[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ - ตอนที่ 11 ระดับการกลายพันธุ์
“ก่อนเริ่มการสนทนาฉันจะแนะนำผู้ชายคนหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก” ไป๋อี้ชี้ไปที่มาร์ตินแอนเดอร์สันแล้วพูดว่า “นี่มาร์ตินแอนเดอร์สัน นักวิจัยจากสถาบันวิจัยแฮมิลตันทางตอนเหนือ เขารู้ว่าทำไมเราถึงตกอยู่ในระยะหิวโหยและทำไมสัตว์ประหลาดเหล่านั้นถึงได้ปรากฏตัวขึ้นขึ้นมา! ”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นแววตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขามองไปที่มาร์ตินด้วยความประหลาดใจ มีเหตุอะไรที่ทำให้นิวซีแลนด์ต้องกลายเป็นแบบนี้?
————————————————
LV0:
ระยะแรกเริ่ม คือ ระยะที่มนุษย์ สัตว์ หรือพืชธรรมดาทั่วไปที่ปรสิตสามารถเข้าไปกระตุ้นทำปฏิกิริยากับเซลล์ได้สำเร็จ
เซลล์ดัดแปลง คือ เซลล์พิเศษที่สกัดจากสาหร่ายอสูร หลังจากการกลายพันธุ์ด้วยการฉายรังสีนับสิบล้านครั้ง ขั้นตอนสุดท้ายคือทำการปลูกถ่ายและเพาะเลี้ยงใน ‘ร่างแม่แบบทดลอง’ เซลล์ที่ถูกดัดแปลงจะมีความสามารถในการดูดซึมและแพร่เชื้อได้สูง เมื่อปรสิตแทรกซึมได้สำเร็จมันจะค่อย ๆ ดูดซึมเซลล์ดั้งเดิมของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ เพื่อให้เซลล์ดั้งเดิมเหล่านั้นมีความสามารถในการกลายพันธุ์
ความสามารถในการกลายพันธุ์ เป็นความสามารถที่สามารถสร้างพลังงานพิเศษจากพลังงานชีวภาพทั่วไปได้
……
ไม่ว่าในเทพนิยาย ตำนาน การ์ตูน หรือนิทานปรัมปรา คนที่มีชีวิตยืนยาวมักจะมีพลังที่แข็งแกร่ง บางคนก็มีพลังแค่เพียงบางประเภท หรือบางคนก็มีพลังพิเศษหลากหลายประเภท พลังเหล่านี้มักจะถูกเรียกว่าเวทมนตร์ พลังเหนือธรรมชาติ พลังจิตลมปราณและอื่น ๆ พลังงานเหล่านี้แตกต่างจากพลังงานชีวภาพที่จำเป็นของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าพลังงานพิเศษ
◆【การกระตุ้น】:
เซลล์ดัดแปลงมักจะอยู่ในสภาวะพักตัว หากต้องการปลุกเซลล์ดัดแปลงจำเป็นต้องกระตุ้นมัน การกระตุ้นไม่ใช่เรื่องยากตราบใดที่ร่างต้นแบบยังแข็งแรงและมีสารอาหารเพียงพอแก่เซลล์ดัดแปลง นั่นจึงจะทำให้เกิดการกระตุ้นขึ้น
LV1-1:
ระยะหิวกระหาย เป็นระยะที่เมื่อเซลล์ชีวภาพถูกกระตุ้น พวกมันจะเริ่มผลิตพลังงานพิเศษขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากสารอาหารทุกชนิดในร่างกายถูกนำไปใช้เพื่อผลิตพลังงานพิเศษนี้ ดังนั้นพวกเขาจะรู้สึกหิวอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและต้องการอาหารจำนวนมาก สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการในขั้นตอนนี้จะกินทุกอย่างที่กินได้และเข้าสู่ระยะหิวกระหาย
ความสามารถในการผสานรวมยีน คือ ความสามารถของเซลล์ดัดแปลงที่นอกจากจะสามารถการกระตุ้นเซลล์ได้แล้วยังมีผลสืบเนื่องอย่างหนึ่งคือความสามารถในการผสานรวมยีนที่แข็งแกร่งมาก ร่างที่มาจากเซลล์ดัดแปลงหากได้กินหรือสัมผัสของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นก็จะสามารถทำการผสานรวมยีนเองได้
การผสานรวมยีนควบคู่ไปกับการเจริญอาหารจะเปลี่ยนรูปแบบทางกายภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการอย่างมาก จำนวนการผสานรวมของยีนถูกกำหนดโดยระดับของเซลล์ดัดแปลง โดยทั่วไปคือระดับ 1-9 ยิ่งเซลล์ดัดแปลงอยู่ในระดับสูงก็จะสามารถทำการผสานรวมได้มากขึ้น ยิ่งผสานรวมกันได้มากเท่าไหร่รูปร่างทางกายภาพก็จะเปลี่ยนไปและจะเบี่ยงเบนไปจากรูปร่างเดิมมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้การผลิตพลังงานพิเศษในร่างกายแม้ว่าสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการเหล่านี้จะไม่แสดงพลังงานพิเศษออกมาภายนอก แต่พวกมันก็มีพลังที่ทรงพลังมากขึ้นและความเร็วที่เร็วมากขึ้น ……
————————————————
“นอกจากนี้ยังมีระดับของเซลล์ดัดแปลงตั้งแต่ LV1-LV9 ที่แสดงให้เห็นถึงจำนวนครั้งที่สามารถผสานรวมยีนได้แตกต่างกันออกไป จำนวนมากที่สุดคือ 9 ครั้ง ยิ่งยีนผสานรวมกันได้มากเท่าไหร่รูปร่างทางกายภาพก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่านั้น การกินอาหารยิ่งทำให้เกิดการวิวัฒนาการได้มากขึ้น และในท้ายที่สุดก็จะกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาด! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม้ว่าเซลล์ดัดแปลงจะไม่ได้มาจากร่างแม่แบบทดลองโดยตรงแต่สิ่งมีชีวิตที่มีปรสิตแอบแฝงและเกิดการวิวัฒนาการ ในภายหลังก็จะมีความสามารถในการแพร่เชื้อได้เช่นกัน” มาร์ตินกล่าว เมื่อทุกคนได้ฟังดังนั้นก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“เป็นไปไม่ได้ การแพร่เชื้อแบบลูกโซ่อย่างนั้นคงจะไม่เหมือนกับไวรัสซอมบี้ในภาพยนตร์หรอกนะ? ”
“แล้วศพล่ะ” ไป๋อี้ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
สาเหตุที่ไวรัสซอมบี้น่ากลัวนั้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่เพราะความสามารถในการแพร่เชื้อที่ทรงพลัง แต่เป็นความสามารถในการทำให้ศพกลับมามีชีวิตได้ นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
“ศพแพร่เชื้อไม่ได้” มาร์ตินส่ายหัว
“ศพไม่สามารถแพร่เชื้อได้ซึ่งหมายความว่ายังสามารถฆ่าได้ กล่าวอีกนัยคือหนึ่งเซลล์ดัดแปลงมีความสามารถหลัก 3 ประการได้แก่ 1. ความสามารถในการใช้งานการดูดซึมของเซลล์ธรรมดาในการผลิตพลังงานพิเศษ 2. ความสามารถในการผสานรวมยีนซึ่งสามารถผสานรวมยีนของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รวมกันได้ 3. ความสามารถในการแพร่เชื้อ” ไป๋อี้สรุปในตอนท้ายจากนั้นก็หลับตาและทำสมาธิ
“พลังงานพิเศษบ้าบออะไรคุณ อ่านนิยายมากไปหรือเปล่า มีใครรู้สึกถึงพลังงานพิเศษบ้างไหม?” หงฉี่ฮว๋ากล่าวอย่างเย้ยหยัน
แม้ว่าคนอื่นจะรู้สึกว่าทัศนคติของหงฉี่ฮว๋าไม่ค่อยดีนัก แต่พวกเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เห็นด้วยกับเขา อันที่จริงไม่มีใครรู้สึกถึงพลังงานพิเศษอะไรทั้งนั้นและไม่มีความรู้สึกถึงพลังทางจิตอย่างในนวนิยายแม้แต่น้อย
“พวกเธอคิดว่าฉันล้อพวกเธอเล่นเหรอ? ถ้าเป็นพลังงานจากร่างกายแบบทั่ว ๆ ไปพวกเธอคิดว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นจะทรงพลังได้ถึงขนาดนั้นไหม!” มาร์ตินโต้กลับอย่างเกรี้ยวกราดที่ทุกคนสงสัยในตัวเขา
“ฉันไม่ได้โกหก เซลล์ดัดแปลงถูกใช้เพื่อผลิตพลังงานพิเศษออกมา ที่ตอนนี้ที่ยังไม่รู้สึกถึงมันเป็นเพราะคุณยังไม่ถึงระดับนั้น ก็เหมือนกับคนทั่วไปทุกคนสามารถใช้พละกำลังและรู้ว่ามันมีพลังงานชีวภาพอยู่ แต่พวกเธอมีใครรู้สึกได้ถึงมันไหม? ”
“ใครสามารถระดมพลังงานชีวภาพในร่างกายได้เองบ้างไหม? บางทีพลังงานบางอย่างของมนุษย์อาจจะมีศักยภาพมาก แต่มันกลับถูกใช้งานเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แล้วมันจะสามารถจัดการการหมุนเวียนใช้พลังงานเองได้ไหม?” มาร์ตินเห็นท่าทีของทุกคนดูไม่ค่อยเข้าใจเขาจึงอดไม่ได้ที่จะอธิบายต่อ
“หลังจากการปรับสภาพเข้าสู่ระยะกลายพันธุ์ LV2 ทำให้มีสนามพลังชีวิตที่สมบูรณ์ สิ่งมีชีวิตที่มีการวิวัฒนาการและมนุษย์ถึงจะสามารถระดมพลังพิเศษในร่างกายได้อย่างแข็งขัน” มาร์ตินยกตัวอย่าง
“LV2 สนามพลังชีวิตสมบูรณ์?”
“ระดับของสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการไม่ใช่ระดับอย่างเกมออนไลน์ธรรมดา ๆ แต่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงเร็วที่สุดในสถาบันวิจัยคือระยะกลายพันธุ์ LV2 ฉันได้ยินมาว่าหลังจากถึง LV2 แล้วพวกมันก็จะมีสนามพลังชีวิตสัมบูรณ์ จะสามารถควบคุมพลังงานพิเศษในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันเคยได้ยินมาอย่างนั้นแต่ยังไม่เคยเห็นกับตาเพราะฉันไม่ใช่นักวิจัยหลัก” มาร์ตินพูดพร้อมกับยักไหล่
“คุณช่วยพูดเกี่ยวกับการจำแนกวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตโดยละเอียดได้ไหม”
“ได้สิ!”
LV0——ระยะแรกเริ่ม!
◆【การกระตุ้น】!
LV1-1——ระยะหิวโหย!
LV1-2——ระยะดุร้าย!
LV1-3——ระยะหลับใหล!
◆【การปรับสภาพ】!
LV2——ระยะกลายพันธุ์!
มาร์ตินพูดไล่เรียงชื่อแต่ละระดับ นอกจากระยะแรกเริ่มของ LV0 และระยะหิวโหยของ LV1-1 แล้วในส่วนของระดับอื่น ๆ นั้นมาร์ตินยังไม่รู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
“ไหนคุณบอกว่าคุณไม่รู้อะไรเลย”
“ถ้าฉันรู้ทุกอย่างฉันคงไม่ได้เป็นเพียงนักวิจัยย่อย ฉันคงได้เป็นถึงนักวิจัยหลักแล้วล่ะ ฮึ่ม แต่ไม่ว่าจะยังไงฉันก็รู้อะไรต่อมิอะไรมากกกว่าพวกเธอ” มาร์ตินโต้กลับ ถึงฮั้วชิวหยางและคนอื่น ๆ จะไม่ไว้ใจเขาแต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหักล้างผู้ชายคนนี้ได้ ชายผู้นี้เขารู้ดีกว่าพวกเธอจริง ๆ
“ไป๋อี้แน่ใจใช่ไหมว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้พูดล้อเล่น?” ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิด จากนั้นไม่นานหยูหานก็ถามขึ้นมา
“ล้อเล่นเหรอ? ฉันก็หวังว่าฉันจะพูดล้อเล่นเหมือนกัน ฉันหวังว่ามันจะเป็นแค่เรื่องตลกจริง ๆ นะ” มาร์ตินดูโกรธเมื่อได้ยินหยูหานพูดเช่นนั้น
“ฟังให้ดีนะ นี่ไม่ใช่เรื่องตลกอย่างแน่นอน แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เซลล์ดัดแปลงของร่างแม่แบบทดลองก็แพร่กระจายไปทั่วแล้ว แทบทุกคนในนิวซีแลนด์ถูกปรสิตแฝงตัวอยู่ในร่างกาย ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างเราก็จะกลายเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ตอนที่พวกเธอไม่รู้ตัวฉันเกรงว่ามันจะผสานรวมยีนของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ไม่มากก็น้อยเข้าด้วยกันแล้ว” มาร์ตินพูดด้วยท่าทางที่น่ากลัวเล็กน้อย
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อ ……”
“คุณเป็นคนหัวรั้นปากแข็ง เอาอย่างนี้ โดยทั่วไปแล้วในสถาบันวิจัยกล่าวไว้ว่าเซลล์ดัดแปลงจะแฝงตัวเป็นปรสิตเป็นเวลาสามวัน ถ้ายีนของสิ่งมีชีวิตอื่นผสานรวมกันจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นวันนี้ วันที่ 25 คืนนี้จะครบสามวันพอดี คืนนี้พวกเราจะพักกันที่นี่หนึ่งวัน พรุ่งนี้พวกเธอก็จะได้รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่” มาร์ตินสบถจากนั้นก็พูดต่อ
เขาต้องการไปที่อุทยานแห่งชาติตองการิโรเพื่อค้นหายาชนิดหนึ่งที่จะฟื้นฟูคืนร่างมนุษย์ให้แก่เขา และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้จากมหาวิทยาลัยไวกาโต้น่าจะเป็นทีมที่ดีทีเดียว
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!” ฉินข่ายรุ่ยเอ่ย
“ฮึ่ม!” มาร์ตินรู้สึกหน่ายที่จะพูดอะไรต่อ
“ที่จริงฉันคิดว่าเป็นการดีที่จะกลับไปประเทศจีน คุณอ่านข่าวล่าสุดหรือยัง เรื่องนี้เกิดขึ้นในนิวซีแลนด์แห่งเดียวเท่านั้น ถ้ากลับประเทศไปต้องมีอาหารเพียงพอแน่ ๆ อีกทั้งมีสถานที่ที่ปลอดภัยอีกด้วย” ฮั้วชิวหยางกล่าวขณะที่มองหน้าทุกคน ข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ในทันทีและอีกหลายคนต้องการกลับไปประเทศจีน
หงฉี่ฮว๋าหันกลับมาหยิบคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปออกจากรถคันเล็กของเธอ จากนั้นก็เสียบการ์ดเครือข่ายไร้สายแล้วเปิดดูอย่างรวดเร็ว
“ใช่ ตอนนี้รายงานบนอินเทอร์เน็ตแสดงให้เห็นว่ามีเพียงสัตว์และมนุษย์ในนิวซีแลนด์เท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนประเทศอื่น ๆ ยังคงปกติดี”
หงฉี่ฮว๋าและคนอื่น ๆ รู้สึกดีใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่ทว่าประโยคถัดมากลับทำให้หัวใจของทุกคนเย็นยะเยือกลง
“ประเทศส่วนใหญ่ในโลกประกาศว่าจะไม่ยอมรับมนุษย์และสัตว์ใด ๆ ที่มาจากประเทศนิวซีแลนด์เป็นอันขาด หากพบเจอพวกเขาทั้งหมดจะถูกกักขังอย่างโดดเดี่ยว” หงฉี่ฮว๋ากล่าวอย่างใจเย็นเธอเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะวางคอมพิวเตอร์แล็บท็อปลงที่โต๊ะหินตรงกลางเพื่อเปิดให้ทุกคนดู หลังจากพวกเขาออกมาจากตลาด ทุกอย่างมันก็อลหม่านไปหมด พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลอัพเดทล่าสุดบนอินเทอร์เน็ตทำให้ไม่คาดคิดว่ามันจะพัฒนาความรุนแรงมาถึงระดับนี้แล้ว
หงฉี่ฮว๋าและคนอื่น ๆ เอนตัวเข้ามาทันทีเพื่อดูข้อความบนคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปอย่างระมัดระวัง สีหน้าท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปราวกับกำลังเผชิญหน้ากับยมทูตแห่งความตาย
“หรือว่าพวกเราจะติดเชื้อเซลล์ดัดแปลงนั่นจริง ๆ ประเทศอื่น ๆ คงกลัวว่าเราจะเอาเซลล์ดัดแปลงไปแพร่เชื้อใส่พวกเขา ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้เข้าไป” ฮั้วชิวหยางบ่นพึมพำ
“พอได้แล้ว ฉันบอกพวกเธอแล้วว่าทั้งหมดนี่เป็นการทดลองที่สนับสนุนโดยประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างลับๆ!” มาร์ตินเยาะเย้ย
“เอาล่ะ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว” ไป๋อี้หยุดกลุ่มคนที่ยังอยากจะโต้แย้ง
“พวกเรามาทำตามที่มาร์ตินพูดกันเถอะ พวกเราพักผ่อนที่นี่สักคืนก่อน และถึงตอนนี้จะไม่มีความรู้สึกถึงพลังงานหรือพลังจิตอย่างในนิยาย แต่ฉันก็รู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของฉันเพิ่มขึ้นมาบ้างเล็กน้อย อย่างตอนที่ฉันและวูล์ฟสามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือของสัตว์ประหลาดตัวนั้น แม้ตอนนี้มันจะรู้สึกเหลือเชื่อมากเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น แต่โดยปกติแล้วความแข็งแกร่งทางกายภาพของเราไม่น่าจะมีมากขนาดนี้” ไป๋อี้ยกตัวอย่าง
คำพูดของไป๋อี้ทำให้ทุกคนในที่นี่ค่อนข้างเชื่อถือเลยทีเดียว และการที่ไป๋อี้ใช้สถานการณ์ของตัวเขาและวูล์ฟที่หนีจากปีศาจอสรพิษยักษ์ได้เป็นตัวอย่าง ก็ยิ่งทำให้ทวีความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^
https://www.kawebook.com/story/6809