[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 162 กินเหล้าติดหนี้น้ำใจ
“เถิงเฟย กินข้าวเสร็จแล้วให้พ่อแกมาหาฉันที่ห้องหนังสือหน่อย พวกเธออยู่กันไปก่อน เจ้าสามแกก็มาด้วย คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพ่อหนุ่มที่มาบ้านเซวียนหยวนจะเก่งขนาดนี้” เซวียนหยวนซยงเฟิงหรี่ตามองทุกคนพร้อมกับพูดขึ้น
“นายท่านครับ กินข้าวๆ เรื่องเล็กน้อยน่า รอให้กินข้าวเสร็จผมจะสั่งยาให้พวกเขาทุกคนเอง รับรองว่าจะจัดการปัญหาได้ถึงรากถึงโคนเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อเข้าไปในปากโดยไม่สนคนอื่น
“พ่อหนุ่ม เธอช่วยชีวิตอาตั่วกับเด็กๆ สองคนเอาไว้ บอกมาสิว่าอยากได้อะไร ถ้าตระกูลเซวียนหยวนทำให้ได้ก็จะทำให้แน่” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดยิ้มๆ สีหน้าที่เปลี่ยนไปไวทำเอาเด็กๆ ต่างก็อ้าปากค้าง ทว่าในใจพวกเขากลับไม่สงบนัก “ตอนที่เครื่องบินลงจอดพี่เถิงเฟยก็ถามผมแล้วล่ะ ตอนนั้นผมไม่อยากได้อะไร แต่พอมาที่หมู่บ้านอวิ๋นหัว หมู่บ้านนี่ไม่เลวเลย งั้นก็เอาหมู่บ้านนี่แล้วกัน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ พ่อหนุ่ม ใจกล้าดีนะเนี่ย ถ้าเธออยากได้จริงๆ หมู่บ้านนี่ฉันยกให้เธอก็ได้” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ ผมล้อเล่นน่ะครับ ที่นี่ไม่เลวเลย ผมเห็นว่าข้างๆ บ้านพี่เม่ยเอ๋อร์ว่างอยู่ เอาบ้านนั่นให้ผมเถอะ แน่นอนว่าบ้านนี่ผมไม่เอามาฟรีแน่” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เถิงเฟย ให้คนไปปัดกวาดบ้านทางนั้นนะ เหมือนว่าบ้านสองหลังหลังบ้านยายหนูเม่ยเอ๋อร์จะว่างอยู่นะ บ้านสี่หลังอยู่ติดกันเลย” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ นายท่านนี่ชัดเจนจริงๆ เลย อาหารตระกูลเซวียนหยวนไม่เลวเลย แต่เหล้าไม่อร่อย นายท่าน ลองชิมเหล้าผมหน่อยเป็นไง” กัวไฮว่พูดพลางถือแก้วเหล้วใสกิ๊งอยู่ในมือราวกับร่ายมนตร์ จากนั้นก็เทจนเต็ม แล้วก็วางไว้ด้านหน้าเซวียนหยวนซยงเฟิง
“พ่อหนุ่ม ใช้ได้เลยนะเนี่ย” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดเสียงดัง จากนั้นก็ดื่มเหล้าหมดในอึกเดียวอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ เดิมทีเซวียนหยวนเถิงเฟยกับอาๆ ทั้งสามของเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างทว่าเหล้าก็ลงท้องไปเรียบร้อยแล้ว
“พ่อหนุ่ม ธะ…เธอให้ฉันกินเหล้าอะไรเนี่ย เธอ” เซวียนหยวนซยงเฟิงหน้าแดงก่ำเล็กน้อย เขาส่ายศีรษะอย่างรุนแรงอย่างพูดไม่ถูก
“พ่อหนุ่ม เธอให้พ่อฉันดื่มอะไร มีใครอยู่ไหม รีบเรียกหมอมาเร็ว” เซวียนหยวนเผิง อาสามของเซวียนหยวนเถิงเฟยตะโกนเสียงดัง ส่วนตัวเองก็เดินไปยังกัวไฮว่
“เจ้าสาม ทำอะไร แกจะทำอะไร ตะโกนเสียงดังทำไม” เซวียนหยวนซยงเฟิงมองไปยังเซวียนหยวนเผิงผู้ทำให้เรื่องแย่ลงพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง
“พ่อ ไม่เป็นไรใช่ไหม เด็กนี่ให้พ่อดื่มอะไรเหรอ เมื่อกี้ผมเห็นเหมือนพ่อโดนพิษน่ะ” เซวียนหยวนเผิงรีบวิ่งไปอยู่ข้างเซวียนหยวนซยงเฟิงพร้อมกับถามด้วยความรีบร้อนใจ
“โดนพิษ พวกแกผิดมหันต์แล้ว นี่สมองแกถูกลาเตะมาหรือยังไงกัน โดนพิษ โดนพิษ แกชิมดู แกชิมดูว่ามียาพิษแบบนี้หรือเปล่า ถ้ามีแกก็เอามาให้ฉัน ฉันจะกินทุกวันเลย” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดพลางจุ่มนิ้วไปในแก้วเหล้า จากนั้นก็เอานิ้วมือหยาบใส่เข้าไปในปากเซวียนหยวนเผิง
“แค่กๆ พ่อ เด็กอยู่เยอะขนาดนี้ พ่อทำอะไรเนี่ย” เซวียนหยวนเผิงพูดขึ้นอย่างน้อยอกน้อยใจ นายท่านรักและเอ็นดูตนที่สุดแล้ว มักจะให้ตัวเองอยู่ข้างกาย คนนอกเห็นตัวเองเป็นไข่ในหิน อันที่จริงน้อยใจอะไรนั้นมีเพียงแต่เขาที่รู้
“เหล้า เอาเหล้ามาให้ฉัน” จากนั้นไม่นาน เซวียนหยวนเผิงก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา
“อาสาม เอ้านี่ กินของผมนี่สิ” เซวียนหยวนเวยมองนายท่านจากนั้นก็นำกาเหล้าที่ทำจากเงินออกมาให้อย่างระมัดระวัง แล้วก็ส่งให้เซวียนหยวนเผิง
“เอาไป แกเอาฉี่ม้ามาหลอกอาสามหรือไง” เซวียนหยวนเผิงเปิดกาน้ำแล้วดื่มไปอย่างจังอึกหนึ่ง จากนั้นก็อ้วกออกมาพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง
“ฉี่ม้า? นี่แอบเอามาจากในตู้เหล้าของอาเลยนะ หรือว่าหลายปีมานี้จะกินฉี่ม้ากับอามาตลอด” เซวียนหยวนเวยพูดพึมพำเบาๆ
“ไอ้น้อง เมื่อกี้ทำผิดไปเยอะเลย ฉันก็ทำไปเพื่อความปลอดภัยของนายท่านน่ะ ฉันขอโทษนะ” เซวียนหยวนเผิงนั่งลงข้างๆ กัวไฮว่ “พ่อหนุ่ม ยายหนูเม่ยเอ๋อร์นี่ฉันเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต ถ้าเธอชอบพอ ฉันจะช่วยพูดกับฝั่งพี่สาวฉันเอง ดองพวกเธอด้วยกันก็สิ้นเรื่อง”
“ฮ่าๆ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ขอขอบคุณอาสามก่อนเลยนะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ คนตระกูลเซวียนหยวนนี่น่าสนใจดีนะ กัวไฮว่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นออกมา
“เรื่องงานแต่งของพวกเธอให้ฉันจัดการเอง งั้นเธอช่วยให้ฉันอิ่มท้องลาภปากกับเหล้าวิเศษที่ให้นายท่านดื่มหน่อยได้ไหม” เซวียนหยวนเผิงถูมือพร้อมกับถามขึ้นโดยไม่ได้สนใจสีหน้าถอดสีของเซวียนหยวนซยงเฟิง
“อาสามอยากดื่มก็บอกมาตรงๆ ก็ได้ ผมเทให้เต็มถ้วยเลย” ในขณะที่พูดกัวไฮว่ก็เทเหล้าลงไปในถ้วยอาหารที่อยู่ข้างมือจนเต็ม ทว่ายังไม่ทันจะได้ดื่มไปแม้แต่หยดเดียว นายท่านก็แย่งมา
“กินเหล้าอะไรเนี่ย ทำเด็กๆ เสียคนหมดแล้ว ฉันว่าเด็กพวกนี้ผิดมหันต์แล้วนะ เป็นเพราะแกเป็นอาที่ไม่ดี แกไม่ต้องกินข้าวที่นี่แล้ว ไปห้องอาหารเล็กไป” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดด้วยเสียงดัง
“พ่อครับ อย่าทำแบบนี้สิ ผมไปห้องอาหารเล็กก็ได้ แต่เอาเหล้าคืนผมเถอะ” เซวียนหยวนเผิงพูดเสียงดัง ทำเอาพวกเด็กๆ ตกใจไปและอดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนเสียงดังอยู่ในใจ อาสามสุดยอดไปเลย กล้าขึ้นเสียงกับคุณปู่ด้วย
“เจ้าสาม แกว่าไงนะ ให้ฉันคืนเหล้าให้แก” เซวียนหยวนซยงเฟิงหรี่ตาพูดพร้อมกับลูบเข้าที่หนวดของตน
“ผมไม่ได้พูดอะไรครับพ่อ พวกเธอกินกันไปเถอะ ฉันจะไปห้องอาหารเล็ก” ตอนนี้เซวียนหยวนเผิงเองก็เพิ่งจะค้นพบว่าเมื่อตนเองดันตะคอกพ่อไป ดีที่นึกได้ไว ไม่งั้นได้เกิดปัญหาใหญ่แน่ แม้เหล้าจะอร่อย แต่ก็ไม่คุ้มที่จะแลกหมัดกับนายท่าน
“เด็กเวร ดูท่าทางจะต้องปรับสไตล์ครอบครัวหน่อยแล้ว” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดเสียงดัง
“คุณปู่ เหล้าอร่อยใช่ไหมล่ะคะ แต่หนูมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอกกับปู่ ไม่งั้นปู่กินไม่ลงไปตลอดแน่ แล้วถึงตอนนั้นติดหนี้ใครก็ยากจะคืนแล้ว” หูเม่ยเอ๋อร์เห็นเซวียนหยวนซยงเฟิงดื่มเหล้าไปสองถ้วยแล้วก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“ยายหนู บอกมา ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าในหัวซย่ามีเรื่องไหนที่ฉันจัดการไม่ได้ ขอแค่ไม่ใช่ลักพาตัวอี้เฮ่าฉางเรื่องอื่นถ้าเด็กนี่มีปัญหาอะไร ฉันจะออกหน้าช่วยเขาเอง”
“ปู่พูดแบบนี้แล้วฉันรู้สึกว่าน้องไฮว่ให้เหล้าปู่ไปก็คุ้มค่าแล้วล่ะ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ ทว่าตอนนี้จู่ๆ เซวียนหยวนซยงเฟิงก็สร่างเมามาหน่อยนึงแล้ว เขารู้จักยายหนูคนนี้ดี คราวก่อนเธอก็ทำแบบนี้ หนวดที่เขาไว้ยาวมาสามสิบกว่าปีถูกยายหนูนี่โกนจนเกลี้ยง
“พ่อหนุ่ม มาเมืองหลวงครั้งนี้มีเรื่องอะไรกันแน่ มีปัญหาอะไรบอกฉันได้เลย อะไรที่ฉันช่วยเธอจัดการได้ฉันก็จะทำ” เซวียนหยวนซยงเฟิงพูดยิ้มๆ อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหูเม่ยเอ๋อร์
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ทำคู่หมั้นของไอ้บ้ากู่เลี่ยนั่นท้องน่ะ เป็นชู้คู่หมั้น” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ ราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ
“กู่เลี่ย กู่เลี่ยไหน ลูกชายของกู่เจิ้นเหลยเหรอ” คราวนี้เซวียนหยวนซยงเฟิงสร่างเมาของจริง เหล้านี่ไม่เห็นจะอร่อยเลย