[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 144 เปิดคลินิกไม่ (9)
“พี่หนิว เป็นไงบ้าง พวกเราไม่ได้หลอกพี่ใช่ไหมล่ะ น้องเสี่ยวกัวของพวกเราสุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ ยาที่ให้พวกเราตอนแรกดีกว่านี้อีก แต่ครั้งนี้ก็ไม่เลวนะ จะซื้อได้หรือเปล่าก็อยู่ที่พี่แล้วล่ะ” ฉู่หงพูดยิ้ม ๆ ด้วยใบหน้าพออกพอใจ หญิงสาวอายุไล่เลี่ยกับเธอที่อยู่ข้าง ๆ ก็ผงกศีรษะอย่างแรง ด้วยท่าทางเห็นด้วย
“ไม่ทราบว่าแขกที่มาเคยประมูลมาก่อนไหมครับ ถ้าเคย ช่วยลุกออกมาช่วยกันหน่อย ทางคลินิกไม่จะให้ยาสองเม็ดเป็นการตอบแทนเองครับ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เจ้าสี่ เรื่องนี้ให้พี่สองจัดการเถอะ เดี๋ยวฉันช่วยแกจัดการเอง” เจี่ยหยวนพูดอาสา กัวไฮว่มองเจี่ยหยวนพลางส่ายศีรษะ
“ผอ.กัว ให้ฉันลองได้ไหมคะ” หญิงสาวอายุราวยี่สิบห้าปีคนหนึ่งพูดยิ้ม ๆ “ฉันชื่อหลิ่วเยียน เป็นผู้ประมูลหน่วยการประมูลสาขาอู่เฉิง ได้ไหมคะ”
“งั้นรบกวนพี่หลิ่วด้วยนะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “ยานี่มีชื่อว่ายาผิวหิมะ ราคาขั้นต่ำแสนนึงก็พอแล้ว ที่เหลือก็ฝากพี่ด้วยนะครับ”
“ฮึ โรคจิต ตาโรคจิต เห็นคนสวยแล้วยอมเลย” อวี้เอ๋อร์พูดยิ้ม ๆ ส่วนสาว ๆ คนอื่นก็ผงกศีรษะตาม
กัวไฮว่ให้เหล่านักศึกษาย้ายโต๊ะไม้หวงฮวาหลีเข้ามาในห้องรับแขกคลินิกไม่ ทั้งยังเตรียมค้อนบดยาด้ามเล็กให้หลิ่วเยียนอีกด้วย หลิ่วเยียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนสาว ๆ นับสามร้อยคนทั่วทั้งห้องรับแขกต่างก็มีท่าทางที่ดุเดือด
“วันนี้ดิฉันดีใจมากเลยที่ได้มารับหน้าที่เป็นผู้ประมูลในครั้งนี้ หวังว่าทุกท่านจะประมูลในราคาสูงกันนะคะ หนึ่งเพื่อสร้างความสนุกสนานในวันเปิดคลินิกไม่ สองเพื่อไว้หน้าสาว ๆ กันด้วย ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าด้วยค่ะ” หลิ่วเยียนพูดยิ้ม ๆ “ทุกคนก็เห็นของประมูลในวันนี้แล้วนะคะ ฉันพูดได้เลยว่าราคาตั้งต้นของผอ. กัวต่ำมากเลย ของแบบนี้เอาไปไว้ในงานประมูลไหน ราคาตั้งต้นไม่ต่ำกว่าล้านนึงกันทั้งนั้น ไม่พูดมากแล้ว ในเมื่อเป็นราคาตั้งต้นของคลินิกไม่ งั้นเรามาเริ่มการประมูลกันเลย ยาผิวหิมะหนึ่งเม็ด ราคาตั้งต้นหนึ่งแสน ทุกครั้งเพิ่มราคาได้ไม่ต่ำกว่าห้าพัน สาว ๆ คนไหนอยากได้ ต้องรีบคว้าไว้เลยนะคะ”
พูดได้เลยว่าหลิ่วเยียนคนนี้เชี่ยวชาญในการประมูล เพียงคำพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำก็ทำเอาสาว ๆ คึกคักกันขึ้นมา
“หนึ่งล้าน ตามที่น้องหลิ่วเยียนบอกเลย ฉันยอม ยาผิวหิมะนี่ฉันให้ล้านนึง” หญิงสาวคนเมื่อสักครู่ที่ฉู่หงเรียกว่าพี่หนิวพูดด้วยเสียงดัง สำหรับตระกูลหนิวแล้วเงินหนึ่งล้านไม่ได้เยอะอะไรมากมาย หลายวันก่อนเธอเห็นที่ฉู่หงกับสามีรักกันหวานชื่น ก็พลันคิดชายผู้นั้นที่บ้านของตน ออกไปเที่ยวอยู่นอกบ้าน ไม่ใช่เพราะว่าตนเองไม่เหมือนกับเมื่อก่อนหรอกเหรอ ฮึ ยังไงก็ต้องเอาของนี่มาให้ได้
พูดได้เลยว่าเงินหนึ่งล้านของพี่หนิวคนนี้ทำเอาทุกคนตกใจอึ้งไป ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของภรรยาเหล่าผางจะดีมาก แต่จำนวนหนึ่งล้านก็ทำเอาทุกคนหัวหด
“พี่สาวคนนี้ให้หนึ่งล้าน ยังมีพี่ ๆ คนอื่นอยากได้อีกไหมคะ เงินหนึ่งล้านแลกกับความสวยสิบปี คุ้มจริง ๆ ถ้าฉันไม่ใช่คนประมูลฉันเองก็อยากจะแย่งมา สาว ๆ อย่างเราได้เงินมาแล้วทำไมจะไม่จ่าย หรือว่าจะเอาไปให้ผู้ชายของตัวเองไปหากิ๊ก” หลิ่วเยียนพูดยิ้ม ๆ “อันนี้ล้อเล่นนะคะ หนึ่งล้านครั้งที่หนึ่ง ยังมีอีกไหมคะ”
“น้องหนิว ขอโทษด้วยนะ ฉันอยากจะลองของนี่ดู หนึ่งล้านห้าหมื่นค่ะ” ผู้หญิงอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งพูดอย่างยิ้มแย้ม จากอายุและหน้าตาของเธอแล้ว ไม่จำเป็นต้องประมูลของด้วยซ้ำ ทว่าใคร ๆ ต่างก็รักสวยรักงาม อีกอย่างจะมีผู้หญิงคนไหนเกลียดที่ตัวเองสวยขึ้นบ้างล่ะ
“พี่สวี่ ยอมให้ฉันสักครั้งเถอะนะ ตอนนี้พี่ดูเหมือนเพิ่งจะสามสิบเอ็ด ไม่ต้องมาแย่งกับฉันหรอกมั้ง หนึ่งล้านหนึ่งแสนค่ะ” หนิวเจี่ยพูดยิ้ม ๆ สวี่หย่าเหวิน เธอรู้จักเขาดี ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา มีบริษัทเป็นของตัวเอง มีความสามารถด้านการทำธุรกิจ
“หนึ่งล้านห้าแสน ขอโทษพี่ ๆ ทั้งสองด้วยนะ ช่วงนี้ร่างกายฉันไม่ค่อยดี อยากกินยานี่ปรับสภาพร่างกายหน่อย” ในขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่นั่นเอง หญิงสาวอายุไม่ถึงสามสิบปีคนหนึ่งก็พูดยิ้ม ๆ เธอคือลูกสาวของเลขานุการคณะกรรมการเมืองอู่เฉิง เฉินเหมี่ยว
“หนึ่งล้านห้าแสน ยังมีมากกว่านี้ไหมคะ” หลิ่วเยียนถามอย่างยิ้มแย้ม
“หนึ่งล้านห้าแสนห้าหมื่น พี่เหมี่ยว พี่ไม่ใช้มันหรอก ให้ผมเถอะ วันนี้เสี่ยวฮวาไม่มา ผมต้องซื้อไปให้เธอหน่อย” หวังเซิงพูดด้วยสีหน้าแจ่มใส ส่วนเฉินเหมี่ยวขมวดคิ้วมุ่น ไม่กล้าบอกราคาอีก
“พี่สามดูท่าทางแปลก ๆ นะ หรือว่าพี่จะมีปัญหากับตระกูลเฉิน” กัวไฮว่ชะงักไปพลางนึกคิด จากนั้นก็เห็นว่าคุณปู่หวังหย่งจิ้นผงกศีรษะ ดูท่าทางแล้วเขาจะทายไม่ผิด
“หนึ่งล้านห้าแสนห้าหมื่นครั้งที่หนึ่ง หนึ่งล้านห้าแสนห้าหมื่นครั้งที่สอง หนึ่งล้านห้าแสนห้าหมื่นครั้งที่สาม สิ้นสุด ยินดีกับหวังเซิง ผู้นำตระกูลหวังของเราด้วยค่ะ เดี๋ยวเชิญไปรูดบัตรที่ด้านหลังนี่ได้เลย แล้วก็หวังว่าเงินของผู้นำหวังจะสะอาดบริสุทธิ์นะคะ” หลิ่วเยียนพูดหยอกล้อ เธอย่อมรู้ความสัมพันธ์ของหวังเซิงกับกัวไฮว่ดี จึงเข้าใจเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างตระกูลหวังกับตระกูลเฉินเป็นอย่างดี
“พี่สอง รูดบัตร เงินในบัตรนี่พี่รู้ดีที่สุด เงินนี่คือหนึ่งแสนหยวนจากที่ผมลงทุนให้พี่ปีก่อน สะอาดบริสุทธิ์” หวังเซิงพูดยิ้ม ๆ ส่วนหลิ่วเยียนก็ได้เริ่มการประมูลยาเม็ดที่สองแล้ว
“หนึ่งล้านห้าแสนห้าหมื่น ฉันจะเอายานี่” เฉินเหมี่ยวตะโกนบอกราคา ครั้งนี้ไม่มีคนกล้าบอกราคาเพราะอย่างน้อยก็เป็นการไว้หน้าผู้ใหญ่ของเธอ
ยาเม็ดที่สามถูกพี่หนิวประมูลไปในราคาหนึ่งล้านเจ็ดแสนหยวน ตอนแรกยังมีคนคิดว่าพี่หนิวบอกราคาสูงไป ต่อจากนั้นยาเม็ดที่สี่ก็ถูกประมูลมาในราคาหนึ่งล้านเก้าแสนหยวน ส่วนยาเม็ดที่ห้าราคาทะลุสองล้าน ถูกประมูลในราคาสองล้านหนึ่งแสนสามหมื่น
“พี่หนิว พี่ส่องกระจกดูเร็ว กระฝ้าบนหน้าพี่หายไปหมดแล้ว อีกอย่างนะ รอยย่นบนหน้าพี่ก็หายไปแล้วด้วย” พี่หนิวมีนิสัยใจร้อน ในขณะที่การประมูลยังคงดำเนินไป เธอก็รีบไปเอายาที่ตนเองประมูลมาจากกัวไฮว่ พร้อมทั้งรับประทานตามวิธีที่กัวไฮว่บอก ไม่คิดเลยว่าจะเห็นผลไวทันที ทำเอาพี่หนิวและสาว ๆ ที่อยู่รอบด้านต่างก็อึ้งตะลึง
“สามล้าน มีสูงกว่าสามล้านอีกไหมคะ” ยาผิวหิมะเม็ดที่เจ็ดถูกขายไปในราคาสามล้าน อีกทั้งบรรยากาศในห้องรับแขกคลินิกไม่ก็คึกคักขึ้นกว่าเมื่อสักครู่ และเงินสามล้านก็ยังไม่ใช่ราคาสุดท้าย
“สามล้านสามแสน สมาคมแพทย์แผนตะวันตกของเราจะประมูลสามล้านสามแสน” หลังจากที่ต่งคุนปรึกษากับสมาชิกสมคมแพทย์แผนปัจจุบัน เขาก็บอกราคาสูงถึงสามล้านสามแสน พวกเขาอยากซื้อมาทำวิจัย แค่มีเงินก็พอแล้ว และแน่นอนว่ากัวไฮว่ไม่ได้ห้าม อยากวิจัยก็วิจัยไปสิ ต่อให้บอกส่วนผสมพวกแกไปพวกแกก็ทำไม่ได้หรอก ไฟน่ะ ไฟแท้สมาธิ[1] พวกแกมีหรือเปล่า
“สามล้านเจ็ดแสนครั้งที่สาม ยาผิวหิมะนี่เป็นของสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันแล้วค่ะ” หลิ่วเยียนพูดยิ้ม ๆ
ยาเม็ดที่แปดและเม็ดที่เก้าถูกนักธุรกิจสาวไร้ชื่อแซ่แห่งเมืองอู่เฉิงคนหนึ่งประมูลไปในราคาสี่ล้าน ส่วนเม็ดที่สิบก็ถูกประมูลไปในราคาสี่ล้านห้าแสนหยวน ทำเอาพี่หนิวที่ซื้อยาเม็ดที่สามไปในราคาหนึ่งล้านเจ็ดแสนรู้สึกว่าตนเองซื้อมาคุ้มค่าอย่างมาก
“ขอขอบคุณที่ทุกคนสนับสนุนนะคะ งานประมูลในครั้งนี้จบลงแล้ว ตามความประสงค์ของผอ.กัว ทุกคนสามารถไปรับประทานอาหารที่เทียนหยางกั๋วจี้ได้ ทางเราได้จองที่ให้ทุกคนแล้ว ตอนบ่ายโมงครึ่งคลินิกไม่จะรักษาอีกห้าคน ถ้าอยากมาก็มาได้นะคะ ไม่มาก็ไม่ได้บังคับ” หลิ่วเยียนพูดยิ้ม ๆ กัวไฮว่ผงกศีรษะเล็กน้อย เขาเดินไปข้างหน้าหลิ่วเยนก่อนจะมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้หลิ่วเยียน
“ขอบคุณพี่มากนะครับ ยาผิวหิมะนั่นไม่ได้ผลกับพี่หรอก นี่เป็นยากันแก่ เป็นค่าตอบแทนที่พี่มาช่วยในวันนี้นะครับ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม
[1] เป็นหนึ่งในวิธีการบำเพ็ญเพียรของลัทธิเต๋าที่ร่ำลือกันว่าทำให้เกิดไฟได้จริง