[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 151 แบ่งอาวุโส
เหลิ่งซวงกับหลิวเย่าซือประสานตากันแล้วผงกศีรษะเบา ๆ นักเรียนทั้งสิบแปดคนแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เก้าคนแรกเข้าไปก่อน ส่วนเก้าคนที่เหลืออยู่ที่คลินิกไม่เผื่อมีใครมาช่วงนี้จะได้คอยต้อนรับ กัวไฮว่ยิ้มพลางพยักหน้า เงินที่คลินิกไม่ทำได้ในเดือนนี้ถือเป็นเรื่องรอง ผลบุญต่างหากที่เป็นสิ่งที่กัวไฮว่อยากได้
“เสี่ยวไฮว่ ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ฉันไม่ค่อยสบาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอช่วยฉันดูหน่อยสิ วันนี้ให้เสี่ยวเฉียนจับชีพจรแล้ว เขาบอกว่าช่วงนี้ฉันกินข้าวดีไปหน่อย มันเกิดจากการที่พลังงานในร่างกายไม่ถูกปลดปล่อยออกมา ละ…แล้วก็บอกให้ฉันไปหาผู้หญิงมาก็พอแล้ว ฉันควรจะสั่งสอนเด็กนี่สักหน่อยแล้ว” โจวเทียนหยางพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“ฮ่า ๆ เสี่ยวเฉียนเจ้าหมอนี่ ล้ออาโจวเล่นจนได้” กัวไฮว่ยิ้มพลางทาบนิ้วไปบนข้อมือของโจวเทียนหยาง หลังจากนั้นไม่นาน กัวไฮว่ก็หัวเราะลั่นขึ้นอีกครั้ง
“เสี่ยวไฮว่ เป็นอะไรไป มีอะไรหรือเปล่า” โจวเทียนหยางมองกัวไฮว่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยจากนั้นก็ถามขึ้น
“อาโจว เสี่ยวเฉียนพูดถูก ช่วงนี้ลุงกินอยู่ดีเกินไป ถ้าหาผู้หญิงมาสักคนก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยจริง ๆ” กัวไฮว่พูดต่อโดยไม่ได้สนท่าทีตื่นตะลึงของโจวเทียนหยาง “ผมว่าหลิวเหวินก็ดูไม่เลวเลยนะครับ จะมีธุระหรือไม่มีก็มาหาอาที่นี่ตลอด เขาไม่รังเกียจที่อาแก่ อาก็เข้าด้ายเข้าเข็มเลยสิ”
สีหน้าของโจวเทียนหยางแดงก่ำขึ้นมา หลิวเหวินมาได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน เด็กคนนี้สนใจในการทำอาหารเป็นอย่างมากเลยมาหาโจวเทียนหยางอยู่บ่อย ๆ หลิวเหวินมีนิสัยร่าเริง โจวเทียนหยางเองก็ชอบพอ
“ให้ตายสิ กิ๊กกัน กิ๊กกันจริง ๆ ด้วย” เมื่อกัวไฮว่เห็นใบหน้าแดงก่ำของโจวเทียนหยางก็พูดขึ้นมาเสียงดัง “อาโจว ดูไม่ออกเหรอครับว่ามีวัวแก่กินหญ้าอ่อนน่ะ ฮ่า ๆ ดี ก่อนไปเมืองหลวงผมจะช่วยลุงจัดการเรื่องนี้เอง”
“เสี่ยวไฮว่ เบาเสียงหน่อยสิ” โจวเทียนหยางก้าวขึ้นไปข้างหน้า แล้วเอามือปิดปากกัวไฮว่เอาไว้ จากนั้นก็มองไปรอบด้านแล้วหายใจออกเฮือกใหญ่…ดีนะที่ไม่มีคน
“บอกมาก่อนเถอะว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าในร่างกายเต็มไปด้วยพลังงาน แต่มันไม่ออกมาล่ะ ตอนนอนก็ไม่ปกติ ในใจกระสับกระส่าย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ฉันกลัวว่าจะเป็นบ้าไปซะก่อน” โจวเทียนหยางพูดเบา ๆ
“เล่าเรื่องอากับหลิวเหวินมาก่อนเถอะ ไม่งั้นผมไม่สนเรื่องอาด้วยแล้วจริง ๆ นะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ อย่างสนุกสนาน
“จะไปมีเรื่องอะไรได้ล่ะ ฉันชอบเด็กนั่นพอสมควรเลย เธอเองก็ไม่ได้รังเกียจรูปลักษณ์ฉัน ทำไม ตอนนี้พวกเราดูใจกันอยู่ ผอ. กัว เธออยากรู้อะไรอีกไหม” โจวเทียนหยางพูดเสียงดัง
“อาโจว ที่แท้ผู้ชายที่โอบพี่เหวินเหวินอยู่ข้างโรงหนังก็คืออาเองหรอกเหรอ พวกเรายังคิดว่ามองผิดกันซะอีก พวกเราตะโกนเรียนพี่เหวินเหวินแล้วอาจะวิ่งหนีทำไม” หลิวเย่าซือกับเหอโม่จับตามองกัวไฮว่กับโจวเทียนหยาง ทว่าไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวที่น่าตกใจเช่นนี้
“เสี่ยวซือ เสี่ยวโม่ พวกเธออย่าไปพูดมั่วซั่วนะ เหวินเหวินหน้าบาง จะพูดมั่วซั่วไม่ได้” โจวเทียนหยางพูดด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ คราวนี้เกรงว่าจะเก็บเรื่องของเขากับหลิวเหวินเอาไว้ไม่อยู่เสียแล้ว
“ชายหญิงรักชอบกันทำไมจะพูดไม่ได้ เดี๋ยวเราไปหาพี่เหวินเหวินกัน ไปช่วยถามแทนอาโจวหน่อยดูว่าพี่เหวินเหวินหมายความว่ายังไงกันแน่” หลิวเย่าซือพูดพลางลากเหอโม่วิ่งออกไปโดยไม่ได้สนใจโจวเทียนหยางที่ตะโกนเรียกพวกเธออยู่ด้านหลัง
“เสี่ยวไฮว่ ตอนนี้รู้กันหมดแล้วล่ะ เธอควรจะบอกได้แล้วนะว่าฉันเป็นอะไรกันแน่” โจวเทียนหยางพูดพลางมองไปยังกัวไฮว่
“เมื่อกี้ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ กินของดี ๆ เยอะไป ดีจนจะทะลุเขตแดนเซียนเทียนได้แล้วเนี่ย อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ถ้าอาทำได้ดีก็บรรลุ ถ้าทำได้ไม่ดี เหอะ ๆ หลิวเหวินได้อยู่เป็นหม้ายแน่ ต่อไปอยากจะมีลูกสืบสกุลผมก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้ายิ้มร้าย
“ผอ. ฉันไม่สน ฉันไม่ใช่พนักงานคลินิกไม่ ฉันมีสิทธิจะได้รับการรักษาจากผอ. เธอช่วยคิดวิธีทีสิ จะบรรลุไหมนั้นก็ช่างมันเถอะ ยังไงเธอก็ต้องช่วยฉันทำให้ฉันยังเป็นแบบตอนนี้” โจวเทียนหยางพูดขึ้นอย่างไม่หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น
“อาโจวนี่ไร้อนาคตอย่างนี้นี่เอง ไม่รู้ว่าพี่เหวินเหวินไปหลงอาได้ยังไง ตอนแรกตั้งใจจะเตรียมยาให้อาทะลุเขตแดนเซียนเทียน ในเมื่ออาอยากจะเป็นเหมือนเดิม งั้นก็ง่ายหน่อย เดี๋ยวผมจะฝังเข็มให้อา แล้วปล่อยพลังงานที่สะสมมาจากที่อาแอบกินยาบำรุงออกมาซะก็สิ้นเรื่อง” ในขณะที่กัวไฮว่พูดก็มีเข็มปรากฏอยู่ในมือของเขาเรียบร้อยแล้ว
“เสี่ยวไฮว่ ฉันขายชีวิตให้เธอแล้วนะ เธอมาทำแบบนี้ได้ไง เดี๋ยวเมียฉันก็เป็นคนของคลินิกไม่ ลูกเกิดมาก็เป็นของคลินิกไม่ เธอยังจะคิดทำตามใจตัวเองอีก” โจวเทียนหยางพูดด้วยสีหน้าแดงเถือก
“ฮ่า ๆ ถือโอกาสก่อนผมไปเมืองหลวงผมช่วยจัดการให้อาดีกว่า คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคนแรกที่จะทะลุเขตแดนเซียนเทียนก็คืออาโจว ดูทรงแล้วการทำครัวเป็นอาชีพที่ดีที่สุด แอบกินจนได้เป็นยอดฝีมือระยะไคกวง[1] ฮ่า ๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน มีอาโจวคอยรักษาการคลินิกไม่ ต่อไปผมก็มอบหน้าที่รักษาความปลอดภัยคลินิกไม่ให้อาแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
มีสิ่งหนึ่งที่กัวไฮว่พูดไม่ถูกก็คือเรื่องแอบกิน โจวเทียนหยางทำอาหารจากวัตถุดิบที่กัวไฮว่เอามาให้ทุกวัน เลยได้กินของดี ๆ มากกว่าคนอื่นเยอะ บวกกับที่เดิมทีตนเองเป็นเซียนเทียนระยะหลัง กัวไฮว่ก็รักษาอาการป่วยแฝงให้แล้ว บรรลุระยะไคกวงก็ถือว่าสมควรแล้ว
“อาโจว อาเตรียมอ่างไม้ใบใหญ่มาจะรักษาใครเหรอครับ” เฉินเจี่ยตี้เห็นว่าโจวเทียนหยางแบกอ่างไม้ที่ใช้รักษาเซียวเฟยหยางเมื่อคราวก่อนมาคนเดียว
“ต้มฉัน วันนี้จะต้มฉันกัน เธอไปเรียกซูถู เสี่ยวเฉียนแล้วก็หลี่อวี้ให้มากันให้หมดเลย แล้วก็เติมน้ำให้ฉัน ถ้าวันนี้ฉันตายที่นี่ ต่อไปพวกเธอก็อดตายไปแล้วกัน” โจวเทียนหยางพูดด้วยเสียงดัง บรรลุเซียนเทียน ในความทรงจำของโจวเทียนหยาง ทั่วทั้งหัวซย่ามียอดฝีมือที่บรรลุเขตแดนเซียนเทียนแค่หนึ่งหยิบมือ กัวไฮว่บอกว่าไม่อันตราย จะไม่อันตรายได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่อันตราย งั้นตอนนี้ยอดฝีมือไคกวงก็คงมีไปทั่วทุกที่เหมือนกับผักกาดแล้ว
วุ่นวายกันอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง ของก็เตรียมเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ทว่ากัวไฮว่บอกกับทุกคนว่ายังไม่ถึงฤกษ์ ให้ทานอาหารกันก่อน เพราะหลิ่วเยียนมา โจวเทียนหยางคิดจะพูดอะไรบางอย่างทว่าเมื่อเห็นใบหน้ายิ้มร้ายของกัวไฮว่ก็อย่าพูดเลยจะดีกว่า ให้ดึกกว่านี้สักนิดก็ได้
นอกจากโจวเทียนหยางกับหลิวเหวิน ทุกคนต่างรับประทานอาหารกันอย่างสบายอกสบายใจ กัวไฮว่ได้สั่งงานเรื่องที่พรุ่งนี้จะไปเมืองหลวง จากนั้นเขาก็โทรไปหาพวกตาแก่จากสมาคมแพทย์แผนโบราณ ให้พวกเขาสลับกันมารักษาที่คลินิกไม่ ในเวลานี้ เมื่อเขามองโจวเทียนหยางที่ทานอาหารค่ำไปไม่เท่าไหร่ก็ยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปาก
“พี่หลิ่วเยียน วันนี้ไม่ไปส่งพี่แล้วนะ พี่เก็บยาลูกกลอนให้ดีนะ ไว้เงินค่อยโอนบัตรเอา พี่จะเอาไปเท่าไหร่ก็เท่านั้น โทรไปบอกหลิวเหวินละกัน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เมื่อกี้ฉันได้ยินเสี่ยวเหวินพูดว่าเดี๋ยวจะรักษาให้อาโจว ให้ฉันดูแล้วค่อยไปได้ไหม” หลิ่วเยียนพูดยิ้ม ๆ เธอสนใจใจฝีมือการแพทย์ของกัวไฮว่เป็นอย่างมาก
“พี่อยากอยู่ดูต่อก็ดูเถอะ แต่ฉันขอบอกเธอหน่อยนะว่านี่ไม่ใช่เสี่ยวเหวิน ต่อไปพี่ต้องเรียกว่าน้าเหวินแล้วล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะแบ่งอาวุโสกันไม่ถูก ฮ่า ๆ” คำพูดของกัวไฮว่ทำเอาโจวเทียนหยางกับหลิวเหวินหน้าแดงเถือกขึ้นมา “อย่ามัวชักช้าอยู่เลย วันนี้อากาศดี อาโจวจะเข้าไปเองหรือจะให้พวกเราโยนอาเข้าไป”
[1] เป็นอีกระดับของการบำเพ็ญเพียรที่อยู่เหนือกว่าเขตแดนเซียนเทียน