[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 83 [3] เก็บน้ำผึ้งและผลที่ได้ [Part 4]
- Home
- [นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่
- ตอนที่ 83 [3] เก็บน้ำผึ้งและผลที่ได้ [Part 4]
“ยาที่รอคอย เรียบร้อยแล้วค่า~ ว่าไปนั้น…”
ฉันเดินไปหาคุณไอริสกับคุณเคทที่ฟุบไปกับโต๊ะในสภาพเหมือนร่างไร้ชีวิต มองมาหาฉันที่ถือยาที่เสร็จสมบูรณ์แล้วด้วยดวงตาอันว่างเปล่า
ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ของคุณไอริสนี่ยังพอเหลือแรงอยู่ในนัยน์ตาเธออยู่บ้าง มั้ง?
เป็นสายตาอันเต็มไปด้วยความอาฆาตที่ตกค้างอยู่ในนั้น จ้องตรงไปที่คุณเคทล่ะนะ
“…ทั้งสองคนนี่ ผ่านไปแป๊บเดียวเอง น้ำหนักดูจะลดไปได้ประมาณนึงเลยนี่คะ?”
“แทนที่จะบอกว่า ‘น้ำหนักลด’ ฉันว่าใช้คำว่า ‘ซูบ’ เลยน่าจะดีกว่านะคะ”
ร่างกายของทั้ง 2 คนเสียน้ำไปมาก ถึงขนาดที่สามารถเห็นได้ชัดเลยว่าทั้งคู่ไม่สบายดีแน่นอน
ไม่เหลือร่องรอยของราศีหรือความแข็งแรงที่เคยมีอยู่เลยล่ะ
“ก่อนอื่น ตัวยาก็เสร็จแล้วนะคะ…”
“ป- เป็นพระคุณยิ่งค่ะ นายท่านผู้จัดการ”
ตอนที่คุณไอริสยื่นมือเข้ามาหาขวดยาเล็กๆ ฉันก็ชักมันหนีออกมาโดยอัตโนมัติเลย
“นายท่านผู้จัดการคะ…?”
คุณไอริสมองมาที่ฉันอย่างงงๆ ฉันก็พูดต่อพร้อมกับชูยาขวดนั้นขึ้นมาด้วยมือขวา
“ข้อแรก โพชั่น (ยาแปรธาตุ) ขวดนี้ค่ะ ถ้าคุณใช้ อาการจะหายเป็นปลิดทิ้งภายในวันเดียวเลย แต่หนี้ของคุณไอริสก็จะพุ่งขึ้นตามไปด้วยนะคะ มากพอประมาณเลย”
“บ- แบบนี้เอง”
ฉันพยักหน้าให้คุณไอริสกับความเข้าใจที่ถูกต้องนั้น ก่อนที่คราวนี้ ฉันจะหยิบยาอีกขวดขึ้นมาด้วยมือข้างซ้าย
“สำหรับขวดนี้ ฤทธิ์ของยาจะด้อยกว่า แต่หนี้จะไม่เพิ่มขึ้นเลย ทีนี้ คุณจะเลือกยาขวดไหนคะ?”
“งืออออ…”
ส่วนตัวแล้ว จะขวดไหนฉันก็ไม่มีปัญหานะ แต่ว่า… ในเมื่อฉันลำบากทำโพชั่นพวกนี้ขึ้นมาแล้ว ถ้าให้พวกเธอใช้โพชั่นที่เก็บเอาไว้ได้ไม่นานก็ดีกว่านะ ว่ามั้ย? ถ้าคิดเรื่องกำไรของร้าน ฉันก็อยากให้ทั้ง 2 คนใช้โพชั่นขวดแรกอยู่แล้ว แต่ขวดหลังก็จะดีกับสถานะการเงินของคุณไอริสกับคุณเคทกว่าล่ะนะ
“อึมมมม… อ- เอาอันถูกกว่าค่ะ!”
“ได้ค่ะ นี่เลย”
พอเอาเรื่องสถานะการเงินในปัจจุบัน กับสภาพท้องไส้ในปัจจุบันมาคิดแล้ว คุณไอริสลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือมาที่มือซ้ายของฉัน
“แล้วคุณเคทล่ะคะ?”
“…ถ้าไอริสเลือกขวดนั้นแล้ว ฉันก็คงจะเลือกโพชั่นขวดแพงไม่ได้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ”
คุณเคทหยิบเอายาขวดเดียวกันกับที่คุณไอริสเลือกมาถือไว้ในมือแล้ว โดยที่เจ้าตัวก็ยังลังเลอยู่
เห็นทั้ง 2 คนเหงื่อแตกพลั่กอย่างหวาดๆ แบบนี้ ฉันก็เลยตะโกนเรียกโลเรียจัง
“โลเรียจัง ช่วยเตรียมน้ำเอาไว้ซัก 2 แก้วได้มั้ย?”
“ด- ได้ค่ะ!”
โลเรียจังที่ยืนดูกระบวนการผลิตโดยตลอด เข้าใจถึงความสำคัญของน้ำ 2 แก้วนั้นได้ในทันทีเลย
เธอรีบลุกขึ้นยืน เทน้ำใส่แก้ว ก่อนจะยกมาวางไว้ตรงหน้าคุณไอริสกับคุณเคท
“เอาล่ะ กระดกกรึ๊บเดียวเลยค่ะ อย่าไปคิดอะไร อย่าไปดู แค่ดื่มลงไปรวดเดียวก็พอค่ะ”
“อ- อา… อื้อหือ! อะไรกันคะเนี่ย! นี่ยาจริงๆ ใช่มั้ยคะนายท่านผู้จัดการ!?”
คุณไอริสเปิดฝาขวดยาออกมาอย่างลังเล ก่อนจะชะงักเพราะกลิ่นที่โชยออกมา พร้อมกับรีบเอามือขึ้นมาปิดจมูก ทั้งๆ ที่ฉันแนะนำไปแล้วแท้ๆ เลยนะว่า ‘อย่าไปคิดอะไร’ น่ะ
“คุณไอริสคะ ยาดีย่อมมีรสขม เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น อย่าลังเลค่ะ”
ถ้าคุณเริ่มจะอึกอักลังเลแล้ว มันจะยิ่งทำให้ดื่มยานั่นยากเข้าไปอีกนะ
“แต่ คือแบบ โพชั่นที่ซื้อทุกทีมันดูจะปกติกว่านี้นี่คะ…”
“ความแตกต่างอยู่ที่ราคานี่แหละค่ะ คุณเคทเองก็รีบดื่มเข้าไปด้วยนะคะ”
“อ- เออ… มันคือยาใช่มั้ยคะ? ดื่มเข้าไปแล้วจะได้ผลใช่มั้ยคะ?”
“ได้ผลแน่นอนค่ะ ฉันไม่มีทางเอาของที่ดื่มไปแล้วไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาให้อยู่แล้ว ถ้ายังอึกอักอยู่แบบนี้ เดี๋ยวข้าศึกระลอกต่อไปจะมาอีกนะคะ ถ้าทั้ง 2 คนเจอข้าศึกบุกพร้อมกัน คราวนี้จะเป็นใครน้าที่ต้องไปใช้บริการที่สวนหลังร้าน?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเคทอยู่แล้วค่ะ! ดีล่ะ!! ฉันจะดื่มค่ะ!! ฉันเชื่อใจนายท่านผู้จัดการนะคะ!”
คุณไอริสลุกขึ้นพรวดพร้อมกับสีหน้ามุ่งมั่น บีบจมูก เงยหน้า แล้วก็เทของในขวดนั้นลงคอไปอย่างรวดเร็ว
“ด- ดื่มเข้าไปแล้ว…”
นี่ โลเรียจัง ถึงขั้นทำสีหน้าแบบ ‘ไม่จริงน้า!’ เลยเหรอเนี่ย แต่รู้ใช่มั้ย? ที่ฉันทำมันก็คือยาจริงๆ นะ แค่มันจะมีวัตถุดิบที่ อาจจะขมอยู่ซักหน่อยเท่านั้นเอง
“―――อุบ อึก อ- อุแหวะ”
ถึงจะหมิ่นเหม่อแทบจะพ่นยาที่ดื่มเข้าไปออกมาอยู่แล้ว แต่ในที่สุดคุณไอริสก็สามารถกลืนยาทั้งขวดลงไปได้หมดจนได้ เธอวางขวดยาลงกับโต๊ะอย่างแรง คว้าแก้วน้ำหมับ ก่อนจะกระดกตามลงไปพรวดเดียวเหมือนกัน
แต่แค่นั้นเหมือนจะไม่พอ เธอถึงได้ไปคว้าน้ำแก้วตรงหน้าคุณเคทไปกรั้วด้วยอีกแก้วนึง
“ดื่มแล้ว! ดื่มได้แล้ว!”
““โห~~””
คุณไอริสชูแก้วขึ้นมาอย่างมีชัย ซึ่งทั้งฉันทั้งโลเรียจังก็ปรบมือให้พร้อมกันแบบไม่ทันตั้งใจเลย―――เธอเพิ่งจะดื่มยานั่นไปได้จริงๆ
“ต่อไปก็ ตาคุณเคทนะคะ”
“ข- เข้าใจแล้วค่ะ… เออ โลเรียจัง ช่วยเอา น้ำมาให้อีกซักหน่อยได้มั้ย? ถ้าเป็นไปได้ ขอซัก 3-4 แก้วเลยก็ดีนะ”
หลังจากที่เห็นคุณไอริสดื่มยาเสร็จไปแล้ว คุณเคทที่ดูเหมือนจะตัดสินใจได้ก็ขอน้ำเพิ่มจากโลเรียจัง ก่อนจะถือขวดยาขึ้นมา กลืนน้ำลายดังเอื๊อก
“…ไม่ต้องกังวลนะคะ ดื่มไปแล้วก็ไม่ตายหรือเป็นอะไรไปแน่นอน จริงมั้ยคะ? ดูจากคุณไอริสได้เลยค่ะ อย่างที่เห็นเลย ถึงรสชาติมันจะไม่น่าอภิรมย์สุดๆ แน่นอนค่ะ”
“อ่า มันก็แย่จริงๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ อีกอย่าง รู้สึกว่าท้องจะสบายขึ้นมานิดๆ ด้วยนะคะ”
อืม นั่นน่าจะเป็นแค่เรื่องที่คิดไปเองมากกว่านะ
ต่อให้จะเป็นโพชั่นอีกขวดนึง ก็ยังจำเป็นต้องรอให้ยาออกฤทธิ์ไปอย่างน้อย 30 นาทีเลย โพชั่นอันราคาถูกที่คุณไอริสดื่มไปนั่นไม่มีทางจะออกฤทธิ์ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้แน่นอน
“เอ้า เคท รีบๆ ดื่มสิ”
“น- นั่นสิ จะ… จะดื่มล่ะนะ… ล่ะนะ…”
คุณเคทกุมขวดยาไว้แน่นด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แถมกลืนน้ำลายเข้าไปอีกรอบนึงแล้วด้วยตอนนี้
แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองที่ฉันด้วยดวงตาเว้าวอนน้ำตาคลอ
“…แบบว่า คุณผู้จัดการคะ ต่อให้ฉันดื่มไป อาการก็จะยังไม่ได้ดีขึ้นทันทีใช่มั้ยคะ?”
“ก็ใช่นะคะ สำหรับคนทั่วๆ ไปก็จะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ อย่างคุณเคทกับคุณไอริสที่ฝึกร่างกายกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ก็อาจจะใช้เวลาน้อยกว่านี้”
“จ- จริงด้วยนะคะ นี่ ไอริส ไม่ใช่ว่าต้องมีซักคนนึง ไม่ฉันก็เธอคนนึงต้องดูแลอีกคนงั้นเหรอ? แถมพวกเราก็ต้องรีบหายให้เร็วด―”
“อ๊ะ คุณเคท ถ้าแค่เรื่องดูแลคนป่วยล่ะก็ ฉันก็ช่วยได้ไม่ใช่เหรอคะ?”
“ใช่ค่ะๆ ฉันอาจจะไม่เข้าใจเรื่องเฉพาะทาง แต่ฉันก็จะช่วยด้วยอีกแรงนะคะ”
ทางหนีของคุณเคทถูกฉันกับโลเรียจังมาขวางเอาไว้ ไม่ให้เธอหลุดรอดเงื้อมือไปไหน
ทั้งๆ ที่คุณไอริสพยายามเต็มที่เลยแท้ๆ ฉันไม่ยอมให้คุณเคทหนีไปใช้ทางอื่นอยู่แล้วล่ะ ว่ามั้ย?
“อึก ต- แต่ว่า มัน ไอริส ให้ฉันช่วยดูแลเธอก็ดีกว่านั่นแหละเนอะ? เนอะ?”
คุณไอริสตอบกลับคำถามของคุณเคทที่ขอร้องให้ตอบเห็นด้วยอย่างแรงกล้าด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน
เห็นแบบนี้ คุณเคทก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก คุณไอริสก็ลุกขึ้นยืน กุมมือของคุณเคทเอาไว้แน่น
“เลิกบ่นนู่นบ่นนี่แล้วก็ดื่มเข้าไปซะดีๆ! จะปัดน้ำใจของนายท่านผู้จัดการทิ้งหรือไงน่ะ!!”
คุณไอริสดึงฝาขวดยาออกดัง *ปุ๊ก* พร้อมกับใช้แรงงัดคางของคุณเคทขึ้นมา ให้เงยหน้าขึ้นไปแบบที่เธอไม่ได้ต้องการจะทำ
คุณไอริสทำหน้าที่จับดาบสู้เป็นด่านหน้า ส่วนคุณเคทเป็นแนวหลังนี่นา
ในการวัดกันด้วยพละกำลังล้วนๆ นี่ ไม่ต้องคิดเลยล่ะว่าฝ่ายไหนจะได้เปรียบอย่างท่วมท้น
“ด- เดี๋ยว! ขอเวลาเตรียมใจก่อนสิ!”
“หมดเวลาแล้ว! อ้าปากเดี๋ยวนี้!”
คุณไอริสสั่งให้ ‘อ้าปาก’ พร้อมกับง้างเปิดปากของคุณเคทออก ก่อนจะยัดขวดยาใส่ปากของเธอไปอย่างไร้ความปราณี
แต่จะว่าไป อย่างน้อย อาจจะด้วยความเมตตานิดๆ ที่มีให้ คุณไอริสก็เลยช่วยบีบจมูกคุณเคทเอาไว้ด้วยล่ะนะ
“อื้ก! แหวะ! โอ้กโอกโอก!”
คุณเคทร้องเสียงที่ฟังดูจะอันตรายออกมาแล้ว แต่คุณไอริสก็เมินพวกมันทั้งหมดเลย
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่ายาหมดขวดแล้วเรียบร้อย คุณไอริสก็เอาขวดออกมาจากปากของคุณเคท ก่อนจะเอามือไปปิดปากเธอต่อทันทีเลย
“อืม―――! อื้ม―――!!”
“โอ๊ะ? อะไรเหรอ? น้ำ? อยากดื่มน้ำ? เรื่องเยอะจังเลยนะเธอเนี่ย!”
คุณไอริสยิ้มออกมาอย่างซาดิสม์ ก่อนจะยอมปล่อยมือออก พอเป็นอิสระแล้ว คุณเคทก็คว้าแก้วหมับ พร้อมกับดื่มน้ำลงไป 1 แก้ว 2 แก้ว 3 แก้ว แล้วเธอก็สลบเหมือดลงไปคาโต๊ะพร้อมกับสีหน้าซูบเซียวและเหนื่อยไร้เรี่ยวแรงเลย
“อ- ไอริส เธอยัง โกรธเรื่องเมื่อกี้อยู่อีกเหรอ?”
“นี่พูดเรื่องอะไรของเธอเนี่ย ฉันก็แค่บังคับให้เธอดื่มยาเข้าไปซักที เพราะเธอเอาแต่งอแงเหมือนเด็กดื้อเฉยๆ ไม่ใช่รึไง?”
“น-… นี่น่ะ…”
“ฮ่าฮ่าฮ―――ฮึก!”
คุณไอริสที่หัวเราะด้วยท่าทางที่ยากที่จะบอกได้ว่าเธอกำลังดีใจอยู่ แล้วน้ำเสียงของเธอจู่ๆ ก็กลายเป็นน้ำเสียงตึงเครียด คิ้วขมวดแน่น เริ่มส่งเสียงร้องครางต่ำๆ ออกมาแล้วด้วย
“ดูท่าทางจะมีธุระเข้ามาพอดีเลย ขอตัวก่อนนะคะ”
“ธุระ…? อ๊ะ! ไอริส! เดี๋ย―――อึ๊ก!”
คุณเคทที่พยายามจะลุกขึ้นเพื่อตามคุณไอริสไปก็ร้องครวญครางขึ้นมา เอามือกุมที่ท้อง ทรุดตัวลงกลับไปนั่งที่เก้าอี้ ทำเอาการเคลื่อนไหวของเธอหยุดนิ่งไปเลย
แล้วจากนั้น ก็มีเสียงปิดประตูดังฟังชัดลอยมาเลยล่ะ
…อ่า ไปห้องน้ำนี่เอง
ที่คุณไอริสทำแบบนั้น อาจจะเพราะข้าศึกบุกเข้ามาพอดีก็ได้มั้ง?
“คุณเคท อดทนเอาไว้อีกซักหน่อยนะคะ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง ยาก็จะเริ่มออกฤทธิ์แล้วค่ะ อาการท้องไส้ปั่นป่วนจะหายดี จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องห้องน้ำแล้วนะคะ”
“ข- ขอบคุณค่ะ คุณผู้จัดการ แต่ว่า ยานั่นมันอะไรน่ะคะ? มันขมปี๋ แหวะสุดๆ แถมกลิ่นก็ฉุนแรงมากๆ เลยด้วย มันอะไรกันน่ะ?”
“อ่า ใช่ค่ะ รสชาติมันเป็นแบบนั้นเลย ส่วนเรื่องวัตถุดิบนี่… ไม่มีความเห็นค่ะ”
พอเห็นว่าฉันตอบคำถามคุณเคทไปแบบเลี่ยงๆ เธอก็ดูจะเป็นกังวลขึ้นมา ก่อนจะเหลือบไปมองที่โลเรียจังแทน ซึ่งโลเรียจังก็เบือนหน้าหนีจากคุณเคทเหมือนกัน พร้อมกับทำปากมุบมิบว่า ‘อย่าถามเลยจะดีกว่านะคะ’
“…แบบนี้เอง อย่าถามถึงวัตถุดิบคงจะดีกว่าสินะคะ งั้นฉันก็จะไม่ถามแล้วกัน ถ้าฉันถามแล้วเกิดอาเจียนออกมา ฉันคงไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของมันที่อุตส่าห์ฝ่าประสบการณ์ยากลำบากนั่นมาเลย”
“มันเป็นยารักษาจริงๆ ค่ะ มั่นใจในเรื่องนี้ได้เลยนะคะ”
“ค่ะ ฉันเชื่อ ถึงยังไง ที่ไอริสยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ก็เพราะได้คุณผู้จัดการช่วยเอาไว้นะคะ”
“ฉันว่าคุณไอริสเองก็โชคดีเหมือนกันนั่นแหละค่ะ”
เรื่องที่ว่าสามารถทำการรักษาได้ทันเวลา ความบังเอิญที่ฉันอยู่ที่ร้านในช่วงเวลานั้น และการมีโพชั่นราคาแพงที่ตามปกติก็ไม่ควรจะมีอยู่ในร้านอยู่ที่นี่พอดี ทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นพร้อมกันหมดเลย
ถ้าข้อใดข้อนึงไม่ได้เกิดขึ้นล่ะก็ คุณไอริสก็คงไม่ได้อยู่แบบที่เป็นอยู่ตอนนี่แล้วล่ะ
“เอาล่ะ เดี๋ยวฉันเอายาไปให้พวกคุณอังเดรก่อนนะคะ โลเรียจัง ฝากทำอะไรที่ย่อยง่ายๆ ให้คุณเคทกับคุณไอริสทานหน่อยได้หรือเปล่า?”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“ขอโทษด้วยนะคะ ทำให้ต้องลำบากอยู่ตลอดเลย”
“ไม่เลยค่ะ ไม่เลย ในตอนที่เจอปัญหา พวกเราก็ลำบากเหมือนกันนี่คะ อย่างฉันเองก็ล้มป่วยไปตอนที่ต้องเจอกับเฮล เฟลม กริซลีเหมือนกัน”
ฉันยิ้มให้คุณเคทที่รู้สึกผิด พลางหยิบขวดในมือขึ้นมา
เรื่องเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือพวกคุณอังเดรจะทานยานี้จริงๆ หรือเปล่าสิน้า…
ฉันเอาโพชั่นขวดแพงติดเผื่อไปด้วยดีกว่ามั้ยนะ?
TN: “นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว”
―――ไอริส (ไม่) ได้กล่าวไว้ 555
เสริมฉากและข้อมูลของยาที่ใช้ในครั้งนี้จากมังงะด้วยเล็กน้อยนะครับ
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r