[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 26 เราใช้ถ้วยดื่มกันเถอะ
“พี่ไฮว่ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ กลับมาแล้วเราค่อยคิดวิธีกันครูหลินน่ะคุยด้วยง่าย วันนี้ยุ่งมาทั้งวันแล้วให้เธอพักผ่อนเถอะ”มู่หรงเวยเวยเห็นทั้งสองคนถกเถียงกันอย่างดื้อรั้นเลยลุกขึ้นมาพูดเบาๆ“คุณครูหลินไม่งั้นไปกินข้าวกับพวกเรามั้ยคะ กินข้าวเสร็จเดี๋ยวพวกเราช่วยครูจัดเก็บ ยังไงซะวันนี้ก็วันหยุดพวกเราไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว”
“เอาเถอะ ยังดีที่เวยเวยรู้ความ ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าเธอกล้าแม้แต่จะรังแกเวยเวยฉันไม่ให้อภัยเธอแน่”หลินซวงเดินลงไปพร้อมทั้งลากเวยเวยไปยังร้านอาหารด้วย
“ไม่ให้อภัยฉัน?พอถึงเวลาฉันจะคอยดูว่าใครมันจะจัดการฉันได้”กัวไฮว่มองทั้งสองที่เดินไปยิ้มไปแล้วแอบพูดเงียบๆในใจ
“พี่ไฮว่ทางนี้”เมื่อเข้าไปในร้านอาหารกัวไฮว่ก็เห็นถังซีโบกมือมาทางตน เป็นเพราะการประมูลสิ้นสุดลงนักเรียนก็ต่างหิวกันแล้ว ไม่นานในร้านอาหารก็มีคนแน่นขนัด ทว่าเมื่อกัวไฮว่เดินเข้าไปในร้านอาหารไม่นานก็ดึงดูดความสนใจของคนทั้งหมดไปได้ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วร้อยห้าสิบห้าล้านถือเป็นจำนวนเงินในความฝันและไม่คาดคิดว่ากัวไฮว่จะบริจาคของแบบนี้มาประมูลได้
“นี่คุณครูหลินครูประจำชั้นของพวกเรา ไม่ต้องแนะนำหรอกมั้งพวกเธอน่าจะรู้จักกันหมดแล้ว เสี่ยวเยี่ยจื่อวันนี้ไม่ไปกินร้านปู่หกนะ ที่โรงอาหารยังมีอีกที่ที่มีของอร่อยไหม”กัวไฮว่มองซูเยี่ยแล้วถามขึ้นยิ้มๆ
“ถามฉันทำไมล่ะ”ซูเยี่ยชะงักไปแล้วถามขึ้นยิ้มๆ
“เพราะว่าช่วงนี้ฉันอ่านหนังสือเล่มนึง ในหนังสือเขียนไว้ว่าพวกสายกินมักจะไม่หลงทางเพราะพวกเขามักจะจำสถานที่ที่มีของอร่อยได้ เธอหลงทางไหมฉันไม่แน่ใจ แต่เธอเป็นสายกินแน่นอนเพราะว่าความใหญ่ของเธอ”กัวไฮว่พูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าดวงตาจับจ้องไปยังส่วนเกินของซูเยี่ย
“ตาบ้า ไอ้ตาบ้า นายกล้าพูดแบบนี้กับฉันต่อหน้าเสี่ยวซีเหรอ เสี่ยวซี พี่โยวโยวสั่งสอนมันเลยคุณครูหลินสั่งสอนตาบ้านี่เลยค่ะ”ซูเยี่ยถลึงตามองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น
“เยี่ยจื่อ ร้านอาหารร้านไหนมีของอร่อยเธอรู้ดีที่สุดนี่ เธอพาพวกเราไปเถอะนะ”ถังซีพูดยิ้มๆ
“เสี่ยวซีเธอเปลี่ยนไป เพิ่งจะไม่กี่วันเองเธอก็เปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช่เสี่ยวซีผู้แสนบริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว”ซูเยี่ยจ้องมองถังซีแล้วพูดขึ้น“พี่โยวโยวพี่ไม่สั่งสอนเขาหน่อยเหรอ”
“สั่งสอนยังไงล่ะ เหมือนว่าเธอจะตัวใหญ่ขึ้นหน่อยนะ”โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ หลินซวงมองพวกเธอใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความสับสน ที่นี่ใช่ฟู่จงหรือเปล่า นี่ใช่นักเรียนหญิงที่สุดยอดที่สุดของฟู่จงหรือเปล่า บ้าจริงถูกตาบ้านี่ชักจูงไปในทางที่ไม่ดีกันหมด
“อ๊าก บ้าไปแล้ว บ้ากันไปหมดแล้ว”ซูเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงดัง“งั้นก็ไปร้านอาหารคนบ้าด้วยกันเถอะ อาหารที่นั่นไม่เลวเลย ปกติแล้วคนก็ไม่เยอะมาก”
“เตรียมตัวไปกัน”กัวไฮว่ตะโกนเสียงดังลั่นสาวสวยทั้งห้าถึงกับหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็เดินมุ่งไปยังร้านอาหารที่อยู่แสนไกลภายใต้สายตาของนักเรียนนับร้อย
“ร้านอาหารคนบ้า ครูหลิน เวยเวยคิดว่าอักษรพวกนี้เขียนเป็นไงบ้าง”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เขียนเป็นยังไงอะไร เขียนได้ไม่เท่าเสี่ยวซีน่ะสิ รีบเข้าไปเร็ว เถ้าแก่ที่นี่นิสัยประหลาด เดี๋ยวพวกเธอเข้าไปอย่าพูดจามั่วซั่วล่ะจะได้ไม่ถูกไล่ออกมา”ซูเยี่ยพูดเบาๆ
“พี่ไฮว่อักษรนี่ถึงจะเขียนลวกๆ แต่ก็ดูเหมือนว่ามีของอยู่นะ ฉันดูไม่ออกน่ะ”มู่หรงเวยเวยพูดด้วยเสียงเบา
“‘ความจริงไร้รูปความจริงง่ายดาย’คนคนนี้มีความเข้าใจในตัวอักษรถึงขั้นถ่องแท้แต่ยังมีบางจุดที่ไม่สมดุล”กัวไฮว่พูดเบาๆอยู่ข้างหูมู่หรงเวยเวย
“พี่ไฮว่พี่ดูออกจริงๆเหรอ งั้นพี่ว่ามันไม่สมดุลตรงไหนเหรอ”มู่หรงเวยเวยอึ้งไปครู่หนึ่งเด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ใช่เจ้าสี่สี่ตัวอันตรายที่ไม่ว่าใครได้พบก็ต้องเจอแต่ความวุ่นวายจริงๆเหรอ
“กินข้าวกันก่อน กินข้าวเสร็จฉันจะบอกเธอ หึๆ”กัวไฮว่พูดจบกำลังจะเดินก้าวไปข้างหน้าแต่ก็ถูกผู้อาวุโสหัวหงอกผู้หนึ่งขวางเอาไว้
“จู้จื่อมาห้าคนเอาอาหารเซ็ตบ้าคลั่งมาเสิร์ฟพวกเขานะทั้งซุปห้าธาตุ พระกระโดดกำแพง[1] แล้วก็อาหารเรียกน้ำย่อยสุดแสนจะเย็นเจี๊ยบด้วย”
“นี่พ่อหนุ่มของกินด้านในจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ตอนนี้มีเวลาคุยกับฉันแล้วใช่ไหม”ชายชราหรี่ดวงตามองกัวไฮว่แล้วถามขึ้น
“ให้เธอตามไปด้วย แล้วก็เมียหลวงผมด้วย”กัวไฮว่ชี้นิ้วไปที่มู่หรงเวยเวยพร้อมกับพูดขึ้นชายชรายิ้มพลางผงกศีรษะแล้วเชิญกัวไฮว่กับมู่หรงเวยเวยเดินเข้าไป
“เสี่ยวซีมานี่หน่อยสิ”กัวไฮว่พูดกับทั้งสี่คนที่เข้าไปแล้ว“ครูหลินถ้าอาหารมาเสิร์ฟแล้วพวกเธอกินกันได้ก่อนเลยพวกเรายังมีธุระนิดหน่อย”
“เสี่ยวซีอย่าไปนะ ตาแก่นั่นดูประหลาดๆ แถมไปกับตาบ้านั่นก็ไม่น่าจะมีเรื่องดีๆนะ”ซูเยี่ยพูดเบาๆ
“ยายหนูซูเยี่ยถ้ากล้านินทาลับหลังฉันอีกล่ะก็เธอก็อย่าได้กินข้าวที่ร้านนี้อีกเลย”ชายชราหูไวอย่างมากเขาพูดกับซูเยี่ยด้วยเสียงดัง
“ตาแก่บ้า พวกเรามาด้วยกันถ้าไม่ให้ฉันกินข้าวฉันจะพาทุกคนไป”ซูเยี่ยพูดขึ้นเสียงดังอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ“ฉันจะตามไปดูด้วยว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ โยวโยวเธอก็ไปด้วยเร็ว”
“เหอะๆไม่แปลกใจเลยที่ซูปู้ชือกลัวเธอขนาดนั้น ช่างเป็นเด็กที่ห้ามมีเรื่องด้วยจริงๆ”พูดจบชายชราก็พาไปยังห้องที่แสนจะสะดวกสบายโดยไม่ได้สนใจเด็กสาวสามคนที่เดินตามมา ภายในห้องตกแต่งเรียบง่าย มีโต๊ะยาวประมาณแปดเมตรอยู่ตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีแท่นหมึกอยู่แท่นหนึ่ง บนแท่นหมึกมีพู่กันสามด้ามห้อยเอาไว้ ภายในห้องยังมีโต๊ะแปดเซียน[2]อยู่ตัวหนึ่งและมีเก้าอี้ม้านั่งอยู่หกตัว”
“นั่งสิ”ผู้อาวุโสมองไปยังกัวไฮว่แล้วพูดยิ้มๆ“อาจารย์ของพ่อหนุ่มเป็นใครมาจากไหน”
“ในเมื่อนายท่านมีพู่กันมีหมึกงั้นให้ผมยืมกระดาษเขียนพู่กันหน่อยได้ไหม แล้วนายท่านลองทายดูว่าอาจารย์ของผมเป็นใครมาจากไหน”กัวไฮว่ไม่ได้ตอบคำถามของชายชราพูดขึ้นยิ้มๆว่า“เวยเวยเอาพู่กันหมึกมาหน่อย”
ชายชราไม่ได้ชักช้า ไม่นานในมือก็มีกระดาษเซวียนจื่อ[3]แผ่นหนึ่งจึงแผ่เอาไว้บนโต๊ะ
“นายท่านนี่มัน กระดาษเซวียนจื่อนี่ หลายคนอยากได้ก็ซื้อไม่ได้ ถึงบางคนจะมีแต่ก็ไม่ขายนี่ ร้านอาหารคนบ้านี่ไม่เลวเลย ผมเขียนพู่กันสักหน่อยก็แล้วกัน”กัวไฮว่พูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่หยิบพู่กันด้ามที่หยาบที่สุดในทั้งสามด้ามแล้วเขียนอักษรสี่ตัวไปบนกระดาษ
“ไปกันไปกินข้าว!”กัวไฮว่วางพู่กันลงแล้วพูดกับถังซีและอีกสี่คนอย่างยิ้มแย้ม
“ดูไม่ออกเลยว่าเขียนดีตรงไหน ตาแก่บ้านี่เป็นอะไรจ้องไม่หยุด”ซูเยี่ยพูดอย่างดูถูกแล้วเดินออกมาจากห้อง ตอนนั้นเองอาหารที่ชายชราสั่งมาให้พวกเขาก็เสิร์ฟเต็มโต๊ะแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้ เขาเพิ่งจะอายุไม่เท่าไหร่ต่อให้ฝึกพู่กันตั้งแต่เกิดก็ไม่มีทางเขียนแบบนี้ได้”ผู้อาวุโสจ้องไปยังอักษรสี่ตัวที่อยู่บนโต๊ะโดยตกเข้าไปในภวังค์อันประหลาดที่ไม่อาจจะออกมาได้
“พี่ไฮว่เหอะๆ”ซูเยี่ยมองกัวไฮว่แล้วยิ้มแหย
“เจ้าเมียเก็บนี่ ทำไมโลภมากแบบนี้ เอาแก้วออกมา”กัวไฮว่ใช้วิชาอ่านจิตก็รู้ได้ว่ายายเด็กนี่คิดอะไรอยู่
“แก้วสี่ใบเสี่ยวเยี่ยจื่อเธอจะแบ่งยังไงเหรอ”กัวไฮว่มองเซ็ตแก้วที่ซูเยี่ยเอาออกมาแล้วถามขึ้นขำๆ
“ก็แบ่งไม่ยากเสี่ยวซีหนึ่ง พี่โยวโยวหนึ่ง เวยเวยหนึ่ง ครูหลินหนึ่ง”ซูเยี่ยพูดยิ้มๆ“เดี๋ยวฉันไปขอแก้วอีกสองใบจากข้างหลังร้าน พวกเราก็หนึ่งคนหนึ่งแก้วก็ได้แล้ว”ซูเยี่ยพูดพลางวิ่งไปยังห้องครัว
“เราใช้ถ้วยดื่มกันเถอะ!”
[1]ชื่ออาหารอย่างหนึ่งของจีนแถบกวางตุ้ง
[2]โต๊ะไม้แบบโบราณของจีนหน้าโต๊ะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสมีเก้าอี้ม้านั่งไร้พนักพิงวางอยู่รอบๆ
[3]เป็นกระดาษที่ได้รับการยอมรับจากชาวจีนว่าเป็นกระดาษที่เหมาะสมที่สุดในการเขียนพู่กันจีน
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^
https://www.kawebook.com/story/6815