[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 133 ไฟล์ 14 : คำเชิญชวนไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน [7.2]
- Home
- [นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 133 ไฟล์ 14 : คำเชิญชวนไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน [7.2]
“ในนี้ร้อนเหมือนกันนะ เธอว่ามั้ย?”
“ฉันว่าดีเลยนะคะ”
“ฉันก็ว่างั้น”
คุณโคซากุระพูด พลางเหยียดแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นไปเหนือหัวของเธอ
“ฮ่า พอฉันมาอยู่นี่แล้วเนี่ย ออนเซ็นนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”
“ดีใจที่คุณคิดแบบนั้นนะคะ”
“ฉันไม่มีทางมาที่นี่เองหรอก เพราะงั้นก็ขอขอบคุณละกัน…”
“อะไรกันน่ะคะ จู่ๆ ก็พูดขึ้นมา? หมายความว่ายังไงคะเนี่ย?”
“ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละน่า! รับคำขอบคุณจากฉันไปซะ!”
ยากเลยนะที่จะเชื่อ แต่คุณโคซากุระกำลังอารมณ์ดีมากจริงๆ ด้วยล่ะ ในเมื่อตอนนี้โทริโกะทิ้งเราไว้ตามลำพังแล้ว ดูจะเป็นโอกาสดีเลย ฉันก็เลยตัดสินใจใช้โอกาสนี้ถามอะไรบางอย่างที่มันกวนใจฉันมาซักพักแล้วดู
“คุณรู้หรือเปล่าคะว่าเมื่อไม่นานนี้ มีเกทอันนึงมาเปิดที่ข้างห้องฉันด้วย?”
“ฮะ?”
“โทริโกะมาหาฉัน แล้วพวกเราก็จัดการกับมันให้เรียบร้อยจนได้ แต่ฉันจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มันเป็นครั้งแรกเลยค่ะที่พวกมันเข้ามาใกล้กับฉันขนาดนี้ แล้วฉันก็ไม่ชอบใจเลยจริงๆ”
“…อือ”
“ก่อนหน้านั้น ที่ [ฟาร์ม] ฉันเจอวัวหน้าคนพูดกับฉันด้วยค่ะ แล้วมันก็เอารายละเอียดส่วนตัวมากๆ ออกมาได้ด้วย จากชีวิตของฉันเอง”
“นี่เธอเปลี่ยนมาพูดเรื่องเหนือธรรมชาตินี่แบบไหลลื่นยังงี้เลยเหรอ?”
“ในที่สว่างสบายๆ แบบนี้ก็ไม่เหรอคะ?”
“ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นยะ!?”
คุณโคซากุระกำลังจะลุกหนีแล้ว แต่ฉันก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ก่อน
“ป- ปล่อย”
“เรื่องน่ากลัวจบตรงนี้นี่แหละค่ะ ที่ฉันอยากจะถามมันเป็นคำถามเชิงทฤษฎีมากกว่า”
“อะไรล่ะ?”
“คุณคิดยังไงบ้างเหรอคะ การที่ว่าพวกที่โลกเบื้องหลังน่ะใช้วิธีไหนกันในการเลือกว่าจะเข้าไปหาใคร?”
คุณโคซากุระหันมาขมวดคิ้วใส่ฉัน ก่อนจะกลับลงมาแช่ในบ่ออย่างจนใจ ฉันเลยปล่อยแขนของเธอออก
“ก่อนหน้านั้น โซราโอะจัง ขอฉันฟังสิ่งที่เธอคิดก่อนแล้วกันนะ”
“พวกนั้น—ถึงฉันจะไม่รู้ว่ามันเป็น ‘พวก’ หรือเปล่าก็เถอะนะคะ—พยายามจะทำให้พวกเราหวาดกลัว ไล่ต้อนให้กลัวจนเป็นบ้า เพื่อดึงให้สติการรับรู้ของเราผิดเพี้ยนไป”
“ถ้าเธอสมมติฐานไว้ว่าตัวตนจากโลกฝั่งนั้นมีเจตจำนงเป็นของตัวเองล่ะก็ จะพูดแบบนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้นะ”
“อย่างน้อยที่สุด ฉันก็คิดว่ามันเป็นแบบนั้นนะคะ แล้วเพื่อจะทำให้เป้าหมายของพวกมันลุล่วง พวกมันจึงใช้ประโยชน์จากแบบแผนและรายละเอียดของเรื่องเล่าผีต่างๆ ด้วยการส่องเข้าไปในหัวของพวกเรา”
“แล้วพวกมันใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกเหยื่อล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้ ฉันคิดมาตลอดเลยค่ะว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ เพราะเรื่องเล่าผีที่มีการพบเห็นจริงๆ ก็ไม่ได้มีการอธิบายเอาไว้เลยว่าทำไมผู้คนถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประสบการณ์น่ากลัวพวกนั้นได้ พวกเขาก็แค่บังเอิญไปอยู่ที่นั่นพอดี แล้วก็โชคร้ายดันไปเจอกับปรากฏการณ์สยองขวัญพวกนั้นเข้า ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมายไปกว่านั้น ฉันเลยคิดว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากโลกเบื้องหลังมันจะเกิดขึ้นตามแนวโน้มแบบเดียวกันกับที่เรื่องเล่าผีจริงๆ เป็นกัน แต่ว่า…”
ฉันอึกอักที่จะพูดการคาดเดาของฉันไปมากกว่านี้ แต่คุณโคซากุระก็บอกให้ฉันพูดต่อ
“แต่ว่า?”
“เมื่อไม่นานนี้ มันเหมือนกับว่าพวกมันเล็งเป้ามาที่ฉันแบบโจ่งแจ้งมากค่ะ บางที ฉันอาจจะสำคัญตัวเกินไปก็ได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้น 2 ครั้งล่าสุดนี่มันดูเหมือนการหมายหัวตรงๆ มากกว่าจะเป็นแค่อุบัติเหตุเลย”
คุณโคซากุระเหลือบมองไปรอบๆ บ่อกลางแจ้งนี่ นอกจากบ่อหินแล้วก็ยังมีทั้งบ่อน้ำตกแล้วก็บ่อนอนแช่ด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาแอบฟังพวกเราเลยซักคนนะ
“แล้ว [ข้อมูลส่วนตัว] ที่เธอว่านั่นน่ะ มันคืออะไรกันแน่?”
“หน้าของพ่อฉันกับเสียงของย่าฉัน หลังจากที่พวกเขาไปอยู่กับลัทธิค่ะ”
“นั่นมันน่ากลัวสำหรับเธอเหรอ?”
“ก็… ใช่ค่ะ มันน่ากลัว สิ่งที่ฉันคิดว่าทิ้งมันเอาไว้ในอดีตแล้ว อยู่ๆ ก็โดนขุดกลับขึ้นมา ส่วนนึงก็อาจจะเป็นเพราะมันโผล่ออกมาแบบทีเผลอก็ได้ค่ะ แต่มันก็ยังทำให้ฉันกลัวจนตัวสั่นอยู่ดี”
“เจ้าเล่ห์จริงๆ เลยนะนั่นน่ะ”
“ตามนั้นเลยค่ะ ฉันเผลอลั่นลูกตะกั่วใส่มันไปแบบไม่ทันตั้งตัวเลยด้วย”
“อ่า ฉันล่ะเกลียดที่ต้องมาคุยกับเธอจริงๆ ให้ตายสิ”
คุณโคซากุระเงยหน้ามองฟ้าก่อนจะบ่นโอดโอยออกมา
“เรื่องของฉันมีแค่นี้ค่ะ… คุณโคซากุระคิดยังไงบ้างคะ?”
“ฉันมีความคิดนึงนะ สิ่งที่ดูเหมือนเป็นการที่โลกเบื้องหลังพยายามจะเข้ามาติดต่อกับเราน่ะ อาจจะเป็นการสะท้อนถึงสิ่งยึดเหนื่ยวของมนุษย์อย่างเราๆ นี่ก็ได้”
“สิ่งยึดเหนี่ยว?”
“พูดให้เห็นภาพ… ก็ลองคิดอย่างซัทสึกิไง”
เสียงของคุณโคซากุระดูเศร้าๆ นะ ฉันฟังเธอพูดอยู่เงียบๆ ส่วนทางเธอก็พูดต่ออย่างลังเล
“โทริโกะไปที่โลกเบื้องหลังกับเธอ แล้วก็ไปเจอกับอะไรซักอย่างที่มีร่างของซัทสึกิใช่มั้ยล่ะ? แต่เรื่องนั้นน่ะไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันเลย ไม่นานหลังจากที่เธอหายตัวไป ฉันเองก็เป็นห่วงซัทสึกิเหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้จะแบกปืนเข้าไปออกตามหาตัวเธอที่โลกนั้นหรอก ฉันกลัว แล้วฉันก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิจะไปเป็นคู่หูของเธออีกแล้วด้วย เมื่อตอนนั้น เธอก็หมดหวังกับฉันแล้วล่ะ”
วิธีการที่เธอพูดนั่น มันแฝงการดูถูกตัวเองเอาไว้ด้วย ฉันตัดสินใจไปแล้วว่าจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องความรู้สึกของพวกเธอกับอุรุมะ ซัทสึกิอีกแล้วล่ะ พอฉันคิดได้แบบนั้น ฉันก็เลยปัดความคิดพวกนั้นออกไปจากหัวหมดแล้ว
“แสดงว่า นี่โทริโกะไม่ยอมแพ้เรื่องคุณซัทสึกิงั้นเหรอคะ? แล้วเหตุผลที่เราไม่รู้สึกถึงตัวตนของคุณซัทสึกิแล้ว ก็เป็นเพราะความยึดติดของโทริโกะมันเบาบางลงไปแล้ว สินะคะ…?”
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันก็เป็นผลลัพธ์ที่น่ายินดีเลยล่ะ
“ฉันหมายถึง เธอเล่นไปดึงกรามของยัยหนู ASMR ซะหลุด แถมยังขยี้ลูกตา 2 ข้างของแม่เด็กคนนั้นซะต่อหน้าต่อตาพวกเราเลยนะ เจอแบบนั้นเข้าไป เป็นใครใครก็เสียขวัญทั้งนั้นแหละ นั่นน่ะมันสัตว์ประหลาดแน่ๆ ต่อให้มันจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับซัทสึกิก็เถอะ”
คุณโคซากุระสะดุ้ง ก่อนจะหย่อนตัวลงไปอีกจนน้ำท่วมถึงหัวไหล่
“ถ้าตัวตนของโลกเบื้องหลังใช้สิ่งยึดติดของมนุษย์เพื่อเข้าถึงพวกเราล่ะก็ งั้น การยึดมั่นของโทริโกะที่วิ่งตามซัทสึกิที่รุนแรงนั่นก็อาจจะเป็นทางที่ง่ายที่สุดสำหรับพวกมันในการเข้ามาก็ได้นะ แล้วตอนนี้ พอการยึดติดของโทริโกะมันเบาบางลงไป การยึดติดของเธอมันก็อาจจะเด่นออกมามากกว่าก็ได้”
“คุณหมายความว่า มันเปลี่ยนเป้าจากโทริโกะมาหมายหัวฉันแทนเหรอคะ?”
“ฉันคิดว่าตอนนี้ เราควรจะเอาเรื่องที่ว่าตัวตนของโลกเบื้องหลังมันมีเจตจำนงเป็นของตัวเองหรือเปล่าเอาไว้ก่อนแล้วกัน ก็พวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันเลยนี่”
“อืมมม”
ฉันครวญคราง ปาดน้ำที่หน้าออก
“ลำบากจังเลยนะคะ ถ้าสิ่งที่พวกเราต้องเจอเป็น [ปรากฏการณ์] ที่ไม่มีเจตจำนงเป็นของตัวเองล่ะก็ ฉันก็ไม่มีอะไรให้ไปโมโหน่ะสิ”
“แล้วนี่เธอต้องโมโหด้วยงั้นเหรอ?”
“ถ้าฉันไม่โมโห ฉันจะอ่อนแอลงค่ะ”
แล้วคุณโคซากุระก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เหมือนจะสื่ออะไรซักอย่าง
“อะไรเหรอคะ?”
“โซราโอะจัง เธอมองเห็นภาพเงาของซัทสึกิที่โทริโกะมองไม่เห็นได้ใช่มั้ย?”
“ค่ะ”
“โซราโอะจังน่ะ ไม่เคยสนใจใครคนอื่นเลยนอกจากโทริโกะใช่มั้ย?”
“เรื่องนั้นมันเกี่ยวอะไรด้วยเหรอคะ…?”
“ความโกรธเคืองอย่างต่อเนื่องเป็นรูปแบบนึงของการยึดติดนะ ซัทสึกิที่เธอมองเห็นน่ะ มันก็เป็นไปได้นะว่ามันคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการยึดติดของเธอที่มีต่อซัทสึกิ ซัทสึกิที่โผล่ออกมาต่อหน้าโทริโกะที่โลกฝั่งนั้น กับซัทสึกิที่เธอมองเห็น ไม่แน่นะ มันอาจจะเป็น 2 ตัวตนที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้”
พอได้ยินแบบนั้น มันก็ทำเอาฉันสะดุ้งนิดๆ เลย มันอาจจะเป็นเพราะฉันระวังตัวเองก็ได้นะ แต่ก็มีหลายครั้งเลยที่ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองมองหาตัวของอุรุมะ ซัทสึกิในฝูงชน แล้วก็ยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่เลย
“ถ้ามันจะมีอะไรโผล่มาในรูปร่างของซัทสึกิอีก คราวนี้มันอาจจะไม่ใช่เพราะโทริโกะ แต่เป็นเพราะเธอก็ได้นะโซราโอะจัง”
“…นั่นมันไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยนะคะ”
ความคิดเห็นของฉันได้รับการตอบกลับมาเป็นเสียงหัวเราะอย่างถากถาง
“ยังไงซะ ทั้งหมดนี่มันก็แค่การสมมุติเท่านั้นเอง”
ฉันใช้มือ 2 ข้างวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าของตัวเอง
“ถ้าทฤษฎีของคุณถูกต้องล่ะก็ งั้นก็จะแปลว่า… ถ้าฉันสามารถตัดความยึดติดกับอดีตของตัวเองได้ ฉันก็จะไม่ถูกปองร้ายอีกสินะคะ? แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองคิดมากกับ ‘เรื่องนั้น’ ขนาดนั้นนะคะ อันที่จริง ฉันก็ลืมไปแล้วด้วย”
“บางที นั่นก็อาจจะเป็นแค่สิ่งที่เธอคิดไปเอวก็ได้นะ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอก็แค่กดความทรงจำพวกนั้นเอาไว้ก็เท่านั้นเอง”
“คำพูดของคุณนี่ คลุมเครือจังเลยนะคะ”
“ก็อาจจะนะ ถึงยังไงคนคนเดียวที่จะเข้าใจเธอได้ก็มีแค่ตัวเธอเองนี่ ฉันไม่ใช่หมอจิตซักหน่อย”
ความยึดติดกับอดีตของฉันงั้นเหรอ…
นั่นมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก แต่จะใช่แบบนั้นหรือเปล่านะ? ฉันไม่คิดว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นกับฉันมันจะมีอะไรน่าสนใจหรอก ฉันก็เลยไม่ได้มีความรู้สึกว่าตัวเองพยายามจะลืมๆ ความทรงจำบางอันที่มันไม่น่าจำพวกนั้นเลย
แต่ เขาว่ากันว่าคนบ้าไม่มีทางรู้ตัวว่าตัวเองบ้าอยู่ด้วยนี่นา…
ระหว่างที่ฉันคิดอยู่แบบนั้น คุณโคซากุระก็เปิดปากพูดอีกรอบนึง
“ถ้าเธอมีอารมณ์เสียใจหรือโหยหามากๆ มันจะมีช่องว่างมากเข้าไปอีกนะ ไม่เกี่ยวเลยว่าเธอกำลังเจอกับคนด้วยกันหรือตัวตนจากโลกเบื้องหลัง ต่อให้เธอจะลืมมันไปจนกระทั่งตอนนี้ ถ้าเธอเลือกเผชิญหน้ากับอดีตแล้วจัดการเรื่องนั้นให้มันเรียบร้อย ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม ฉันก็ไม่คิดว่านั่นเป็นความคิดที่แย่เลยนะ”
“เผชิญหน้ากับอดีต แล้วจัดการให้เรียบร้อย…”
เธออาจจะพูดถูกก็ได้ ฉันคิดแบบนั้น ก่อนที่คุณโคซากุระเหมือนจะนึกอะไรได้ซักอย่าง
“ไม่สิ เดี๋ยวก่อน ดูจากพวกเธอ 2 คนแล้วเนี่ย เป็นไปได้เยอะมากเลยว่าระหว่างนั้นเธอต้องไปทำอะไรผิดกฎหมายแน่ ฉันถอนคำพูดละ ลืมๆ เรื่องที่ฉันพูดไปเถอะ”
“เ――เอ๋…?”
ลมพัดผ่านเข้ามาตีใส่หยดเหงื่อบนผิวของฉัน ตอนนี้ฟ้ายังสว่างอยู่เลยนะ แต่ฉันก็รู้สึกได้เลยว่าใกล้จะเย็นแล้วตอนนี้
“ยังไม่กลับมาเลยนะคะ”
“ฉันบอกยัยนั่นไปว่ากลับก่อนเราได้เลยก็จริงนะ แต่ว่า… บางที อาจจะไปเป็นลมอยู่ที่ไหนแล้วก็ได้มั้งเนี่ย”
“ฉันว่า พวกเราไปดูเธอซักหน่อยดีกว่าค่ะ”
ฉันกับคุณโคซากุระออกมาจากบ่อออนเซ็นกัน ตัวสั่นขึ้นมาเพราะลมเย็นของฤดูใบไม้ร่วง ในระหว่างที่เรากลับเข้าไปในส่วนอาคารกัน
TN: ขอต้อนรับสู่ Club Friday by D.J.โยซากุระนะ โซราโอะจัง 555
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r