[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ - ตอนที่ 70 น่าเวทนา!
ขณะนี้วูล์ฟก็ไล่ตามหยูหานอีกครั้ง หยูหานรีบหลบไปด้านข้างทันที ง้าวตกลงบนพื้นโลหะจนพื้นเป็นรอยยุบทันที ทำให้พื้นตรงนั้นกลายเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ เศษโลหะกระเด็นลอยผ่านดวงตาของหยูหานไป ในขณะนี้ดวงตาของหยูหานจับจ้องผ่านเศษโลหะไปยังภาพที่โนเอลถูกขัดขวางอยู่อีกทางหนึ่ง
ทันใดนั้นหยูหานก็หันกลับมา เขารีบรุดตัวขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็พุ่งโจมตีวูล์ฟด้วยมือขวา
นับตั้งแต่แยกทางกัน หยูหานก็พิจารณาอย่างจริงจังว่าเขาแพ้ได้อย่างไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอันดับแรกก็คือกลยุทธ์ของเขา ในฐานะนักศึกษาวิทยาลัยแม้ว่าเขาจะมีแผนของตัวเองอยู่ในใจ แต่เขาก็ยังคงขาดวุฒิภาวะเมื่อเทียบกับคนที่มีประสบการณ์ทางสังคมและไหวพริบที่ดี และที่สำคัญประการที่สองคือความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง …… ในโลกนี้ที่ไม่มีหลักนิติธรรมความแข็งแกร่งที่แท้จริงคือการรับประกันสูงสุดตราบใดที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าใครก็ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะมีเล่ห์เพทุบายอะไรก็สามารถมองข้ามไปได้
เมื่อวูล์ฟเหวี่ยงง้าวของเขาอีกครั้งหยูหานกลับไม่ถอย แต่เดินตรงไปข้างหน้าอยู่ในระยะประชิด อาวุธชนิดนี้ต้องการพื้นที่เพียงพอสำหรับการเหวี่ยงโจมตี
แน่นอนว่าหลังจากที่หยูหานเข้าใกล้วูล์ฟในระยะประชิด ทำให้อาวุธง้าวนั้นไร้ประโยชน์ทันที แต่เขาก็ยังคงมีความระแวดระวัง ทั้งสองต่อสู้กันและในไม่ช้าวูล์ฟก็ถูกงูหลามสีทองที่แขนซ้ายของหยูหานกัดเข้า งูหลามสีทองนี้มีความว่องไวเป็นอย่างมาก
หยูหานแสดงท่าทางเยาะเย้ย โล่กระดองเต่าถูกยกขึ้นมากำบังด้านหน้า เพื่อรับแรงหมัดของวูล์ฟ จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปหาโนเอลโดยไม่สนใจวูล์ฟอีก วูล์ฟเดินโซซัดโซเซคุกเข่ากับพื้นและทันใดนั้นเขาก็พบว่าบริเวณที่แขนซ้ายของเขาถูกกัดเริ่มเปลี่ยนสี
“อ๊ากกก~~!”
ม่านตาของวูล์ฟหดตัวลงหลังจากคำรามอย่างรุนแรง แขนที่โดนพิษงูถูกทุบลงกับพื้นอย่างแรง จนมีเสียงดังตุ้บจากพื้นโลหะและมีรอยกำปั้นขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ หลังจากเสียงคำรามวูล์ฟก็ลุกขึ้นยืนทันทีและไล่ตามหยูหานอย่างดุเดือด
“ที่นี่ฉันจัดการเอง เธอไปช่วยพวกไป๋อี้เถอะ” เมย์ริสพูดกับเฮลัวส์ จากนั้นก็มองไปที่หยูหาน ซึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้
“ตกลง!” เฮลัวส์พยักหน้ารับ
ด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เฮลัวส์เชื่อว่าเมย์ริสจะสามารถจัดการโนเอลได้ ในขณะที่สถานการณ์การต่อสู้ของพวกไป๋อี้ไม่ค่อยราบรื่นนัก หลังจากที่เฮลัวส์พูดจบเธอก็รีบวิ่งไปทางประตูทันทีซึ่งไป๋อี้ หงฉี่ฮว๋า และเบ็นสันกำลังต่อสู้กันอยู่
……
การกลายพันธุ์ LV2 ของเบ็นสันช่วยเพิ่มพลังงานพิเศษในร่างกายของเขา สำหรับร่างทดลองทั้งหลายนี่เป็นเรื่องที่แปลกใหม่ซึ่งยังไม่มีใครเป็นผู้นำบุกเบิกว่าใครควรจะทำและทำอย่างไร อย่างไรก็ตามวิธีการทดสอบตัวเองอย่างคร่าว ๆ นี้ก็ทำให้เบ็นสันมีพลังที่แข็งแกร่งมาก
ตอนนี้เบ็นสันเต็มไปด้วยพลังงานซึ่งแผ่ออกไปสู่ภายนอกในรูปแบบของควัน และภายใต้ควันนี้การโจมตีใด ๆ ของไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋าไม่ได้สร้างความเสียหายให้เขามากนัก นอกจากนี้เบ็นสันยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ในสถานะเช่นนี้ทำให้ไป๋อี้และหงฉี่ฮว๋าต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการหลบหลีก
ไป๋อี้ใช้ดาบคะตะนะกรีดเข้าไปตรงหน้าอกของเขาและทันใดนั้นก็บล็อกหมัดหนักของเบ็นสันไว้ แต่ร่างกายของไป๋อี้ก็ลอยกระเด็นไปด้านหลัง
“ปล่อยฉัน!”
ไป๋อี้ร้อง ข้าง ๆ ไป๋อี้นั้นยังมีหงฉี่ฮว๋าอยู่ เธอได้ยื่นมือซ้ายออกไปคว้าไป๋อี้เอาไว้ทันที จากนั้นก็หมุนตัวและเหวี่ยงไป๋อี้ออกไปอีกครั้ง ด้วยแรงช่วยเหลือจากผลการโจมตีเมื่อครู่นี้ไป๋อี้ขดตัวเล็กน้อยระหว่างกระเด็นไปในอากาศ เขาฟันเบ็นสันด้วยความเร็วขณะลอยเคว้งอยู่ และในช่วงเวลาที่ฟันลงไปนั้นร่างกายของไป๋อี้กลับกระเด้งออกมาทันทีเหมือนคันธนูขนาดใหญ่ ในขณะที่ดาบคะตะนะก็ได้รับแรงตีกลับนี้และฟันลงพื้นอย่างรุนแรง
ขณะนั้นหงฉี่ฮว๋าก็รีบพุ่งไปที่เบ็นสันอีกครั้งทันทีหลังจากที่เหวี่ยงไป๋อี้ออกไป
เบ็นสันเห็นว่าไป๋อี้กล้าที่จะลงมืออย่างสุดกำลังเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มที่โหดร้ายออกมาพร้อมทั้งเหยียดสองมือใหญ่ยกขึ้นเหนือศีรษะและรอให้ไป๋อี้ล้มลงมา
แกต้องตาย ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!
เสียงนี้ดังก้องอยู่ในใจของไป๋อี้ ปุยสีสันทั่วร่างของเขาเริ่มกระพือไปมาอย่างมีเลศนัย แม้แต่ไป๋อี้เองก็ไม่ทันสังเกตเห็นลวดลายสีบนร่างกายของเขาที่ดูลึกลับและมีสีสดถึงขนาดนี้
เบ็นสันมองไปที่ไป๋อี้อย่างกระหายเลือด เขารอให้ไป๋อี้ล้มลงมาหมายจะฆ่าไป๋อี้ให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่ขนปุยแปลก ๆ บนร่างกายของไป๋อี้เบ็นสันก็ดูกังวลใจเล็กน้อย แต่ในขณะนั้นเองดาบคะตะนะของไป๋อี้ก็ฟันลงมาอย่างดุเดือด
ก่อนเบ็นสันจะทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นดาบคะตะนะของไป๋อี้ก็ฟันลงบนมือขนาดใหญ่ของเขาอย่างรุนแรงแล้ว ในที่สุดดาบที่แบกความแค้นของไป๋อี้ไว้ก็ทะลวงการปัดป้องของเบ็นสันและฟันเข้าที่ฝ่ามือของเบ็นสันโดยตรงได้สำเร็จ
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเบ็นสันในทันที ทำให้ความสับสนในตอนแรกของเขาหายไปอย่างกะทันหัน
ไป๋อี้ฟันดาบของเขาลงบนแขนของเบ็นสันแล้วถอยออกมา ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนเพดานที่สูงกว่าสิบเมตร เขาใช้แรงส่งตัวเองอย่างแข็งขัน ด้วยแรงโน้มถ่วงคมดาบคะตะนะก็หมุนและแทงเข้าที่หัวของเบ็นสัน ในเวลานี้หงฉี่ฮว๋ารีบวิ่งเข้าไปและใช้มีดสั้นอาบยาพิษเฉือนเข้าที่บาดแผลเดิมบนขาของเบ็นสัน
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทนการโจมตีทั้งหมดนี้ได้
พวกนายพอกันสักที!
ทันใดนั้นเบ็นสันก็ระเบิดความโกรธครั้งใหญ่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ พลังงานพิเศษที่ระเหยออกมาจากร่างกายของเขาพ่นบางอย่างออกมาทันทีราวกับการระเบิด
ดาบคะตะนะของไป๋อี้กำลังจะแทงทะลวงผ่านร่างของเบ็นสัน แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงต้านอย่างมหาศาล ปีกขนาดใหญ่ของเบ็นสันหุบลงมาและตะปบลงไปตรงกลางอย่างดุดัน ไป๋อี้ถูกต้านไว้ได้ ทันใดนั้นมีดสั้นของหงฉี่ฮว๋าก็พุ่งเข้าใส่ แต่ก็ถูกเบ็นสันต่อยเข้าที่ท้องส่วนบนอย่างแรง
ผัวะ หงฉี่ฮว๋ากระเด็นลอยออกไปโดยกระเด็นผ่านประตูและตกลงหน้าหนิงเสวี่ยและเบลลิก้าทีน่า
ไป๋อี้รู้สึกเพียงแค่เสียงสั่นในหูของเขาราวกับว่าทั้งศีรษะและลำตัวของเขาถูกระเบิดจากการตะปบของปีกเมื่อสักครู่นี้ ภายในหัวของเขานั้นว่างเปล่า ร่างของไป๋อี้ล้มลงกับพื้น เบ็นสันต้องการที่จะฉวยโอกาสนี้ฆ่าไป๋อี้ แต่ความโกรธของเขาก็ปะทุขึ้นมา เขาไม่เข้าใจนักว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เบ็นสันรู้สึกเพียงว่าร่างกายของเขาแน่นิ่งไปชั่วขณะ และขยับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ในเวลานี้เฮลัวส์ที่อยู่ในระยะไกลเล็งปืนไรเฟิลไปที่เบ็นสันและเธอก็ไม่มีความลังเลที่จะเหนี่ยวไกเลยแม้แต่นิด ส่งผลให้กระสุนยิงเข้าที่หัวของเบ็นสันอย่างรวดเร็ว
ด้วยสัญชาตญาณเบ็นสันต้องการที่จะหลบหลีก แต่ทว่าการเคลื่อนไหวของเขานั้นก็เป็นไปอย่างเชื่องช้าอืดอาดมาก กระสุนปืนยิงโดนที่หน้าผากของเขาทันที
ปัง ทันใดนั้นศีรษะของเบ็นสันก็หงายไปทางด้านหลังตามแรงกระสุน แต่เขาก็ค่อย ๆ เงยศีรษะกลับขึ้นมา มีรูที่เต็มไปด้วยเลือดปรากฏขึ้นที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วของเบ็นสัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นร่องรอยของกระสุนปืน แต่ถึงอย่างนั้นเบ็นสันก็ยังไม่ตายและแน่นอนว่าแม้เขาจะยังไม่ตายแต่นั่นก็ทำให้เบ็นสันรู้สึกกลัวความตายขึ้นมาทันที
ในตอนนี้ประตูใหญ่ที่เปิดเป็นช่องขนาดใหญ่ได้ปิดลงอย่างช้า ๆ นี่คือสิ่งที่เบ็นสันขอให้โนเอลทำ โดยไม่ให้เปิดประตูไว้นาน เดิมทีเบ็นสันนึกว่าพละกำลังของเขาจะสามารถปล่อยให้คนในทีมของเขาออกไปได้ด้วยการถ่วงเวลาสักพักและทิ้งไป๋อี้กับเพื่อน ๆ ของเขาไว้ข้างหลัง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น ถึงไป๋อี้จะมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าเขา แต่คนเหล่านี้สู้สุดชีวิตกว่าที่คิดไว้
“ออกไป!” เบ็นสันยังไม่สนใจที่จะฆ่าไป๋อี้ในเวลานี้ ในขณะที่ตอนนี้ไป๋อี้นอนอยู่บนพื้นโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับว่าเขาตายไปแล้ว
เบ็นสันวิ่งไปทางประตูใหญ่ ในเวลานี้คนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะกระวนกระวาย หลังจากประตูปิดลงอย่าคิดว่าพวกเขาจะสามารถออกไปได้อีก
การต่อสู้ในตอนแรกทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้น พวกเขาทุกคนคงถูกสังหาร
“เด็กน้อย ถอยไป ไม่งั้นฉันจะเอาจริงแล้วนะ” บิลบอมขู่อย่างร้ายกาจเมื่อเขาเจอตัวเด็กคนหนึ่ง
“ไม่!” เขาเป็นเด็กจริง ๆ เวอร์เนอร์พูดเสียงแข็ง ยังคงมีรอยเลือดทิ้งไว้ตามร่างกายที่แข็งแรงของเขา สัตว์เลี้ยงหมูแคระก็นอนอยู่บนพื้นโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เวอร์เนอร์ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของการต่อสู้ที่โหดร้ายเช่นนี้ แต่เขาก็รู้สึกถึงความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของลุงไป๋อี้และคนอื่น ๆ
“ฮ่า ๆ งั้นฉันไม่เกรงใจล่ะนะ” บิลบอมกล่าวอย่างร้ายกาจ แต่เมื่อเขาเห็นประตูที่ค่อย ๆ ปิดลงใจของเขาก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะนี้เฮลัวส์พบว่าหยูหานและโนเอลกำลังวิ่งไปที่ประตู เฮลัวส์มองไปทางแท่นสังเกตการณ์ด้วยความหวั่นใจ เธอพบว่าเมย์ริสนอนอยู่บนพื้นโดยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ส่วนวูล์ฟก็ยังคงต่อสู้อย่างดุเดือดกับสัตว์ประหลาดที่ได้กลิ่นเลือด
เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?
เฮลัวส์มีคำถามนี้อยู่ในใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรโนเอลก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อ มิฉะนั้นหลังจากประตูถูกปิดลงพวกเธอจะไม่สามารถเปิดมันได้อีก เฮลัวส์วิ่งไปหาหยูหานทันที แต่กลับมีเสียงครวญครางดังขึ้นเสียก่อน
เสียงของชาร์ไป่!
เมื่อเฮลัวส์หันศีรษะไปมอง เธอก็พบว่าชาร์ไป่ถูกสัตว์ประหลาดกัดเข้าที่คอของมันและสัตว์ประหลาดที่อธิบายลักษณะไม่ได้ก็กัดมันสุดแรงจนหัวสั่นส่ายไปมาเพื่อเพิ่มแรงและความเสียหายในการกัด นอกเหนือจากชาร์ไป่แล้ว ซาร่าเองก็มีสภาพที่ดูไม่ได้เช่นกัน ซึ่งแตกต่างจากรูปลักษณ์ปกติของเธอไปอย่างสิ้นเชิง ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงไปหมด ดูเหมือนเธอจะจนมุมแล้ว แต่ก็ยังมีลมหายใจที่น่าเวทนา โม่โม่ซ่อนตัวอยู่ข้างประตูห้องกักขัง เธอยื่นศีรษะเล็ก ๆ ชะโงกออกมาและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตึงเครียด
นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร …… ไม่ใช่ว่าชาร์ไป่อยู่ในห้องกักขังเหรอ เกิดอะไรขึ้น สัตว์ประหลาดที่ทรงพลังเช่นนี้ปรากฏตัวออกมาได้อย่างไร
เฮลัวส์ลังเลเล็กน้อย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งหยูหานก็ได้ช่วยโนเอลให้วิ่งออกจากประตูไป ไม่มีโอกาสที่จะออกไปแล้ว ผู้คนทั้งหมดที่ยังติดอยู่ตามทางเดินวงเวียนแห่งนี้มีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมาทันทีด้วยความเร็วที่พวกเขามีในตอนนี้ มันไม่ทันการที่จะไปขัดขวางไว้เสียแล้ว
ขณะนี้คลื่นแห่งความสิ้นหวังถาโถมอยู่ในใจของทุกคน!!