[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ - ตอนที่ 144 ออกเดินเรือ
ปากที่อ้ากว้างออกอีกครั้ง จากด้านข้างเผยให้เห็นว่ามันยังมีอีกหัวหนึ่ง แต่ยังโตไม่เต็มที่ แม้ว่ามันจะเกิดการวิวัฒนาการขึ้นแล้ว แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการวิวัฒนาการเร็วขนาดที่จะมีมากกว่าหนึ่งหัวในเวลาหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตามตอนนี้จิตใจของชาร์ไป่ดูกระฉับกระเฉงขึ้น มันได้ฝ่าฟันผ่านอุปสรรคของตัวเองมาได้อย่างชัดเจนและได้วิวัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ซึ่งไม่เหมือนกับดวงตาของไป๋อี้ ชาร์ไป่มีการวิวัฒนาการของกล้ามเนื้ออย่างเห็นได้ชัด สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชาร์ไป่นั้นไม่มีใครทราบถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ชาร์ไป่ส่งเสียงครางต่ำ ๆ ออกมา จากนั้นโม่โม่ก็ก้มหัวไปแนบกับมัน
“นี่คือ?” แนนซี่ถามด้วยความประหลาดใจ
“จริงสิ ฉันลืมแนะนำไปเลย นี่คือสมาชิกในทีมของเราชาร์ไป่ ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการแปรสภาพ” ไป๋อี้ชี้ไปที่ชาร์ไป่และแนะนำตัว จากนั้นก็ถามว่า “คุณแนนซี่ ไม่ทราบว่าคุณสนใจที่จะเข้าร่วมทีมของเราไหม แต่ผมเชิญชวนด้วยใจจริง”
“ในที่สุดคุณก็เชิญฉันเข้าทีมแล้ว” แนนซี่ยิ้ม
“ใช่ หวังว่าตอนนี้คงยังไม่สายเกินไปนะ” ไป๋อี้ถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“เอาล่ะ ในเมื่อคุณได้เชิญชวนฉันอย่างจริงใจแล้ว ฉันจะเข้าร่วมทีม อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าร่วมฉันมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคุณให้ชัดเจน” แนนซี่กล่าว
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ศัตรูเก่าของคุณ หยูหาน ได้รับความช่วยเหลือจากฉัน” แนนซี่พูดเบา ๆ
วูล์ฟลุกขึ้นยืนทันที เฮลัวส์เองก็มองไปที่แนนซี่อย่างรวดเร็ว แม้แต่ไป๋อี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็หยุดยั้งทั้งสองคนเอาไว้ “คุณช่วยบอกรายละเอียดได้ไหม”
“ได้สิ” แนนซี่พยักหน้า
พวกเขาได้ฟังแนนซี่กล่าวว่าหลังจากพบความขัดแย้งกันระหว่างยุงปีศาจกับวิญญาณชั่วร้ายในเวลลิงตัน เธอก็ออกค้นหาในเวลลิงตันเป็นเวลาหลายวัน ก็บังเอิญพับกับหยูหาน หนิงเสวี่ยและอดัมส์เข้า จากนั้นก็ได้ช่วยพวกเขาทั้งสามเอาไว้ ไป๋อี้ไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรดี โชคเป็นของผู้ชายคนนั้นเสมอ เขาไม่ตายง่าย ๆ อย่างไรก็ตามหลังจากรู้ว่าหนิงเสวี่ยยังไม่ตาย ไป๋อี้ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกมีความสุขเล็กน้อย ถ้าทำได้ไป๋อี้ก็ไม่อยากให้อดีตเพื่อนรักของเขาต้องมาตายด้วยน้ำมือของเขาเอง
“อย่างนั้นเหรอ มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญจริง ๆ ผมเข้าใจแล้ว” การแสดงออกของไป๋อี้เรียบเฉยอย่างไม่คาดคิด
“ฉันจะไม่พูดถึงหัวข้อที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์เหล่านี้ในขณะที่ปาร์ตี้ยังไม่จบ ชาร์ไป่กลับมาแล้วและเรามีเพื่อนร่วมทีมคนใหม่คือแนนซี่ นี่ควรจะเป็นการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่” ไป๋อี้ยิ้มและกล่าวกับทุกคน
“เย้ ~!”
“เมี้ยว ๆ !” โม่โม่มีความสุขมากจนส่งเสียงเชียร์ดังออกมาจากข้าง ๆ ชาร์ไป่ ขณะที่ชินชิล่ากระโดดขึ้นไปบนหัวของชาร์ไป่ หลังจากที่มันยังลังเลอยู่ในตอนแรกก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างมีความสุขเช่นกัน อย่างไรก็ตามชินชิล่า มันไม่กลัวความตายเลยหรืออย่างไร ทำไมมันถึงชอบอยู่บนหัวของชาร์ไป่เอามาก ๆ มันไม่รู้ว่าข้อเปรียบเทียบระหว่างมันสองตัวนั้นน่าตกใจมากขนาดไหน
หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มปาร์ตี้กันใหม่อย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดปรากฏขึ้นรำไรในเวลลิงตัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าโปรยแสงลอดลงมาผ่านช่องว่างระหว่างก้อนเมฆอย่างสวยงาม
“คุณไม่สงสัยในตัวตนของเธอเหรอ?” เวร่าเตือน
“คุณมายถึงสายลับหรือเปล่า ผมไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น” ไป๋อี้ส่ายหัว “ไปปลุกทุกคนกันเถอะ วันที่อากาศดีอย่างนี้หายากมาก” ไป๋อี้พูดกับเวร่า เมื่อดวงอาทิตย์ทอแสงออกมา ภูตผีปีศาจทั้งหลายรวมทั้งเมย์ริสก็กลับเข้าสู่เงามืด ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์แบบนี้จะเป็นอันตรายต่อพวกเขาอย่างมาก ถึงจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถชื่นชมมันได้ แต่อากาศดี ๆ แบบนี้ก็หายากมากจริง ๆ
เวร่าพยักหน้าเมื่อเธอได้ยินไป๋อี้พูดเช่นนั้น เธอเพียงแค่เตือนไป๋อี้เท่านั้น ส่วนการพิจารณานั้นมันขึ้นอยู่กับไป๋อี้
……
กลุ่มของไป๋อี้ออกเดินทางและมุ่งหน้าไปยังอ่าวไลล์เบย์ ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทางและทุกคนก็มาถึงท่าเรืออย่างปลอดภัย โม่โม่ตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดหมื่นตันลำนี้ เธอรีบวิ่งไปหามันทันทีพร้อมทั้งส่งเสียงเชียร์ออกมา ไป๋อี้และคนอื่น ๆ ก็ยิ้มอย่างนุ่มนวลและเดินตามไปบนเรือบรรทุกสินค้าเช่นกัน
ด้วยความยาวรวม 180.5 เมตรและ น้ำหนักกว่า 25,000 ตัน มันจึงเป็นเรือบรรทุกสินค้าที่มีขนาดใหญ่มาก
หลังจากที่ทุกคนขึ้นมาบนเรือ ไป๋อี้ก็เริ่มสตาร์ทเรือบรรทุกสินค้าอย่างคล่องแคล่ว ทันใดนั้นยักษ์เหล็กตัวนี้ก็เริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ มุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรทางใต้ของนิวซีแลนด์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โม่โม่วิ่งไปรอบ ๆ ห้องบังคับการเรือด้วยความตื่นเต้น เธอส่งเสียงร่ำร้องที่จะแล่นเรือ เด็ก ๆ ก็มักจะอยากรู้ทุกอย่างแบบนี้ ไป๋อี้มองดูโม่โม่ที่วิ่งไปมาด้วยรอยยิ้ม เธอเดินนำ ส่วนชินชิล่าตัวน้อยเป็นผู้ตาม หลังจากนั้นไม่นานโม่โม่ก็รู้สึกว่าห้องบังคับการเรือนั้นน่าเบื่อ จากนั้นเธอก็ตะโกนว่าอยากจะออกไปข้างนอก
“ฉันจะดูแลเส้นทางเอง นายพาโม่โม่ออกไปเถอะ” เฮลัวส์กล่าว
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย” ไป๋อี้พยักหน้า
เมื่อมาถึงบนดาดฟ้า ไป๋อี้ก็พบว่าทุกคนยืนอยู่ขอบสองข้างของเรือพลางชมวิวทะเลมหาสมุทรยามเช้าอาบแสงแดดอ่อน ๆ มันดูสงบและสวยงามมาก อย่างไรก็ตามนั่นทำให้ไป๋อี้ขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน พวกเขาประมาทเกินไป ไป๋อี้ปรบมือดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
“ทุกท่าน โปรดระวังทุกการกระทำ พวกเราไม่ได้ออกมาท่องเที่ยว คุณอาจเจออะไรก็ได้ในนิวซีแลนด์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ การที่พวกคุณยืนอยู่บนขอบดาดฟ้าแบบนี้มันอันตรายมาก” ไป๋อี้กล่าวเตือน
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของไป๋อี้เช่นนั้น พวกเขาก็กลับมามีสติทันที ดูเหมือนพวกเขาจะผ่อนคลายเกินไป วูล์ฟโบกมือให้ไป๋อี้และกำลังที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ ก็มีน้ำกระเซ็นขึ้นมาจากผิวน้ำทะเล อนาคอนด้าทะเลที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งเมตรพุ่งออกมาทันที และทันใดนั้นมันก็กัดเข้าไปที่วูล์ฟ
วูล์ฟยกง้าวของเขาขึ้นมาทันทีและฟันไปทางด้านหลังด้วยสัญชาติญาณ จนเกิดเสียงฟันดังฟึ่บขึ้น พละกำลังอันทรงพลังโจมตีเข้าที่ผิวหนังของอนาคอนด้าทะเลฝังเข้าไปในกล้ามเนื้อของมันจนลึก
เหตุการณ์ที่พลิกผันไปอย่างกะทันหันทำให้ท่าทีของทุกคนตึงเครียดขึ้นมาอย่างทันที ไป๋อี้และชาร์ไป่รีบวิ่งปรี่เข้าไปที่อนาคอนด้าทะเลที่เข้ามาถึงดาดฟ้า มันมีท่าทีที่ดุร้ายมากยิ่งขึ้นเพราะได้รับบาดเจ็บ ในส่วนของพวกเวร่าก็รีบวิ่งไปที่ห้องโดยสาร
การเคลื่อนไหวของชาร์ไป่รวดเร็วเป็นที่สุด ขณะที่วูล์ฟกำลังจะถูกงูเหลือมทะเลจับลงไป ทันใดนั้นมันก็อ้าปากอันใหญ่โตและกัดเข้าที่คอของอนาคอนด้าทะเลอย่างแน่นหนา ปากขนาดใหญ่ที่แยกออกมาทั้งสองข้างราวกับเขา บังเอิญติดอยู่กับอนาคอนดาทะเลทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ อย่างไรก็ตามร่างของอนาคอนด้าทะเลก็ม้วนรัดชาร์ไป่ทันที มันต้องการที่จะม้วนตัวรัดเอาชาร์ไป่ลงไปในมหาสมุทร กรงเล็บทั้งสี่ของชาร์ไป่เกาะอยู่บนดาดฟ้า ทันใดนั้นเสียงเสียดทานดังครืดคราดก็ดังขึ้นระหว่างที่ดาดฟ้าเหล็กถูกกรงเล็บของชาร์ไป่เกี่ยวไว้จนเกิดเป็นรอยแยก
ไป๋อี้รีบวิ่งตามไปด้านหลังชาร์ไป่ทันที ในขณะที่วูล์ฟก็กลับตัวตามไปที่นั่นเช่นกัน เขาทั้งสองฟันร่างของอนาคอนด้าทะเลจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ดาบจุมพิตสีแดงถูกดึงออกมาจากฝัก มันทิ้งรอยกวัดแกว่งจาง ๆ ไว้ในอากาศ จากนั้นก็เกิดเสียงฟันดังฉับ อนาคอนด้าทะเลที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งเมตรถูกฟันแยกออกจากกันเป็นสองท่อนตรงกลาง นอกจากนั้นวูล์ฟยังมีพละกำลังที่เก่งกาจเป็นอย่างมาก พลังของเขามีความรุนแรงอย่างยิ่ง ทำให้รอยแผลถูกฟันออกจากกันอย่างสิ้นเชิงด้วยแรงอันทรงพลังของง้าว
เฉียบคมมาก!
ไป๋อี้อุทานอยู่ในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้ดาบจุมพิตสีแดงกับศัตรู ทันทีที่เขาใช้มันไป๋อี้ก็รู้สึกได้ว่าดาบจุมพิตสีแดงนั้นเฉียบคมกว่าดาบเขี้ยวครั้งก่อนหลายเท่า แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้มัลวีย์ไม่ใช่คนไม่มีพรสวรรค์อย่างแน่นอน ทว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถมากต่างหาก
ชาร์ไป่ยังคงกัดอย่างดุเดือด ปากขนาดใหญ่กัดเข้าที่คอของอนาคอนด้าทะเล อนาคอนด้าทะเลที่ถูกฟันแยกออกเป็นหลายส่วนยังคงบิดตัวไปมาอย่างช้า ๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่อาจมีชีวิตรอดได้อีก
ตอนนี้ทุกคนต่างก็ขวัญหนีดีฝ่อ เหตุการณ์ฉุกละหุกเกิดขึ้นเร็วเกินไปและจบลงอย่างเร็วเช่นกัน อนาคอนด้าทะเลที่ดุร้ายถูกปราบได้อย่างง่ายดายโดยพวกไป๋อี้ในช่วงเวลาหนึ่งโดยไม่ต้องถึงกับใช้พลังที่แท้จริงของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวร่าและลอทเทียร์ยิ่งรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมาก เพื่อนร่วมทีมที่ทรงพลังเช่นนี้ทำให้พวกเธอรู้สึกอุ่นใจมาก
“เห็นไหม เจ้าตัวนั้นปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เราเพิ่งออกมาจากท่าเรือ ทุกคนระวังตัวด้วย” ไป๋อี้เก็บดาบจุมพิตสีแดงลงในฝัก พื้นผิวของดาบที่ดูเหมือนถูกเคลือบไว้ไม่ได้เปื้อนเลือดแม้แต่น้อย
“เข้าใจแล้ว!” วูล์ฟตอบเสียงดังฟังชัดขึ้นมาในทันที
“แต่เจ้าหมอนั้นอ่อนแอเกินไปจริงๆ ทั้งที่มันมีขนาดมหึมาขนาดนั้น” วูล์ฟพูดขึ้นอีกครั้ง
“สัตว์ทะเลหลายชนิดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่พวกมันเป็นสัตว์น้ำ พวกมันไม่ได้คล่องแคล่วมากนักเมื่ออยู่บนดาดฟ้า แน่นอนว่านายสามารถทดสอบดูได้ว่าจะมีใครเก่งกาจมากกว่าถ้านายลงไปในน้ำ” ไป๋อี้กล่าว เนื่องจากนึกขึ้นได้ว่าทุกคนยังไม่เคยได้สัมผัสกับการต่อสู้ในน้ำ แม้ว่าการเดินทางของพวกเขาไม่น่าจะได้พบเจอกับสถานการณ์แบบนั้น แต่ก็ควรจะหาโอกาสฝึกไว้
“ทำความสะอาดดาดฟ้าและลากเจ้าสิ่งนี้เข้าไปในโกดัง เป้าหมายแรกของเราคือราชินีชาร์ล็อตเบย์ซากของสัตว์ทะเลเหล่านี้ก็พอจะเป็นของกำนัลในการพบปะที่ดีได้เช่นกัน” ไป๋อี้กล่าว
หลังจากพูดจบ ไป๋อี้ก็เดินนำไปจัดการลากร่างของอนาคอนด้าทะเลเข้าไปในโกดัง ซึ่งคนอื่น ๆ ก็เข้ามาช่วยทันที อนาคอนด้าทะเลตัวนี้ยาวกว่า 20 เมตร และมันก็ไม่ใช่เหยื่อขนาดเล็ก ไป๋อี้ลากอนาคอนด้าทะเลส่วนหนึ่งเข้าไปในโกดัง แต่ก็ต้องพบว่าเลือดของอนาคอนด้าทะเลตัวนี้ไม่ได้ค่อย ๆ ไหลลงมาตามท่อระบายน้ำบนดาดฟ้า แต่มันไหลลงสู่ทะเลด้านล่างจากทางหลังเรือบรรทุกสินค้า เขาเหวี่ยงมันออกไปด้วยหน้าแดงระเรื่อ
หลังจากได้รับประสบการณ์เช่นนี้ ทุกคนก็ไม่ไปอยู่บนดาดฟ้าอีกเนื่องจากมันอันตรายเกินไป
ถ้าอนาคอนด้าทะเลไม่ได้จู่โจมวูล์ฟ แต่ไปจู่โจมคนอื่นแทนละก็ เกรงว่าอาจมีคนในทีมตกลงไปได้ นี่ไม่ใช่เรื่องตลก ไม่มีใครในทีมที่คาดว่าจะมีความแข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับอนาคอนด้าทะเลในกรณีที่มีการลอบจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวเช่นนั้น
“โม่โม่ หนูไม่กลัวเหรอ?” ลอทเทียร์ถามขณะที่มองไปยังโม่โม่ที่มีท่าทีกระตือรือร้น
“ค่ะ ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะคะ?” โม่โม่มองไปที่ลอทเทียร์เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ดวงตากลมโตฉายแววตาสงสัยออกมาเล็กน้อย
ลอทเทียร์เห็นสายตาของโม่โม่ที่ใสซื่อบริสุทธิ์ แต่กลับไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงความสามารถในการต่อสู้ที่โดดเด่นของโม่โม่และสภาวะการต่อสู้ที่สงบนิ่งนั้น หนูน้อยคนนี้ก็เกินความสามารถที่เธอจะเปรียบเทียบได้อย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามตอนนี้โม่โม่มีอายุเพียงแค่หกขวบเท่านั้น
“นั่นสินะ ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ” ลอทเทียร์สัมผัสดาบยาวที่เธอเพิ่งหามา จากนั้นก็ตัดสินใจว่าเธอควรจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่เพียงแต่อาศัยการปกป้องของครูเวร่าและคนอื่น ๆ เท่านั้น เธอยังต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวเองให้ได้
……
กลิ่นเลือดจาง ๆ กระจายไปในมหาสมุทร ในร่องลึกใต้มหาสมุทรปรากฏเงาดำขนาดใหญ่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น