[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 150 ผู้ชายชอบใหญ่ๆ
“พี่หลิ่วเยียน นี่ก็อีกเดือนนึงแล้ว น่าจะมาเอายาที่ผมได้แล้วล่ะมั้ง” กัวไฮว่พูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม เมื่อนึกถึงเบอร์ที่หลิ่วเยียนทิ้งไว้ให้ก็โทรไป
“น้องไฮว่ ถึงพี่จะแก่กว่านายไม่กี่ปี แล้วก็ไม่ได้สาวสวยแบบน้อง ๆ ที่อยู่รอบตัวนายด้วย แต่นายก็ไม่ควรจะไม่รับสายฉันนี่” เมื่อหลิ่วเยียนเห็นสายจากกัวไฮว่ก็พูดขึ้นด้วยความเคอะเขิน
“เหอะ ๆ ตลกแล้วพี่ อันที่จริงนะผมชอบคนอายุมากกว่า แต่ผมว่าพี่คงไม่มาถูกใจคนอย่างผมหรอกมั้ง” กัวไฮว่พูดหยอกล้อ “ถ้าคืนนี้พี่มีเวลาว่างก็มาเจอกันหน่อยไหม”
“ได้ งั้นก็ไปเจอกัน เดี๋ยวคืนนี้ฉันไปหานาย ไว้คืนนี้กินข้าวที่คลินิกไม่นะ ฉันได้ยินมาแล้วล่ะว่าอาหารที่คลินิกไม่ของพวกเธอน่ะดีมาก” หลิ่วเยียนพูดด้วยเสียงดัง
“ตอนแรกจะนัดกินข้าวกับพี่สองต่อสอง แต่ในเมื่อพี่อยากมาที่คลินิกไม่งั้นก็มาซะสิ” เมื่อกัวไฮว่พูดเสร็จใบหน้าของหลิ่วเยียนก็แดงก่ำ จริงสิ เขานัดฉันกินข้าว ทำไมฉันถึงได้โง่ขนาดนี้เนี่ย ไม่ได้การแล้ว คืนนี้ต้องแต่งตัวสวย ๆ หน่อย เมื่อคิดได้ดังนั้นหลิ่วเยียนก็รีบจากงานประมูลกลับไปบ้านด้วยความไวราวกับบินไป
“เย่าซือ อย่าหาว่าพี่ไม่ได้บอกเธอเลยนะ วันนี้หลิ่วเยียนนั่นจะมากินข้าวที่คลินิกพวกเรา น่าจะแต่งตัวมาสวยเชียวแหละ เธอกับเหลิ่งซวงก็แต่งตัวให้สวย ๆ ล่ะ ให้เท่ากับยายนั่นเลย จะได้ลดความสนใจที่ผอ. มีให้ยายนั่น” เฉินเจี่ยตี้ได้ยินตอนที่กัวไฮว่คุยโทรศัพท์ก็รีบไปบอกหลิวเย่าซือที่กำลังศึกษาตำรายาจีน
“มาก็มาสิ เธอเป็นแขก ส่วนพวกเราเป็นเจ้าของคลินิก สถานะไม่เหมือนกัน ไม่เห็นจะต้องไปเทียบกับเขาเลย” แม้หลิวเย่าซือจะพูดเช่นนั้น ทว่าในใจกลับคิดว่ารอให้เลิกคาบก่อนจะต้องเปลี่ยนไปเป็นชุดที่สวย ๆ
กัวไฮว่เป็นคนพาอวี้เอ๋อร์มา ทว่าช่วงนี้อยู่ไม่สุขเพราะเสี่ยวหลิงโม่ หลิงโม่ใช้เวลาสามวันในการศึกษาว่าแผ่นหดดิน เดิมทีเธอให้กัวไฮว่บอกเกี่ยวกับวิธีใช้แผ่นหดดินมากกว่านี้ ทว่ากัวไฮว่ไม่กล้าสอนหนานกงหลิงโม่อะไรมากมาย ถ้าเด็กคนนี้ทำเป็นทุกอย่าง เมื่อก่อนเขาให้คนอื่นคอยตามเช็ดก้นมาไม่น้อย ตอนนี้เขาไม่อยากตามเช็ดก้นให้คนอื่นอีก จึงให้หนานกงหลิงโม่ไปหาอวี้เอ๋อร์เลยก็แล้วกัน
“หลิงโม่ เธออยู่ที่นี่มาหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ ยังไงเธอก็ใช้แผ่นหดดินนี่ไม่ได้อยู่แล้ว เธอกลับโรงเรียนไปเถอะ” ตอนเริ่มแรกอวี้เอ่อร์ก็สอนวิธีใช้แผ่นหดดินให้หนานกงหลิงโม่อยู่ดี ๆ ทว่าต่อมาเด็กนี่ทำเอาเธอทนไม่ไหว
“พี่ พี่อาบน้ำอยู่นี่เอง งั้นฉันไปก่อนนะ จริงสิพี่ ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงหน้าอกใหญ่กันทุกคนเลยเหรอ” เสี่ยวหลิงโม่มองอวี้เอ๋อร์พร้อมกับพูดขึ้น ทำเอาอวี้เอ๋อร์หน้าแดงเถือก
“พี่ ทำไมทุกครั้งที่ฉันมาหาพี่ที่นี่มักจะรู้สึกสบาย ๆ ด้วยล่ะ ไปที่อื่นแล้วเสียแรงทุกที” เป็นเวลายี่สิบสามนาฬิกา อวี้เอ๋อร์ที่ชอบนอนเปลือยกายก็เพิ่งจะถอดชุด เสี่ยวหลิงโม่ปรากฏตัวอยู่ในห้องของเธออีกครั้ง “พี่จะปิดทำไม ผู้หญิงกันทั้งนั้น ที่พี่มีฉันก็มีหมด พี่นี่ขาวดีนะ แต่รอยฟันบนไหล่นี่ของใครเหรอ อย่าบอกนะว่าพี่กัดไหล่ตัวเองน่ะ” พูดเสร็จ อวี้เอ๋อร์ก็หน้าแดงเถือกอยู่ในห้อง ส่วนเสี่ยวหลิงโม่ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่นอกห้อง
“นี่! หลิงโม่ ออกไปเลย” ณ ห้องน้ำหญิงคลินิกไม่ เจี่ยเสี่ยวเสี่ยวร้องกรี๊ดขึ้นมา ทุกคนลองคิดดูนะ เด็กสาวคนหนึ่งกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ จู่ ๆ ก็มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน เป็นใครใครก็กลัว
“นี่พี่ กรี๊ดอะไรกัน ฉันเก่งไหมล่ะ ฮ่า ๆ” เมื่อพูดหนานกงหลิงโม่ก็หายตัวไปจากในห้อง
นักศึกษาในคลินิกไม่ต่างก็รู้ดีว่าหนานกงหลิงโม่เป็นผู้มีพลังวิเศษ ถึงจะรู้สึกชินกับเด็กคนนี้ไปแล้ว ทว่าก็ยังตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหนานกงหลิงโม่อยู่ดี
“เก็บ!” กัวไฮว่เห็นว่าหนานกงหลิงโม่เล่นไม้ซัวตี้ได้หลายรูปแบบแล้ว จึงตะโกนขึ้นมาด้วยความจนใจ หนานกงหลิงโม่ที่เดิมเล่นอย่างสนุกสนานจู่ ๆ ก็สัมผัสได้ว่าตนไม่อาจเชื่อมต่อกับไม้ซัวตี้ได้แล้ว จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมาแล้วมองไปรอบด้าน ทว่าไม่มีใครอยู่ ไม้ซัวตี้เองก็หายไปแล้ว
“พี่ไฮว่ แย่แล้ว เกิดเรื่องแล้ว รีบออกมาเร็ว” หนานกงหลิงโม่ตะโกนร้องเสียงดังอยู่ในคลินิกไม่ กัวไฮว่ถือไม้ซัวตี้เดินออกมา เมื่อหนานกงหลิงโม่เห็นไม้ซัวตี้ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสนจะเบื่อหน่ายว่า “พี่ไฮว่ คราวหลังฉันจะไม่เล่นมั่วซั่วอีกแล้ว คืนให้ฉันเถอะนะ”
“กลับไปอยู่ที่โรงเรียนดี ๆ อ่านหนังสือที่ฉันให้เธอไปให้ดี เหมือนว่าอีกไม่กี่เดือนการแข่งขันต่อสู้ผู้มีพลังวิเศษจะเริ่มแล้วนี่ ฉันไม่อยากให้เธอตายอยู่นี่หรอกนะ” กัวไฮว่พูดขึ้นอย่างเหี้ยมโหด
“เข้าใจแล้ว ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ” ในขณะที่พูด หนานกงหลิงโม่ก็ฉกไม้ซัวตี้มา จากนั้นก็วิ่งไปราวกับหนีอะไรบางอย่าง
“หนึ่งเดือนแล้ว เดือนหน้าต้องไปเยี่ยมเยียนตระกูลกู่ที่เมืองหลวงสักหน่อย ฉันต้องไปจัดการเรื่องหลินซวง” กัวไฮว่คิดไปคิดมา เขาเองก็อยู่ที่คลินิกไม่มาเดือนนึงแล้ว นักศึกษาต่างก็มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหอโม่ คำถามง่ายๆ ไม่ยากสำหรับเธอ หมอผีสิบสามเข็มหรือเมืองหลวง เมื่อจากมาแล้วก็ควรไปอีกรอบหนึ่ง
ในทุกๆ วันมีผู้ป่วยมาที่คลินิกไม่เป็นจำนวนมาก คนในเมื่ออู่เฉิงต่างรู้ดี คลินิกไม่ไม่เพียงรักษาโรคแปลกๆ ได้ ขนาดอาการปวดหัวปกติแค่ยาจีนชุดเดียวก็เอาอยู่ เมื่อเทียบกับยาแผนปัจจุบันแล้ว ทั้งไม่มีอาการข้างเคียง ค่าใช้จ่ายก็ถูกมาก จึงถูกใจผู้คนเป็นอย่างมาก
เป็นเวลาห้าโมงเย็น โคมไฟที่อยู่หน้าคลินิกไม่ส่องสว่าง หลังจากที่โคมไฟส่องสว่างก็ยังมีคนมาที่คลินิก ทว่าในตอนนี้นอกจากคนไข้ฉุกเฉินจำนวนหนึ่งแล้ว ใครก็ไม่กล้าไปรบกวนคลินิกไม่ เพราะว่าพวกเขารู้ว่า เมื่อโคมไฟคลินิกไม่สว่างขึ้น ผอ. คลินิกกำลังจะสอนนักศึกษา จะไปรบกวนพวกเขาตอนนี้ถือเป็นการเสียมารยาท
“ซูถู วันนี้ฉันเห็นเธอสั่งยา ในนั้นใส่โสมเยอะไปนะ ไม่ได้จะบอกว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับโสมนะ แค่ถ้าปริมาณมันมาเกินไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้สรรพคุณดีขึ้นตาม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“จย่าตี้ วันนี้วัดชีพจรตั้งครรภ์ได้ ไม่เลวๆ เขาส่งไข่ไก่ห่อนึงมาให้เธอด้วยล่ะ ของขวัญแบบนี้รับได้ก็รับไป เป็นเรื่องที่ดี ฮ่า ๆ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ เฉินเจี่ยตี้หน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า วันก่อนเขาเพิ่งพูดถึงชีพจรที่ไหลเวียนดี ลื่นดั่งเม็ดไข่มุก ไม่คิดเลยว่าวันนี้เฉินจย่าตี้จะบังเอิญได้พบเข้า เมื่อกัวไฮว่ตรวจดูอีกรอบ ไม่คิดเลยว่าเฉินเจี่ยตี้จะตรวจได้ถูกต้อง ทำเอาคู่สามีภรรยาดีใจเป็นอย่างมากและส่งไข่ไก่มาให้ห่อหนึ่ง เฉินจย่าตี้ไม่ได้รับเอาไว้ แต่สุดท้ายกัวไฮว่ก็รับเอาไว้ให้ นี่เป็นกุศล จะไม่รับเอาไว้ได้อย่างไร
“เหอโม่ ฝังเข็มได้นิ่งกว่าสัปดาห์ก่อนเยอะเลย จำไว้ให้ดีนะ จะใช้สิบสามเข็มต่อก็ได้ แต่ก็ต้องระวังจรรยาบรรณแพทย์ด้วย ถ้าคนเป็นหมอไม่อาจรักษาความปลอดภัยของตนเองได้ จะไปช่วยคนอื่นๆ ได้ยังไงกัน” กัวไฮว่มองเหอโม่พร้อมกับพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม จากนั้นเขาก็ประเมินงานของนักศึกษาคนอื่นๆ ในหนึ่งวันนี้ หลี่อวี้และคนอื่น ๆ รู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในทุก ๆ วัน เพราะว่าจะได้รับอะไรมาบ้าง
“เลิกคาบ อีกฝั่งของคลินิกไม่ซ่อมแซมเสร็จหมดแล้ว ต่อไปที่นั่นจะเป็นหอพักพนักงานคลินิกไม่ พวกเธอไม่ต้องไปพักที่โรงแรมอีกแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม “เรื่องห้องพวกเธอจัดการกันเองเอาเถอะ ผู้ชายผู้หญิงแยกกันอยู่ ฉันกับอาโจวจะเตรียมทำอาหาร เดี๋ยวมากินข้าวด้วยกัน”
“ผอ. คุณลืมไปเรื่องหนึ่ง เดี๋ยวหลิ่วเยียนคนสวยที่เป็นผู้ประมูลจะมากินข้าว ฮิ ๆ” เฉินจย่าตี้พูดเสียงดัง กัวไฮว่ผงกศีรษะเบา ๆ เขาถูกคนอื่นแอบฟังซะแล้ว เฉินเจี่ยตี้ไม่รู้เหรอว่ามันเป็นโทษหนัก โทษหนักเลย