[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 55 รักษาซุนหลิงหลิง
“กินยาก่อน กระตุ้นหน่อย” กัวไฮว่พูดพลางส่งกล่องไม้ที่ดูวิจิตรกล่องหนึ่งให้แก่ซุนหลิงหลิง
“ทำไม ไม่เชื่อผมเหรอ” กัวไฮว่เห็นซุนหลิงหลิงมองไปยังยาในกล่อง ไม่กล้าเอาเข้าปากไป ก็ถามขึ้นยิ้มๆ
สี่ตัวอันตราย ตัวอสรพิษ ซุนหลิงหลิงมองกัวไฮว่ที่กำลังยิ้มร้ายในใจพลันรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“กัวไฮว่ นายคงเคยได้ยินเรื่องตระกูลซุนแห่งเมืองหลวงใช่ไหม เรื่องบางอย่างจะมาล้อกันเล่นไม่ได้นะ” ซุนหลิงหลิงพูดเบาๆ
“ถ้าพี่ไม่เชื่อผม งั้นก็ช่างเถอะ คิดได้เมื่อไหร่ก็ค่อยมาหาผมแล้วกัน” กัวไฮว่โบกมือ กล่องไม้ที่เดิมอยู่ในมือของซุนหลิงหลิงก็กลับมาอยู่ในมือของกัวไฮว่อีกครั้ง บนใบหน้าของกัวไฮว่พลันปรากฏความผิดหวังขึ้นมา
“ใครบอกว่าฉันไม่เชื่อนาย ถ้าฉันไม่เชื่อนายฉันจะกล้ามาเปิดห้องรอนายคนเดียวเหรอ” ซุนหลิงหลิงพูดด้วยความน้อยอกน้อยใจ “เอามา ฉันจะกิน” พูดจบ ไม่ทันจะรอให้กัวไฮว่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เธอก็แย่งกล่องไม้มา จากนั้นก็เอายาลูกกลอนกลิ่นหอมฟุ้งเข้าปากไป
“ดื่มนี่หน่อยสิ เดี๋ยวจะเจ็บนิดหน่อย ทนหน่อยนะ ยิ่งเธอทนได้นานเท่าไหร่ ยาก็จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นเท่านั้น” กัวไฮว่พูดพลางพยักหน้า
“กรี๊ด!!!” ประมาณนึ่งนาที ซุนหลิงหลิงก็กรีดร้องเสียงดัง ทั้งโรงแรมมหาลัยอู่เฉิงถึงกับโกลาหลไปชั่วขณะ
“ดูเขากรี๊ดสิ แล้วดูเธอ ทำไมไม่ร้องสักแอะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นกับผู้หญิงที่อยู่บนเตียง
“เขากรี๊ดซะฟินขนาดนี้ เพราะว่าผู้ชายแรงดีน่ะสิ ดูนายสิ ยังจะมาโทษฉันอีก” หญิงสาวพูดอย่างโมโห
“จะมาว่าฉันไม่ได้นะ งั้นเรามาอีกรอบ” พูดเสร็จ ชายหนุ่มก็ผลักหญิงสาวล้มอีกครั้งแล้วเริ่มต้นทำงานใหม่แต่แรก
“เหมือนจะดังมาจากห้อง 608 นะ คนที่เพิ่งเข้าไปไม่ใช่ซุนหลิงหลิงมอหกโรงเรียนฟู่จงหรอกเหรอ เดี๋ยวนี้เด็กมอหกเขาเปิดกว้างขนาดนี้แล้วเหรอ” พนักงานของโรงแรมสองคนพูดเบาๆ
“อย่าพูดซี้ซั้ว ถ้าข่าวของลูกค้ารั่วไปเมื่อไหร่ เกิดเรื่องแน่ ซุนหลิงหลิง เป็นคนจากตระกูลซุนแห่งเมืองหลวง ถึงเวลานั้นนายตายก็ไม่รู้จะตายอีท่าไหน” พนักงานอีกคนพูดเบาๆ
กัวไฮว่มองซุนหลิงหลิงที่เจ็บแทบจะเป็นลมล้มพับไป ก็ส่ายศีรษะเบาๆ รู้แบบนี้เพิ่มยาลดอาการปวดไปหน่อยก็ดี กัวไฮว่คิดพลางหยิบเข็มเงินออกมาจากตัวเก้าเล่ม จากนั้นก็ฝังเข็มทั้งเก้าไปบนร่างกายของซุนหลิงหลิง ไม่นานซุนหลิงหลิงก็ไม่ได้ร้องกรี๊ดเสียงดังอีกแล้ว
“ตอนที่ข้าบินขึ้นฟ้าไปครานั้น ถูกสายฟ้าฟาดเข้า เจ็บกว่านี้เป็นร้อยเป็นพันเท่า เฮ้อ ผู้หญิงก็คือผู้หญิงจริงๆ เลย” กัวไฮว่ส่ายศีรษะพลางพูดขึ้น
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ซุนหลิงหลิงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกสบายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “อย่าขยับ ให้ผมเอาเข็มออกก่อน” กัวไฮว่ลงมือด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ไม่นานนัก เข็มทั้งเก้าก็ปรากฏอยู่ในมือ ปลายเข็มปรากฏความสั่นไหวอันแปลกประหลาดขึ้น
“เก้าหยินรากษสี เก้าหยินรากษสีนี่เอง ถึงว่าตอนจับชีพจรตอนแรกถึงรู้สึกว่าไม่ง่ายเลย แต่พิษหยินในเก้าหยินรากษสีนี่เป็นของดีเลยนะ จะให้เสียเปล่าไปไม่ได้” กัวไฮว่พูดแล้วเอาของเหลวสีดำบนปลายเข็มเก็บไว้ในขวดหยก
“กัวไฮว่ ฉะ…ฉันหายดีแล้วใช่ไหม” ซุนหลิงหลิงมองกัวไฮว่แล้วถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น เป็นเพราะเธอสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ความรู้สึกเย็บวาบบริเวณท้องน้อยได้พลันหายไปหมดสิ้น
“ไปอาบน้ำก่อนเถอะ ล้างที่ดำๆ บนร่างกายให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วฉันจะค่อยๆ อธิบายให้เธอฟัง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ พลางจัดการเข็มเก้าเล่มในมือ
“อืม” ครั้งนี้เมื่อซุนหลิงหลิงพูดจบ ก็หยิบเสื้อผ้าแล่นเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นาน ก็มีเสียงน้ำดังขึ้น
“มารดามันเถอะ อย่ามองไปทางนั้นเลย ลอบดูเทพเซียนอาบน้ำครานั้นอวี้เอ๋อร์ก็กล้าลงโทษข้าจริงเสียด้วย” กัวไฮว่ไม่กล้ามองไปทางห้องอาบน้ำ เขารีบเปิดโทรทัศน์ดูละครอย่างว่องไว
“เขารักษาให้ฉันหายดีจริงๆ เขาเป็นใครกันแน่ สี่ตัวอันตราย ตัวอสรพิษ เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ เหล้า ยาลูกกลอน เข็มเงิน เขายังมีความสามารถแบบไหนอีก กัวไฮว่ กัวไฮว่เมืองอู่เฉิง” ในห้องอาบน้ำ ซุนหลิงหลิงพูดขึ้นกับตนเอง
“ฉันอายุสิบแปดปีแล้ว เป็นเพราะอาการป่วยก่อนหน้านี้ ฉันเลยไม่กล้าคบกับผู้ชายคนไหน ฉันถึงกับสงสัยว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ขอบคุณที่นายรักษาให้ฉันนะ ขอบคุณนะ กัวไฮว่” ซุนหลิงหลิงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ มองกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นเบาๆ
“คนสวยก็คือคนสวย สวยซะกว่าเซียนบนสวรรค์อีก พอๆ กับอวี้เอ๋อร์เลย” กัวไฮว่มองซุนหลิงหลิงที่เปลี่ยนชุดไปแล้วพูดทอดถอนหายใจ
“อวี้เอ๋อร์นี่ใครเหรอ” ซุนหลิงหลิงชะงักไปครู่หนึ่ง เขามองกัวไฮว่แล้วถามขึ้น อยู่กับสาวสวยอย่างฉันยังจะคิดถึงคนอื่นอีกนะ ฮึ
“อวี้ทู่ที่อยู่ประจำกายฉางเอ๋อนั่นแหละ” กัวไฮว่มองซุนหลิงหลิง ในสมองเต็มไปด้วยเงาของอวี้เอ๋อร์ เขาพูดขึ้นยิ้มๆ “พี่อย่าเพิ่งสนใจเลยว่าอวี้เอ๋อร์เป็นใคร ตอนนี้ผมจะบอกพี่ให้นะ อาการป่วยของพี่ยังหายสมบูรณ์”
“แต่ฉันสัมผัสได้ว่าตรงท้องน้อยของฉันอุ่นขึ้นนะ ไม่ได้มีความรู้สึกเย็นเฉียบเหมือนเมื่อก่อน” ซุนหลิงหลิงพูดเบาๆ พลางเอามือไปทาบบนท้องน้อย
“ปีนี้พี่อายุสิบแปดปี ประสิทธิภาพของยาลูกกลอนนั่นสามารถคุมพิษหยินได้ไม่กินสิบปี ถ้าก่อนวันเกิดพี่ขจัดพิษหยินออกได้ไม่หมด รอตอนพี่อายุยี่สิบแปดปี พี่จะรู้สึกเจ็บใจจะขาดอีก ถึงตอนนั้นต่อให้เทพเซียนอยากจะช่วยชีวิตพี่ก็คงจะยากแล้ว”
“งั้นมีวิธีไหนไหมที่จะขจัดพิษหยินในร่างกายฉันออกจนหมด” ซุนหลิงหลิงเบิกตาโพล่งแล้วถามขึ้น
“ไอหยางบริสุทธิ์ ขอเพียงแค่ใช้ไอหยางบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะขจัดสาเหตุพิษหยินในร่างกายพี่ได้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พูดง่ายๆ ก็คือ พี่ต้องการผู้ชายคนนึง แล้วก็ทำเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายสนุกๆ กัน ก็จะรักษาพี่ให้หายดีได้ แน่นอนว่าต้องทำก่อนพี่จะอายุสิบแปดปี ผมไปแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่หาว่าผมหลอกพี่” พูดจบ กัวไฮว่ก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไป
“กัวไฮว่ นายมานี่” ซุนหลิงหลิงมองเบื้องหลังกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นเบาๆ
“พี่ไม่กังวลว่าผมจะหลอกพี่เหรอ” ในช่วงขณะที่กัวไฮว่หันหลังกลับ เลือดร้อนก็พลันพลุ่งพล่านขึ้นมา ซุนหลิงหลิงถอดเสื้อตัวบนของเธอแล้ว ปล่อยให้ส่วนสูงเนินเปลือยอยู่ในอากาศ
“ถึงนายจะหลอกฉัน ฉันก็จะเชื่อนาย ฉันไม่อยากทรมานจากพิษหยินอีกต่อไปแล้ว กัวไฮว่ เอาฉัน” พูดจบ ซุนหลิงหลิงก็นอนแผ่บนเตียง
“วางใจเถอะ ผู้หญิงของผมจะต้องมีความสุข” กัวไฮว่ควบคุมตนเองไม่ไหวอีกแล้ว เขารีบดิ่งขึ้นไป เสื้อผ้าบนตัวถูกเขาฉีกขาด เขาสัมผัสได้ว่า ซุนหลิงหลิงไม่ได้ตอบรับเขาเพียงเพราะการรักษาเท่านั้น ในเบื้องลึกหัวใจของเธอได้ยอมรับตนเองแล้ว
“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ!” เสียงตื่นเต้นลอยออกมาจากในห้องระลอกหนึ่ง ทั้งสองไม่ได้จงใจควบคุมมัน จากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็ได้เสร็จสิ้นการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน