[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 137 ไฟล์ 15 : ค้างคืนที่โลกเบื้องหลัง [1]
- Home
- [นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 137 ไฟล์ 15 : ค้างคืนที่โลกเบื้องหลัง [1]
ช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกา หลังจากผ่านช่วงสอบมาแล้ว ในที่สุด พวกเราก็ไปรับเจ้ารถ AP-1 ที่ยกเครื่องมาใหม่เอี่ยมได้ซักที พวกเราเอามันกลับมาที่บ้านของคุณโคซากุระอีกรอบนึง แล้วฉันกับโทริโกะก็มาฟังคำอธิบายจากนัตสึมิกัน
“ก็ อย่างที่คิดล่ะนะคะ กลายเป็นว่าแค่เปลี่ยนเครื่องยนต์เฉยๆ มันไม่พอจริงๆ ด้วย เพราะแบบนั้น ฉันก็เลยเริ่มจากการเปลี่ยนมันทั้งโครงตัวรถไปเลย ฉันไปมองหาพวกเศษชิ้นส่วนอะไหล่จากรถเกี่ยวนวดข้าว แล้วก็เปลี่ยนตีนตะขาบไปทั้งเส้น… บอกก่อนเลยนะคะ นี่มันงานที่ยุ่งยากเป็นบ้า ที่จะพูดคือ ฉันจะขอไม่ยุ่งกับไอ้ของอะไรแบบนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 แล้วนะคะ”
“นั่นสินะ รู้สึกว่ามันจะถึกทนขึ้นเยอะเลยนะตอนนี้ ดูอึดดีเลย”
โทริโกะย่อตัวลงไปดูที่ล้อยางตีนตะขาบหนาที่ข้างตัวรถ AP-1 ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างทึ่งๆ
“อ้อ ถึกทนสมใจเลยล่ะ ส่วนตีนตะขาบที่ขยับได้จะจมไปในดินตามจุดที่พื้นที่เอื้ออำนวย ช่วยให้การจะขับไปบนพื้นที่ที่ไม่สม่ำเสมอทำได้ง่ายขึ้นมาประมาณนึงเลย”
นัตสึมิยืนเอามือ 2 ข้างเท้าที่เอวของชุดจั้มสูท พร้อมกับยืดอกขึ้นมา น้ำเสียงของเธอฟังดูห้วนๆ แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภูมิใจ
“เครื่องยนต์ก่อนหน้านี้ใช้เบนซิน แต่ตอนนี้จะเป็นดีเซลนะ เป็นเครื่องยนต์ 3 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ตอนนี้ต้องใช้เป็นน้ำมันดีเซลแล้ว ระวังอย่าไปเติมน้ำมันผิดตัวเชียว”
“เข้าใจแล้ว”
ฉันพยักหน้าตอบรับพลางสำรวจดูรอบๆ เจ้ารถของพวกเราที่ยกเครื่องมาใหม่กิ๊ก เครื่องยนต์―ที่เคยอยู่ใต้ฝาปิดสีขาวเหนือรางล้อข้างขวา―ถูกเอาออกไปแล้ว แล้วก็มีเครื่องยนต์ลูกใหญ่วางอยู่ตรงกลางระหว่างล้อตีนตะขาบข้างซ้ายกับขวาแทนที่มัน ดูเหมือนว่าพอพวกเราไม่ได้จำเป็นจะต้องเอามันไปวิ่งที่คันไร่ยาสูบอยู่แล้ว เธอก็เลยเอาพื้นที่ข้างล่างนั่นไปใช้ซะเลย แล้วก็เอาเครื่องยนต์วางไว้ตรงนั้นเพื่อให้ตัวรถสมดุลด้วย
“พวกเราวิ่งได้เร็วแค่ไหนน่ะ?”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปถาม เพราะเหตุผลหลักข้อใหญ่ที่ฉันขอให้นัตสึมิช่วยแต่งรถ AP-1 นี่ก็เพื่อแก้ข้อเท็จจริงที่ว่าการเดินทางของพวกเรามันยังแตะๆ อยู่ที่ 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่เลย
“ความเร็วปกติก็อยู่ที่ 10 โล เร็วสุดก็ 15”
“แค่นั้นเองเหรอ?”
ฉันหลุดถามออกไปแบบนั้น นัตสึมิก็หันขวับมามองตาขวาง
“ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยนะคะรุ่นพี่ แค่ 10 โลนี่ก็เพียงพอจะทำให้เวลารุ่นพี่ขับไปชนอะไรก็ส่งให้รุ่นพี่ลอยกระเด็นออกไปจากเก้าอี้ได้แล้ว เจ้านี่มันไม่มีกระทั่งเข็มขัดนิรภัยดีๆ ด้วยซ้ำ มีแค่ไอ้สายน้อยๆ ไว้พันรอบเอวเอาไว้แค่นั้นเอง”
“อ้อ จริงด้วยสิ”
“ค่ะ มันต้องจริงด้วยแล้วล่ะ เจ้ารถนี่ตัวมันก็เบาอยู่แล้ว ด้วยเครื่องยนต์ขนาดเท่านี้ รุ่นพี่จะขับมันไปถึง 30 หรือ 40 ก็ยังได้ แต่รุ่นพี่จะเอาไปขับแบบออฟโร้ดใช่มั้ยล่ะ? งั้นก็อย่าทำแบบนั้นเลย”
“10 โลนี่มันเร็วแค่ไหนเนี่ย?”
โทริโกะลุกขึ้นยืนแล้วก็หันมาถาม
“เทียบประมาณนั่งจักรยานไฟฟ้าที่พวกป้าๆ ใช้กันก็ได้อยู่นะ”
“โอ้ ช้าเหมือนกันนะนั่นน่ะ?”
“10 โลที่ว่านั่นน่ะออฟโร้ดนะ โอเคมั้ย?”
“อ้อ งั้น นั่นมันก็สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอนั่นน่ะ?”
โทริโกะร้องออกมาอย่างประหลาดใจ นัตสึมิก็ยักไหล่แบบ ในที่สุดก็เข้าใจได้ซักทีนะ
ซึ่ง ฉันก็ถามเธอไปอย่างอึกอัก
“ล- แล้ว… นี่ฉันติดเงินเธออยู่อีกเท่าไหร่น่ะ?”
นัตสึมิขมวดคิ้ว เม้มปาก นิ่งคิดไปพักนึง ก่อนจะตอบกลับมา
“100,000 เยนก็พอแล้วล่ะ สำหรับอะไหล่”
“เอ๊ะ…? พอแล้วเหรอ?”
“ก็ นั่นก็เป็นเงินที่ฉันตั้งใจจะเก็บเท่านี้ตั้งแต่แรก แค่นี้ก็พออยู่แล้ว”
ไม่ นี่เธอขาดทุนอยู่ชัดๆ เลย ฉันคอยให้เธอรับงานนี้ไปที แล้วก็ขอให้ละค่าแรงของเธอไปเป็นรางวัลสำหรับที่พวกเราไปช่วยเธอเรื่องของซันนุกิคันโนะก็จริง แต่พอตอนนี้ได้เห็นว่าการปรับแต่งรถมันเป็นงานใหญ่ขนาดไหนแล้ว มันก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดขึ้นมาเลย
ระหว่างที่ฉันยืนอยู่ตรงนั้นพลางคิดว่าควรจะทำยังไงดี โทริโกะที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างซ้ายของรถก็พูดขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันจ่ายด้วยคนนะ จ่ายเท่ากับที่โซราโอะจ่ายนั่นแหละ เพิ่มเงินเข้าไปอีกเท่านึงก็จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่เข้าเนื้อไปได้ซักนิดนึงก็ยังดีใช่มั้ยล่ะ?”
“ว่าตามตรง มันก็ ใช่นะ”
“โอเค งั้นก็เอาแบบนั้นแล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ในเมื่อฉันเป็นคนต้นคิดยื่นเรื่องนี้ไปให้นัตสึมิ ฉันก็เลยตั้งใจจะรับภาระเรื่องเงินเอาไว้เองคนเดียว ฉันก็เลยลังเลอยู่กับเรื่องนี้
“แน่ใจเหรอ?”
“แน่นอนสิ นี่มันของพวกเราทั้ง 2 คนอยู่แล้วนี่นา”
โทริโกะตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มยิงฟันมาให้
เป็นตอนนั้นเองที่นัตสึมิพูดขัดขึ้นมา ดูจะอารมณ์เสียหน่อยๆ ด้วย
“ใช่ นี่เป็นรถของพวกรุ่นพี่ เพราะงั้นก็เรียนรู้การซ่อมแซมบำรุงรักษากันเองด้วยล่ะ โอเคมั้ยคะ? ถ้าเกิดทำมันพังวินาศสันตะโรไปล่ะก็ ลากมาที่อู่ของฉันก็ได้ แต่ในเมื่อจะเอาไปขับกันในที่ออฟโร้ด ก็คงจะมีปัญหายิบๆ ย่อยๆ เยอะน่าดูเลย…”
ฉันกับโทริโกะตั้งใจฟังนัตสึมิอธิบายว่าควรจะทำยังไงเวลาที่ตัวรถเครื่องยนต์กลไกมีปัญหา ฉันจดโน้ตเอาไว้ก่อน แต่อะไรที่เขียนเป็นอักษรที่ฝั่งนี้ มันก็เอาไปอ่านที่โลกเบื้องหลังไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้น ฉันก็เลยจำเป็นต้องเก็บเอาไว้ในหัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การที่พวกเรา 2 คนตั้งใจฟังกันอย่างจริงจังมันทำให้นัตสึมิงงๆ อยู่ก็จริง แต่ถ้าเกิดรถ AP-1 ไปพังอยู่ที่โลกเบื้องหลังล่ะก็ การซ่อมมันจะเป็นเรื่องของความเป็นความตายได้เลย
หลังจากที่เลคเชอร์ของเธอจบ นัตสึมิก็ปีนขึ้นเบาะคนขับของรถบรรทุกที่เธอใช้ขับมาที่นี่ แต่ดูเหมือนเธอจะยังงงๆ อยู่ ก็เลยพูดขึ้นมา
“คือ อาจจะดูแปลกๆ ที่มาถามเอาป่านนี้ แต่หลังจากที่สั่งของแปลกๆ แบบนี้มาแล้วนี่… คิดจะเอารถนั่นไปขับที่ไหนเนี่ยคะ?”
“เรามีที่ดีๆ อยู่น่ะ ไม่มีใครไปที่นั่นอยู่แล้ว ไม่ไปสร้างปัญหาให้ใครหรอก”
“อ้อ เหรอ? เป็นที่ที่ดี แล้วก็ปลีกวิเวกเลยสินะ?”
“ใข่ ประมาณนั้นแหละ”
“หืม ยังไงก็ ระวังตัวกันด้วยก็แล้วกันนะคะ? ถ้าเกิดมีหมีโผล่มา มันวิ่งเร็วกว่ารถนั่นแน่…”
ระหว่างที่เรามองดูรถบรรทุกของอู่ซ่อมรถอิชิคาวะขับผ่านไป ฉันกับโทริโกะก็หันมามองหน้ากัน
“เธอว่าหมีแหละ”
“ฉันไม่อยากขับไปเจอหมีเลยนะ”
โทริโกะพูดแซว
“อื้อ ตาฉันกับมือเธอคงทำอะไรมันไม่ได้แหงๆ…”
“อย่างน้อยก็ยังลองใช้ตาเธอดูได้อยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าตามันจะทำอะไรได้ ก็คงเปลี่ยนจากหมีธรรมดาๆ ให้เป็นหมีบ้าเท่านั้นแหละ”
ฉันขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ตัวขวาของ AP-1 แล้วก็สตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงหึ่งๆ จากข้างในมอเตอร์ดังขึ้นมา ตามด้วยเสียงระเบิดเล็กๆ ควันสีขาว และเสียง *วื้น* ที่น่าพอใจก็ดังตามมา ท่อไอเสียใหม่นี่สุดยอดไปเลยนะ เงียบกว่าของเครื่องยนต์น้ำมันเดิมเยอะเลย
“โอเค เอาไปทดลองขับกันดูดีมั้ย?”
“ไปโลด!”
พวกเราขับ AP-1 ทะลุเข้าไปในโลกเบื้องหลังทางเกทที่โทริโกะเปิดเอาไว้
ไปในที่ที่จะไม่มีใครเข้ามาหา หรือไม่มีอะไรที่อาจจะเข้ามารบกวน―สนามเด็กเล่นของพวกเรา
TN: ก่อนอื่นใด หลังจากที่ส่งรถไปซ่อมตั้งแต่ไฟล์ 13 ในที่สุดก็ไปเอาคีย์ไอเท็มกลับมาจาก Blacksmith ซักที
ตีบวกมาแล้วเรียบร้อย พร้อมบวกกับโลกเบื้องหลังแบบเต็มที่ ^^
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r