนะนำเนี่ย จะใช้ข้อมูลจากเทอมินัลข้อมูลแล้วก็เครื่องทำอาหารอัตโนมัติเพื่อคำนวนจำนวนการออกกำลังกายกับแคลอรี่ที่รับเข้ามา แล้วสร้ายเป็นเมนูฝึกเสริมให้
ถึงจะต้องใช้ความพยายามอยู่บ้าง แต่การมีเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วทำสำเร็จน่ะมันเหมือนกับได้รับรางวัลเลย
หลังจากได้ขยับตัวสักพัก ผมก็ตัดสินใจไปอาบน้ำ ปกติผมจะปล่อยตัวสบายๆ แต่ว่าตอนนี้ใช้ชีวิตร่วมกับเด็กผู้หญิงแล้ว ยังไงก็ต้องใส่ใจตัวเองสักหน่อย ไม่อยากโดนคิดว่าเป็นคนซกมกหรอกนะ ไม่งั้นได้ตายทางจิตใจแหงๆ
หลังจากล้างตัวหนักกว่าปกตินิดหน่อยจนสบายตัวแล้ว ก็ถึงเวลานอน ตั้งแต่มาโลกนี้นี่รู้สึกใช้ชีวิตได้สุขภาพดีกว่าตอนอยู่ที่โลกเดิมอีกนะเนี่ย ชีวิตธรรมดา กินอาหารพอดี ออกกำลังกายพอเหมาะ นอนเพียงพอ สุขภาพดีฝุดๆ
“หืมมมมมม… อ้า”
ผมถอดแจ๊คเก็ตและกางเกงออก ยืดตัวโดยอยู่ในชุดชั้นในอย่างเดียว วันนี้เกิดเรื่องขึ้นเยอะเลย จริงๆ ควรจะแค่ซื้ออาหารมาแล้วจบ แต่เป็นงี้ไปได้ไงกันน๊า? เหมือนว่าการได้เจออัลม่านี่จะเป็นชนวนของเรื่องทั้งหมดเลย ยัยเอลฟ์อวกาศนั่น เป็นพวกดึงดูดปัญหาสินะ? บางทีไม่เข้าไปยุ่งด้วยน่าจะดีกว่า
“คือว่า….”
ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อย มิมิก็แอบมองมาจากหลังประตูที่เปิดกว้าง และด้วยเหตุผลบางอย่าง หน้าเธอก็แดงแจ๋แถมดูประหม่าไปหมด
ไม่นะ พลาดซะแล้ว ดันเปิดประตูทิ้งไว้เหมือนตอนอยู่คนเดียว แถมยังอยู่ในชุดชั้นในอีก
“มีอะไรรึเปล่า? รอเดี๋ยวนะ พอดีใส่แค่ชุดชั้นในอยู่”
“…”
“เห้ย เดี๋ยว!?”
บอกให้รอไหงเข้ามาเฉย?! แล้วไอ้ชุดนอนมองทะลุได้นั่นมันอะไร๊?! เดี๋ยวดิ๊ แล้วบรากับแพนตี้ล่ะเห้ย?! บอกว่าเห็นหมดแล้วเห้ย! แย่แล้ว!
“หยุ๊ด หยู๊ด หยุดก๊อน! ยังไงเนี่ย!?”
ผมเอามือปิดตาตามสัญชาตญาณ แต่ช่วยยกโทษที่แอบมองผ่านร่องนิ้วทีนะ พอดีมันเป็นธรรมชาติของผู้ชายอะ
“ฉันมาเพื่อทำหน้าที่ค่ะ…”
มิมิพูดด้วยเสียงเบาหวิว เบาจนเกือบไม่ได้ยิน และค่อยเข้าประชิดตัวผมที่นั่งอยู่บนเตียงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีแค่ชุดนอนที่มองทะลุเห็นทุกอย่าง แถมไม่ได้ใส่แม้แต่รองเท้า
“คือว่ารู้ใช่ไหม เรื่องแบบนี้มันควรทำตอนที่รู้จักกันดีกว่านี้นะ”
“นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำให้ได้ค่ะ… แล้วก็ เอ่อ ท่านฮิโระ ฉันไม่ถือค่ะ…”
ครั้งแรกเลยที่มีคนเรียกผมด้วยชื่อ! ไม่สิ ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาสักหน่อย อะ อ๋า! คุณลูกค้าครับ ไม่ได้นะครับ ทำงี้ไม่ได้นะครับคุณลูกค้า อ๋า! ไม่ได้นะครับ ไม่ได้นะครับ ไม่ได้นะครับ!
ในตอนที่ผมกำลังตัวสั่น มิมิก็ลงมานั่นข้างๆ ผม บนเตียง ซุกตัวเข้าหาผม กอดผม โว้ว นิ่มโคตร! ขีปนาวุธขนาดใหญ่จนน่ากลัวเมื่อเทียบกับขนาดตัวของมิมิมัน! โดนผมแล้ว! ผมโดนยิง! แย่แล้ว
“คือ… ฉันกินยาแล้ว เพราะงั้นไม่เป็นไรค่ะ”
“ยา?! ยาอะไร๊?!”
“คุมกำเนิดค่ะ… คือคุณอัลม่าบอกมา… เพราะเป็นครั้งแรกก็อาจจะเจ็บนิดหน่อย… แล้วก็เรื่องชุดนี้ด้วย”
อ๊าาาาาาาาา! ยัยเอลฟ์ไร้ประโยชน์นั่น! แกทำบ้าอะไรลงไป๊! ไม่สิ หรือว่าควรขอบคุณดีวะ!?
“อื้อ คือว่า… เป็นฉันไม่ได้เหรอคะ? ยังไงคนสวยแบบคุณอัลม่าก็คงจะดีกว่าสินะคะ…”
“ไม่เลย เธอไม่ได้แย่ตรงไหนเลยนะรู้ไหม? ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยจริงๆ นะ?”
“แต่นี่เป็นทั้งหมดที่ฉันตอบแทนคุณได้… แล้วก็ ฉันกลัว… เพราะงั้นขอร้องล่ะค่ะ…”
กลัว? หมายความว่าไงน่ะ? หมายถึงอะไรกัน?
“เพราะฉันทำอะไรไม่ได้เลย… พอคิดว่าถ้าฉันทำอะไรไม่ได้ พี่ก็คง… จะทิ้งฉันไป…”
เสียงมิมิค่อยๆ เงียบลง เข้าใจแล้ว เพราะไม่มีอะไรที่มิมิทำได้ เธอก็เลยไม่รู้ว่าผมจะเปลี่ยนใจทิ้งเธอเมื่อไร เลยจะใช้ร่างกายในการผูกมัดผมไว้แทน อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว
นี่คิดว่าเป็นตัวร้ายขนาดไหนกัน? เจ็บอยู่นะเนี่ย
“พี่คะ… ฉันไม่คิดว่าท่านฮิโระจะทำอะไรแบบนั้นหรอก… แต่ช่วยทำให้ฉันมั่นใจได้ไหมคะ?”
“อ่า… เข้าใจแล้ว”
ไม่ใช่ว่ามิมิสงสัยในนิสัยของผมหรืออะไรแบบนั้น แต่เพราะว่ามิมิอยากจะรู้สึกปลอดภัยซะมากกว่ามั้ง? ไม่สิ แต่ว่า… ในตอนที่คิดอะไรแบบนั้น เทอมินัลที่วางไว้ใกล้ๆ ก็ดังขึ้นเป็นเสียงริงโทนของข้อความ ผมเปิดขึ้นมามองจอก็เห็นข้อความว่า “รับผิดชอบซะ แล้วดูแลดีๆ ล่ะ”
มีคนเดียวที่ส่งข้อความมาหาผมได้น่ะ หมายความว่ายัยเอลฟ์อวกาศโชคร้ายนั่นว่าแผนเอาไว้อย่างดีเลยนั่นเอง
“ขอร้องนะคะ… อย่าทิ้งฉันเลย…”
มิมิเริ่มร้องไห้ซบผม… ผมเดาว่าอัลม่าน่าจะเป่าหูไว้ว่าถ้าวันนี้หาของที่ทำได้ไม่เจอ ก็คงถูกทิ้งแหง? ยัยนั่น… คราวหน้าเจอกันจะทำอาร์มล๊อกใส่ซะให้เข็ด
“เข้าใจแล้ว”
“…!”
“อ่า คราวนี้ควรจะพูดยังไงดีนะ? สถานการณ์ผิดปกติซะจนนึกคำพูดไม่ออกเลย”
ผมไม่รู้จักคำดีๆ ที่เอาไว้ใช้ในสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งผิดปกติแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะงั้นผมเลยแค่กอดตอบมิมิที่ซบผมอยู่ แล้วลูบหลังให้เธอโล่งใจ
“ฉันจะพยายามอ่อนโยนนะ”
มิมิไม่ได้พูดอะไร แต่พยักหน้าเป็นการตอบรับและผ่อนคลายลง
———————————————————————————————————————————–
HorrorDay: เนื้อน่ะ จะกินบนโต๊ะ หรือบนเตียงก็ได้ … แต่ที่ยานไม่มีระเบียงนะบอกไว้ก่อน :3
kloy1002 : เนื้อก้อนใหญ่ๆกินอร่อยจังนะ 😛 ถึงจะไม่มีระเบียงแต่จริงๆแล้วมีสถานที่เยอะกว่าที่บ้านอีกนะ?
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปล หรือจะเป็นค่าเหนื่อยไปซื้อชานมก็ได้ทั้งนั้นคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ