[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 29 [1] เสียงเล่าจากสายลม [Part 1]
- Home
- [นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่
- ตอนที่ 29 [1] เสียงเล่าจากสายลม [Part 1]
“ยินดีต้อนรับค่า!”
พอฉันออกมาที่ส่วนหน้าร้าน โลเรียจังก็กำลังรับลูกค้าพร้อมกับรอยยิ้มอยู่พอดีเลย
ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มจ้างโลเรียจัง นี่ก็ผ่านอาทิตย์มาแรกมานิดนึงแล้ว
เธอทำได้ดียิ่งกว่าที่ฉันคิดซะอีก
เพราะเธอคิดคำนวณเป็น การขายสินค้าก็เลยทำได้ไม่มีปัญหา แล้วความจำเธอก็ดีด้วย ฉันก็เลยพอจะฝากให้เธอจัดการเรื่องการรับซื้อวัตถุดิบได้ระดับนึงเหมือนกัน
วัตถุดิบที่นักเก็บสะสมบริเวณนี้เอามาขายเองก็ไม่ได้มีหลากหลายประเภทขนาดนั้นด้วย
แน่นอนว่า กรณีที่มีวัตถุดิบที่ต้องให้นักเล่นแร่แปรธาตุเป็นคนประเมินเท่านั้น เธอก็จะไปเรียกฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้ถูกเรียกบ่อย ฉันเลยมีเวลาค่อยๆ จัดการกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุได้แล้ว
เพราะแบบนั้นแหละ ฉันก็ได้จัดการสารานุกรมแปรธาตุไปแบบรวดเดียวเลย จนตอนนี้ ฉันก็ใกล้จะจบบทที่ 4 แล้ว
พอมาถึงบทที่ 4 แล้วเนี่ย ก็มีวัตถุดิบหลายๆ อย่างเลยที่ฉันซื้อด้วยเงินที่ตัวเองมีอยู่ตอนนี้ไม่ได้
แล้วก็ โลเรียจังเหมือนจะเป็นห่วงเรื่องนิสัยการกินของฉันด้วย เธอถามว่า ‘พวกเราน่าจะทำอาหารกันเองหน่อยมั้ยคะ?’ แต่… ห้องครัวฉันมันก็ ยังว่างเปล่าอยู่เลย
พอฉันบอกเธอแบบนั้น เธอก็มีสีหน้าตะลึงเลยล่ะ ก็จะบอกว่า ‘คุณซาราสะคะ แบบนั้นมันก็…’ บางที นี่อาจจะได้เวลาต้องปรับปรุงซักหน่อยแล้วล่ะมั้ง
“เป็นยังไงบ้าง โลเรียจัง ชินกับงานหรือยัง?”
“ค่ะ! ไม่เป็นไรเลยค่ะ… ฉันกังวลเรื่องเงินที่ร้านนี้ต้องจัดการ เทียบกับร้านของที่บ้านเหมือนกันค่ะ”
หลังจากที่โลเรียจังพยักหน้าให้พร้อมกับรอยยิ้ม สีหน้าของเธอก็ดูหมองลงเล็กน้อย
ก็เป็นเรื่องจริงล่ะนะที่ของเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุจะมีราคาแพงอยู่แล้ว การรับซื้อวัตถุดิบก็ต้องใช้เงินเยอะเลย
แต่ ก็เพราะเป็นร้านแบบนี้นี่แหละ ถึงได้มีมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสมเลย
“อะฮะฮะ ไม่เป็นไรหรอก จำวิธีการใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยได้แล้วใช่มั้ย? ถ้าเจอใครน่าสงสัย ใช้ไปเลยนะ ไม่ต้องลังเล―――ทำให้เจ็บเจียนตายได้เลย แต่น่าจะไม่ถึงตายหรอก”
ด้วยคำที่ฉันพูดไปพลางลูบหัวโลเรียจังไปด้วย นักเก็บสะสม 2-3 คนก็หันขวับมามองที่ฉันด้วยท่าทางสะดุ้งตกใจกันเลย ฉันก็ยิ้มกลับไปหาคนกลุ่มนั้น
ตราบใดที่ไม่ทำอะไรเสียมารยาท ทุกคนก็ปลอดภัยไร้ปัญหาแน่นอนค่า~
“ถ้ามีปัญหาอะไร ก็เรียกฉันได้เลยนะ”
“ค่ะ!”
อื้อ เป็นการตอบรับที่ดีเลย
เอาเถอะ ฉันไม่คิดว่านักเก็บสะสมดีๆ จะก่อปัญหาอะไรหรอกนะ
ถ้าเกิดชาวบ้านหันหลังใส่ฉันล่ะก็ ฉันคงไม่มีทั้งที่อยู่อาศัยทั้งอาหารการกินเลย
ในหมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้ ข่าวลือเสียๆ หายๆ น่ะวิ่งไปไวยิ่งกว่าไฟลามทุ่งซะอีก
“ถ้างั้น ฝากด้วยนะ―――”
ตอนที่ฉันเติมสินค้าเสร็จ แล้วกำลังจะกลับไปที่ห้องทำงานอีกรอบนึง
“ช- ช่วยด้วยค่ะ!”
ผู้ชาย 2 คนกับผู้หญิง 1 คนเข้ามาในร้านพร้อมกับเสียงตะโกนนั้น ด้วยแรงที่แทบจะพังประตูได้ แล้วก็แบกผู้หญิงคนนึงมากับพวกเขาด้วย
“อึก―――!!”
โลเรียจังจะเผลอกลั้นหายใจเลยก็ช่วยไม่ได้หรอก
ถ้าให้สรุปสภาพทั้ง 4 คนในประโยคเดียว ก็คงเป็น [บาดเจ็บทั่วตัว] นะ
ที่อาการหนักที่สุดก็คือผู้หญิงที่พวกเขาหามมาด้วยนี่แหละ มีผื่นกระจายไปทั่วตัว ใบหน้ามีเลือดท่วม กับแขนขวาที่ขาดออกไปตั้งแต่ต้นแขนเลย
ถึงเลือดจะหยุดไหลไปแล้ว แต่ก็ยังมีเลือดหยดลงมาที่พื้นอยู่เลย
“ให้นอนบนพื้นเลย! โลเรียจัง! ให้พวกคุณลูกค้าออกไปก่อน!”
“ค- ค่ะ!”
โลเรียจังหน้าซีดไปหมดเลย ถึงเธอจะยังตัวสั่นไปหมด แต่เธอก็ตอบรับอย่างหนักแน่น แล้วก็รีบขยับตัวทันที
ฉันเองก็เข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นที่ถูกวางลงกับพื้น แล้วดูอาการของเธอ
ยังหายใจอยู่ แต่ลมหายใจอ่อนไปมากแล้ว
ดูเหมือนจะมีแผลสาหัสที่ท้องด้วย ผ้าที่รัดเอาไว้แน่นก็ชุ่มเลือดจนเป็นสีแดงเลย
แขนซ้ายเกรียมดำ ผิวหนังที่ไม่ได้รับบาดเจ็บก็มีผื่นแดงขึ้นจนสังเกตเห็นได้
“นี่… ไม่ใช่แค่บาดเจ็บแล้ว โดนพิษมาด้วยนี่”
“ขอความกรุณาด้วยค่ะ! ช่วยไอริสทีนะคะ!”
เป็นผู้หญิงอีกคนที่ขอร้องอย่างดังจนเป็นการตะโกนแล้ว
ผู้ชายคนที่วางผู้หญิงคนนี้บนพื้นให้ กับผู้ชายอีกคนยืนห่างจากทั้ง 2 คนออกไปเล็กน้อย
“แขนขวาของเธอล่ะ?”
“อยู่นี่ค่ะ!”
เธอยื่นแขนส่วนขาดออกไปที่ห่ออยู่ในผ้าออกมาให้
ดูเหมือนจะถูกกระชากออกมาอย่างแรงเลยแฮะ สภาพดูแย่มากเลย
แต่ ก็ยังดีกว่าไม่มีล่ะนะ
“ฉันช่วยได้ค่ะ”
“จริงเหรอคะ!? งั้น- ―――อุบ”
ฉันยกมือขึ้นหยุดการพูดที่ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังมีสีหน้าดีใจ แล้วมองที่หน้าของเธอเพื่อจะยืนยันก่อน
“แต่ว่า! ดีแล้วใช่มั้ยคะ? มันใช้เงินเยอะมากนะคะ?”
ฉันไม่มีเวลาจะเสียแล้ว
แต่ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุแล้ว ฉันไม่สามารถลืมจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนได้หรอก
“แก! เหตุฉุกเฉินแบบนี้ ยังจะห่วงเงิน―――”
“พวกมือใหม่น่ะเงียบไปซะ!!”
ผู้หญิงคนนั้นกระแทกเสียงใส่ผู้ชายอีกคนที่พูดสวนขึ้นมาเลย
“พวกเราเป็นมือใหม่แล้ว―――!”
“ที่ไอริสบาดเจ็บแบบนี้เนี่ย! ก็เพราะพวกนายเสนอหน้าเข้าไปโดยพวกเรายังไม่ได้บอกไม่ใช่หรือไง!”
““…””
พอผู้หญิงคนนี้จ้องเขม็งใส่ พวกผู้ชายกับหลบสายตาอย่างกระอักกระอ่วน แล้วหุบปากสนิทเลย
ยังงี้นี้เอง รู้สึกเหมือนว่า 4 คนนี้ จะเป็นคน 2 คู่ที่มาตั้งทีมกันชั่วคราวงั้นสินะ?
“ขอร้องนะคะ ช่วยเธอที”
“อื้อ มี 2 วิธีค่ะ ช่วยแค่ชีวิต กับรักษาให้กลับมาเป็นปกติ ขอให้เข้าใจด้วย―――”
“จะจ่ายแน่นอนค่ะ! ช่วยรักษาให้เป็นปกติเท่าที่จะทำได้ด้วยนะคะ!”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้น ก่อนอื่น คุณ―――”
“เคทค่ะ”
“คุณเคทช่วยไปตักน้ำมาทีนะคะ ฉันมีบ่อน้ำอยู่ที่สวนหลังบ้าน โลเรียจัง นำทางทีนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ!”
คุณเคทเดินไปข้างหลังบ้านกับโลเรียจังที่พาลูกค้าออกจากร้านเสร็จแล้ว ส่วนฉันก็เข้าไปเอาโพชั่นในโกดัง
ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บด้วย เพราะงั้น มันก็เลยลำบากนิดหน่อย
ขั้นแรก ก็ต้องใช้โพชั่นเพื่องอกส่วนที่ขาด, โพชั่นป้องกันอาการป่วย, โพชั่นฟื้นฟูกำลังกาย แล้วก็สุดท้าย โพชั่นขับพิษ
ที่ยิ่งแย่ก็คือเรื่องกำลังกายที่หายไปเยอะมากจากทั้งอาการบาดเจ็บและพิษนี่แหละ
ถ้าแค่อย่างใดอย่างนึง ก็คงสามารถรักษาได้ด้วยโพชั่น (ยาแปรธาตุ) แค่ 1 หรือ 2 ชนิดแล้วล่ะ แต่…
พอฉันกลับมาพร้อมกับโพชั่นกับอุปกรณ์ที่จำเป็นในกระเป๋า คุณเคทกับโลเรียจังก็กลับมาพร้อมกับน้ำเต็มถังแล้ว แล้วก็ถ่ายน้ำครึ่งถังจากถังนึง ใส่ในถังใบใหม่อีกใบนึง
“คุณเคท ทำความสะอาดแขนที่ขาดข้างนั้น กับบริเวณที่ขาดด้วยค่ะ ทำได้หรือเปล่า?”
“ค่ะ! ทำได้ค่ะ”
ฉันคิดว่ามันจะเป็นเรื่องค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่คุณเคทก็พยักหน้าอย่างหัวชนฝา แล้วก็หยิบแขนข้างที่ขาดไปนั่นขึ้นมา มือของเธอกำแน่นจนน่าตกใจเลย
ระหว่างนี้ ฉันก็ตัดเสื้อผ้ารอบบริเวณหัวไหล่ของผู้หญิงคนนี้―――คุณไอริสสินะ แล้วก็ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ
ต่อให้ฉันทำแบบนี้อยู่ ก็แทบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากคุณไอริสเลย
―――สัญญาณชีพแย่มากๆ ต้องรีบแล้วสิ
ฉันรับแขนท่อนนั้นมาจากคุณเคท แบ่งเอาโพชั่นครึ่งขวดพรมที่รอยขาดทั้ง 2 จุด แล้วป้อนโพชั่นที่เหลือด้วยปาก จากนั้น แขนที่ขาดออกไปก็เชื่อมต่อกันกลับมาอย่างเรียบร้อย
นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ฉันได้เห็นการรักษาระดับนี้ แต่มันก็ยังเป็นผลลัพธ์ที่สุดยอดจริงๆ อยู่ดี
จากนั้น ฉันก็กรอกโพชั่นขับพิษกับโพชั่นฟื้นกำลังกายใส่ปากของเธออย่างช้าๆ ทีละนิดๆ
“ชิ! ปกติ เขาเก็บเงินจากตอนที่คนจะเป็นจะตายแบบนี้ด้วยเรอะ!”
“หิวเงินขนาดนั้นเลยรึไง เป็นซะยังงี้ไง พวกนักเล่นแร่แปรธาตุน่ะ”
พวกเสียงนกเสียงกาเนี่ยหนวกหูจริงๆ เลย
ถ้าไม่คิดจะทำประโยชน์ จะไปไหนก็ไปซะที
“พวกนายน่ะ! จะพูดอะไร―――”
ฉันรีบพูดเสียงดังออกไป แล้วก็รั้งคุณเคทที่แทบจะพุ่งไปคว้าหมอนั่นอยู่แล้ว ก่อนที่ฉันจะชี้ไปที่ผู้ชายคนนั้น
“ผู้ชายคนนั้นน่ะ จากนี้ไป ก็เอาทุกอย่างที่เก็บได้จากในทะเลป่าใหญ่มาที่บ้านของฉันซะสิ ฉันจะเอาไปช่วยทุกคนให้ แน่นอน มันฟรีใช่มั้ยล่ะ? เพราะชีวิตของฉันเองก็อยู่ในวิกฤติเหมือนกัน”
“ไม่! นั่นมันคนละเรื่องกันชัดๆ!”
“ใช่ๆ! ไม่มีทางที่ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยงฟรีๆ อยู่แล้ว!”
“ต่างกันตรงไหน? คิดว่าจะมีคนแห่กันมาเยอะขนาดไหนถ้าเกิดมีข่าวลือออกไปว่าถ้าเกิดชีวิตอยู่ในอันตราย ฉันก็จะรักษาให้ฟรีๆ น่ะ? เหตุผลที่นักเก็บสะสมอย่างพวกคุณเข้าไปในทะเลป่าใหญ่ ก็เพราะนักเล่นแร่แปรธาตุจะซื้อวัตถุดิบไปในราคาที่เป็นธรรมอยู่แล้วตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอ? คุณยอมรับได้มั้ยล่ะ? ถ้าฉันบอกว่า ‘ฉันไม่จ่ายเงินให้นะครั้งนี้ เพราะฉันใช้มันเพื่อช่วยคน’ น่ะ”
ได้ยินคำพูดของฉันแล้ว 2 คนนั้นก็อ้ำอึ้ง พูดอะไรไม่ออกอีกเลย
คนพวกนี้คิดว่าพวกเรานักเล่นแร่แปรธาตุมีเงินถุงเงินถัง ใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดหรือไงนะ?
ขนาดวัตถุดิบสำหรับทำโพชั่นที่ฉันเอามาใช้ตอนนี้เอง ก็ไม่ใช่ของที่ฉันซื้อไหวในตอนนี้เลยด้วย
ที่ฉันสร้างมันได้ ก็เพราะอาจารย์เพิ่งจะให้ฉันเอาไว้เป็นของขวัญ แถมมันก็ไม่ใช่โพชั่นที่ปกติจะมีเก็บไว้ตามร้านเลยด้วยซ้ำ
“ขอโทษนะคะ เจ้าพวกโง่เง่าพวกนี้ ฉันต้องขอโทษด้วย ยกโทษให้ด้วยนะคะ”
“คุณเคทไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ แต่… ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้วไม่ช่วยทำประโยชน์อะไร รบกวนช่วยออกจากร้านไปด้วยได้หรือเปล่า?”
ฉันชี้ไปที่ประตูทางออก 2 คนนั้นก็มีสีหน้าไม่พอใจ แต่พอคุณเคทหันไปจ้องเขม็ง พวกนั้นก็รีบเตลิดไปเลย
เห็นแก่ได้ชะมัดเลย
แทนที่จะมาบ่นฉัน คุณเคทก็ตอบว่าเธอจะจ่ายให้ทันทีเลย แต่เราก็ยังไม่ได้รับเงินซักแรร์ แล้วก็ไม่ได้พูดซักคำเลยว่าต้องจ่ายซะก่อนด้วย
TN: เรื่องใหญ่มาเคาะหน้าประตูร้านแล้วจ้า~!