“ไนท์ไม่ใช่คนใช้นะ!”
ในตอนแรกไนท์ฟังคำขอของไป๋อี้อย่างชื่นบานใจ แต่หลังจากได้ยินไป๋อี้พูดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไนท์ก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดความฉุนเฉียวของเธอออกมาพร้อมทั้งตะโกนเสียงดังลั่น ทันใดนั้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็มีภาพไนท์เด้งออกมาทุบเดสก์ท็อปด้วยกำปั้นเล็ก ๆ ของเธอเหมือนสาวน้อยที่บ้าคลั่ง
ไป๋อี้หันหน้าไปทางคอมพิวเตอร์ เขายืนขึ้นและก็ก้มลงอย่างจริงจัง
“ฉันขอร้องล่ะ!”
ประโยคง่าย ๆ เพียงประโยคเดียว ทำให้ไนท์ที่กำลังจะพูดต่อ แต่เมื่อได้ยินคำอ้อนวอนที่แสนเรียบง่ายแต่เคร่งขรึมจริงจังของไป๋อี้ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ผู้ชายคนนี้ …… ตอนนี้เขาคงเจ็บปวดรวดร้าวมาก ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บสาหัสหรือตาของเขาที่บอดเท่านั้น แต่เขายังต้องสูญเสียคนที่เขารักไปด้วย แม้แต่ไนท์เองในเวลานี้ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นความเจ็บปวดที่แผ่ออกมาจากร่างกายของไป๋อี้ ความหนักหน่วงเหล่านั้นทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
“อื้ม …… เนื่องจากคุณขอร้อง ฉันก็เลยจำใจต้องตอบตกลง” ไนท์พูดเบา ๆ ทั้งดวงตาของเธอก็แสดงออกอย่างเลิ่กลั่ก ดูเหมือนว่าการที่ทำให้ไป๋อี้ต้องมาวิงวอนเธอจะเป็นสิ่งที่ทำเกินไปสักหน่อย
“ขอบคุณนะ!” ไป๋อี้กล่าวอย่างจริงใจ
“ขอบคุณนะ” ในขณะเดียวกันคนอื่น ๆ ก็รู้สึกถึงความเคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังของไป๋อี้และอดไม่ได้ที่จะกล่าวขอบคุณไนท์
“อื้ม …… ถ้าอย่างนั้นพวกคุณอยากรู้เรื่องอะไรก่อน?”
“ทุกคนว่าไง?” ไป๋อี้ถามทุกคน
“ต้นกำเนิดของงานวิจัยทั้งหมดและสถาบันวิจัยแห่งนี้กำลังค้นคว้าอะไรกันแน่” เมย์ริสและเฮลัวส์มองหน้ากันแล้วกล่าวขึ้น “เราทุกคนต่างสงสัยเกี่ยวกับประเด็นสำคัญข้อนี้ ส่วนการหาเส้นทางที่จะออกไปข้างนอก ฉันคิดว่าเราควรรอให้ดวงตาของไป๋อี้กลับมามองเห็นได้ก่อนแล้วจึงหาทางพร้อมกันอีกที”
“อื้ม” ไป๋อี้เองก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลย เกี่ยวกับเหตุผลของการวิจัยทั้งหมดและลักษณะของการวิจัยในสถาบันแห่งนี้” ไนท์กล่าว
สิ่งที่ไนท์บอกกับเหตุผลที่ได้เรียนรู้จากมาร์ตินมาก่อนหน้านี้ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ก็มีรายละเอียดมากกว่านั้น ชื่อคน สถานที่ และเวลาที่ชัดเจน นี่คือข้อดีของการเป็นระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนและไม่มีความคลุมเครือเหมือนความทรงจำของมนุษย์
ปี 2003 คามาโดวิชเริ่มต้นการศึกษาเรื่องอายุวัฒนะและในช่วงเวลาต่อมาความเชื่อมั่นนี้ก็ได้แผ่ขยายไปทั่วโลก นั่นเป็นการกระตุ้นความสนใจและการเข้ามามีส่วนร่วมของกลุ่มคนที่มีอิทธิพล
2009.01.14 สาหร่ายปีศาจถูกค้นพบในธารน้ำตามซอกภูเขาไฟใต้มหาสมุทรแปซิฟิก
2014.07.07 วันนี้เป็นวันสำคัญที่ควรค่าแก่การบันทึก หลังจากเฟ้นหาเซลล์ดัดแปลงปรสิตที่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันมาเป็นเวลานาน ในที่สุดบุคคลที่สมบูรณ์แบบก็ปรากฏตัวขึ้นโดยบังเอิญ หญิงชาวเอเชียหมายเลข 31000137 ได้ผสานรวมเซลล์สาหร่ายปีศาจได้อย่างสมบูรณ์แบบหลังจากเกิดการกลายพันธุ์ นั่นแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผสานรวมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในเวลาต่อมา บุคลากรในสถาบันวิจัยก็ได้ตั้งชื่อเซลล์หมายเลข 31000137 ที่ได้มาจากการผสานรวมกับสาหร่ายปีศาจว่า …… เซลล์ดัดแปลง ในขณะเดียวกันก็ให้ชื่อร่างทดลองหมายเลข 31000137 ว่า——ร่างแม่แบบทดลอง!
เซลล์ดัดแปลงมีความสามารถที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการดูดซึม การติดเชื้อ การกระตุ้น และความสามารถในการผสานรวมของยีน กลุ่มทดลองทั้งหมดที่มีเซลล์ดัดแปลงซึ่งแฝงตัวอยู่ในรูปปรสิตเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ดีเป็นอย่างมาก
————————————————
LV0:
ระยะแรกเริ่ม เป็นระยะที่มนุษย์ สัตว์ หรือพืชธรรมดาทั่วไปที่ปรสิตเข้าไปกระตุ้นทำปฏิกิริยากับเซลล์ได้สำเร็จ
◆【การกระตุ้น】:
เซลล์ดัดแปลงมักจะอยู่ในสภาวะพักตัว หากต้องการปลุกเซลล์ดัดแปลงจำเป็นต้องกระตุ้นมัน การกระตุ้นไม่ใช่เรื่องยากตราบใดที่ร่างต้นแบบยังแข็งแรงและมีสารอาหารเพียงพอแก่เซลล์ดัดแปลง นั่นจะทำให้เกิดการกระตุ้นขึ้น
LV1-1:
ระยะหิวโหย เป็นระยะที่เมื่อเซลล์ชีวภาพถูกกระตุ้น พวกมันจะเริ่มผลิตพลังงานพิเศษขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากสารอาหารทุกชนิดในร่างกายถูกนำไปใช้เพื่อผลิตพลังงานพิเศษนี้ ดังนั้นพวกเขาจะรู้สึกหิวอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและต้องการอาหารจำนวนมาก สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการในขั้นตอนนี้จะกินทุกอย่างที่กินได้และเข้าสู่ระยะหิวกระหาย
……
ข้อมูลข้างต้นคล้ายกับสิ่งที่มาร์ตินเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ไม่มีความแตกต่างมากนักเพียงแต่มีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นข้อมูลที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว ส่วนข้อมูลต่อไปนี้คือสิ่งที่ทุกคนไม่เคยรู้มาก่อน
……
LV1-2:
ระยะดุร้าย ในช่วงดุร้ายนี้ การผสานรวมยีนจะผนวกเข้ากับสภาวะหิวโหยตะกละตะกลาม รูปลักษณ์โดยทั่วไปทางกายภาพของสิ่งมีชีวิตที่เกิดการวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอยากมาก เมื่อการเปลี่ยนแปลงนี้ถึงระดับหนึ่ง พวกเขาจะกระสับกระส่ายร้อนรุ่ม และเข้าสู่ช่วงที่แสดงพฤติกรรมดุร้ายป่าเถื่อนออกมา
สภาวะเหี้ยมโหด ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเซลล์ดัดแปลงที่เกิดการผสานรวมกับยีนอื่น ๆ แต่สภาพจิตวิญญาณดั้งเดิมนั้นคุ้นชินกับร่างกายเดิมเท่านั้น นี่คือรูปแบบชีวิตที่สมดุลและมั่นคงซึ่งสั่งสมมาหลายปีนับไม่ถ้วน ความแตกต่างระหว่างร่างกายที่เปลี่ยนไปและจิตวิญญาณดั้งเดิมนั้นทำให้สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการเหล่านี้กระสับกระส่ายร้อนรุ่มจนแสดงพฤติกรรมดุร้ายออกมา พวกเขาจะฆ่าโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งสภาวะนี้ถูกเรียกว่าช่วงสภาวะเหี้ยมโหด
มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ เนื่องจากมนุษย์มีตรรกะเหตุและผล มนุษย์จึงสามารถทนต่อความปั่นป่วนที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณได้ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าสภาวะเหี้ยมโหดของมนุษย์นั้นไม่มีอยู่จริง เพียงแต่มนุษย์ยังสามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ถึงกระนั้นแม้แต่มนุษย์ก็ยังสามารถควบคุมตัวเองได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบ ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถทนได้
“ มนุษย์มีจิตวิญญาณจริงหรือ?” แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
“ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น แต่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ล้วนก็มีจิตวิญญาณเช่นกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริง อันที่จริงก่อนหน้านี้เมื่อการวิจัยได้ดำเนินการในช่วงเริ่มต้น ไม่มีใครรู้ว่าทำไมจึงเกิดสภาวะเหี้ยมโหดโดยไม่มีเหตุผลขึ้น จนกระทั่งเมื่อร่างทดลองเข้าสู่ LV1-3 จากนั้นเขาก็พูดสิ่งที่ตนเองรู้สึกออกมา นั่นทำให้ด็อกเตอร์หวังและคนอื่น ๆ ยืนยันการมีอยู่ของจิตวิญญาณเป็นครั้งแรก” ตอนนี้ไนท์สวมแว่นและดูเหมือนอาจารย์ที่กำลังให้ความรู้
“อะแฮ่ม ได้โปรดอย่าขัดจังหวะ ตั้งใจฟังฉันให้ดี” ไนท์เคาะไปที่กระดานดำ
“สาเหตุของความรุนแรงเหี้ยมโหดมาจากความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณ ความแตกต่างนี้เกิดจากการผสานรวมกันจากยีนของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในสภาวะเหี้ยมโหดนี้มีหลายวิธีที่จะจัดการกับมันได้” ไนท์เห็นทุกคนจริงจังขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากฟังคำอธิบายของเธอ นั่นทำให้เธออดไม่ได้ที่จะพูดต่อ
1.เซลล์ดัดแปลงที่แฝงตัวในรูปแบบปรสิต แต่ไม่มีการผสานรวมกับยีนของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
เซลล์ดัดแปลงที่ยังอยู่ในขั้นตอนตื่นตัว ไม่ได้เกิดการผสานรวมยีนกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เสมอไปตราบใดที่ยีนของสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ได้ถูกหลอมรวมในขั้นตอนตื่นตัวนี้ แม้ว่าจะมีที่ตำแหน่งยีนว่างสำหรับการผสานรวมยีน แต่โดยพื้นฐานแล้วจะไม่สามารถผสานรวมได้ ด้วยวิธีนี้แม้ว่าเซลล์ของสิ่งมีชีวิตจะถูกปรสิตเซลล์ดัดแปลงแฝงเข้ามาในร่างกายแต่ก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก
ร่างทดลองโดยทั่วไปมีความมั่นคงทางอารมณ์ เห็นได้ชัดว่าความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณนั้นไม่มากเกินไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความแตกต่างนี้จะไม่มีอยู่ ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เซลล์ดัดแปลงปรสิตแฝงเข้ามาในร่างกาย นั่นหมายความว่าร่างทดลองทั้งหมดได้บอกลาความเป็น “มนุษย์” ที่บริสุทธิ์หรือ “เผ่าพันธุ์” ดั้งเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2.ยาคลายเครียดและผ่อนคลาย
โดยปกติแล้วยากล่อมประสาทที่มีอยู่ทั่วไปในสังคมมนุษย์จะไม่เกิดผลมากนัก จะมีก็เพียงแต่สัตว์และพืชกลายพันธุ์ที่ได้ผสานรวมเซลล์ดัดแปลงเข้าไปเท่านั้นที่จะออกฤทธิ์ได้
ClearyHeart เป็นยาเพื่อปลอบประโลมจิตใจ โดยสกัดส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพมาจากพืชที่วิวัฒนาการแล้วหลายชนิด อย่างไรก็ตามงานวิจัยนี้ยังอยู่ในช่วงบุกเบิก อันที่จริงยังไม่มีการตั้งชื่อพืชที่วิวัฒนาการแต่อย่างใด และไม่มีใครรู้ว่าพืชธรรมดาทั่วไปก่อนหน้านี้เมื่อมันวิวัฒนาการกลายพันธุ์แล้วมันจะมีผลลัพธ์อย่างไร
???——หล่อเลี้ยงประสานจิตวิญญาณ!
“เดี๋ยวก่อน ไนท์ เธอ??? หมายความว่าอะไร หล่อเลี้ยงประสานจิตวิญญาณ” เฮลัวส์ยกมือขวาขึ้นและถามอย่างจริงจังราวกับเป็นนักเรียนจริง ๆ
“เป็นคำถามที่ดีมาก” ไนท์พูดราวกับว่าเธอกำลังสอนหนังสือเด็ก ๆ อยู่
“ตามทฤษฎีของด็อกเตอร์หวัง โลกทั้งโลกเติมเต็มซึ่งกันและกัน เนื่องจากสาเหตุของความดุร้ายป่าเถื่อนคือความแตกต่างระหว่างจิตวิญญาณและร่างกาย จึงต้องมีพืชและสัตว์บางชนิดที่สามารถหล่อเลี้ยงและประสานจิตวิญญาณได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการค้นพบสิ่งดังกล่าว” ไนท์พูดด้วยท่าทางจริงจัง
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะงงงวย เธอพูดอย่างน่าเชื่อถือแต่กลับยังไม่มีการค้นพบถึงสิ่งดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทุกคนพยายามหวนนึกกลับไปอย่างจริงจัง เมื่อพิจารณาจากข้อมูลก่อนหน้านี้ ด็อกเตอร์หวังออกจะเป็นคนบ้าที่มีหลักการ ทฤษฎีที่เขาหยิบยกมาควรจะมีพื้นฐานอยู่บ้าง ยิ่งกว่านั้นยังบอกว่าโลกนี้เติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างนั้นเหรอ เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเห็นพ้องด้วย
3.เทคนิคการบ่มเพาะจิตวิญญาณ
การฝึกฝนจิตใจให้สงบ เป็นเทคนิคหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
“บ่ม บ่มเพาะจิตวิญญาณ?” วูล์ฟพูดตะกุกตะกักเป็นภาษาอังกฤษ คำนามใหม่และแนวคิดใหม่ทำให้หัวของวูล์ฟใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า แม้แต่ไป๋อี้ยังรู้สึกว่ายิ่งเขาฟังเขาก็ยิ่งลึกลับมากขึ้น
“ถูกต้อง การบ่มเพาะจิตวิญญาณ อย่างที่ฉันเคยพูดไปก่อนหน้านี้ สิ่งมีชีวิตต่างก็มีจิตวิญญาณของตัวเอง แต่ในขั้นตอนนี้ทั้งมนุษย์และสัตว์ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงมัน เพราะในเวลานี้พวกเขาไม่สามารถสัมผัสถึงจิตวิญญาณได้ และเนื่องจากไม่สามารถรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณได้ในเวลานี้
ดังนั้นการฝึกฝนร่างกายจึงสามารถนำพามาซึ่งการฝึกฝนจิตวิญญาณได้เช่นกัน นี่คือประสบการณ์และข้อมูลที่รวบรวมมาจากร่างทดลอง LV1-3 และ LV2 ฉันไม่ได้โกหก” ไนท์อธิบาย
“แล้วเทคนิคการบ่มเพาะวิญญาณต้องทำอะไร?”
“การรำมวยไทเก็ก!” คำตอบที่ไนท์ตอบกลับมาทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ
“การรำมวยไทเก็กเป็นเทคนิคทางกายภาพที่ดีที่สุดในการชี้นำจิตวิญญาณ การออกกำลังกายอย่างอดทนแน่วแน่ ใช่ ฉันกำลังพูดถึงมวยไทเก็กดังเดิมของแท้ที่ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ อันที่จริงหลังจากค้นพบว่าการออกกำลังกายสามารถขับเคลื่อนและฝึกฝนจิตวิญญาณได้ ก็ไม่เคยหยุดวิจัยเรื่องนี้ แต่สำหรับตอนนี้ยังไม่มีการสรุปเทคนิคการบ่มเพาะจิตวิญญาณที่ดีไปกว่านี้ คุณต้องรู้ไว้ว่า การมีอยู่ของจิตวิญญาณถูกค้นพบในปี 2017 เมื่อร่างทดลองชุดแรกที่สามารถเข้าสู่ระยะหลับใหล LV1-3 ได้ จนถึงตอนนี้มันผ่านมาเพียงสามปีและในช่วงสามปีนี้ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยด้านอื่น ๆ อีกมากมาย” ไนท์อธิบาย
“ก่อนหน้านี้มีคนจำนวนมากที่ฝึกมวยไทเก็ก ทำไมไม่มีใครพบว่ามันสามารถขับเคลื่อนและฝึกฝนจิตวิญญาณได้” วูล์ฟถามอย่างโง่เขลา
ไนท์แสดงท่าทางดูหมิ่นออกมา จากนั้นก็ ……
“นายโง่หรือเปล่า ฉันต้องพูดอีกกี่ครั้ง นับประสาอะไรกับคนธรรมดา แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการในขั้นตอนนี้ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของจิตวิญญาณ ดังนั้นแม้ว่าพวกนายจะฝึกฝนมวยไทเก็กและทำให้จิตวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่พวกนายก็ยังไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้ใช่ไหม?” หัวของไนท์ราวกับจะหลุดออกมาจากคอมพิวเตอร์ เธอตวาดใส่วูล์ฟเสียงดัง
วูล์ฟตกใจจนล้มลงกับพื้นทันที
เห็นได้ชัดว่าไนท์รู้สึกสบายใจกับการกระทำของเธอมาก นี่เป็นการสอนที่แตกต่างออกไปจริง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
MANGA DISCUSSION