[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 89 คลินิกไม่
“พี่ไฮว่ ตอนนี้เราจะไปไหนกันเหรอ” เมื่อเดินออกจากประตูโรงเรียนมาแล้วอวี้เอ๋อร์ก็ถามขึ้นยิ้มๆ
“แน่นอนว่ากลับบ้านเรากันก่อน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ รถออฟโรดที่ได้มาจากเจี่ยหยวนจอดอยู่ที่ลานจอดรถไม่ไกลจากโรงเรียน สามคนในรถหนึ่งคัน กว้างขวางไม่น้อยเลย
“พี่ไฮว่ สบายนะเนี่ย พี่ใช้ชีวิตได้ไม่เลวเลย” อวี้เอ๋อร์เดินเข้าไปในบ้านพักของกัวไฮว่หลังนั้นจากนั้นก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“ต่อให้ไม่เลวก็คงสู้วังแห่งจันทราของเธอไม่ได้หรอก” กัวไฮว่โอบอวี้เอ๋อร์ไว้ในอ้อมอก “คืนนี้มีเวลาหรือเปล่า”
“ม้าพ่อพันธุ์ ม้าพ่อพันธุ์ตั้งแต่หัวจรดหางเลย ออกมาได้ไม่นาน สันดานก็โผล่มาแล้วเหรอ” อวี้เอ๋อร์พูดพลางหน้าแดงระเรื่อ
“ท่านเซียนอวี้เอ๋อร์ ครานี้ท่านคิดเลอะเทอะเสียแล้ว ข้าแค่อยากให้พลังเซียนของตนฟื้นฟู อยากให้ตอนกลางคืนเจ้ามาลองด้วยกันเสียหน่อย ดูว่าจะเปิดน้ำเต้าของนายท่านนั่นได้หรือไม่”
“ตาบ้า เอาแต่รังแกผู้อื่น” อวี้เอ๋อร์พูดยิ้มๆ “ชีวิตร้อยปี นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น เจ้าเตรียมจะใช้ชีวิตในภายภาคหน้าอย่างไร หรือว่าเราจะใช้ชีวิตในคฤหาสน์เล็กไปตลอด รอให้วังหลังของเจ้าค่อยๆ มีคนถึงสามพันคน”
“ดูเจ้าพูดเข้า เมื่อคืนข้าคิดแล้ว วันเวลาร้อยปี จะว่านานก็ไม่นาน จะว่าสั้นก็ไม่สั้น เราต้องทำเรื่องพิเศษๆ เสียหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “หลายวันก่อนข้าอ่านหนังสือในห้องสมุดฟู่จง ข้ารู้สึกว่าช่วงก่อนที่พวกเรามาใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบายนัก”
“เจ้าอยากเป็นหมอ ขอร้องล่ะ ระดับการใช้มีดของเจ้านั้นข้าว่าพอเถอะ” อวี้เอ๋อร์เบ้ปากพูด ต่อมาจึงได้เข้าใจว่าที่นี่ไม่ใช่สวรรค์ แม้จะบอกว่าความรู้ที่เทพแห่งจิตศึกษาเมื่อครั้งยังอยู่บนสวรรค์นั้นไม่ได้เรื่อง ทว่าที่แห่งนี้คือแดนมนุษย์ คาดว่าจะไม่มีโรคใดขวางกัวไฮว่ได้
“พี่สอง ผมอยากตั้งคลินิก ใช่ คลินิกรักษาคน พี่หาที่ให้ผมหน่อย ไม่ต้องใหญ่ไป ประมาณสามร้อยตารางวาก็ได้” กัวไฮว่ต่อสายโทรหาเจี่ยหยวน เมื่อเจ้าอ้วนเจี่ยได้ฟังความคิดของกัวไฮว่ก็ถึงกับพ่นน้ำชาที่อยู่ในปากออกมา
“น้องสี่ที่แสนดีของฉัน แกก็ไม่ได้ขาดเงินสักหน่อย อย่ามาวุ่นวายกันจะได้ไหม เข้าเรียนก็ว่าไปแต่นี่แกจะเปิดคลินิก คดีความเกี่ยวกับชีวิตคนน่ะพวกพี่ๆ คิดจะช่วยสุดความสามารถก็ทำไม่ได้นะ แกอยู่ไหนเนี่ย เดี๋ยวฉันจะไปหาแก” พูดเสร็จ เจี่ยหยวนก็ยกเลิกประชุมบริษัท แล้วขับรถออกไปทันที
“เจ้าสาม ถ้าแกไม่อยากจะวันๆ เอาแต่ตามเช็ดก้นเจ้าสี่ล่ะก็รีบมาเลย ใช่ เขตคฤหาสน์นั่นแหละ เดี๋ยวฉันจะไปถึงแล้วแกก็รีบมาเลย” ระหว่างทางเจี่ยหยวนต่อสายโทรมาหวังเซิงพร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง
“ให้ตาย เจ้าสี่จะทำอะไรเนี่ย” เมื่อด่าเสร็จ หวังเซิงก็ขอลุงตนเองลาพัก จากนั้นก็ขับรถพาสสาทมือสองบึ่งออกมาจากสำนักข้าราชการ
“คลินิกไม่” กัวไฮว่หยิบปากกาและกระดาษออกมาแล้วเขียนอักษรตัวใหญ่สามตัวว่าคลินิกไม่ จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“พี่ไฮว่ ที่พี่เขียนนี่ชื่อคลินิกเหรอ คลินิกไม่แปลว่าอะไรเหรอ” เซวียนต้าจู้เห็นอักษรที่กัวไฮว่เขียนทั้งสามตัวก็ถามขึ้นเบาๆ
“หกไม่รักษา ไม่รักษาคนไม่กตัญญู ไม่รักษาคนพูดปด ไม่รักษาคนไม่เคารพ ไม่รักษาคนชั่ว ไม่รักษาผู้ไม่ปรองดอง ไม่รักษาผู้ไม่สนในการแพทย์” กัวไฮว่พูดพลางเขียนตัวอักษรเล็กๆ บนกระดาษแถวหนึ่ง
“ตาบ้า ไม่รักษาผู้ไม่สนใจในการแพทย์ นายนี่เพิ่มเงื่อนไขไปซะเว่อร์เลย” อวี้เอ๋อร์มองอักษรที่กัวไฮว่เขียนลงไปพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“น้องสี่ เปิดประตู รีบเปิดเร็ว พี่มาแล้ว” ไม่เห็นหน้าก็รู้ คนที่เสียงดังฆ้องแตกอยู่หน้าประตูก็คือเจี่ยหยวน
“เดี๋ยวหนูไปเปิดประตู” อวี้เอ๋อร์บินไปยังหน้าประตู อยู่ที่โรงเรียนเธอไม่กล้าบินเช่นนี้ ที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง อยากบินก็บินได้
“กัวไฮว่ล่ะ” เจี่ยหยวนไม่ทันมองคนที่อยู่ตรงหน้าชัดเจนก็ถามขึ้นเสียงดัง “คนสวย พี่ชื่อเจี่ยหยวน จอเอี่ยเจี่ย หยวนที่แปลว่าต้นน้ำแห่งชีวิต เป็นซีอีโอของของจวี้เหรินกรุ๊ป นี่นามบัตรพี่ ไม่ทราบว่าเดี๋ยวคนสวยมีเวลาว่างหรือเปล่า เราออกไปคุยกันได้นะ ฉันขาดเลขาคนนึง เธออยากได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย”
“สี่ตัวอันตราย เจี่ยหยวนเจ้าอ้วนบ้ากาม พี่เองสินะ ฮ่าๆ” อวี้เอ๋อร์พูดยิ้มๆ “ที่รัก มีคนคิดจะแย่งของของพี่น่ะ จากกฎแล้วเนี่ย ถ้าลามปามน้องสะใภ้น่าจะต้องโดนสามมีดหกรูใช่หรือเปล่า”
“อะแฮ่มๆๆ เธอบอกว่าเธอเป็นเมียเจ้าสี่เหรอ” เจี่ยหยวนพูดขึ้นด้วยความตกใจ “ให้ตาย เมื่อกี้ถือซะว่าฉันไม่ได้พูดนะ รีบออกมาได้แล้ว” เจี่ยหยวนพูดเสียงดัง
“พี่หยวน พี่มาแล้วเหรอ” เซวียนต้าจู้เดินออกมาจากด้านใน เขามองเจี่ยหยวนก่อนจะพูดเสียงดัง เขามีความประทับใจที่ไม่เลวต่อเจี่ยหยวน
“เจ้าสี่ล่ะ” เจี่ยหยวนถามขึ้นด้วยเสียงดัง
“พี่สอง เจ้าสี่ล่ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เดี๋ยวฉันต้องกลับไปอีก ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย” ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่นั่นเอง รถพาสสาทคันหนึ่งก็มาจอดอยู่หน้าบ้านกัวไฮว่ ส่วนหวังเซิงก็วิ่งเข้าไปในบ้าน
“พี่หยวน เมื่อกี้จีบแฟนน้องชายอยู่เหรอ โชคดีที่ต้าจู้ไม่มีรถ พี่ทิ้งรถเน่าๆ ของพี่ไว่สิ เรื่องนี้ก็เป็นไปตามนี้” กัวไฮว่หยิบพู่กันพลางพูดยิ้มๆ
“ให้ตาย เจ้าสี่ แฟนของแกก่อนหน้านี้ฉันรู้จักหมดนะ แต่คนสวยคนนี้หามาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอก แม่มันเถอะ แกได้คนสวยไปซะหมด” เจี่ยหยวนมองอวี้เอ๋อร์แวบหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น เขาเคยเห็นคนสวยมาไม่น้อย ทว่าเมื่อเทียบกับเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ก็ต้องขุดหลุมฝังลงไป
“อะไรนะ นี่ก็แฟนเจ้าสี่เหรอ” ตอนแรกหวังเซิงก็ไม่ทันสังเกต แต่ในช่วงเวลาที่สังเกตเห็นอวี้เอ๋อร์เขาก็พลันตกอกตกใจ
“พี่ๆ นี่แฟนน้องเอง ต่อไปเจอกันแล้วช่วงสังเกตหน่อย พี่สอง ตอนนี้หลินซวงก็เป็นผู้หญิงของผมแล้วนะ พี่เลิกความคิดก่อนหน้านี้เถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พูดตามตรงนะ ผมอยากเปิดคลินิก พี่สองคิดเรื่องห้องได้เลย ส่วนเรื่องอื่นกับเรื่องติดต่อกับทางการยกให้พี่สามจัดการ”
“เจ้าสี่ ที่ รร.หยางกวงคนสวยเยอะนะ ถ้าฟู่จงไม่ต้องการแกฉันช่วยแกย้ายไปโรงเรียนหยางกวงได้นะ แกล้มเลิกเรื่องคลินิกนี้ก่อนเถอะ ถ้าอยากเปิดคลินิกจริงๆ แกก็ไปทำใบอนุญาตก่อน นี่ไม่มีอะไรเลย ใครก็ไม่กล้าเปิดไฟเขียวให้แกหรอก” หวังเซิงพูดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“น้องสี่ ที่พนันกับแกฉันแพ้แล้วล่ะ เดี๋ยวฉันจะโอนสิบล้านเข้าบัญชีแก บ้านขนาดพันตารางวาที่ถนนอู่เฉินนั่นโลเคชั่นไม่เลวเลยนะ แกอยากได้ที่นั่นเปิดร้านเหล้าหรือเปล่า หรือว่าร้านอาหาร ไม่เพิ่มราคา” นักธุรกิจเจี่ยพูดยิ้มๆ “จะเปิดคลินิก พี่ไม่เห็นด้วยหรอก พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น”
“พี่สอง พี่ยังจำตอนที่เรารู้จักกันได้หรือเปล่า ตอนนั้นพี่อัดผม ผมสู้พี่ไม่ได้สุดท้ายก็มีรอยกัดแถวหนึ่งอยู่บนแขนซ้ายของพี่ ตอนนี้ก็น่าจะยังมีอยู่นะ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ
“ให้ตาย แกยังจะพูดอีก แกนี่เกิดปีหมาหรือว่าปีหมาบ้ากันแน่ แกดูสิ ฟันเล็กๆ ของแกเกือบทำแขนฉันหลุด” เจี่ยหยวนพูดพลางถกแขนเสื้อขึ้น
“ผมจำได้ว่าบนแขนขวาของพี่สามมีรอยแผลเป็นเมื่อสองปีก่อนตอนจัดการปัญหาที่ศูนย์วางแผนครอบครัวแล้วถูกยายแก่คนหนึ่งรัดเขาที่คอจนเป็นแผลเป็นยาว ตอนนี้น่าจะยังมีนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พวกพี่สองคนนี่โชคดีมากเลยนะ คลินิกไม่ของพวกเราจะลดราคายี่สิบเปอร์เซ็นลบรอยแผลเป็นของพี่ๆ ทั้งสองเองครับ”
“ยี่สิบเปอร์เซ็น?”
“คลินิกไม่?”