[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 57 สาวน้อยย้ายโรงเรียน
“ในนี้คนเยอะ นายระวังหน่อย” ซุนหลิงหลิงหลิงตีเข้าที่มือของกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นด้วยความโมโห
“อ่ะๆ งั้นรอคืนนี้เราไปที่โรงแรมกัน” กัวไฮว่กระซิบเบาๆ ข้างหูซุนหลิงหลิง ไม่นานสีหน้าของซุนหลิงหลิงก็แดงระเรื่อขึ้นมา
“ให้ตาย พี่หลิงหลิง พี่ลงเอยกับกัวไฮว่แล้วจริงด้วย” แม้เสียงกัวไฮว่จะเบา แต่เสิ่นปี้โหรวก็ยังได้ยิน เธอจึงถามขึ้นด้วยความตกใจ
“คนสวย เธอพูดอะไรน่ะ อย่าบอกนะว่าเธอก็ถูกใจพี่ไฮว่ของฉันด้วยน่ะ อันที่จริงพี่ไฮว่เจ้าชู้ไปหน่อยน่ะ เธอจะพิจารณาฉันไว้แทนก็ได้นะ ฉันเองก็ไม่เลวเลย” เซวียนต้าจู้มองเสิ่นปี้โหรวแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้หน้าตาไม่เลวเลย ถ้าพากลับไปยังหมู่บ้านตระกูลเซวียน คนในหมู่บ้านต้องอึ้งแน่
“ขอโทษนะ ฉันไม่ชอบผู้ชายที่เด็กกว่า แล้วก็สูงขนาดนี้ด้วย” เสิ่นปี้โหรวพูดยิ้มๆ
“พวกเธอสองคนดูเหมาะกันดีนะ เส้นวาสนาก็เชื่อมเข้าด้วยกันแล้วด้วย ไม่นานเธอจะตกหลุมรักเขา ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“กัวไฮว่ใช่ไหม คนที่เหยียบเรือหลายแคมแบบนายเนี่ย ว่าแต่เส้นวาสนามันเชื่อมยังไงเหรอ” เสิ่นปี้โหรวมองกัวไฮว่พลางถามขึ้น
“พี่ไฮว่ พี่ไม่ได้ไปเข้าเรียนนานแล้วนะ ครูหลินถามหาพี่อยู่” ในขณะที่หลายคนต่างพูดคุยกันอยู่ มู่หรงเวยเวยก็เดินมาจากที่ไกลๆ
“พี่หลิงหลิง พี่ก็อยู่ด้วยเหรอ” เมื่อมู่หรงเวยเวยเห็นกัวไฮว่กับซุนหลิงหลิงยืนใกล้กันมาก ในใจก็พลันร้อนรน เธอยิ้มขึ้นอย่างจนใจ ถ้ากัวไฮว่คิดถึงตนเองบ้างก็คงจะดี เขาพัวพันกับผู้หญิงหลายคนเกินไปแล้วล่ะ
“เวยเวย การแข่งวิชาการครั้งก่อนไม่ทันได้มองให้ละเอียด วันนี้เธอสวยมากเลยล่ะ ไม่น่าล่ะหมอนี่ถึงได้ชอบเธอมากขนาดนั้น พูดว่าเมียสวยๆ อยู่ตลอด” ซุนหลิงหลิงพูดขำๆ กับมู่หรงเวยเวย
“พี่หลิงหลิงอย่าพูดมั่วซั่วสิ” มู่หรงเวยเวยอายจนหน้าแดงก่ำ เมื่อพูดเสร็จ ก็ไปยืนอยู่ข้างกายกัวไฮว่
“พี่ไฮว่ พรุ่งนี้พี่มีเวลาหรือเปล่า พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้าน พี่ไปด้วยกันเถอะ” มู่หรงเวยเวยมองกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นเบาๆ เพราะไม่อาจยื้อเวลาป่วยของพี่ชายได้อีกแล้ว เธอเห็นว่าซุนหลิงหลิงมีสีหน้าไม่เลว เลยรู้ว่ากัวไฮว่น่าจะรักษาอาการป่วยของซุนหลิงหลิงให้หายดีแล้ว
“ได้ พรุ่งนี้เธอติดต่อฉันมานะ เราไปด้วยกัน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เธอบอกว่าครูหลินตามหาฉัน มีเรื่องอะไรเหรอ ฉันจะไปดูสักหน่อย พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ”
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” กัวไฮว่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเคาะประตูห้องพักครูกลุ่มสาระภาษา
ไม่ทราบว่าหลิงซวงวุ่นวายอะไรอยู่ เธอเลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ภายในห้องมีเพียงหลินซวงคนเดียวเท่านั้น กัวไฮว่เองก็ไม่ได้ส่งเสียง เขาเดินไปด้านหลังหลินซวงเงียบๆ กลิ่นหอมระลอกหนึ่งทำให้เขาสูดดมเข้าไปลึกอย่างไม่รู้ตัว
“เด็กบ้านี่ ไม่เข้าเรียนมาอาทิตย์นึงแล้ว วันๆ เอาแต่ให้เฉียนตัวตัวบ้านั่นมาลาเรียน หัวหน้าเซวียนก็ไม่สนใจ นี่มันคืออะไรกันเนี่ย วันมะรืนก็จะมีนักเรียนมาใหม่มา แถมยังมาอยู่ในห้องหนึ่งอีก ฉันต้องไปคุยกับผอ.หลี่ซะแล้ว” หลินซวงมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ เธอส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้น
“คนสวยมาห้องหนึ่งก็ไม่แย่นะ” กัวไฮว่พูดขึ้นเบาๆ เขาเห็นรูปภาพที่อยู่บนเอกสาร ก็มีความรู้สึกคุ้นเคยกันอย่างประหลาด แต่ก็ไม่รู้ว่าเคยเห็นที่ไหน
“ถ้าเป็นคนสวยงั้นก็มาห้องฉันไม่ได้แล้วล่ะ ในห้องมีตาบ้าอยู่คนหนึ่ง เด็กคนนี้ยังพบกับภัยอย่างเขาไม่ได้” หลินซวงพูดไปตามสัญชาตญาณ “อ๊ะ! ธะ…เธอเข้ามาได้ยังไง ทำไมไม่เคาะประตู” จู่ๆ หลินซวงก็สัมผัสได้ว่าด้านหลังมีคนยืนอยู่ จึงหันหลังกลับไปมอง ถ้าไม่ใช่ตาบ้านี่จะเป็นใครได้อีก
“ครู นินทานักเรียนลับหลังมันไม่ดีนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ พลางหรี่ตามองหลินซวงด้วยความเจ้าเล่ห์ “ช่วงนี้ยุ่งไปหน่อย พอไม่ยุ่งก็รีบมารายงานตัวกับครูเลย ครูคิดถึงผมแล้วใช่ไหม”
“กัวไฮว่ ครูเป็นครูของเธอนะ ช่วยจริงจังหน่อย” หลินซวงจัดการเสื้อผ้าตนเองให้เรียบร้อย เธอถลึงตามองกัวไฮว่พลางพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเรื่องยุ่งๆ เสร็จแล้ว งั้นฉันหวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะเห็นเธอนะ”
“พรุ่งนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้เวยเวยลากลับบ้าน ผมต้องตามไปดูด้วย” กัวไฮว่พูดอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“เวยเวยลากลับบ้าน เธอตามไปดูอะไรเหรอ” หลินซวงเบิกตาพูดขึ้น
“หลิงหลิงรักษาหายแล้ว ทางฝั่งเวยเวยยังมีเรื่องนิดหน่อยน่ะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ครูหลิน อันที่จริงอาการป่วยของครูก็ไม่เบาเลยนะ ให้ผมรักษาให้เอาไหม” กัวไฮว่ยิ้มร้ายพลางมองไปยังส่วนที่นูนออกมาของหลินซวง
“เด็กบ้า เธอคิดอะไรน่ะ ฉันเป็นครูเธอนะ เธอ…เธอกลับไปได้แล้ว” หลินซวงพูดด้วยความตระหนก
“ลมพร่องกายหนาว หงุดหงิดโมโหง่าย ครูหลิน โรคครูเขียนไว้บนหน้าหมดแล้ว ไม่ต้องจับชีพจรก็ดูออก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ครูกินยานี่ก่อน สามารถลดอาการได้ชั่วคราว รอผมกลับมาจากบ้านเวยเวย เดี๋ยวจะรักษาให้ครูจนถึงที่สุดเลย ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดพลางโยนกล่องกล่องหนึ่งไปให้หลินซวง ข้างในนั้นมียากันแก่เม็ดหนึ่งอยู่
“กัวไฮว่ ฉันก็แค่มีอาการลมพร่องกายหนาว หงุดหงิดโมโหง่ายเอง” หลินซวงมองกัวไฮว่เดินออกไปแล้วพูดขึ้นเสียงดัง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากข้างนอก
“ตาบ้า กลับมาอีกทำไม” หลินซวงตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็เปิดประตูออก คนที่ยืนอยู่นอกประตูเป็นหลี่สวินอวี้ เขามองดูหลินซวงด้วยความอึ้งตะลึง ครูคนสวยอันดับหนึ่งของโรงเรียนฟู่จง หรือว่าเขาเองจะได้ยินผิดไป
“ผอ. ฉะ…ฉันไม่ได้ว่าคุณนะคะ เมื่อกี้กัวไฮว่มาน่ะค่ะ” หลิงซวงก้มศีรษะพูดขึ้นเบาๆ
“เด็กนั่นแหย่ให้เธอโกรธอีกแล้วเหรอ” หลี่สวินอวี้พูดยิ้มๆ “เสี่ยวหลิน อย่าโกรธไปเลย อันที่จริงเด็กนั่นก็ไม่เลวเลยนะ อย่างน้อยๆ ก็เรียนดีขึ้น ทั้งหมดเป็นเพราะเธอนะ”
“ผอ.คะ อย่าล้อกันเล่นเลย ตั้งแต่ที่เขาเข้าเรียนจนถึงตอนนี้ จำนวนครั้งที่ฉันเจอเขาไม่ต่างกับคุณเลย เขาเรียนของพวกนี้มาจากใครฉันเองก็ไม่รู้” หลินซวงส่ายศีรษะพร้อมกับพูดขึ้น
“อย่างนี้นี่เอง” หลี่สวินอวี้ยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “มะรืนนี้จะมีนักเรียนใหม่ เป็นเด็กผู้หญิง หัวหน้าเซวียนเอาเอกสารมาให้เธอแล้วใช่ไหม”
“ผอ. อย่าเอาใครก็ได้มาไว้ในห้องฉันสิคะ” หลินซวงพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ “กัวไฮว่คนนึง เซวียนต้าจู้คนนึง แถมยังเฉียนตัวตัวที่ซ้ำชั้นอีก นี่แค่หนึ่งเดือนกว่าเองนะคะ ฉันมีนักเรียนใหม่มาสามคนแล้ว”
“แค่กๆๆ เรื่องนี้ฉันรู้หรอก แต่เด็กคนนั้นบอกว่าอยากอยู่ห้องเธอ เธอเป็นคนจีนอเมริกา เข้ามาในจีนแล้ว เธอเป็นผู้สืบทอดของตระกูลใหญ่ในอเมริกา บริจาคเงินค่าบำรุงโรงเรียนไปแล้วร้อยล้าน” หลี่สวินอวี้พูดยิ้มๆ
สามวันก่อน เด็กหญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ห้องทำงานของผอ.โรงเรียนฟู่จง เธอไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง เธอส่งเอกสารของตนเองกับเช็คใบหนึ่งให้กับหลี่สวินอวี้
“ก่อนที่ทวดของหนูจะไปอเมริกาเคยอยู่ที่เมืองอู่เฉิงมาก่อน ถึงหนูจะไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่หนูรู้ความปรารถนาของเขาดี เขาอยากให้หนูเอาขี้เถ้าของเขากลับมายังประเทศ แล้วก็อยากให้ลูกหลานกลับมายังจีน” เด็กสาวมองหลี่สวินอวี้แล้วพูดขึ้นเบาๆ “หนูจัดการเรื่องบ้านเก่าของเขาแล้ว หนูเองก็จะอยู่ที่จีนไปตลอดด้วย ตอนนี้หนูอยากจะเป็นนักเรียนของโรงเรียนฟู่จง รบกวนผอ.หลี่ด้วยนะคะ”
“ที่โรงเรียนมีกฎระเบียบนะ ถ้าเธออยากเข้าเรียน ก็ต้องทำข้อสอบก่อน ถ้าคะแนนผ่านฉันถึงจะให้เธอเข้าเรียน” หลี่สวินอวี้มองเลขศูนย์หลายตัวที่อยู่บนเช็ครอบหนึ่ง แต่ก็ยังเลือกให้เด็กสาวทำตามกระบวนการ
“ผอ.คะ ได้คะแนนเต็มทั้งเจ็ดกลุ่มสาระค่ะ”