[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 4 รถจี๊ปชนตูด 911
“เจ้าสี่ ยังไม่หายดีหรอกเหรอ” เมื่อทั้งสามฟังที่กัวไฮว่พูด ก็พลันเบิกตาโพล่ง เจ้าเด็กสำมะเลเทเมานั่นพูดว่าอะไรนะ
“ฝันไป ฝันไปแน่ๆ” หวังเซิงส่ายศีรษะ “โทรศัพท์หาตาหลิวดีไหม ให้ยากล่อมประสาทน้องสี่มากเกินไปรึเปล่า หรือว่าใช้วิธีสะกดจิตรักษาน้องสี่ เมื่อก่อนพวกเราก็เคยพูดกันนี่ วิธีรักษาแบบนี้ทำให้ร่างกายกลับมาดีขึ้นได้”
“พวกพี่ๆ ผมพูดเรื่องจริงนะ” กัวไฮว่มองพี่ๆ ทั้งสามแล้วพูดเสียงค่อย “พอหนีจากความตายครั้งนี้มาได้ จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าบนโลกนี้มีอะไรน่าสนใจเยอะแยะ อย่างเช่นไปเรียน จีบสาว ฟังดูแล้วน่าสนุกสุดๆ ไปเลย”
“ป่วยหนักจริงด้วยว่ะ เจ้าสาม โทรเหอะ บอกตาแซ่หลิวนั่นว่าถ้ากล้ารักษาน้องสี่ด้วยวิธีสะกดจิตหรือฉีดยากล่อมประสาท มันจะได้ไปโรงศพก่อนมาหาพวกเราที่นี่แน่” เจี่ยหยวนพูดอย่างโหดเหี้ยม
“นี่พี่ ผมพูดแล้วทำไมพี่ไม่เชื่อล่ะ ผมอยากไปเรียนจริงๆ ไม่งั้นจะให้พี่สองไปจัดการเรื่องหนังสือเข้าเรียนทำไม” กัวไฮว่พูดเสียงดัง “งั้นเรามาพนันกันเถอะ มาพนันว่าผมจะอยู่ที่โรงเรียนได้นานเท่าไหร่ แต่อย่าพนันเยอะเกินไปนะ สักสิบล้านก็พอ ช่วงนี้กำลังช็อต ไปโรงเรียนก็ต้องใช้เงินไม่ใช่เหรอ”
“ให้ตาย เจ้าสี่ อย่าทำเหมือนจริงสิ” หวังเซิงเบิกตาโพล่งพร้อมกับพูดขึ้น “พนัน ฉันพนันกับแก ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเด็กสำมะเลเทเมาอย่างแกจะอยู่ที่โรงเรียนได้นานถึงเดือน แล้วยังเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองอีก ฉันไม่เชื่อหรอกว่าตาหลี่นั่นจะยอมให้แกอยู่ได้ถึงเดือน”
“ฉันก็พนันสิบล้าน ถ้าแกไม่มีเงิน ฉันจำได้ว่านายท่านบ้านแกมีรูปวาดที่ไม่เลวอยู่สองสามรูปนี่ ให้พี่เอาไปสักรูปก็ได้” เจี่ยหยวนพูดพลางหัวเราะ
“ฉันไม่พนันล่ะ ไม่ว่าใครชนะก็ต้องให้ฉันห้าสิบล้านนะ ถือว่าเป็นเงินค่าตัดสินก็แล้วกัน” หลี่เย่าพูดพลางหัวเราะ
“ดี พี่เย่า เตรียมรับเงินผมได้เลย” เจี่ยหยวนพูดเสียงดัง “เจ้าสี่ อย่าหาว่าพวกพี่ๆ เอาเปรียบแกเลยนะ วันนี้พวกพี่ๆ จะพาแกไปสนุกที่ใต้หล้าอู่เฉิงสักหน่อย ส่วนที่เหลือเอาไว้วันที่แกไปโรงเรียนวันแรกแล้วถูกไล่ออกมาก็แล้วกัน ฮ่าๆ” พูดจบหลี่เย่าก็ขับรถจี๊ปทหารคันนั้นบึ่งตรงไปยังร้านอาหารที่หรูหราที่สุดในเมือง ซึ่งก็คือร้านใต้หล้าอู่เฉิง
เสียง “ปึง!” ดังขึ้น รถจี๊ปหยุดลงแต่กลับไปชนเข้ากับท้ายรถปอร์เช่ 911 คันหนึ่ง รถจี๊ปไม่เป็นไร เพียงแค่เกราะหน้าหล่นลงเท่านั้น แต่ท้ายของรถปอร์เช่ 911 กลับเละไม่เหลือชิ้นดี
“แม่มันเหอะ ซวยมากเลย รถจี๊ปชนตูดปอร์เช่ น่าสงสารรถจี๊ปฉันจริงๆ” หลี่เย่ามองข้างหน้ารถจี๊ปของตัวเองแล้วพูดขึ้นด้วยความเจ็บใจ
“โง่จริงๆ เลย แกอยากตายหรือไง ยังมีคนบนรถอีก ลงรถมาเลย ชนรถคนอื่นแล้วยังไม่คิดจะเดินลงมาอีก” ชายหนุ่มย้อมผมเจ็ดสีบนหัวอุ้มเด็กสาวลงมาจากรถ 911 พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังลั่นใส่หลี่เย่าและคนบนรถทั้งสาม
“ขอโทษด้วยนะ ชนรถพี่กุ่ยซะแล้ว ให้พวกเขาเพิ่มเงินเป็นสองเท่าของรถ 911 แล้วซื้อรถคันใหม่ให้พี่กุ่ยเถอะ ส่วนรถคันนี้เดี๋ยวผมเอาไปซ่อมแล้วเอามาใช้เอง” กัวไฮว่มองชายหนุ่มผู้นั้นก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“พี่กุ่ย? รู้แล้วว่าเป็นใคร เหอะๆ โลกมนุษย์นี่สนุกจริงๆ เป็นเซียนไม่เห็นจะมีเรื่องสนุกแบบนี้เลย” กัวไฮว่ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพี่กุ่ยในสมองของเขา ก็พลันรู้ว่าพี่กุ่ยเป็นคนประเภทไหน
“เจ้าสี่ ที่นี่แกคุ้นดี พี่กุ่ยเป็นใครเหรอ” หลี่เย่าลูบรถจี๊ปของตน พลางเงยหน้าขึ้นไปถามกัวไฮว่
“จะสนทำไมว่าเขาเป็นใคร เรารีบไปกินเหล้ากันดีกว่า พรุ่งนี้น้องสี่จะมาเที่ยวเล่นกับพวกพี่ๆ ไม่ได้แล้ว ผมต้องไปเป็นนักเรียนแล้ว ฮ่าๆ” กัวไฮว่กับทั้งสามคนลงออกมาจากรถ แล้วลากหลี่เย่าที่ไม่แม้แต่จะมองเจ้านักเลงกับน้องสาวนั่น ดิ่งตรงไปยังใต้หล้าอู่เฉิง
“พี่กุ่ย รถพี่ถูกชนเหรอ ใช่ ตอนนี้ผมอยู่หน้าประตูร้านใต้หล้าอู่เฉิง คนที่ชนพี่เข้าไปในร้านใต้หล้าอู่เฉิงแล้ว พวกเขามีทั้งหมดสี่คน ผมเข้าใจแล้ว วางใจเถอะพี่กุ่ย ก่อนที่พี่จะมาถึงพวกเขาหนีไม่รอดแน่” นักเลงหัวเจ็ดสีพยักหน้าพลางพูดโทรศัพท์
“พี่ไฮว่ มาแล้วเหรอ ไม่ได้เจอกันเลยช่วงนี้ ได้ยินว่าไม่กี่วันก่อนแกบาดเจ็บนี่ ไม่เป็นไรมากใช่ไหม” เมื่อทั้งสี่คนเดินเข้าไปในร้านใต้หล้าอู่เฉิง ชายวัยกลางคนใส่สร้อยทองคนหนึ่งก็เดินเข้าไปหาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่หลง คิดถึงเจ้าสี่เหรอ รีบหาห้องใหญ่ให้พวกเราสี่คนเลย แล้วก็หาสาวๆ แบบนั้นมาด้วย พี่น่าจะเข้าใจนะ เร็วๆ เลย” กัวไฮว่พูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าว่า “สรวงสรรค์บ้าอะไรกัน นี่ต่างหากชีวิตที่แท้จริง”
“โถงจิ่วหลงเหลือห้องไว้ให้พวกแกอยู่แล้ว เดี๋ยวจะส่งสาวๆ ไปให้แก สามต่อหนึ่ง น้องๆ คงจะพอใจล่ะสิ” เฮยหลง เถ้าแก่ร้านใต้หล้าอู่เฉิง ว่ากันว่าเป็นคนที่ทั้งรัฐทั้งคนธรรมดาให้ความสำคัญ เปิดสถานบันเทิงในเมืองอู่เฉิงได้แบบนี้ ทำให้คนทั่วไปไม่กล้าหาเรื่องเขา
“แม่มันสิ จะช้าจะเร็วฉันก็ต้องจัดการกับเฮยหลงนี่อยู่แล้ว” เพิ่งจะนั่งลงที่โถงจิ่วหลง กัวไฮว่ก็ด่าเสียงดังขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“เจ้าสี่ เฮยหลงนั่นใช้ได้อยู่นะ เจอพวกเราแล้วก็สุภาพ แกกับมันเคยมีอะไรกันเหรอ” หลี่เย่าพูดยิ้มๆ
“ไม่มีอะไร เห็นสร้อยทองบ้านั่นที่มันใส่แล้วรู้สึกไม่สบายใจ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ก่อนพวกเขาดื่มเหล้ากัน หลี่เย่ากับพวกจะไปเข้าใจได้อย่างไร ในขณะที่เขาคุยกับเฮยหลงกัวไฮว่ก็ได้ใช้วิชาอ่านจิตกับร่างของเฮยหลง “สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง แม่มันสิ มาทีไรก็ไม่เคยจ่ายเงิน เดี๋ยวพวกแกจะได้ซวย ไม่รอดกันทั้งหมดแน่”
“พรวด! เหล้าบ้าอะไรเนี่ย ไม่อร่อยเลย” กัวไฮว่ยกเหล้าขึ้นมาแก้วหนึ่งแล้วดื่มอย่างจัง จากนั้นก็พ่นออกมา ไม่อร่อย? ทำไมไม่อร่อย นักดองเหล้าอันดับหนึ่งของสรวงสวรรค์มาดื่มเหล้าของมนุษย์ จะไม่นึกถึงรสชาติดั้งเดิมได้อย่างไรกัน
“เจ้าสี่ นี่มันลาฟีตที่แกชอบที่สุดเลยนะ ทำไมตั้งแต่กลับมาจากประตูนรก แกก็เลือกกินแล้วเหรอ” เจี่ยหยวนดื่มเฮือกใหญ่ “ไม่แย่นี่ ลาฟีตของจริง ตาเฮยหลงนั่นไม่กล้าเอาเหล้าปลอมมาให้พวกเราหรอก”
“พวกพี่กันดื่มเถอะ ผมจะไปหาเหล้าที่ดื่มได้สักหน่อย” กัวไฮว่พูดพลางเดินออกไปจากโถงใหญ่โดยไม่กลับหันหลังมา
“ขะ…ขอโทษด้วย” ขณะที่เพิ่งออกมาจากประตูก็มีเงามืดชนเข้ากับกัวไฮว่
“ไม่เป็นไร อย่ามาขัดเวลาฉัน รีบไป” กัวไฮว่ยื่นมือไปผลักเงาดำ แล้วตนเองก็ไปหาที่เงียบๆ เอาเหล้าของตัวเองหยิบมาดื่ม
“กัวไฮว่นายเองเหรอ” เสียงหวานดังขึ้นข้างหูกัวไฮว่ โฉมงาม โฉมงามจริงๆ รูปร่างสูงร้อยหกสิบห้า ผมยาวถึงเอว ขาเรียวยาวสวยโผล่มาจากกระโปรงสั้น หน้าตาที่สะสวยเข้ากันกับรูปร่างที่งดงามอย่างไร้ที่ติ สวรรค์ช่างลำเอียงจริงๆ ทุกสิ่งอย่างที่ผู้หญิงทุกคนเฝ้าใฝ่หา รวมอยู่ที่เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้หมดแล้ว
“โหยวโยวโยว เธอมาอยู่นี่ได้ไง” กัวไฮว่จำสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ได้ทันที ก่อนที่ตัวเขาเองจะเกิดเรื่อง เธอเป็นดาวโรงเรียนมัธยมอู่เฉิงจิ่ว เป็นเพื่อนร่วมห้องของเขา ทั้งยังเป็นสาวสวยที่ตัวเองเอื้อมไม่ถึง เธอคือโหยวโยวโยว
“กัวไฮว่ ขอร้องล่ะ ช่วยฉันด้วย ถูป้ามาหาฉันอีกแล้ว ช่วยฉันด้วย” โหยวโยวโยวพูดพลางดึงมือของกัวไฮว่ราวกับเจอตัวช่วย
“ทางที่ดีให้เจ้านี่ทะเลาะกับถู่ป้า คราวนี้ฉันก็จะมีโอกาสหนีแล้ว วันนี้ซวยมากจริงๆ” กัวไฮว่มองโหยวโยวโยวก็รู้ถึงความคิดของสาวสวยที่อยู่ตรงหน้านี้ได้พอดี
“ถูป้าก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ดูท่าในสายตาของโหยวโยวโยวฉันน่าจะเป็นคนดี ให้ฉันช่วยเธอ เธอไม่กลัวว่าฉันจะเอาเปรียบเธอหรือไง” กัวไฮว่พูดพลางวางมือไว้ที่ปากล่างของโหยวโยวโยว
“กัวไฮว่ เราเป็นเพื่อนกัน นายช่วยฉันสักครั้งเถอะนะ ถูป้ามาแล้ว” โหยวโยวโยวเหลือบมองเห็นชายสูงเกือบสองเมตรพาคนมาอีกสามสี่คนเดินเข้ามาทางพวกเขา
“เข้ามากับฉันก่อนเถอะ ฉันสู้พวกมันไม่ไหวหรอก” กัวไฮว่พูดพลางลากโหยวโยวโยวเข้าไปในโถวจิ่วหลง
“เจ้าสี่ สุดยอดไปเลย สาวที่ดีลมาได้เริ่ดจริงๆ เจ้าเฮยหลงนั่นบอกว่าจะพาสาวมาให้พวกเรา แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา” เจี่ยหยวนพูดเสียงดัง
“พี่สอง เดี๋ยวจัดการเรื่องที่อยู่ตรงหน้าก่อนดีกว่านะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
เสียง “ปึง!” ดังขึ้น ประตูโถงจิ่วหลงถูกถีบออก “กัวไฮว่ เราต่างคนต่างอยู่มาตลอด หลายวันมานี้แกไม่มาร้านใต้หล้าอู่เฉิง สาวๆ ของแกฉันก็ไม่เคยแตะต้อง ทำไมวันนี้ถึงมาแย่งสาวของฉันล่ะ”
“คุณเย่า รถจี๊ปของคุณถูกคนทำให้เป็นรอย” เฮยหลงเดินเข้ามาในโถงจิ่วหลงด้วยสีหน้าจนปัญญา เมื่อพูดจบก็พบว่าวันนี้ในโถงจิ่วหลงมีคนอยู่ไม่น้อยจริงๆ
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^
https://www.kawebook.com/story/6815