[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 151 ไฟล์ 16 : โรงแรมปนตียานัก [2]
“ความผิดของเหล้าสินะครับ? เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่สุดเลยนะเนี่ย ผมได้ยินว่าคุณค่อนข้างจะคอแข็งอยู่พอควรเลยนี่ครับ”
“ฉันคิดว่าฉันก็ค่อนข้างจะทนได้เยอะอยู่นะคะ แต่วันนั้นฉันต้องดื่มไปจนเกินตัวแน่เลย รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว แถมยังรู้สึกแย่สุดๆ ไปเลยด้วยค่ะ”
“อ่าฮะ แล้วนั่นก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมคุณถึงไม่มีความทรงจำของเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนสินะครับ?”
“นั่นอาจจะเป็นเพราะเมาค้างก็ได้…”
มันเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง แต่นึกย้อนกลับไปมันก็ยังทำให้ฉันรู้สึกแย่อยู่เลย ก่อนที่ฉันจะส่ายหัวไปมา
“ปกตินี่ ความทรงจำมันจะกลับมาทีหลังหรือเปล่าคะ?”
“เรื่องนั้นมันก็แล้วแต่คนนะครับ อย่างของผมนี่ ผมเสียความทรงจำไปทุกอย่างเลย”
“ของคุณมิงิวะนี่เป็นยังไงเหรอคะ?”
“ครั้งแรกที่ผมดื่มจนถึงจุดที่จำอะไรไม่ได้เลยเนี่ย เท่าที่จำได้ ผมอยู่ในเหตุวิวาทกับพวกแก๊งท้องถิ่น จนสุดท้ายก็ตั้งก๊งดวลดื่มเตกิลากัน… ตอนที่ผมตื่นมันก็เป็นตอนเที่ยงตรงแล้ว กำลังนอนอยู่ในคูน้ำเลย ผมจำอะไรไม่ได้เลยว่ามันเกิดอะไรชึ้น แต่ดูจากที่ผมรอดมาได้แล้ว ผมคิดว่าผมก็ต้องชนะนั่นแหละนะครับ”
“เอ่อ ฉันว่านั่นมันออกจะเลยจากช่วงยุคสมัยที่ต้องอดทนไปหน่อยนะคะ…”
“ตอนนั้นผมก็ยังเด็กน้อยล่ะนะครับ น่าอายจังเลย”
คุณมิงิวะว่ามาแบบนั้น พร้อมกับเกาคอตัวเองอย่างประหม่าๆ
ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาทำอะไรเมื่อหลายๆ ปีก่อนหน้านี้ แต่มันก็แปลกๆ ดีที่เรื่องสุดหลุดโลกนั่นมันเป็นคำตอบกลับมาจากคำถามที่ออกจะธรรมดาๆ แบบนั้นน่ะ หวังว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นมากกว่านะ
“ตอนที่ดื่มจนเมาไม่รู้เรื่อง คุณอยู่กับใครด้วยหรือเปล่า? ทำไมไม่ถามจากพวกเขาดูล่ะครับ?”
“ฉันถามแล้วค่ะ แต่เธอไม่บอกฉันเลย”
“คุณนิชินะน่ะเหรอครับ?”
“อึม ใช่ค่ะ”
“อ่า ฮะ…”
“นี่เป็นแค่การเดาของฉันเฉยๆ นะคะ แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยว่าตัวเองต้องทำเละ หรือไปทำอะไรซักอย่างที่ไม่ควรจะทำลงไปแน่ๆ เลย”
“เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปจนดาดดื่นเลยครับ จริงสิ ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมไม่ลองขอคุณโคซากุระถามให้แทนล่ะครับ?”
“เรื่องคือ คุณโคซากุระเองก็ไปดื่มกับเราด้วยเหมือนกันค่ะ”
“ได้ลองถามดูหรือยังครับ?”
“ถามแล้วค่ะ แล้วก็แน่อยู่แล้ว เธอไม่บอกอะไรฉันเลยซักอย่างเลย”
“แบบนี้เอง… แล้วได้ถามคนอื่นๆ ด้วยแล้วหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีใครยอมบอกเลยค่ะ”
“อ่าฮะ”
“ไม่มีใครพูดอะไรเลยซักคำ ไม่มีใครเล่าเลยค่ะว่าฉันทำอะไรไปกันแน่”
“แบบนี้… เอง”
เขาดูจะ ‘แบบนี้’ บ่อยจังเลยนะ
“ดูจากช่วงเวลานี้ของปีด้วย นี่เป็นปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า หรือปาร์ตี้ปีใหม่สินะครับ?”
“มันเป็น ปาร์ตี้… ค่ะ”
ฉันงึมงำบอกเขาไป
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยได้ยินเลย”
“ปาร์ตี้สาวๆ ที่เลิฟโฮเทลน่ะค่ะ”
ฉันเอามือขึ้นมาปิดหน้าพร้อมกับถอนหายใจ
“อ่าฮะ… แบบนี้เอง”
ใช้เวลาซักพักนึงเลยกว่าคุณมิงิวะจะตอบกลับมา แต่บางที นี่อาจจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วก็ได้
มันเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเริ่มปีเลย—ให้เป๊ะๆ ก็ 2 มกรา ฉันกับโทริโกะนัดกินราเมงกันที่อิเคบุคุโระ ไปช็อปปิ้ง แล้วก็สนุกไปกับบรรยากาศสบายๆ ของช่วงปีใหม่ ระหว่างที่เราเดินส่องเสื้อผ้าในเทศกาลลดราคารับปีใหม่กัน โทริโกะก็หยิบเรื่องที่ฉันกลัวอยู่ขึ้นมา
“อ้อ จริงสิ เราจะจัดปาร์ตี้เลิฟโฮเทลเฉพาะสาวๆ ตอนไหนดีล่ะ?”
“อึก… นี่เธอยังจำเรื่องนี้ได้อยู่เหรอนั่นน่ะ?”
“ยังกับว่าฉันจะลืมได้งั้นแหละ ฉันตั้งตารอเรื่องนี้อยู่ตลอดเลยนะ”
ตอนที่เราไปค้างคืนในเลิฟโฮเทลในโลกเบื้องหลังกัน พวกเราก็เถียงกันอย่างนานเลยว่าปาร์ตี้สาวๆ ในเลิฟโฮเทลจริงๆ แล้วมันควรจะเป็นยังไงกันแน่ เพราะเราไม่มีใครซักคนที่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างมันเลยมีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น แต่ระหว่างที่ยังคุกกรุ่น ฉันก็ดันหลุดปากโพล่งออกไป
“ได้! ถ้างั้น ไว้กลับไปเมื่อไหร่ก็ไปจัดกันเลย! ไม่ใช่ที่ซากตึกร้างโง่ๆ นี่! ไปงานปาร์ตี้ผู้หญิงที่เลิฟโฮเทลจริงๆ กันเลย!”
“ได้สิ ไปกันเถอะ”
“เอาจริงเหรอ?”
แล้วก็นั่นแหละ สาเหตุที่ทำให้ฉันได้มาอยู่ในสถานการณ์วุ่นวายแบบนี้น่ะ ฉันหวังว่าเธอจะลืมๆ มันไปซะด้วยซ้ำ… ฉันก็แค่เถียงไปเถียงมาเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอเอาจริงเอาจังกับมันแบบนี้ซักหน่อย…
“แล้ว เราจะไปกันตอนไหนดีล่ะ?”
“อุหวาาา…”
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงน่ะ?”
“เอ่อ… รอให้มันอุ่นกว่านี้ซักนิดนึงดีมั้ย? แบบว่า มันหนาวอะนะ?”
“เรื่องหนาวมันเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย? มันไม่ได้หนาวขนาดที่เราจะออกมาข้างนอกไม่ได้ซักหน่อย”
“ก็ ไม่หรอก แต่แบบว่า ถึงงั้นก็เถอะ”
“เธอบอกว่าเธอจะไปนะ โซราโอะ เธอเป็นคนพูดเองนะ”
“ฉัน…”
“…”
“ใช่ ฉันพูด”
“เยี่ยม”
โทริโกะพยักหน้าตอบด้วยสีหน้าพึงพอใจ ก่อนจะพูดต่อแบบที่ยังกุมความได้เปรียบเหนือฉันเอาไว้อยู่
“แล้ว เธอก็จะไปสินะ ถูกมั้ย?”
“อึก…”
โอ้ ให้ตายเถอะ ยัยนี่ไม่ยอมลดราวาศอกเลยแฮะช่วงนี้เนี่ย ตอนที่ออนเซ็น ยัยนี่ก็ทำตัวมีพิรุธสุดๆ แล้วตอนนี้ก็มาทำตัวได้ใจเอาใหญ่เลยอีก…
เหวอ เดี๋ยวก่อนสิ
อย่าบอกนะว่ายัยนี่ไม่รู้น่ะว่าปกติที่เลิฟโฮเทล คนเขาไปทำอะไรกัน ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก ใช่มั้ย? แต่ก็นั่นอีกแหละ โทริโกะไม่รู้ว่าออนเซ็นในญี่ปุ่นต้องทำอะไรยังไงเลยนี่นา เรื่องนี้มันก็เป็นไปได้ล่ะนะ นี่ฉันควรจะลองเช็คดูดีมั้ยเนี่ย? แต่ ถ้ามันเป็นแบบนั้นล่ะ…
ฉันคิดแบบนั้นพลางจ้องไปที่หน้าของโทริโกะ แล้วพวกเราก็สบตากัน
“มีอะไรเหรอ?”
ไม่ไหว… ถามไม่ได้อะ ไม่ไหวจริงๆ กลัวเกินจนถามไม่ออกเลย
ถ้าเธอตอบมาว่าเธอไม่รู้ ฉันก็ต้องอธิบายให้เธอน่ะสิ แล้วถ้าเธอรู้ ฉันก็ไม่มีทางให้หนีแล้ว
เอ๋? นี่โดนรุกจนแล้วเหรอ?
ระหว่างที่โทริโกะกำลังรอคำตอบกลับจากฉันอยู่ ฟันเฟืองในหัวของฉันก็กำลังหมุนปั่นอย่างเร็วจี๋เลย
เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวสิ แบบนี้ชักท่าไม่ดีแล้วนะ ไม่ดีเลย เธอกุมการควบคุมบทสนทนาเอาไว้แล้ว ถ้าฉันจะหลุดออกจากเรื่องนี้ได้ ฉันต้อง…
ฉันสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดปากพูด
“โอเค ได้ ไปกันเถอะ”
“โอเค!”
เธอดูจะดี๊ด๊าสุดๆ ไปเลยแฮะ…
“เธออยากจะไปตอนไหนล่ะ? ไปตอนนี้เลยฉันก็โอนะ!”
“วันนี้!? ไม่มีทาง ไม่ใช่วันนี้แน่ เราคงต้องทำเรื่องจองด้วย ไหนจะเรื่องนู่นนี่นั่นอีก”
“อ้อ”
เท่าที่ฉันจำได้ เขามีให้จองจัดปาร์ตี้สาวๆ ที่เลิฟโฮเทลอยู่ คิดว่านะ ไม่ใช่ว่าฉันรู้หรอก เรื่องพวกนี้สำหรับฉันแล้วมันก็ไม่ได้ชัดเจนซักอย่างเลย
“เดี๋ยวฉันทำเรื่องจองเองนะ เพราะงั้น…”
“เธอจะจัดการเหรอ? โอเค งั้นขอฝากด้วยนะ”
“แค่ส่งวันที่เธอไม่สะดวกมาทางข้อความทีหลังก็พอ จะติดอะไรมั้ยถ้าฉันจะเลือกสถานที่กับคนเข้าร่วมเองน่ะ?”
“ได้เลย เธอจัดการได้เลยนะโซราโอะ จะยังไงก็—”
โทริโกะเริ่มจะพูด แต่แล้วเธอก็หยุดกึกไปพร้อมกับสีหน้างุนงงบนหน้าเธอ
“คนเข้าร่วม? ก็มีฉัน มีเธอ…”
“แล้วก็คุณโคซากุระไง”
พอฉันเติมชื่อเพิ่มขึ้นมา โทริโกะก็มองมาที่ฉันตาเบิกโพลงเลย
“ทำม—”
ฉันไม่ให้โอกาสเธอได้เถียงกลับมา พร้อมกับพูดต่อมาเลย
“แล้วก็ ชวนอาคาริกับนัตสึมิมาด้วยแล้วกันนะ 5 คนนี่ก็น่าจะพอแล้ว”
“เอ๊ะ? เฮะ? ไหงงั้น?”
ตอนที่โทริโกะกำลังงงจนพูดอะไรไม่ถูก ฉันก็ยังทำทีท่าเหมือนรู้ทุกอย่างไปหมดเอาไว้อยู่แบบนั้น
“ทำไมเหรอ? ก็เพราะเป็นปาร์ตี้เฉพาะสาวๆ ใช่มั้ยล่ะ? เขาว่ายิ่งคนเยอะก็ยิ่งสนุกนี่”
“มันไม่ช—”
“แพลนปาร์ตี้สาวๆ ที่เลิฟโฮเทลน่ะ เขาก็ตั้งใจทำไว้ให้คนกลุ่มใหญ่ๆ อยู่แล้วนะ”
“เป็น… งั้นเหรอ?”
“ใช่ เป็นงั้นแหละ”
ก็ไม่ใช่ว่าฉันรู้หรอก เอาจริงๆ ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยด้วยซ้ำว่าพวกเราแค่ 2 คนก็เข้าไปกันเองได้แล้ว
“แบบว่า ถ้าเป็นแค่เรา 2 คน มันก็ไม่ใช่ปาร์ตี้เฉพาะสาวๆ ที่เลิฟโฮเทลแล้วสิ มันแบบว่า เออ เป็นของอย่างอื่นไปแล้วน่ะ รู้ใช่มั้ย? เพราะงั้น ก็ไปสนุกกันในกลุ่ม 5 คนกันเถอะ…”
พอฉันพูดเรื่องนู่นนี่ที่ตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นจริงๆ โทริโกะก็มองมาที่ฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่
“อะไรเหรอ? มองแบบนั้นหมายความว่าไงน่ะ?”
“ไม่แฟร์เลยนะ โซราโอะ”
“อะไรล่ะนั่น ที่เธอว่าไม่แฟร์น่ะ?”
“…”
“เธออยากจะยกเลิกเรื่องนี้ไปหรือเปล่า?”
“ไม่แฟร์เลย! เราไม่ยกเลิกเรื่องนี้เด็ดขาด!”
อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ
จะยังไงก็ตาม ก็เพราะแบบนั้นแหละที่สุดท้ายแล้ว ฉัน โทริโกะ คุณโคซากุระ อาคาริ กับนัตสึมิก็จัดปาร์ตี้สาวๆ ที่เลิฟโฮเทลกันจนได้ ตอนที่ฉันอธิบายมาถึงตรงนี้ คุณมิงิวะก็มีสีหน้าอึ้งๆ ขึ้นมาเลย
“ผมเป็นคนพูดเองก็ออกจะอึกอักอยู่นะครับ แต่นี่ใช่เรื่องที่คุณควรจะพูดกับผมจริงๆ น่ะเหรอ?”
“สารภาพตามตรง ฉันก็ลังเลอยู่นะคะ แต่ฉันมองว่ามันคงดีแล้ว”
ฉันบอกเขาไปแบบนั้น คุณมิงิวะก็เลิกคิ้วข้างนึงขึ้น
“แล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ?”
“ถ้าเป็นเรื่องแค่ว่าฉันทำอะไรน่าอายลงไป หรือทำตัวน่าขายหน้า แบบนั้นมันก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่…”
โอเค ไม่หรอก นี่มันไม่ได้ไม่เป็นไรเลยซักนิดล่ะนะ แต่ว่า…
“ฉันกังวลเรื่องตาขวาของฉันที่สุดแล้วค่ะ”
ฉันบอกเขาพร้อมกับชี้ไปที่ตาข้างขวาของตัวเอง
“หลักๆ เลยคือ ฉันห่วงเรื่องว่าตาขวาของฉันมันอาจจะไปทำอะไรกับทุกคนระหว่างที่ฉันเมาก็ได้น่ะค่ะ…”
TN: ถ้าผมเป็นมิงิวะ ผมก็คงงงๆ เหมือนกันมั้งครับ ต้องมาฟังเรื่องอะไรพวกนี้เนี่ย
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r