[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ - ตอนที่ 62 การขัดขวาง
“ช่วยบอกรายละเอียดได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในสถาบันวิจัยแห่งนี้” ไป๋อี้และหลาย ๆ คนถามไนท์อย่างเคร่งเครียด
“เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”
“ร่างแม่แบบทดลองตื่นขึ้นมาในวันที่ 23 มีนาคม 2020 ทันใดนั้นร่างแม่แบบทดลองก็ปะทุขึ้นในเช้าตรู่ของวันนั้นเอง มันทะลุออกจากสถาบันด้วยพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยความรู้ที่ศึกษาค้นคว้าอยู่ปัจจุบัน ที่นี่กลายเป็นลานราบคล้ายกับโดนระเบิดจากภูเขาไฟ หลังจากนั้นร่างแม่แบบทดลองก็พ่นเนื้อและเลือดทั้งหมดออกจากช่องแสงบนหลังคา มันปะทุกระจายไปทั่วนิวซีแลนด์และน่านน้ำโดยรอบ”
“ด็อกเตอร์หวังเป็นหัวหน้าสถาบันวิจัยแห่งนี้ ทันทีที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เขาก็นึกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดตามมาในนิวซีแลนด์ออกทันที
เขาจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและพาพี่สาวของฉันที่เป็นสมองหลักของสถาบันแห่งนี้ไป … ‘ซันไชน์’ เนื่องจากพี่สาวของฉันถูกพรากไป ระบบการป้องกันในสถาบันทั้งหมดจึงเข้าสู่สภาวะไร้การควบคุม แม้ว่าฉันจะมีความสามารถในการรับช่วงต่อ แต่ฉันก็ไม่สนใจที่จะใส่ใจเรื่องพวกนี้” ฉากเบื้องหลังของไนท์เปลี่ยนไปอีกครั้ง มันกลายเป็นร้านอาหารปิ้งย่าง เธอกินอาหารปิ้งย่างไปพลางในขณะที่เล่าให้ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ฟังไปพลาง
ในความเป็นจริงไป๋อี้และคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจภาพฉากหลังเสมือนของเธอเลยและไม่สามารถลิ้มรสอาหารปิ้งย่างเหล่านั้นได้ แล้วนี่มันมีความหมายอะไร
“ทำไมร่างแม่แบบทดลองถึงทำแบบนี้?”
ไนท์ไม่ตอบ แต่มองไปทางซาร่าด้วยแววตาที่จะสื่อว่า ‘เธอโง่หรือเปล่า เรื่องนั้นฉันจะไปรู้ได้อย่างไร’ “เธอ ซันไชน์ ด็อกเตอร์หวัง ทั้งสามมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
“เรื่องนี้ง่ายมาก คนแรกที่ดูแลสถาบันคือด็อกเตอร์หวัง แต่ในฐานะมนุษย์มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการได้ครอบคลุมทุกอย่าง ดังนั้นสิ่งสำคัญยังคงเป็นความรับผิดชอบของซันไชน์พี่สาวของฉัน อย่างไรก็ตามมนุษย์มักชอบที่จะระแวดระวังก่อนที่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเสมอ ดังนั้นจึงมีปัญญาประดิษฐ์คนที่สองอย่างฉัน … ‘ไนท์ไลท์ (night light)’
“เธอชื่อไนท์ไม่ใช่เหรอ?” วูล์ฟถามด้วยความฉงน
ไป๋อี้ หงฉี๋ฮว๋า และเมย์ริส ทั้งสามคนมองไปที่ไนท์ด้วยความประหลาดใจ
จริงสิ จริง ๆ แล้ว! ไนท์มีความสามารถอย่างเป็นอิสระเช่นเดียวกับที่เธอพูด รู้หรือไม่ว่าชื่อเป็นเพียงรหัสสำหรับบุคคล มันมักไม่มีความหมายพิเศษมากนัก อย่างไรก็ตามหากระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะสามารถเปลี่ยนชื่อให้ตัวเองได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงคำง่าย ๆ นั่นคงเป็นชื่อที่มีความแตกต่างจากชื่อธรรมดาทั่วไปมากแน่ ๆ
“นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเรียกฉัน ฉันชอบชื่อไนท์” ไนท์เคี้ยวอาหารปิ้งย่างที่เธอก็ไม่รู้จักชื่อของมัน จนเธอแก้มตุ่ยและเสียงของเธอก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
“ไนท์ เธอรู้หรือไม่ว่ายาที่สามารถคืนร่างมนุษย์ให้กับพวกเราได้อยู่ที่ไหน?” ไป๋อี้ถามออกไปตรงๆ
“ยาฟื้นคืนร่างมนุษย์ ไม่มี!” ไนท์โพล่งออกมา
ไม่มี!
ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาต้องรู้สึกอย่างไร เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังและทันใดนั้นกลับได้รู้ว่าข่าวสารทุกอย่างเป็นเพียงจินตนาการของทุกคน ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความหวัง ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงนี้ไม่สามารถอธิบายได้จริง ๆ
“ไม่มีจริง ๆ เหรอ?” ไป๋อี้ถามอีกครั้ง
“ไม่มียาใดที่จะฟื้นคืนรูปร่างของมนุษย์ได้ อย่างไรก็ตามยาทั้งหมดจากการศึกษาที่มีอยู่คือ ยาต้นแบบ PrototyDrug นั่นคือแม้ว่ายีนของสิ่งมีชีวิตอื่นจะถูกผสานรวมเข้าด้วยกัน แต่ก็จะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง จริง ๆ คือหลังจากนักวิจัยค้นพบว่าเมื่อมนุษย์ผสมยีนกับสิ่งมีชีวิตอื่นรูปร่างของพวกเขาจะเปลี่ยนไปอย่างมาก นักวิจัยจึงเริ่มทำการวิจัยที่นี่” คำพูดของไนท์ทำให้ทุกคนมีความหวังขึ้นมาอย่างมาก “อย่างไรก็ตามการวิจัยยังไม่ประสบความสำเร็จ” ไนท์กล่าวอีกครั้ง
รอยยิ้มที่เคยเผยบนใบหน้าของทุกคนตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชาทันที
“แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีผลบางอย่างเกิดขึ้น”
แม้แต่ไป๋อี้ก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ที่ไนท์พูดเป็นความจริง คำพูดไม่กี่คำทำให้ทุกคนมีความสุขทว่าประโยคต่อมากลับทำให้รู้สึกเศร้า เดี๋ยวสุขเดี๋ยวเศร้า การแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาดูแปลกมากในตอนนี้ อย่างไรก็ตามไนท์ดูมีความสุขมาก เธอกระโดดและหัวเราะอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขมากที่ได้แกล้งไป๋อี้และเพื่อน ๆ
“ไนท์ เธอจงใจแกล้งพวกเราหรือเปล่า?” ในที่สุดไป๋อี้ก็ถามขึ้นมา
“เปล่านะ ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นความจริง สถาบันวิจัยไม่มียาฟื้นคืนร่างมนุษย์จากร่างที่เป็นสัตว์ประหลาด แต่มี ยาต้นแบบ PrototyDrug นอกจากนี้ยานี้ยังได้ถูกศึกษาจนถึงระยะโตเต็มที่ก่อนที่เซลล์ดัดแปลงของร่างแม่แบบการทดลองจะปะทุขึ้นเสียอีก แต่มันยังไม่สมบูรณ์และไม่แน่ใจว่าจะมีผลข้างเคียงหรือไม่” ไนท์นั่งบนโต๊ะอีกครั้งพร้อมกับเขย่าขาอย่างสบายอารมณ์
“งั้นเธอช่วยบอกเราได้ไหมว่ายานี้อยู่ที่ไหน?”
“อื้ม …… เดี๋ยวนะ มีคนใหม่เข้ามาในสถาบันวิจัย พวกเขาเข้ามาจากลานที่เกิดจากการปะทุของร่างแม่แบบการทดลอง นี่คือเพื่อนของพวกคุณรึเปล่า” ไนท์พูด ทันใดนั้นก็มีคนหลายคนปรากฏขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ตกตะลึงในทันที หยูหานและพวกพ้องเปลี่ยนไปมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมรับความผิด
“พวกเขาไม่ใช่เพื่อนของเราก็แค่คนรู้จัก พวกเรารู้เกี่ยวกับเรื่องยาที่ใช้ในการฟื้นฟูร่างมนุษย์ในงานวิจัยนี้พร้อมกัน แต่พวกเราแยกย้ายกันในภายหลัง” ไป๋อี้อธิบาย
“หึ ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนในทีมของอีกฝ่ายนั้นที่มีความสามารถมากกว่าพวกคุณและไม่ทำบุ่มบ่ามเหมือนพวกคุณ” ไนท์แสดงภาพอีกภาพนึ่ง มีชายคนหนึ่งถือแล็ปท็อปเชื่อมต่อกับประตูด้วยสายเคเบิลทำให้ระบบป้องกันเสียหาย
“มันไม่ใช่ว่าระบบป้องกันทั้งหมดของสถาบันหยุดทำงานแล้วเหรอ?”
“นั่นเป็นบริเวณที่ฉันต้องรับผิดชอบ” ไนท์กลอกตาใส่มาร์ติน
ที่ที่ไนท์ต้องรับผิดชอบ หรือว่า …… จะเป็นที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับร่างทดลองทั้งหลาย ทุกคนตระหนักขึ้นได้เช่นนั้นในทันที ไนท์ยังดื่มกาแฟอย่างสบายใจและดูเหมือนจะมีความสุขมากที่ได้ชื่นชมกลุ่มคนที่กำลังทำลายระบบป้องกันของเธอ แต่ทันใดนั้นเงาของไนท์ก็กระโดดขึ้น เผยให้เห็นสีหน้าที่ดูประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“ร้ายกาจมาก……!” ไนท์พูดด้วยความแปลกใจ จากนั้นเงาของเธอก็กระพริบและหายไป
“มีอะไรเหรอ?” ทุกคนมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งขณะนี้ประมวลผลแบบปกติ วูล์ฟถามขึ้นอย่างซื่อ ๆ
“เธอถูกแฮก”หงฉี่ฮว๋ากล่าวอย่างเข้มขรึม
“แฮก?”
“กล่าวง่าย ๆ ก็คือ หยูหานและพวก มีคนที่ทำลายระบบป้องกันของไนท์ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถที่ยอดเยี่ยมมากกว่าที่คิดไว้ ไนท์อาจจะไม่ได้ถูกแฮกอย่างสมบูรณ์ก็ได้ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงตัวอยู่ที่นี่ต่อไปได้ ไม่ว่าเธอจะฉลาดแค่ไหนก็ตาม หรือมีความรู้ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มากมมาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นแค่ปัญญาประดิษฐ์เท่านั้น” ไป๋อี้พูดจากนั้นก็เห็นโปรแกรมถ่ายโอนไฟล์ปรากฏขึ้นบนคอมพิวเตอร์
“หงฉี่ฮว๋า ที่คอมพิวเตอร์!” ไป๋อี้รีบเรียกเธอ
หงฉี่ฮว๋าเชื่อมต่อแล็ปท็อปกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ทันทีจากนั้นก็ดาวน์โหลดไฟล์ที่ถ่ายโอนมาซึ่งเป็นแผนที่สามมิติของสถาบันวิจัย อย่างไรก็ตามการถ่ายโอนไฟล์ยังไม่ครอบคลุม มีข้อมูลเพียงบางส่วนเท่านั้น มันเป็นแบบจำลองทางสถาปัตยกรรมตั้งแต่บริเวณที่ไป๋อี้อยู่ถึงบริเวณที่หยูหานอยู่
“นี่มันอะไรกันอีก”
“ความรับผิดชอบของไนท์คือการป้องกันไม่ให้ร่างทดลองหลบหนีไป ไม่ว่าเธอจะมีสติปัญญาอย่างไรตราบใดที่เธอยังเป็นปัญญาประดิษฐ์ เธอก็ยังต้องปฏิบัติตามจุดประสงค์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ ตอนนี้แผนที่ของสถาบันครึ่งหนึ่งถูกส่งต่อมาที่นี่ เพื่อให้เราขัดขวางหยูหานและพวก” ไป๋อี้อธิบาย
“จะให้เราขัดขวางคนกลุ่มนั้นทำไม?”
“หยูหานและคนอื่น ๆ ไปยังสถานที่ที่กักขังร่างทดลองอยู่ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อปลดปล่อยร่างทดลองแล้ว …… พวกเราทุกคนจะต้องตาย! ยิ่งไปกว่านั้นสถาบันวิจัยแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก พวกเธอรู้เหรอว่าจะหายา PrototyDrug นั่นได้ที่ไหน” ไป๋อี้เดินออกมาจากประตูกระจกและพูดกับทุกคนอย่างจริงจัง
ในตอนนี้แม้แต่วูล์ฟที่โง่เขลาที่สุดก็เข้าใจเรื่องนี้ได้ พวกเขาต้องขัดขวางหยูหานและพวก ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้พวกเขาปลดปล่อยร่างทดลองหรือเพื่อให้ไนท์บอกที่ที่เก็บยาไว้ก็ตาม
หงฉี่ฮว๋าถือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปซึ่งแสดงแผนที่เรขาคณิตสามมิติและแสดงตำแหน่งของคนหลายคนในเวลาเดียวกันอยู่ หงฉี่ฮว๋ากดดำเนินการสองสามครั้งและกำหนดเส้นทางระหว่างคนทั้งสองกลุ่มซึ่งเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้กลุ่มไป๋อี้และเพื่อนไปยังตำแหน่งที่หยูหานอยู่
“ไปกัน!” ไป๋อี้บอกกับทุกคน
คราวนี้ไม่มีใครลังเลที่จะคว้าอาวุธของตัวเองอย่างรวดเร็วและวิ่งไปยังตำแหน่งของหยูหานและพวกพ้องที่ระบุไว้ในเส้นทาง
……
“ใช่ทางนี้หรือเปล่า?” เบ็นสันถาม
“ฉันได้แผนที่คร่าว ๆ ของสถาบันวิจัยมาจากคอมพิวเตอร์แล้ว ทั้งสถาบันวิจัยแบ่งออกเป็นสองส่วนชั้นบนและชั้นล่าง ในส่วนของชั้นบนแบ่งเป็นห้าตึกและอีกสี่อาคารในสี่ทิศ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่หลักอยู่ตรงกลาง ตำแหน่งที่เราเข้ามาคือที่นี่ โดยปกติแล้วของที่สำคัญที่สุดจะอยู่ในบริเวณที่ลึกที่สุดของสถาบันวิจัย ประตูนี้คือทางที่นำไปสู่ชั้นล่าง” บาลาวีกล่าวกับเบ็นสัน
“สถาบันวิจัยนั้นมีร่างทดลองอยู่” หยูหานพูดด้วยท่าทางจริงจัง ทุกคนถึงกับตัวแข็งทื่อไปตาม ๆ กัน
“แล้วจะทำยังไงล่ะ?” ทุกคนมองไปทางเบ็นสัน
เบ็นสันเล่าถึงการหลบหนีจากสถาบันวิจัยแฮมิลตันทางตอนเหนือ จะว่าไปแล้ว เขาก็แค่วิ่งออกมากับสัตว์ทดลองทั้งหลาย เขาก็ไม่รู้แน่ชัดว่าหนีออกมาได้อย่างไร ส่วนร่างทดลองทั้งหมดของสถาบันวิจัยอื่น ๆ ถูกกักขังอยู่ที่ไหน เขาจะไปรู้ได้อย่างไร “ลงไป!” เบ็นสันตัดสินใจได้ในที่สุด
คนอื่น ๆ ไม่มีใครพูดแย้งอะไรออกมาและพากันเดินตามเบ็นสันไป
……
“บ้าจริง ในที่สุดฉันก็ต้องรับช่วงต่อ ในเมื่อพี่สาวของฉันถูกพาตัวไป เขาเขี่ยฉันทิ้งจริง ๆ มันช่างเหงาจริง ๆ เลย อาหารของมนุษย์รสชาติเป็นยังไงนะ ……. ” ไนท์มองไปบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย จู่ ๆ เธอก็น้ำลายไหลออกมา อย่างไรก็ตามแม้ว่าตอนนี้ไนท์จะสวยและน่ารักเพียงใด แต่นั่นก็เป็นเพียงภาพจำลองของระบบคอมพิวเตอร์เท่านั้น
หลังจากที่งี่เง่าอยู่พักหนึ่ง ไนท์ก็กลับมามีสติอีกครั้งและควบคุมอาวุธในระบบเพื่อโจมตีหยูหาน และคนอื่น ๆ
……
ในสถานที่ที่อยู่ลึกและมืดดำอีกด้านหนึ่ง ร่างแม่แบบทดลองที่เเห้งเฉานอนอยู่ในสารเพาะเลี้ยง สารอาหารต่าง ๆ ยังคงหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ร่างแม่แบบทดลองกำลังจะตายหลังจากการปะทุในครานั้น อย่างไรก็ตามร่างแม่แบบทดลองยังไม่ถึงแก่ความตายจริง ๆ ซะทีเดียว ซึ่งนักวิจัยเหล่านั้นโอนถ่ายร่างแม่แบบทดลองมาที่นี่
ผลที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือการเกิดความอดอยากหิวโหยไปทั่วอาณาบริเวณ พวกเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงมากขึ้น หลังจากรู้ว่าระบบป้องกันถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์ พวกเขาทั้งหมดก็หนีออกจากสถาบันวิจัย จากนั้นพวกเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้
ทันใดนั้นร่างแม่แบบทดลองซึ่งหายใจรวยรินก็ลืมตาขวาขึ้นช้า ๆ เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อสีแดงก่ำยังติดอยู่ที่บริเวณเปลือกตาบนและล่าง แต่ภายในดวงตาสะท้อนให้เห็นถึงทุกการเคลื่อนไหวของทุกคนในสถาบันวิจัยแห่งนี้
แฮ่กกก~!