(นิยายแปล) อวกาศต่างโลก - ตอนที่ - การสอบสวน และ ท่านเซเรน่า
เอาล่ะ ผมว่ามันก็ควรแก่เวลาที่จะพูดถึงตัวผม ชายหนุ่มที่เคยมีชื่อว่า ทาคาฮิโระ ซาโต้ว คนนี้บ้าง
ชาวญี่ปุ่นที่เกิดและเติบโตในฮอกไกโด อายุยี่สิบเจ็ดปี และโสด หลังจากจบมัธยมก็ไปเรียนต่อจนจบมหาลัยเทคนิคในพื้นที่ แล้วก็ต่อด้วยทำงานในบริษัทในพื้นที่ เคยมีคบกับสาวคนนึงจากเน็ตที่จีบติดตอนเรียน แต่เพราะมันเป็นการคบทางไกลอะนะ ไม่นานก็เลิกกันไป แล้วก็ได้รับจ้างเป็นผู้ดูแลระบบภายใน ด้วยเหตุเพราะพอจะใช้งาน PC ค่อนข้างเก่ง แต่จริงๆก็คือผมน่ะไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางพวกนั้นเลย ก็เลยต้องเรียนรู้จากศูนย์ไปทำงานไป
วันๆ ก็สอดส่องการการเข้าเว็บข่าว เว็บช๊อปปิ้ง รวมถึงเว็บเกมกับเว็บวาบหวิวของพนักงานระหว่างเวลางานอะนะ
งานอดิเรกกก็เล่นเกม แค่เล่นเกมเลย ผมชอบเล่นเกมหลากหลายแนว เล่นทุกแนวตั้งแต่ญี่ปุ่นยันตะวันตก เคยติดเกมแนว FPS บางเกมจนติดกลุ่มคะแนนสูงสุดเป็นแรงค์เกอร์เลขหลักเดียวหลังจากพยายามกับใช้เวลามหาศาลไปกับมัน
มันจะแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ที่หนึ่งอยู่ตลอด แต่ผมก็วนๆ ติดอันดับของญี่ปุ่นอยู่เสมอ หลังจากใช้ชีวิตฝึกอย่างหนักจนถึงขั้นวันนึงเพื่อนร่วมงานถึงขนาดทักว่าสายตามผมน่ะ ‘โคตรคมจนน่ากลัว’
แต่สุดท้ายวันเหล่านั้นก็ถูกทดแทนด้วยการช่วงเวลาแห่งการผจญภัยในจักรวาลอันกว้างใหญ่เมื่อสเตลล่าออนไลน์เปิดให้เล่น ผมค่อนข้างติดอย่างมากเลยล่ะ
และนั้นคือทั้งหมดที่เล่าได้เกี่ยวกับตัวผม… อ่อ แล้วก็ของกินที่ชอบคือเครื่องดื่มอัดลม ไอ้ความรู้สึกของการที่ความซ่ามันไหลลงคอเนี่ยเท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆ
เอาล่ะ พูดเรื่องไร้สาระมาเยอะละ แล้วสถานการณ์ของผมตอนนี้นี่เป็นไงบ้างแล้วนะ
“ช่วยบอกด้วยครับ ว่าคุณไปได้โลหะหายากมาจากไหนตั้งเยอะ?”
“ก็บอกไปแล้วไงว่าเป็นของที่ได้มาจากโจรสลัดที่สอยไปก่อนหน้านี้ นี่อยากจะได้คำอธิบายแบบไหนกันแน่เนี่ย?”
ซึ่งตอนนี้ผมกำลังโดนเจ้าหน้าที่ท่าเรือซักไซ้อยู่
เป็นเรื่องโครตดีที่เหล้าทำมือไม่ใช่ของผิดกฎหมายที่อาณานิคมนี่โดยเฉพาะ แต่โลหะหายากที่เก็บไว้นี่กำลังโดนตรวจสอบอย่างหนักเลย แล้วพูดกันตรงๆ เลยนะ ต่อให้ถามว่าได้มายังไงหนักแค่ไหน จะไปตอบได้ยังไงก่อน ผมเองยังไม่รู้เลย ก็เลยต้องพูดมั่วซั่วไปแล้วหวังว่ามันจะออกมาดี
ด้วยสถานะปัจจุบันของผมเองคือคือที่บอกว่าตัวเองเป็นทหารรับจ้างโดยที่ไม่ได้อยู่กับสังกัดทางการไหนเลย แล้วของติดตัวก็ไม่มีอะไรที่ใช้ยืนยันตัวตนได้เลย ก็จะเป็นไงถ้าไอ้คนที่น่าสงสัยก็โผล่มาพร้อมโลหะหายากจำนวนมาก? น่าสงสัยเด็ดๆ ปล่อยกลิ่นความน่าสงสัยออกมาแบบไม่ต้องสืบ เจ้าหน้าที่ดูแลท่าเรือเลยต้องตรวจสอบคนแบบนี้อย่างเข้มงวดน่ะเรื่องสมควรอยู่แล้ว
“……ยังไงคุณก็จะเลี่ยงไม่ตอบว่าได้มาจากไหนจริงๆใช่ไหมครับ?”
“ผมก็บอกไปแล้วตะกี๊ไงว่าได้มาจากไหน นี่ผมเริ่มเหนื่อยกับการถามตอบซ้ำซากไปมาแล้วนะครับคุณเจ้าหน้าที่”
มันชวนให้รู้สึกว่าหมอนี่ตั้งใจพาวนอยู่ในอ่างจริงๆ นะ คือรอให้โมโหจนเผลอหลุดข้อมูลสำคัญเหรอ? หรืออยากได้อย่างอื่น? แบบพวกค่าปิดปากไรงี้
ไรวะ? พอผมทำท่าให้รู้ว่ายอมจ่ายใต้โต๊ะก็ได้การตอบรับกลับเป็นว่า “นี่เสนออะไรแบบนั้นเพราะพยายามลากผมลงไปด้วยเหรอ? พยายามจะใช้ขู่หรือขอให้ปล่อยไปงั้นเหรอ?” เหมือนว่าข้อเสนอพวกนี้กับพวกเถรตรงจะเสียเวลาเปล่านะ
งั้นเอาไงดีหว่า…?
ระหว่างที่กำลังคิดหาตัวเลือกอยู่ ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกโดยไม่มีการเคาะ แล้วใครบางคนก็เดินตรงเข้ามา
เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ไม่สิ ต่อให้เรียกสาวน้อยยังเหมาะเลย แถมยังแจ่มมากด้วย ผมบลอนด์เป็นประกายดวงตาสีทับทิมท่าทางสง่างามสวมยูนิฟอร์มกองทัพเรียบร้อยคลุมด้วยผ้าคลุมสีแดงและห้อยดาบไว้ที่เอวคอด ใบหน้าราวกับอัศวินหญิงหรือทหารหญิงในอุดมคติ
ความประทับใจแรกที่มือคือเธอดูเหมือนหญิงสาวพูดน้อย แต่ในพริบตาหนึ่งผมก็รับรู้ได้ถึงความคมกริบ ประกายนักล่าลึกลงไปในตาคู่นั้น ดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวที่ตัดสินจากหน้าตาไม่ได้แฮะ
“ท่านเซเรน่า! ทำไมถึงมาที่แบบนี้ล่ะครับท่านหญิง?”
“ฉันเห็นยานไม่คุ้มที่โรงเก็บยานน่ะ เขาเป็นเจ้าของเหรอ?”
“อื้อ- เอ่อ-”
เจ้าหน้าที่ท่าเรือที่จู่ๆ แสดงท่าทางกระสับกระส่ายขึ้นมา ยื่นของบางอย่างที่เหมือนกับเทอร์มินัลแท็บเล็ตให้ทหารหญิงที่ชื่อเซเรน่า หลังจากดูเนื้อหาในเทอร์มินัลแล้วเธอก็มองมาที่ผม
“โลหะหายากค่อนข้างเยอะเลยนะ ไม่ได้หามาด้วยวิธีผิดกฏหมายใช่ไหมคะ?”
“สาบานเลยว่าไม่ได้ทำ”
“หืมม… คนที่เรียกตัวเองว่าทหารรับจ้างโดยที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับกิลด์ทหารรับจ้างแล้วจมยานโจรสลัดได้ หือ พอจะมีอะไรที่อยากจะรายงานเพิ่มเติมอีกไหมคะ?”
“มีข้อมูลเกี่ยวกับฐานหลักของพวกนั้นด้วย อยู่บนยาน ได้มาจากตอนที่วิเคราะห์หน่วยข้อมูลของโจรสลัดที่สอยร่วง ตอนแรกตั้งใจว่าส่งมอบพร้อมรับค่าหัวโจรสลัดพวกนั้น แต่พอคุณเจ้าหน้าที่ที่รักตรงนี้ส่องของในคลังผมจบก็โดนลากมาอยู่นี่เลย”
ผมพูดย้ำถึงปัญหาที่เจอพลางยักไหล่ให้ทหารหญิงตรงหน้า
ผมเดาว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบกองทัพ ดูเหมือนว่าจะยศสูงกว่าคุณเจ้าหน้าที่ท่าเรือนี่ด้วย ผมเลยตั้งใจแสดงท่าทางให้ความร่วมมือเต็มที่เพื่อให้เธอตัดสินใจปล่อยตัวผม
“ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าของให้คลังเป็นสินค้าถูกขโมยมาใช่ไหมคะ?”
“ค- ครับ ใช่ครับ แต่ว่า-”
“ถ้างั้นปล่อยเขาไปก็ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าเขาวางแผนจะถ่ายของทั้งหมดที่นี่ใช่ไหมคะ? พอมาคิดถึงว่าทุกวันนี้จัดหาโลหะหายากได้ยากแค่ไหน ฉันว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องไปกังวลกับมันนักหรอกนะคะ??”
“ต- แต่ว่า……”
“แต่? นี่คุณจะออกความเห็นกับฉันคนนี้ ลูกสาวของมาร์ควิสฮอลซ์เหรอคะ?”
“ไม่ครับท่านหญิง แต่ว่า…”
“ว่าไป ฉันได้รับรายงานเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่สร้างความยุ่งยากกับการถ่ายของในอาณานิคมนี้ถ้าไม่ยอมส่งส่วยก่อนด้วยนะคะ?”
ทหารหญิงที่ชื่อเซเรน่าส่งยิ้มงดงามให้คุณเจ้าหน้าที่ท่าเรือ จนทำให้คุณเจ้าหน้าที่สั่นไปด้วยความหวาดกลัว ผมเองก็เผลอสั่นตามไปด้วย ครั้งแรกเลยนะที่รู้สึกว่ารอยยิ้มมันน่ากลัวน่ะ
“ผ- ผมไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ!”
“เราได้โลหะหายากราคาสมเหตุสมผล คุณทหารรับจ้างไร้สังกัดที่จมเรือโจรสลัดได้ ก็ได้รางวัลของเขาเป็นอีเนล แล้วเขาก็ใช้อีเนลนั่นซื้อของจากอาณานิคมเราต่อ ตามนี้ ทุกคนมีความสุข ไม่คิดอย่างนั้นเหรอคะ?”
“ค- ครับท่าน! ว่าได้ถูกต้องทุกอย่างเลยครับ! ผมจะจัดการเอกสารที่จำเป็นทันทีเลยครับ!”
แล้วคุณเจ้าหน้าที่ท่าเรือก็รีบลุกจากที่นั่งออกจากห้องสอบสวนไปเลย ไม่สิ เหมือนหนีเอาชีวิตรอดมากกว่า ก็เลยมาจบลงที่ผมอยู่ลำพังในห้องกับคุณทหารหญิงที่ถูกเรียกว่า ท่านเซเรน่า เซเรน่ามองตามร่างของเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่หนีไปอยู่สักครู่แล้วหันกลับมาที่ผม
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ เขาค่อนข้างจะจริงจังไปหน่อยพอเป็นเรื่องงานของตัวเอง”
“ไม่หรอกครับ แบบว่า… ก็ต้องยอมรับว่าผมค่อนข้างดูน่าสงสัยแหละ เพราะงั้นคงช่วยไม่ได้”
ก็นะ ผมน่าสงสัยจริงนี่หน่า ยังไงก็คงเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีทั้งบันทึกการทำงานที่กิลด์ทหารรับจ้างในพื้นที่ จริงๆ แล้วไม่มีแม้กระทั่งบันทึกของยานของผมยันระบบดาวเพื่อนบ้านเลยด้วยซ้ำ
แถมส่วนข้อมูลชื่อที่ลงทะเบียนยานก็เสียหายอีก เพราะว่ายืนยันได้ว่าข้อมูลทางชีวภาพของผมตรงกับบันทึกการพิสูจน์ตัวตนของยาน ยานเลยยังไม่ถูกยึดนี่แหละ ถ้าพลาดไปสักหน่อยนี่โดนเอายานไปแล้วนะ
“จริงค่ะ ค่อนข้างน่าสงสัยราวกับมาจากระบบดาวที่ห่างไกลมากๆ เลย ไม่ทราบว่ามาที่ระบบดาวนี้ได้ยังไงเหรอคะ?”
“ยานเหมือนจะมีปัญหาตอนไฮเปอร์ไดรฟ์น่ะ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร แต่เหมือนว่าจะทำให้ผมเสียความทรงจำไปด้วย แล้วตอนที่กำลังมึนๆ อยู่ก็โดนโจรสลัดเข้าโจมตี เอาชนะมาได้ ยึดของกับหน่วยข้อมูลมันมา แล้วก็ใช้ข้อมูลที่วิเคราะห์เดินทางมาถึงสถานีนี้ โชคดีที่พอจะจำชื่อของตัวเองกับจำได้ว่าตัวเองเป็นทหารรับจ้างนี่แหละ”
ผมเล่าเรื่องตัวเองผสมทั้งจริงทั้งเท็จลงไป เป็นที่มาของผมที่ผมนั่งคิดระหว่างที่โดนคุณเจ้าหน้าที่ท่าเรือสอบสวนก่อนหน้านี้ ถึงบางจุดจะดูน่าสงสัยไปบ้าง แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริง
“เสียความทรงจำเหรอคะ? หรือบางทีคุณจะเป็นสปายจากสหพันธ์เบลเบลม?” (ベレベレム – เบเรเบเรมุ)
“เป็นไปได้ยากอยู่นะ ถ้าผมเป็นคนจากสหพันะ์เบเลเบลละก็”
“สหพันธ์เบลเบลมค่ะ”
“นั่นแหละ ถ้าผมเป็นสปายจากสหพันธ์เบลเบลมจริง จะกล้าถึงขนาดขนโลหะหายากไม่รู้ที่มา ขับยานไม่ระบุตัวตนแล้วเข้ามาประตูหน้าอาณานิคมตรงๆ เลยเหรอ? แถมเรียกตัวเองว่าทหารรับจ้างไม่ได้ลงทะเบียนกับที่ไหน มันจะน่าสงสัยเกินไปนะ ถ้าเกิดผมเป็นหัวหน้าสายลับนี่น่าจะเรียกมันมาซัดทันทีตั้งแต่อ่านแผนปัญญาอ่อนของมันจบแล้ว”
ถึงจะเป็นไปได้ว่าจะพยายามทำให้สับสน แต่มันก็ดูจะสุดโต่งไปหน่อย
“บังเอิญจัง ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
คุณทหารหญิงหัวเราะออกมาเบาๆ ยัยนี่น่ารักจัดๆ เลยตอนหัวเราะปกติ แต่ว่าก็เป็นพวกที่บรรยากาศน่ากลัวเป็นพิเศษด้วยสิ ผมไม่อยากเข้าใกล้สักเท่าไร
“เอาล่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะบอกกองบัญชาการให้ คุณจะได้ส่งข้อมูลกับรับรางวัลได้”
“ยินดีอย่างยิ่งครับ”
ผมก้มหัวให้อย่างเชื่อฟังแทนการแสดงความขอบคุณ แล้วเธอก็เดินออกจากห้องสอบสวนไปพร้อมกับใบหน้าพึงพอใจ… ก่อนที่จะหันกลับมามองผม
“คุณเป็นคนน่าสนใจนะคะ เดี๋ยวเราจะวางแผนโดนใช้ข้อมูลของคุณ เพราะงั้นมาเข้าร่วมด้วยนะคะ โอเคไหม?”
เธอยิ้มและจากไป ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ มันไม่ได้น่ากลัว แต่อะไรบางอย่างในรอยยิ้มนั้นทำให้สัญชาตญาณในตัวผมบอกว่ามันอันตราย
ถึงงานปราบปรามโจรสลัดจะรายได้ดี… แต่การใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนั้นดูจะค่อนข้างอันตรายนะ
ไม่นาน เจ้าหน้าที่ท่าเรือก็กลับมาและในที่สุดผมก็ได้รับการปลดปล่อยจากห้องสอบสวน ชักเริ่มหิวแล้วเนี่ย
“นี่ครับ ค่าโลหะหายากอยู่ที่ 2.5 ล้านอีเนล รุณายืนยันด้วย”
“ครับ”
ผมเปิดเทอมินัลข้อมูลที่หน้าตาเหมือนสมาร์ทโฟนแล้วยืนยันว่าทั้งหมด 2.5 ล้านอีเนลนั้นโอนมาเทอมินัลของผมแล้ว เจ้าเทอมินัลข้อมูลอันเล็กอันนี้ถูกวางไว้ในพื้นที่อยู่อาศัยที่อยู่ด้านหลังของห้องคนขับของกฤษณะ เป็นเครื่องมือที่นิยมที่สุดของกาแลกซี่ ใช้ติดต่อกับยานได้ นำทางได้ เป็นกระเป๋าตังค์ได้ และยังใช้กับอย่างอื่นได้อีกหลายๆ อย่าง
ในพื้นที่อยู่อาศัยน่ะมีของมีประโยชน์อยู่หลายอย่างเลย แต่ของที่เอาออกมารอบนี้มีแค่เจ้าเทอมินัลข้อมูลอันนี้กับปืนเลเซอร์สำหรับป้องกันตัวเท่านั้น ตัวปืนเลเซอร์น่ะโดนยึดไปพร้อมซองตอนเข้าห้องสอบสวนก่อนหน้านี้ เลยต้องเอาคืนด้วย
“มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีแล้วก็รีบๆ ไปรับค่าหัวที่กองบัญชาการแล้วพักที่ยานสักหน่อยไหม?”
“ครับ ไม่มีอะไรแล้ว ขอโทษที่รบกวน”
“เข้าใจแล้ว ไว้เจอกัน”
พยายามหาเรื่องไปก็ไม่มีอะไรดี เลยรีบออกจากสำนักงานดูแลท่าเรือ ปลายทางต่อมาคือกองบัญชาการ แต่คุณทหารหญิงที่ถูกเรียกว่าท่านเซเรน่าทำให้อะไรๆ สะดวกขึ้นมาก
ค่าหัวโจรสลัดอยู่ที่ 19,000 อีเนล ค่าข้อมูลอยู่ที่ 150,000 อีเนล จ่ายทันที รวมแล้วเงินปัจจุบันที่มีเลยกลายเป็น 2,699,000 อีเนล โคตรเยอะ!
ผมถามเกี่ยวกับราคาของต่างๆ ที่อาณานิคมนี้ ซึ่งอาหารทั่วไปอยู่ที่ห้าอีเนล หรูขึ้นมาหน่อยก็สิบถึงสิบห้าอีเนล น้ำดื่มสะอาดหนึ่งลิตรอยู่ที่สามอีเนล ค่าจอดยานต่อยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ที่ 150 อีเนล หืมม ถ้าคิดว่าหนึ่งอีกเนลเท่ากับร้อยเยน? น้ำจะค่อนข้างแพง ค่าจอดก็สูงอยู่ 15,000 เยนต่อวันแนะ
แต่ก็เพราะเป็นอาณานิคมแหละ อากาศเองก็น่าจะแพง น้ำเองก็ของมีค่าอยู่แล้ว ถ้ามองแบบนี้ราคามันสมเหตุสมผลแหละ
ก็ถ้าลองคำนวนว่านอนบนยาน ค่าใช้จ่ายสำหรับอยู่บนอาณานิคมจะมีอย่างน้อยที่ 15 อีเนลสำหรับอาหารสามมื้อ 12 อีเนลสำหรับน้ำหนึ่งลิตร ค่าจอดอีก 150 อีเนล รวมๆ แล้ว 177 อีเนล
อยู่ที่นี่ได้ถึง 40 ปีเลยแหละ เย้ แต่ถ้าอยู่นานขนาดนั้นก็ดูจะเจอปัญหาอื่นนี่สิ บางทีหาที่ลงหลักปักฐานน่าจะดี
ไงก็เถอะ ตามใดที่ผมไม่ใช้จ่ายสิ้นเปลือง ผมก็จะมีเงินอยู่สบายเหลือๆ ไปอีกนาน คนเราน่ะ พอมีเงินมากพอที่ไม่ต้องกังวลกับการใช้ชีวิต มันก็จะเบาใจ และผมก็เดินกลับยานที่จอดไว้พร้อมกับความสบายนั้น
เนื่องจากท่านวัน(HorrorDay)มีเวลาแปลน้อยกว่า ความถี่ในการลงคงจะน้อยกว่าของฮิยูกิจังนะคะ
อย่างน้อยก็คาดหวังสัปดาห์ละตอนได้ละมั้ง….. นะ?
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปล หรือจะเป็นค่าเหนื่อยไปซื้อชานมก็ได้ทั้งนั้นคะ
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ