[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 44 การคัดเลือกแข่งวิชาการ (2)
ในขณะที่สายตาของผู้คนตกไปอยู่บนร่างของคนทั้งยี่สิบแปด ในนั้นมีคนที่พวกเขาคุ้นเคยอยู่อย่างเช่นกัวไฮว่ มู่หรงเวยเวย ถังซี ซูเยี่ย โยวโยว และแน่นอนว่าก็มีบางคนที่พวกเขาไม่คุ้นเคยอยู่ด้วยอย่างฉินอันผาง ซินหลี่กู่ และอื่นๆ
คนที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจไม่ใช่กัวไฮว่ทว่ากลับเป็นหนานกงหลิงโม่ เธอเป็นคนบุคคลลึกลับที่ไม่เคยไปห้องเรียนนับตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา
“หนานกงหลิงโม่นั่นทำไมตัวเล็กขนาดนี้อย่าบอกนะว่าเธอก็เป็นนักเรียนมอปลายด้วยน่ะ”เด็กหญิงที่อยู่ข้างหลินเซี่ยวเซี่ยวพูดขึ้น
“โรงเรียนฟู่จงซ่อนคนของตระกูลหนานกงเอาไว้ซะมิดเลย”หลี่เอ้าพูดเสียงเบา
“เป็นคนตระกูลหนานกงแล้วยังไง นี่มันแข่งขันวิชาการไม่ได้แข่งอย่างอื่นสักหน่อย”อาคิวพูดเบาๆ
“ดูรายการแข่งขันคัดเลือกของโรงเรียนฟู่จงสิ หลี่สวินอวี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”ผอ.โรงเรียนชีจงพูดเบาๆ
“เฉียวมู่เธอยังมั่นใจว่าจะชนะผู้แข่งขันโรงเรียนฟู่จงพวกนี้อยู่หรือเปล่า”เมื่อดูมาประมาณสามสิบนาทีหลินเซี่ยวเห็นเฉียวมู่มีเหงื่อไหลอยู่บนหน้าผากจึงถามขึ้น
“โรงเรียนฟู่จงเซ็ตคลังคำถามไว้แล้ว ไม่งั้นทำไมนักเรียนพวกนี้ถึงตอบคำถามจริงของปีที่แล้วถูกล่ะ ต้องมีปัญหาแน่ๆ”เฉียวมู่พูดเบาๆ เขาก็พบว่าคำถามบนหน้าจอมีอยู่สองสามคำถามที่ตนเองไม่อาจตอบได้อย่างไว
“พวกเขาไม่ได้มีคลังคำถาม พวกเขาเอาคำถามที่มีอัตราตอบผิดสูงที่สุดมาจากหนังสือจื้อจุนกวงเหน่า”เฉาสิงหลง ผอ.เฉาจากโรงเรียนจิ่วจงพูดเบาๆว่า“ตาแก่หลี่คิดจะเอาที่หนึ่งการแข่งขันวิชาการ”
“เหล่าเฉารอให้การคัดเลือกฟู่จงจบก่อนแล้วเรามานั่งด้วยกันเถอะ แกคงไม่อยากเห็นเราอับอายต่อหน้าตาแก่หลี่ติดกันสองครั้งหรอกใช่ไหม”ผอ.โรงเรียนหยางกวงหรี่ตาพูดขึ้น
เฉาสิงหลงพยักหน้าเล็กน้อย ต่อมา ผอ.และผู้นำโรงเรียนอื่นๆ ต่างก็รวมกันกับโรงเรียนชีจงและโรงเรียนจิ่วจงเป็นหนึ่งสมาพันธ์…ที่ใดมีบุญคุณความแค้นที่นั่นย่อมเป็นยุทธจักร จะที่ไหนก็ไม่ต่างกัน
หน้าจอบนเวทีปรากฏคำถามที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ของผู้เข้าแข่งขันทั้งยี่สิบแปดคน การแข่งรอบแรกเป็นข้อเขียนเพื่อหาว่าใครสามารถตอบคำถามสุ่มหนึ่งร้อยคำถามได้เสร็จก่อน หากตอบผิดหนึ่งข้อจะเพิ่มเวลาสิบวินาทีและจะคัดเลือกนักเรียนที่ผ่านยี่สิบคนแรก
“ติ๊ง!”ไฟสีแดงที่อยู่ตรงหน้าของหนานกงหลิงโม่สว่างขึ้นมา นี่เป็นสัญญาณว่าเด็กน้อยผู้ไม่โดดเด่นที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ทำเสร็จครบหนึ่งร้อยข้อแล้ว
ในเวลาประมาณหนึ่งนาที ไฟที่อยู่ตรงหน้ามู่หรงเวยเวยก็ส่งเสียงติ๊งพร้อมสว่างขึ้นมา ต่อมาก็เป็นไฟที่อยู่ตรงหน้าของเฉียนตัวตัว
“ให้ตายพี่ไฮว่นี่ดูท่าอย่างกับมาเดินเล่นทำไมมัวแต่เคาะคีย์บอร์ด เขาดูไม่เหมือนกับตอบคำถามอยู่เลยทำไมพิมพ์ไวขนาดนั้นล่ะ” เมื่อไฟของเฉียนตัวตัวสว่างขึ้น ก็มองไปยังกัวไฮว่ที่อยู่ไกลๆ จากนั้นก็พึมพาเสียงเบากับตัวเอง
“พี่ไฮว่ทำอะไรอยู่น่ะ ทำเสร็จไปเก้าคนแล้วทำไมเขายังไม่เสร็จอีก” มู่หรงเวยเวยขมวดคิ้วมุ่นแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“เสี่ยวซีดูท่าหมอนั่นจะถูดคัดออกตั้งแต่รอบแรกแล้วล่ะ เงินหมื่นของเธอหายไปกับสายน้ำแล้ว” ซูเยี่ยทำเสร็จเป็นคนที่เก้าพูดขึ้นเบาๆ กับถังซีผู้ทำเสร็จคนที่เจ็ด
“เจ้าสี่แกเตรียมตัวรับเงินได้เลย เจ้ากัวไฮว่นั่นยังทำข้อสอบอยู่เลย ทำเสร็จไปยี่สิบสองคนแล้ว ดูท่ามันไม่ผ่านตั้งแต่รอบแรกนะฮ่าๆ” เจี่ยเปินเปินพูดยิ้มๆ
“ดูพี่สองพูดเข้า ไม่ใช่ผมเตรียมรับเงิน แต่เป็นพวกเราเตรียมรับเงินต่างหาก” ฉินอวี้หลงพูดยิ้มๆ ก่อนที่การคัดเลือกจะเริ่มขึ้น เงินพนันในครั้งนี้รวมแล้วเกินกว่าสามร้อยล้าน ถ้ากัวไฮว่เข้าไปในรอบแรกไม่ได้ เงินนี่ก็จะกลายเป็นของพวกเขาทั้งสี่
ผ่านไปอีกไม่เกินห้านาที ไฟบนเวทีของทั้งยี่สิบแปดคนสว่างหมดแล้ว มีเพียงกัวไฮว่ที่ยังเคาะคีย์บอร์ดอยู่ตรงนั้น
“อะแฮ่มๆๆ กัวไฮว่นายยังทำไม่เสร็จอีกเหรอ” นักเรียนผู้ช่วยที่อยู่บนเวทีคนหนึ่งเดินไปข้างๆกัวไฮว่แล้วถามขึ้นเบาๆ
“คำถามเยอะไป”กัวไฮว่เคาะคีย์บอร์ดพลางพูดเสียงดัง
“ผะ…ผอ.หลี่คะช่วยขึ้นมาหน่อยได้ไหมคอมพิวเตอร์ของกัวไฮว่มีปัญหาน่ะค่ะ” นักเรียนหญิงพูดเสียงดังกับหลี่สวินอวี้ที่นอนสลบสไลอยู่ด้านล่างเวที
“มีปัญหาอะไรเหรอ ทำไม่ได้ก็คัดออก รีบแข่งรอบต่อไป จะมีปัญหาอะไรได้อีก”หลี่สวินอวี้พูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ไอ้แว่นเห็นแล้วใช่ไหม ไอดอลแกน่ะ คนอื่นตอบคำถามรอบแรกกันหมดแล้วแต่มันยังทำไม่เสร็จ เป็นแค่คนเดียวที่ตอบคำถามถูกแค่ครึ่งหนึ่ง” เด็กหนุ่มคนหนึ่งมองเด็กแว่นพร้อมกับพูดขึ้น “เงินหมื่นแกจมหายไปในสายน้ำแล้วล่ะ”
“เด็กนี่ทำอะไรเนี่ย ถึงคำถามจะยาก แต่ถ้าข้ามไปก็น่าจะทำเสร็จหนึ่งร้อยคำถามนี่นา” หลินซวงทนไม่ได้จึงลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นเวทีไป
“ผอ.หลี่คะ รีบขึ้นมาเร็วคอมพิวเตอร์ของกัวไฮว่มีปัญหา” ในขณะที่สายตาของหลินซวงตกไปอยู่บนคอมพิวเตอร์ ตัวเธอเองก็พลันตกใจขึ้นมา
“ยายหนูหลิน กัวไฮว่เป็นนักเรียนในห้องเธอ แต่นี่การแข่งขันคัดเลือกนะใครก็ห้ามโกง” หลี่สวินอวี้พูดพลางเดินขึ้นไปบนเวที
“เจี่ยอวิ๋นเทามานี่” เพียงแค่หลี่สวินอวี้มองคอมพิวเตอร์ของกัวไฮว่ก็ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมา
“หัวหน้าเจี่ย เหมือนว่าผอ.จะตามหาอยู่นะ” พนักงานฝ่ายโลจิสติกคนหนึ่งพูดเบาๆ กับเจี่ยอวิ๋นเทาที่นอนหลับไปแล้ว
“ผอ.หาผมมีอะไรเหรอครับ” เมื่อเจี่ยอวิ๋นเทาได้ยินคำว่าผอ. เขาก็เด้งขึ้นเวทีทันที เหมือนกับคำที่ว่าหมาจนตรอกไม่มีผิดเพี้ยน
“เจี่ยอวิ๋นเทา ฝ่ายโลจิสติกของพวกแกทำงานกันแบบนี้เหรอ” หลี่สวินอวี้ถลึงตาพูด
“คอมนี่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมเตือนอัตโนมัติ” เจี่ยอวิ๋นเทาหน้าถอดสีแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“แกจัดการเถอะ ถ้าแกทำการคัดเลือกครั้งนี้พัง แกก็เตรียมตัวม้วนเสื่อออกไปได้เลย” พูดจบหลี่สวินอวี้ก็เดินลงมาจากเวที
“ตาแก่หลี่ ทำอะไรน่ะ การแข่งรอบแรกจบลงแล้วประกาศผลเถอะ” เฉาสิงหลงตะโกนเสียงดังอย่างไม่เกรงอกเกรงใจแม้แต่น้อย
“การแข่งรอบแรกจบแล้ว ตอนนี้พวกเราจะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านรอบแรก” เป็นเวลาประมาณสิบนาที ก็คำนวณเวลาที่ผู้เข้าแข่งขันคัดเลือกใช้ออกมาได้
“หลี่กู่ห้องเจ็ด 24 นาที 13 วินาที ฉินเฟิงห้องสิบเอ็ด 23 นาที 59 วินาที หวังหยวนห้องเก้า 23 นาที 57 วินาที…ซูเยี่ยห้องหก 18 นาที 11 วินาที โหยวโยวโยวห้องเก้า 18 นาที 6 วินาทีถังซีห้องหก 17 นาที 45 วินาทีเฉียนตัวตัวห้องหนึ่ง 15 นาที 37 วินาทีมู่หรงเวยเวยห้องหนึ่ง 15 นาที 10 วินาทีหนานกงหลิงโม่ห้องสิบหก 14 นาที 14 วินาที” เจี่ยอวิ๋นเทาพูดสิบเก้ารายชื่อพร้อมทั้งเวลาในเฮือกเดียว
“ในเมื่อพูดยี่สิบรายชื่อแรกแล้ว งั้นก็เริ่มรอบที่สองเลยเถอะ” เฉาสิงหลงพูดเสียงดัง
“เหล่าเฉาเพิ่งประกาศแค่สิบเก้ารายชื่อเอง นายดูบนหน้าจอสิยังมีอีกคนนึง” ผอ.โรงเรียนหยางกวงพูดเตือนอย่างยิ้มแย้ม
“ที่หนึ่งของรอบแรกก็คือกัวไฮว่มอสี่ห้องหนึ่ง 9 นาที 48 วินาที” พูดจบ เจี่ยอวิ๋นเทาก็ให้นักเรียนแปดคนที่ถูกคัดออกลงจากเวทีไป โดยไม่แยแสความชุลมุนล่างเวที และให้กัวไฮว่นั่งที่นั่งบนเวที
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^
https://www.kawebook.com/story/6815