[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 135 ไฟล์ 14 : คำเชิญชวนไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน [8.2]
- Home
- [นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 135 ไฟล์ 14 : คำเชิญชวนไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน [8.2]
“รักเธอนะ โซราโอะ”
“ขอบใจนะ รักเธอเหมือนกัน”
ฉันตอบเธอกลับไปแบบไม่ได้คิดอะไร ฉันรู้สึกว่าตัวเองจริงใจกับคามรู็สึกมากกว่าที่เคยเลย การที่พูดเรื่องแบบนี้ที่ตามปกติมันน่าอายเกินกว่าจะพูดออกไปได้นี่ มันก็ไม่ได้กวนใจฉันเท่าไหร่เลยแฮะ
โทริโกะสะอึกขึ้นมา
พอเห็นว่ามันมีอะไรแปลกๆ แล้วฉันหันไปมอง ก็เห็นโทริโกะหน้าแดงจนขนาดเป็นกลางคืนมืดๆ แบบนี้ก็ยังเห็นได้เลย นัยน์ตาที่ฟ้าครามของเธอมีน้ำตาคลอๆ สั่นๆ อยู่ด้วย
โอ๊ะ! ความร้อนจะทำให้เธอฟุบอีกแล้วนี่ ฉันคิดแบบนั้น แต่ ‘เสี้ยววินาที’ ต่อมา ฉันก็รู้สึกได้ว่ามือขวาของเธอแตะๆ บนมือซ้ายของฉัน, ควานๆ หา ก่อนจะจับเอาไว้
ฉันรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ขยับตัวไม่ได้เลย
“พูดจริงเหรอ?”
เสียงของเธอดูจะแหบๆ นิดๆ ด้วย
“หมายถึงแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
จู่ๆ ไม่ทันพูดพล่ำทำเพลง ฉันก็มาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งน่ากลัวทั้งอันตรายอีกแล้ว
มันเหมือนกับว่าพวกเราจับมือกันอยู่ตรงขอบเหวที่ หลังจากที่ตกลงไป จะไม่มีทางกลับขึ้นมาได้อีกเป็นครั้งที่ 2 ไม่รู้เลยว่ามือพวกนั้นจะดึงพวกเราขึ้นมาจากปากเหว หรือลากพวกเราลงไปทั้งคู่กันแน่
ฉันเหม่อมองโทริโกะ ดูตาของเธอที่จ้องตรงมาที่ฉัน เหมือนกับคำพูดของเธอเองมันจะทำให้เธอช็อกไปเลยนะ พอรู้สึกได้ว่าคำพูดต่อไปของันมันอาจจะทำให้เธอหน้ามืดเป็นลมล้มตึงไปเลยก็ได้ ลิ้นของฉันมันก็แข็งไปหมดเลย
ฉันมองตรงไปในตาของโทริโกะ แล้วก็พยักหน้าไปอย่างหวาดๆ
มือของเธอที่กุมมือฉันอยู่มันกำแน่นขึ้น ตาของเธอเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม การหายใจของเธอตื้นและถี่รัวเหมือนกว่าเธอจะกำลังตื่นตระหนกอยู่เลย
ฉันนี่งอยู่ตรงนั้น จับมือเธออยู่ ไม่ละสายตาเลย มันคงจะช่วยให้เธอผ่อนคลายลงได้นะ เพราะฉันเห็นไหล่เกร็งๆ ของโทริโกะดูจะค่อยๆ ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว
ฉันยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จะสบายใจได้หรอกนะ แต่ตอนนี้ โทริโกะเป็นคนที่อยู่ในอันตรายมากกว่าซะอีก เพื่อจะให้เธอสงบลง ฉันก็เค้นยิ้มออกมา
โทริโกะเหลือบมองลงมา หยดน้ำหลังขนตายาวๆ ของเธอส่องแสงเป็นประกาย ถูกความสวยของเธอดึงดูดอย่างอดไม่ได้เลย
สายตาของเธอค่อยๆ ไล่ลงมาตามตัวของฉันช้าๆ ริมฝีปากที่ชุ่มชื้น สีสดใสของเธอก็ปล่อยลมหายใจออกมา
“น-…!”
นะ?
“น- หน้าอกเธอน่ารักดีนะ… โซราโอะ…”
โลกหยุดนิ่งไปเลย ในแบบที่แย่มากล่ะนะ
ฉันจ้องโทริโกะกลับไป ความโกรธมันเดือดทะลักออกมาจากในอกเลย
ในสถานการณ์แบบนี้… นั่นคือเรื่องที่ยัยนี่เลือกจะพูด…? นั่น จากเรื่องที่มีอยู่ร้อยแปดพันเก้าน่ะนะ!?
มาลองย้อนคิดแล้วนี่ ช่วงระหว่างวัน ยัยนี่ก็มองมาทางฉันอยู่บ่อยๆ เลยด้วยนี่นา แถมรู้สึกว่าสายตามันจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าอกฉันด้วย นี่แสดงว่าฉันไม่ได้คิดไปเองสินะ!?
แล้วนี่ฉันอุตส่าห์พยายามเต็มที่จะไม่ไปมองแล้วด้วยนะ!
ยัย นี่หนิ…!!!
ตอนที่ฉันกำลังจะตะโกนใส่โทริโกะแบบดังที่สุดแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็มีร่างๆ นึงเข้ามาอยู่ตรงมุมสายตาของฉันพอดี ฉันเห็นใครซักคนอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำตก ผ่านไหล่ของเธอไปด้วย
โทริโกะที่สังเกตเห็นสายตาของฉันก็รีบหันตามไปดูเหมือนกัน
“อ๊ะ… มีคนอื่นอยู่ด้วย”
เธอหลบสายตาเหลือบไปมองทางด้านข้างอย่างอึกอัก ซึ่งฉันก็จ้องเขม็งใส่กลับไปพร้อมกับปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ แล้วนี่ถ้าแถวๆ นี้ ‘ไม่มี’ คนอื่นอยู่ด้วย ยัยผมบลอนด์ลามกนี่คิดจะทำอะไรเนี่ย?
“เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อน… มันไม่แปลกๆ เหรอ?”
โทริโกะขมวดคิ้ว ถามขึ้นมา
อะไรของยัยนี่เนี่ย? อย่ามาพยายามเฉไฉเปลี่ยนเรื่องนะ!
“คนๆ นั้นเขาไม่ขยับเขยื้อนเลยนี่”
“ฮะ?”
ฉันผ่านไหล่โทริโกะไปอีกรอบ ซึ่งใช่ เธอพูดถูก ฉันคิดว่าคนๆ นั้นต้องเป็นแขกแน่ๆ เพราะคนนั้นเขาแก้ผ้าอยู่ แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้จะลงไปแช่ที่บ่อไหนเลย ยังกับว่าก้าวเท้าค้างไว้ หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นเท่านั้นเอง
ชั่วจังหวะต่อมา ฉันก็เผลอลุกขึ้นยืนเลย
“นั่นไม่ใช่คนนะ”
“เอ๊ะ?”
“หุ่นโชว์เสื้อน่ะ”
โทริโกะเองก็ลุกขึ้นยืนเหมือนกัน ที่รู้สึกหนาววูบๆ นี่ มันเป็นเพราะอากาศตอนกลางคืน หรือเป็นเพราะความกลัวจนขนลุกนี่กันนะ? บอกไม่ถูกเลยแฮะ นั่นมันเป็นหุ่นโชว์เสื้อพลาสติกที่เอามาวางทิ้งไว้บนพื้นปูหินชัดๆ เลย
“ที่นี่มันชักจะแปลกๆ แล้วสิ ออกไปกันเถอะ”
โทริโกะพยักหน้าเห็นด้วย สีหน้าตึงเครียดเลย พวกเราลุกขึ้นมาจากบ่อหิน แล้วก็รีบกลับเข้าไปที่บ่อในร่มทั้งๆ ที่ตัวยังเปียกๆ อยู่เลย
โอ้ ไม่นะ โอ้ ไม่นะ นี่มันเป็นเวลาที่โลกเบื้องหลังพยายามเข้าถึงพวกเราได้แบบเลวร้ายที่สุดเลย ก็แบบ พวกเรา 2 คนตัวเปล่าร่างเปลือยกันทั้งคู่เลยนะ ไม่ตลกเลยซักนิด
“อึก…”
ตอนที่พวกเราเปิดประตูบ่อในร่มออกมา พวกเรา 2 คนก็ร้องออกมาเลย
ทุกคนในบ่อกับจุดล้างตัวถูกแทนที่ด้วยหุ่นโชว์เสื้อหมดทุกคนเลย หุ่นโชว์เสื้อตัวนึงนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกนั่งยอง ถูกจัดเอาไว้อยู่ในท่าเหมือนกับกำลังล้างหัวอยู่, หุ่นโชว์เสื้อตัวนึงกำลังนั่งเงยหน้ามองเพดานแช่อยู่ในอ่างจากุซซี่ พวกมันเป็นหุ่นโชว์เสื้อที่อยู่ที่เดียวกันกับพวกคนอื่นๆ ที่ฉันเห็นก่อนหน้านี้เลย แถมยังอยู่ในท่าทางเดียวกันเป๊ะๆ อีกต่างหาก เป็นไปได้มั้ยเนี่ยว่าพวกเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แค่พวกเราไม่ทันสังเกตเท่านั้นเอง?
พวกเรารีบเดินผ่านประตูบ่อในร่มออกมา เปิดประตูเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เราก็ได้เจอเสียงไดร์เป่าผมเข้ามาต้อนรับ ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังเป่าผมของตัวเองอยู่ตรงอ่างล้างหน้าก็ยังอยู่ที่เดิมเหมือนก่อนหน้านี้เลย แน่นอนว่า คนคนนั้นก็เป็นหุ่นโชว์เสื้อเหมือนกัน ไม่แน่ ไดร์เป่าผมนี่มันก็อาจจะเป่าอยู่ที่เดิมอยู่แบบนั้นมาตลอดเวลาเลยก็ได้ ที่หัวหุ่นข้างนึงมันเหมือนจะอยู่เกรียมๆ อยู่หน่อยๆ ด้วย
พวกเราเปิดตู้ล็อกเกอร์ของตัวเอง พะวงอยู่ตลอดเวลาเลยว่าหุ่นตัวนั้นมันจะหันหัวมา ก่อนจะรีบเช็ดเนื้อเช็ดตัว แล้วรีบๆ สวมยูกาตะของตัวเองเข้าไปโดยไม่ได้ใส่อะไรเอาไว้ข้างใต้ชุดเลย
“ไปกันเถอะ!”
“อื้อ…!”
พวกเราออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็วิ่งกลับมาที่ล็อบบี้ ในความมืด ฉันหันมองไปมา ก่อนจะเห็นว่าโต๊ะรับรองด้านหน้ายังเปิดไฟสว่างอยู่ ซึ่งนั่นก็ช่วยให้ฉันสบายใจขึ้นมา
แต่ชั่วพริบตาต่อมา ฉันก็รู้ตัวแล้วว่านั่นมันเป็นเรื่องผิดพลาดอย่างแรง พนักงานที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์หันหลังให้พวกเรา ขนาดพวกเราวิ่งมาที่โต๊ะแล้ว เธอก็ยังไม่หันหน้ามา ฉันไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องไปเช็คอีกรอบนึงเลยว่าพนักงานเขาก็เป็นหุ่นโชว์เสื้อเหมือนกัน
ตอนที่พวกเราพยายามจะมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องของตัวเอง พวกเราก็ต้องหยุดกึก ภายใต้แสงสีเขียวของป้ายทางออกฉุกเฉิน ไล่ลงไปในโถงทางเดินที่มืดตึ๊ดตื๋อ พวกเราเห็นร่างๆ นึงขวางทางเราอยู่ เป็นหุ่นโชว์เสื้อรูปร่างแบบผู้ชาย ชูแขน งอเป็นตัว W แล้วก็มองตรงเข้ามาที่พวกเรา สวมเสื้อสเวตเตอร์กับหมวกปีกกว้างอยู่
ไม่รู้ว่าตาของฉันมันปรับตามแสงได้ หรือมันกำลังเข้ามาทางนี้ช้าๆ กันแน่ แต่เค้าโครงหน้าของมันเริ่มมองออกง่ายขึ้นแล้ว
พวกเราทิ้งปืนไว้ในห้องพักกันทั้งคู่เลย นี่เราต้องวิ่งฝ่าเจ้าหุ่นตัวนั้นไปเพื่อกลับไปที่ห้องหรือเปล่าเนี่ย?
ไม่สิ เดี๋ยวก่อน
ฉันนึกย้อนไปถึงแผนที่ของโรงแรม แผนผังของที่นี่มันค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่หน่อยๆ เพราะนู่นนี่นั่นที่มันมาสร้างเอาไว้ที่นี่ แต่ถ้าเราจะอ้อมล่ะก็ มันก็มีอีกทางนึง
“โทริโกะ! ทางนี้!”
ฉันดึงมือของเธอมา แล้วก็รีบวิ่งไปตามโถงทางเดินอีกอันนึงที่ออกไปจากล็อบบี้
ทันทีที่ไปถึง ก็มีบันไดเดินลงไปอีกอันนึง ที่ชั้นล่างจะเป็นห้องส่วนตัวห้องใหญ่อยู่เต็มเลย แล้วก็ห้องโถงยาวที่มีประตูฟุซุมะเรียงราย
ตอนที่พวกเราเลี้ยวผ่านหัวเลี้ยวมา ก็มีหมีสตัฟฟ์มาวางขวางทางอยู่ ทำเอาฉันกับโทริโกะสะดุ้งถอยหลังกันไปเลย เฮ้! ไม่ใช่ว่าเจ้านี่มันอยู่ที่ล็อบบี้หรอกเหรอก่อนหน้านี้น่ะ!?
พวกเราแทรกตัวผ่านหมีสตัฟฟ์ที่นิ่งไม่ไหวติงมา แต่ทุกหัวมุมก็มีนกสตัฟฟ์ ไม่ก็กวางสตัฟฟ์แอบเหลือบมองออกมาจากช่องว่างระหว่างประตูฟุซุมะ แล้วพวกมันก็ทำให้ฉันขนลุกได้ทุกรอบเลย เสียงเดียวที่มีในโรงแรมที่เงียบเป็นเป่าสากนี่ มีแต่เสียงสะท้อนก้องของฝีเท้าพวกเรา ไปๆ มาๆ พวกเราก็เดินมาเจอบันไดอีกอันนึง เราได้ยินเสียงหัวเราะกันเอะอะ กับเสียงถ้วยชามกระทบกันดังมาจากชั้น 2 ด้วย มีงานเลี้ยงกันนี่นา!
พวกเราหันมามองหน้ากันอย่างโล่งอก ในที่สุดพวกเราก็มาเจอเสียงของผู้คนซักที ตามปกติ ถ้าฉันต้องเจอเสียงงานเลี้ยงโหวกเหวกโวยวายตอนดึกๆ แบบนี้ก็คงจะโมโหนะ แต่ตอนนี้ ฉันล่ะอยากจะไปชื่นชมพวกเขาจริงๆ เลย
พอฉันมองไล่ขึ้นไปตามบันได ก็เห็นรองเท้าแตะเรียงขึ้นไปเป็นแถวอย่างเรียบร้อยเต็มไปหมดเลย โถงทางเดินจะสุดทางในอีกไม่ไกลนัก และมีประตูฟุซุมะอยู่ที่สุดปลายทางเดิน ประตูนั่นมันเปิดอยู่แง้มๆ แล้วก็มีทั้งเสียงทั้งแสงลอดออกมาด้วย
เป็นตอนนั้นแหละ ที่มีมือข้างนึงยื่นออกมาจากตรงช่องว่างนั่น แล้วก็ปิดประตูฟุซุมะบานนั้นเข้าหากันต่อหน้าต่อตาเราเลย
“เอ๊ะ? เดี๋ยวสิ”
โทริโกะหลุดอุทานออกมา พร้อมกับยื่นมือออกไปที่ประตูบานนั้น ฉันไม่หยุดเธอด้วย พวกเรา 2 คนอยากจะได้ยินเสียงธรรมดาๆ จะแย่อยู่แล้ว ต่อให้จะถูกมองว่าเป็นคนแปลกๆ ที่จู่ๆ ก็พรวดพราดเข้ามาตามอำเภอใจก็ตาม พวกเราอยากจะเจอมนุษย์ธรรมดาๆ ที่กำลังดื่มกัน กินเลี้ยงกัน ก็เท่านั้นเอง
แต่ว่า ทันทีที่โทริโกะเลื่อนเปิดประตูฟุซุมะออก ทั้งเสียงทั้งแสงมันก็หายวับไปหมดเลย
“ไม่จริงน่า”
ฉันพึมพำออกมา งงไปหมดแล้วตอนนี้
ห้องที่เราคิดว่าปาร์ตี้กันอยู่ กลับมืดสนิท มีแต่หุ่นโชว์เสื้อยืนกันแน่นไปหมดเต็มห้องไปหมดเลย
“โซราโอะ! ข้างหลัง!”
โทริโกะตะโกนร้องเตือน พลางชี้ไปทางข้างหลังตรงที่พวกเราเดินผ่านมา พอฉันหันกลับไปมอง ก็เห็นหุ่นโชว์เสื้ออันนั้น ตัวที่ใส่หมวกอยู่ ยื่นส่วนจมูกออกมาจากขอบบันไดที่พวกเราพึ่งจะเดินขึ้นมาด้วย
มันจะมาทันเราแล้ว! ที่เดียวที่เราจะวิ่งไปได้ก็มีแต่ในห้องนี้ พวกเราแหวกทางฝ่ายพวกหุ่นโชว์เสื้อเข้าไป ซึ่งหุ่นมันก็วางกระจายๆ กันอยู่พอควรเลย แล้วกำแพงฝั่งตรงข้ามเองก็เป็นประตูฟุซุมะด้วยเหมือนกัน
ข้างหลังนั่นเป็นห้องมืดๆ อีกห้องนึง ในนั้นก็มีแขนของหุ่นโชว์เสื้อวางกระจายอยู่บนพื้นเสื้อทาทามิเต็มไปหมด เพราะอะไรไม่รู้มันถึงได้มีเสื้อผ้าที่ซักรีดเสร็จเรียบร้อยกองอยู่ข้างๆ พวกมันด้วย แล้วก็มีหุ่นโชว์เสื้อแบบผู้หญิงอยู่ในท่าคลานสี่ขา เหมือนกำลังคลานอยู่ เราเตะเขี่ยๆ พวกแขนที่ขวางทางออกไป แล้วก็วิ่งต่อ
พอเราเปิดประตูฟุซุมะอีกบานนั้นเข้าไป ฉันก็เห็นหลังของผู้ชายในชุดยูกาตะ กำลังนั่งขัดสมาธิหันหลังให้เรา ตรงหน้าของเขามีทีวีจอตู้เก่าๆ เครื่องนึงอยู่ด้วย แล้วมันก็เปิดขึ้นมายังกับว่ารอให้เราเข้ามาในห้องนี่ยังไงยังงั้น แสงสีฟ้ากระพริบปิบๆ อยู่ตรงหน้าของเขา และของพวกเราด้วย…
ฉันใช้ตาขวาของตัวเองมองไปที่ทีวีนั่นโดยสัญชาตญาณ แล้วพอยืนยันได้แล้วว่ามีแสงเรืองสีเงินอยู่รอบมันจริงๆ ฉันก็ตะโกนออกมาดังลั่น
“โทริโกะ! แตะที่ทีวี!”
โทริโกะเข้าใจฉันทันที ตอนที่ฉันสังเกตเห็นมือโปร่งแสงของเธอทิ้งเป็นภาพติดตาอยู่ในความมืดมิดนี่ เธอก็แตะไปที่หน้าจอสีฟ้านั่นแล้ว เธอกำมือแน่น แล้วก็ดึงเข้ามาหาตัว ทำให้แสงสีเงินสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง
ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึกว่าเสื้อทาทามิที่เหยียบอยู่ใต้เท้ามันหายไป แล้วโทริโกะกับฉันก็ร่วงตกลงมา พวกเราร่วงลงไปในความมืดไร้ที่สิ้นสุดโดยที่ยังจับมือกันเอาไว้ตลอด แล้ว―
TN: อ่าว… ช็อตฟีลกันแบบนี้เลยเหรอ… ไรเนี่ย!?
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r