[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 23 เป็นบ้าเพราะเหล้า
“ห้าล้านห้า ฉันว่าครั้งนี้นายพลหลี่ระดมเงินทุนได้เยอะเลย”ในขณะที่หลินซวงกำลังประกาศให้น้ำเต้าเป็นของโหยวโยวโยวฝรั่งผมสีทองนัยน์ตาสีฟ้าก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้น
“คนคนนี้คือชาลีเป็นชาวอังกฤษที่ทำธุรกิจขนส่งทางทะเลเป็นหลัก บรรพบุรุษเป็นเจ้าของเกาะ ชอบสะสมของโบราณหายาก”ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดขึ้นเบาๆข้างหูหลี่โต้วเทียน
“ฉันไม่อยากให้น้ำเต้านี่ตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติ แกไปบอกอาเย่าให้หน่อยสิ”พูดจบหลี่โต้วเทียนก็หลับตา
“ห้าล้านห้าเอาไปซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ไว้ใช้ทำอะไร ฝรั่งคนนี้น่าสนใจดีนี่”เมื่อฝูงชนได้ยินชาลีตะโกนบอกราคาห้าล้านห้าต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา
“แปดล้านของสิ่งนี้ควรจะเก็บไว้ที่จีน”โหยวโยวโยวขบฟันพูดขึ้น เงินแปดล้านเป็นเงินทุนสูงสุดที่เธอจะให้ได้ ตระกูลโหยวมีอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งอยู่ในเมืองอู่เฉิง ทว่าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของตระกูลอยู่ในแถบชายฝั่งทะเล
เมื่อนายท่านหลี่ได้ฟังคำพูดของโหยวโยวโยวก็พยักหน้าเบาๆ
“หนูน้อยปู่ของฉันชอบของหายากมากๆเลย อีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดปู่ฉันแล้วฉันจะเอาน้ำเต้านี่ไปเป็นของขวัญวันเกิดให้เขาน่ะ สิบล้าน”ชาลีตะโกนเสียงดัง
“เจ้าคนอังกฤษขอดูหน่อยสิว่าเจ้าคิดอะไรอยู่”เมื่อพูดเสร็จกัวไฮว่ก็ใช้วิชาอ่านจิตกับชาลี
“เจ้าพวกคนจีนนี่นะ น้ำเต้านี่นายพลอีวานอฟเคยพูดถึงตอนที่อยู่บ้านฉัน น้ำเต้านี่คือของขวัญที่มนุษย์ต่างดาวมอบให้มนุษย์โลกของสิ่งนี้ต้องนำคืนประเทศอังกฤษให้ได้ ถ้าเป็นไปตามที่ฉันคาดเดาละก็เศรษฐกิจประเทศอังกฤษจะต้องพัฒนาอย่างมากแน่”
“ยี่สิบล้านปู่แกเอาของหายากไปจากประเทศจีนนี่ก็มากพอแล้ว ฉันว่าเก็บของนี่ไว้กับพวกเราที่นี่จะดีกว่า”กัวไฮว่พูดอย่างไม่เกรงใจ
“ประเทศจีนมีน้ำเต้าแบบนี้เยอะแล้ว ฉันว่าเธอถอยสักก้าวจะดีกว่านะ เอาน้ำเต้ามาให้ฉัน สามสิบล้าน”ชาลีลุกขึ้นมามองไปยังกัวไฮว่แล้วพูดขึ้น
“เพื่อความปรารถนาของคุณปู่ฉันจะเพิ่มเงินอีกเป็นสี่สิบล้าน”ชาลีขบฟังพูดราคาของสิ่งนี้เกินกว่าที่เขาคิดไว้ในใจนัก เพราะเขาไม่แน่ใจว่าน้ำเต้านี่เป็นของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ ถ้าหากไม่ใช่เงินสี่สิบล้านไม่รู้ว่าจะกระทบต่อการงานของตัวเองบ้างหรือเปล่าแต่ใครมันจะไปสนเรื่องเงินนักเล่า
“ฉันว่าที่แฟนฉันพูดตอนแรกก็ถูกนะ เก็บของนี่ไว้ที่จีนจะดีกว่า เพราะของนี่เดิมทีก็เป็นของของประเทศจีน ห้าสิบล้าน”พูดจบกัวไฮว่ก็ค่อยๆนั่งลงมองไปยังดวงตาที่แดงระเรื่อของโหยวโยวโยวที่ปรากฏสายตาแห่งความชื่นชมอยู่
“ห้าสิบล้าน ยินดีด้วยดูท่าเธอน่าจะชอบแฟนของเธอมากน้ำเต้านี่เป็นของเธอแล้วล่ะ”ชาลีพูดด้วยท่าทางสุภาพแล้วก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“เสียของที่ปู่คุณชอบไปเพราะเงินห้าสิบล้าน กลัวว่าปู่ของคุณจะโกรธนะฮ่าๆ”กัวไฮว่ยังคงพูดอย่างไม่แยแสเพราะกัวไฮว่ค้นพบอีกเรื่องนึงก็คือปู่ของเจ้าชาลีนี่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
“ห้าสิบล้าน ขอบคุณกัวไฮว่นักเรียนมอสี่ที่การสนับสนุนการประมูลนี้ด้วย”หลินซวงรออยู่สามวินาทีเมื่อไม่เห็นมีใครเพิ่มราคาเลยพูดด้วยเสียงดัง นักเรียนในห้องของเธอคนนี้ออกจะแย่ไปสักหน่อย แต่ว่าวันนี้ทำได้สุดยอดไปเลย
“หวังว่านักเรียนท่านนี้จะจ่ายเงินห้าสิบล้านไหวนะ”ชาลีส่ายศีรษะอย่างรุนแรงแล้วพูดขึ้น
“ลำดับต่อไปคือของชิ้นสุดท้ายในงานประมูลวันนี้”หลินซวงพูดพลางดึงผ้าสีแดงออกมาน้ำเต้าที่ดูเหมือนกับอันเมื่อสักครู่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชะ
“เหล้าดีหนึ่งกา”หลินซวงพูดยิ้มๆ
“ครูหลินขอผมขัดสักแปบนึง”ในขณะที่หลินซวงจะอธิบายต่อนั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง“ของที่ผมนำมาประมูลให้ทุกท่านคือเหล้าในน้ำเต้า ไม่ว่าใครประมูลได้เหล้าในน้ำเต้านี่ไปต้องเทเหล้าข้างในออกมาในเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะน้ำเต้านี่เป็นของผม”
“ไม่เคยเห็นใครขายเหล้าแบบนี้มาก่อนเลย ให้เหล้าคนอื่นแต่ตัวเองเก็บขวดเอาไว้”ชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากกัวไฮว่พูดขึ้นเสียงดัง
“ช่วยไม่ได้เหล้าของฉันก็ขายแบบนี้มาตลอด ก็เหมือนเวลาแกไปหาสาวสวยนั่นแหละไอ้นั่นเอาเข้าไปได้หรือว่าแกไม่เอามันกลับมาด้วย”กัวไฮว่มองชายหนุ่มที่มองยังไงก็ไม่เจริญตาจากนั้นก็พูดเสียงดัง
“ฮ่าๆ พี่ไฮว่เจ๋งเป้ง”เฉียนตัวตัวหัวเราะลั่นผู้ชายในโถงประชุมก็พลันหัวเราะตามด้วย
“ทุกคนโปรดเงียบเสียงหน่อยนะคะ ทุกคนคงเหนื่อยกันมากแล้ว เรามารีบประมูลของชิ้นสุดท้ายให้เสร็จสิ้นสุดการประมูลครั้งนี้กันดีกว่า”หลินซวงพูดขึ้นด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ
“ขอฉันแนะนำเหล้านี่หน่อยดีกว่า”เริ่นเสวียนเช่อลุกขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วเดินก้าวใหญ่ไปข้างหน้า“เริ่นเสวียนเช่อ คนล่างเวทีที่รู้จักผมมีไม่น้อย นายท่านเริ่นคิดว่าคนน่าจะรู้จักชื่อนี้มากกว่าก็คือฉันนี่แหละ”
“ฮ่าๆ เจ้าหกหลายปีมานี่ฉันหาแกไม่เจอว่ากันว่าแกแอบมาเปิดร้านอาหารอยู่ในโรงเรียนฟู่จงหรือ ตาแก่หลี่ก็ไม่ยอมให้พวกเราเข้ามา วันนี้แกหนีไม่รอดแน่”ผู้อาวุโสท่านหนึ่งพูดยิ้มๆ
“วันนี้หลังจากการประมูลสิ้นสุดลงฉันจะให้กินข้าวฟรี แต่ฉันหวังว่าทุกคนจะได้เหล้าในน้ำเต้านี่ไป”เริ่นเสวียนเช่อพูดยิ้มๆ“เหล้านี่ฉันเคยกินมาสองครั้ง ครั้งแรกหน้าด้านไปขอ ครั้งที่สองหน้าด้านแอบกิน ก็คือเหล้าในน้ำเต้านี่แหละแน่นอนหลังจากการประมูลสิ้นสุดฉันจะให้เงินแก่โรงเรียนฟู่จงตามราคาประมูลได้”
เมื่อเริ่นเสวียนเช่อพูดจบทั้งโถงห้องประชุมก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“ฉันเคยชิมเหล้ามานับครั้งไม่ถ้วน แต่เหล้าของกัวไฮว่เป็นที่หนึ่ง”พูดจบเริ่นเสวียนเช่อก็เดินลงมา
“พูดตามตรงฉันก็หน้าด้านแอบจิบไปคำนึง ถึงฉันจะไม่ค่อยกินเหล้าแต่รสชาติเหล้านี่ทำให้ทั้งชีวิตของฉันไม่อาจลืมได้ฉันก็เหมือนกับคุณปู่หก หลังจากประมูลเหล้านี้เสร็จแล้วฉันจะโปะเงินค่าเหล้านี่ด้วย”หลินซวงพูดเสียงเบา“หวังว่าราคาประมูลเหล้านี่จะไม่สูงเกินไปนะคะ”
“พูดเฉยๆแต่ไม่ได้ชิมก็สัมผัสถึงความอร่อยของเหล้านี่ไม่ได้น่ะสิ”ผู้อาวุโสท่านหนึ่งมองไปยังคนทั้งสองบนเวทีที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วพูดขึ้นด้วยความอิจฉา
“ให้พวกคุณชิมมันจะไปยากอะไร”กัวไฮว่ลุกขึ้นมาช้าๆอย่างเกียจคร้าน ในมือถือน้ำเต้าอีกมือถือแก้วใบเล็กๆที่มีเหล้าอยู่เต็มจากนั้นกัวไฮว่ก็โยนแก้วเหล้าไปในอากาศ เหล้าในแก้วจึงสาดไปทั่งสารทิศ“คนมีวาสนาได้กินหนึ่งหยด คนไร้วาสนาก็ช่างมัน”พูดจบกัวไฮว่ก็นั่งตรงที่นั่งอีกครั้ง
“ทำเป็นดีที่แท้ก็เลว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเหล้านี่จะดีนักหนา”ผู้อาวุโสท่านหนึ่งพูดพลางเลียเหล้าที่หยดบนหลังมือของตน
“เหล้า เอาเหล้ามาให้ฉันขอร้องเธอล่ะ เธออยากได้เงินเท่าไหร่ฉันให้เธอหมดเลย”ผู้อาวุโสตะโกนเสียงดังลั่นมุ่งไปยังทางกัวไฮว่
“ล้านนึง ไม่สิสิบล้าน ให้ฉันกินคำนึงแค่คำเดียว”เมื่อคนที่อยู่ด้านข้างเห็นปฏิกิริยาบ้าคลั่งของผู้อาวุโสตนเองก็อดไม่ได้ที่จะเลียเหล้าที่หยดลงบนหลังมือของตนไม่นานก็ตะโกนเสียงดังลั่นออกมา
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^
https://www.kawebook.com/story/6815