[นิยายแปล] มหาวิบัติยีนกลายพันธุ์ - ตอนที่ 104 ทศวรรษใหม่
วันนี้คือ 2021.01.01 ปีใหม่แล้ว!
นับตั้งแต่เซลล์ดัดแปลงแพร่ระบาดในนิวซีแลนด์ก็ผ่านมา 9 เดือนแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ สามารถพูดได้เลยว่านิวซีแลนด์ได้เปลี่ยนแปลงมากขึ้นในทุก ๆ วัน ช่วง 4 เดือนแรก รูปร่างของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอย่างมาก ตอนนั้นเหตุผลที่ทุกคนต่อสู้กันก็เป็นเพราะอาหารและความหิวโหยที่ไม่มีใครต้านทานได้ แต่หลังจากที่เซลล์ดัดแปลงสามารถปรับตัวได้แล้ว พืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในนิวซีแลนด์ก็กลายเป็นอาหารหลักสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดพร้อมกับเป็นการรองรับห่วงโซ่อาหารแบบใหม่ของนิวซีแลนด์
แต่อย่างไรก็ตาม ความสมดุลชั่วคราวนี้ ก็ดำเนินไปได้ไม่ถึงเดือน
หลังจากต้นเดือนที่ 5 สัตว์ประหลาดก็เริ่มเข้าสู่ระยะดุร้าย LV 2 ความแตกต่างของร่างกายกับจิตวิญญาณทำให้สิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไปจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง แม้ว่าอาหารจะไม่ขาดแคลน แต่พวกเขาก็มักจะทำลายและฆ่าฟันกันอย่างไร้เหตุผล สิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก และกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่อันตรายมากขึ้น ระยะดุร้ายนี้ยังมีข้อเสียร้ายแรงอีกอย่างหนึ่ง นั้นก็คือหากชาวมนุษย์ในนิวซีแลนด์ไม่สามารถควบคุมตนเองและตกเข้าสู่ระยะดุร้ายจนคลุ้มคลั่งบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสมบูรณ์
เนื่องจากเซลล์ดัดแปลงเริ่มแพร่กระจายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ดังนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจึงอยู่ใน LV1-2 กันแล้ว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่โหดร้ายที่สุด ทั้งฆ่าและทำลายอย่างไม่มีเหตุผล นิวซีแลนด์ในเวลานี้ไม่มีที่ใดปลอดภัยเลย และสิงที่น่าเศร้าที่สุดก็คือการมองย้อนกลับไปในอดีต เพื่อนพ้องที่แข็งแกร่งและร่วมต่อสู้เกื้อกูลมาด้วยกันได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดไร้สติสัมปชัญญะหลังการการต่อสู้อันน่าเศร้านี้
แต่ยังนับว่าโชคดี ตามข้อมูลที่นำมาโดยไป๋อี้และหยูหานกล่าวไว้ว่าระยะนี้ยังมีวิธีแก้ไขอยู่
1. พืชที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณทำให้จิตใจสงบ
เซลล์ดัดแปลงที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตใม่ได้ทำให้เกิดวิวัฒนาการเพียงแค่สัตว์เท่านั้น ยังรวมไปถึงพืชอีกด้วย ถึงแม้ว่าพืชส่วนใหญ่เมื่อมีวิวัฒนาการแล้วมักจะกลายเป็นพืชที่อันตรายมาก แต่ก็มีพืชหลายชนิดที่ได้กลายเป็นพืชชนิดใหม่ พืชบางชนิดมีฤทธิ์ทำให้จิตใจสงบลง เพราะหากเราพูดถึงการวิจัยเกี่ยวกับยาของมนุษย์ แต่เดิมก็ล้วนได้โดยการสกัดมาจากทั้งพืชและสัตว์ทั้งนั้น นิวซีแลนด์ในตอนนี้กำลังจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้น โดยต้องทำความเข้าใจกับพันธุ์ไม้ใหม่เหล่านี้ตั้งแต่เริ่มต้น
2. จิตใจสงบ และการผ่อนคลายจิตวิญญาณ
จากข้อมูลที่ไป๋อี้ได้รับการยืนยันว่าจิตวิญญาณในร่างกายคนเรานั้นมีอยู่จริง เพียงแค่ก่อนหน้านี้มนุษย์ยังไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้เท่านั้น แต่เมื่อเข้าสู่ระยะหลับใหล LV1-3 แล้ว ก็จะสามารถรับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณที่มีอยู่นี้ได้
มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ถึงจิตวิญญาณและไม่รู้วิธีฝึกมัน แต่หากสามารถทำให้จิตสงบได้ด้วยการผ่อนคลายจิตวิญญาณ ก็จะสามารถขับเคลื่อนจิตวิญญาณให้เข้าสู้ช่วงบำเพ็ญฌาน และสามารถปรับความแตกต่างระหว่างร่างกายและจิตใจได้เร็วขึ้น และยังสามารถย่นระยะเวลาช่วงคลุ้มคลั่งลงได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของจิตวิญญาณได้ ดังนั้นจึงยังไม่มีอะไรมายืนยันแน่ชัด แต่ใครก็ตามที่ทราบข่าวนี้ก็ล้วนเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
อย่างไรก็ตาม ไป๋อี้และหยูหานก็ได้นำข้อมูลมาประกาศโดยที่ไม่ได้ปิดบังอะไร ดูอย่างไรก็ไม่สามารถนึกได้ถึงความประสงค์ร้าย จึงทำให้ผู้คนตั้งใจฝึกท่วงท่ามวยไทเก็กกันต่อไป
3.เครื่องรางที่ทำให้จิตใจสงบ
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่กลมกลืนเข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อมีจิตวิญญาณแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีสิ่งที่ทำให้จิตวิญญาณสงบ แต่ยังไม่มีใครค้นพบมันมาก่อน ตอนนี้แม้ว่าจะยังไม่พบมัน แต่ไป๋อี้และหยูหานก็หวังว่าสักวันหนึ่ง ทุกคนจะสามารถเข้าใจและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของตัวเองได้
……
สุดท้ายนี้ อยากจะขอร้องให้ทุกคนที่ยังอาศัยอยู่อย่างเข้มแข็งนี้ในนิวซีแลนด์ช่วยกันหาวิธีให้ทุกคนกลับไปสู่โลกปกติอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า นอกจากนิวซีแลนด์แล้วที่อื่นในโลกนี้ยังคงปลอดภัยอยู่ การติดเชื้อยังไม่แพร่ไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตามในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง หากยังไม่แก้ไขสภาวะดุร้ายคลุ้มคลั่ง และยังมีรูปร่างหน้าตาแบบสัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับการยอมรับจากมนุษย์คนอื่น หากเวลานี้พวกเขาเดินทางไปยังประเทศอื่นคงเป็นแค่เพียงสัตว์ทดลองเท่านั้น
จำนวนผู้คนในนิวซีแลนด์ตอนนี้ไม่น้อยเลย และทุกคนก็รู้ว่าโลกภายนอกได้เปลี่ยนชื่อนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการแล้วนั้นคือ—เกาะปีศาจ!
แต่ชื่อนี้ก็เป็นที่ยอมรับของมนุษย์ที่เหลืออยู่ในนิวซีแลนด์ทั้งหมดเช่นกัน ไม่มีใครเข้าใจไปกว่าพวกเขาแล้วว่าชื่อนี้มันเหมาะสมขนาดไหน
ถึงแม้ว่าสิ่งมีชีวิตในนิวซีแลนด์จะตกอยู่ในระยะดุร้าย LV 1-2 ทั้งหมด แต่บางครั้งก็มีผู้ทดลองบางกลุ่มแอบหลบหนีออกมาจากสถาบันวิจัย นั่นจึงพิสูจน์ให้เห็นว่าที่ไป๋อี้บอกว่าช่วงระยะหลับใหล LV 1-3 และช่วงการกลายพันธุ์ LV 2 นั้นไม่ได้เป็นเท็จแต่อย่างใด หากเป็นเช่นนั้นมนุษย์ในนิวซีแลนด์จะสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตใหญ่นี้ไปได้อย่างไรกัน!
ไป๋อี้!
หยูหาน!
ต่างเป็นชื่อจีนทั้งสอง และยังเป็นสองคนที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ดัดแปลงในช่วงนี้อีกด้วย ตอนนี้ทั้งคู่ต่างมีชื่อเสียงในหมู่มนุษย์วิวัฒนาการในนิวซีแลนด์ แต่พูดตามตรง ทุกคนต่างอยากพบหยูหานมากกว่า เพราะมีข่าวลือว่าหยูหานมียาที่ทำให้คนฟื้นคืนกลับสู่สภาพมนุษย์ปกติได้– PrototyDrug! ยิ่งกว่านั้นหยูหานยังให้กลุ่มคนที่มีการศึกษาในนิวซีแลนด์มารวมตัวกัน เพื่อหวังว่าจะสามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ยา PrototyDrug นี้อีกด้วย
……
“พวกเขาเป็นคนแบบไหนกันนะ?”
เด็กสาวปิดสมุดบันทึกของเธอ เหลือบดูมือที่มีเกล็ดทั้งสองข้างของตัวเอง จากนั้นก็หันไปมองนกประหลาดที่บินอยู่บนท้องฟ้า ถึงแม้ว่าเจ้านกรูปร่างน่ากลัวขนาดใหญ่ข้างบนนั้นจะดุร้าย แต่เธอก็ไม่กลัว เพราะว่ามันมีขนาดใหญ่ดังนั้นจึงง่ายที่จะหลบมัน เธอกังวลกับกลุ่มยุงยักษ์ที่อยู่ทางด้านข้างมากกว่า กลุ่มนี้มีขนาดมากกว่าครึ่งเมตร เจ้าหลอดยาวของยุงพวกนั้นล้วนเป็นศัตรูตัวฉกาจของสัตว์หลายชนิด
สารละลายที่หลั่งออกมาจากหลอดนั้น สามารกัดกร่อนเนื้อและกระดูกในร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้อย่างรวดเร็ว จนถูกรวมเป็นเนื้อเดียวกันในเวลาเพียงไม่กี่นาที
และนี่คือต้นกำเนิดของยุงปีศาจ
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นสถานที่อันตราย แต่เธอก็ยังคงอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะพื้นที่ใกล้เคียงนั้นก็ไม่ได้ปลอดภัยมากไปกว่ากัน ถ้าถามว่าทำไม นั่นก็เพราะว่าที่นี่ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนล้วนเคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นก็คือ—ภูตผีวิญญาณ!
ใช่แล้วล่ะ มันคือผี!
แม้ว่าหญิงสาวจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เธอมันใจว่ามีบางอย่างที่ล่องลอยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ที่ได้มาเยือนที่นี่ต่างมั่นใจในสิ่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผีหรือเรียกอีกอย่างว่าวิญญาณที่อยู่ที่นี่ได้คอยปกป้องเธอมาตลอด ไม่อย่างนั้นเธอจะสามารถรักษาชีวิตในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร
เมื่อเด็กสาวเดินออกมา ภาพก็ได้ซูมออก นั่นทำให้รู้ว่าที่แห่งนี้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองขนาดใหญ่เมืองหนึ่ง จุดที่หญิงสาวอยู่นั้นเป็นยอดตึกสูงหลายร้อยเมตร แต่ตอนนี้เมืองนี้ได้ถูกปกคลุมด้วยสีเขียวนับไม่ถ้วนและตึกสูงแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยเถาวัลย์กินเนื้อ
————————————————
เวลานี้กลุ่มของไป๋อี้ได้มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว …. เวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ในอดีต!
ขณะนี้สมาชิกในกลุ่มยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีเพียงไม่กี่คน คือ หม่าเมี่ยนชายที่บังเอิญพบระหว่างทางที่ออกจากกลุ่มไปอยู่กับกลุ่มมนุษย์แคระ
หม่าเมี่ยนกับออสตินรู้สึกขอบคุณไป๋อี้มากกับความเอื้ออาทรและการให้ความช่วยเหลือทุกคนในนิวซีแลนด์ แต่เขาไม่อยากเดินทางอย่างไร้จุดหมายอีกต่อไป ในขณะที่ไป๋อี้ได้บอกถึงต้นเหตุของเซลล์ดัดแปลงและการเปลี่ยนแปลงในนิวซีแลนด์ให้กับคนอื่นได้รับรู้ ไป๋อี้และคนในกลุ่มก็ไม่ได้ขัดขวางกับทางเลือกของออสตินแต่อย่างใด คำมั่นสัญญาที่มีกับร่างแม่แบบในสถาบันวิจัยนั้น พวกเขาไม่ได้เอาไปบอกคนอื่น พวกเขาแค่ทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำเท่านั้น
แต่การที่พวกไป๋อี้มาที่นี่ไม่ใช่แค่เพราะเหตุผลเพียงแค่นั้น
“เขามาทำอะไรที่นี่?” วูล์ฟถาม
9 เดือนแล้ว ช่วงแรกที่พวกไป๋อี้ฉีดยา PrototyDrug ก็มีผลข้างเคียงบางอย่าง แน่นอนว่ามันมีผลข้างเคียงเพียง ‘บางอย่าง’ เท่านั้น เมื่อก่อนมันไม่สามารถที่จะแก้ไขการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ได้ อย่างเช่นรูปร่างสูงสี่เมตรของวูล์ฟที่ไม่มีท่าทีว่าจะหดเล็กลงมา แต่ในส่วนของใบหน้าได้กลับมามีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าจะยังหลงเหลือเอกลักษณ์ของสัตว์ชนิดอื่นอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเมื่อมองดูในตอนนี้ก็พอจะมองออกได้ว่าเป็นมนุษย์
คนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าจะยังมีลักษณะบางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่ก็ไม่ถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดไปเสียหมด
“ใครจะรู้ล่ะ ก่อนหน้านี้เขาก็ได้รับรู้อะไรมากมายจากสถาบันวิจัย และดูเหมือนว่าช่วงนี้เขายังได้รับอะไรบางอย่างมาอีก หรือไม่บางทีเขาอาจจะไปรู้เรื่องอะไรที่พิเศษมาก็เป็นไปได้” ไป๋อี้บอก
แน่นอนว่าเขาที่ไป๋อี้พูดคือ หยูหาน หลังจากออกมาจากสถาบันวิจัย พวกไป๋อี้เพิ่งจะได้รู้ว่าหยูหานนำเรื่องของเซลล์ดัดแปลงไปบอกกับคนอื่น ๆ เร็วกว่าพวกเขาเสียอีก คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่าหยูหานคนนั้นจะทำเรื่องดีแบบนี้ได้ด้วยเหรอ มีเพียงแต่พวกไป๋อี้ที่รู้ว่า เจ้าหยูหานคนนี้ ….. ได้เปลี่ยนไปแล้ว!
วิธีการนี้ทำให้เขาได้รับชื่อเสียงมากมาย แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจว่าชื่อเสียงนี้จะเกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ แต่มันคงมีผลอะไรในสักวันหนึ่งนี่แหละ
ตอนนี้หยูหานอยู่อีกมุมหนึ่งของเมือง และมองไปยังเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ข้างกายของเขายังมีกลุ่มคนอีก 9 คนทุกคนล้วนมีรูปร่างเป็นมนุษย์ นอกจากหนิงเสวี่ยที่ติดตามหยูหานอยู่แล้วนั้น อีกแปดคนที่เหลือต่างมีบุคลิกที่แตกต่างกันไป พวกเขาดูแข็งแกร่งมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาดูเหมือนมีความเชื่อใจต่อหยูหานเป็นอย่างมาก
หยูหานในตอนนี้มีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนหน้า มองแล้วเห็นความแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างแท้จริง
ในเมื่อพวกไป๋อี้ไม่ลังเลที่จะบอกข้อมูลของเซลล์ดัดแปลงให้กับคนอื่น ๆ หยูหานก็จะทำแบบเดียวกัน กล่าวได้ว่าหยูหานมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในกลุ่มมนุษย์ที่ได้วิวัฒนาการแล้ว ทั้งยังมากกว่าพวกไป๋อี้ด้วยซ้ำ หากไม่รู้ถึงอดีตของหยูหานและได้เห็นเพียงแต่ปัจจุบันนั้น คงไม่มีใครสามารถนึกถึงหยูหานชายที่น่ารังเกียจเมื่อครั้งอดีตได้เลย
นี่มันก็เป็นเพียงประสบการณ์ในอดีต ตอนนี้ความคิดของหยูหานได้เปลี่ยนไปแล้ว
แน่นอนว่าหยูหานก็รู้ว่าพวกไป๋อี้ตามหาเขาอยู่ แต่หยูหานก็ไม่ได้กลัวอะไร เขาจะรอ!
หยูหานไม่ปฎิเสธว่าเขาก็เป็นคนเลวทรามคนหนึ่ง และเขาก็ไม่ปฎิเสธในสิ่งที่เขาเคยทำ แต่นั้นมันคืออดีต หากคิดว่าเขาจะถูกฆ่าตายเหมือนกับตัวร้ายโง่เง่าในนิยายละก็คิดผิดมหันต์เลยล่ะ เขาน่ะ ยังจะเรียนรู้และเติบโตต่อไป เขายังมุ่งหวังอยากจะเป็นชายที่ก้าวสู่จุดสูงสุดให้ได้