[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 143 เปิดคลินิกไม่ (8)
“เสี่ยวจิ่วต้องอยู่รักษาที่คลินิกไม่” ผ่านไปประมาณสิบนาที กัวไฮว่ฝังเข็มไปเก้าเล่มบนร่างของเสี่ยวจิ่ว แล้วพูดขึ้นเบา ๆ
“ได้ ๆๆ หมอกัว คุณว่ายังไงก็ตามนั้น ตามคุณเลย” พ่อของเสี่ยวจิ่วรีบพูดขึ้น “ไม่ทราบว่าต้องการค่ารักษาเท่าไหร่ครับ ผมจะไปทุบหม้อรวบรวมมาให้คุณจบครบเลย”
“ฮ่า ๆ คลินิกไม่ไม่รักษาคนที่ไม่อยากรักษา และจะรักษาคนที่อยากรักษา ในเมื่อคุณเชื่อมั่นในคลินิกไม่ ผมจะช่วยคุณรักษาให้เสี่ยวจิ่วฟรี แต่หลังจากที่เสี่ยวจิ่วหายดีแล้วต้องมาทำงานที่คลินิกผมสิบปี คุณตกลงไหมครับ” กัวไฮว่ถามยิ้ม ๆ
“ขอแค่เสี่ยวจิ่วไม่เป็นอะไร อย่าว่าแต่สิบปีเลย ให้อยู่ที่คลินิกไม่ไปตลอดยังได้เลย”
“หมอกัว ถ้ารักษาเด็กนี่ไม่ได้ก็บอกมาตรง ๆ เถอะ ยังจะมาต่อรองอีก” คนจากสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันคนหนึ่งพูดขึ้น
“ผมรักษาเหล่าเซียวจนหายแล้ว จากที่รองหัวหน้าของพวกคุณบอก ต่อไปถ้าสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันเจอผม ก็จะยอมอ่อนข้อให้ จะให้เป็นอาจารย์ด้วย แต่ผมไม่เป็นอาจารย์ให้พวกคุณหรอก แต่ก็อย่าได้คืบจะเอาศอกแล้วกัน อาการป่วยที่แพทย์ปัจจุบันของพวกคุณรักษาไม่ได้เนี่ยคลินิกไม่ของพวกเรารักษาได้หมด ถ้าพวกคุณอยากจะอยู่ที่คลินิกไม่ต่อก็เชิญหุบปาก ไม่ก็ไสหัวไป ผ่านไปสองสามวันเดี๋ยวผมจะไปเยี่ยมเยียนทุกคนที่สมาคมแพทย์แผนปัจจุบันเอง” กัวไฮว่พูดอย่างเคร่งขรึม อุตส่าห์ไว้หน้าแล้วยังไม่เอา งั้นฉันก็ตบหน้าล่ะนะ
“แก!” คนจากสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันคนนั้นอยากจะพูดบางอย่างอีกทว่าถูกต่งคุนห้ามเอาไว้ กัวไฮว่เป็นคนจัดการเรื่องพิษของเซียวเฟยหยางจริง มันเป็นเรื่องจริง แม้กัวไฮว่จะดื้อรั้นแต่ก็ไม่อาจปริปากพูดอะไรออกมาได้
“เช้าวันนี้รักษาไปแล้วห้าคน ตอนบ่ายยังเหลืออีกห้าคน ต่อไปทุกวันคลินิกไม่จะรักษาแค่สิบคน แต่ถ้าเจ็บป่วยเล็กน้อยอยากมาเอายาก็มาที่คลินิกไม่ได้เลยนะครับ หมอทั้งสิบแปดท่านของคลินิกไม่จะให้บริการพวกคุณเอง” กัวไฮว่พูดเสียงดัง นักศึกษาทั้งสิบแปดคนก็ผงกศีรษะกันด้วยความกระตือรือร้น อยู่ที่คลินิกไม่สบายกว่าอยู่ที่คณะตั้งเยอะ
“เสี่ยวไฮว่ เสี่ยวไฮว่” ฉู่หงคนที่มักไปเล่นไพ่นกกระจอกกับอวี้เอ๋อร์ตะโกนเสียงดังกับกัวไฮว่ “เสี่ยวไฮว่ พวกเราพาพี่ ๆ น้อง ๆ ของเรามาด้วย เธอยังมียาที่เธอให้พวกเรากินอีกหรือเปล่า วันนี้ขายให้พวกเราหน่อยได้ไหม”
กัวไฮว่ยกยิ้มเล็ก ๆ ตรงมุมปาก เขาเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ยาผิวหิมะมีแค่ประมาณร้อยกว่าเม็ด และมียาขับพิษที่ทำมาจากกากที่เหลือจากยาผิวหิมะประมาณสามร้อยกว่า ขายก็ขาย วันนี้เปิดกิจการก็ได้ดิบได้ดีตั้งแต่แรกเลย
“ขอบคุณครับพี่หง ถ้าพี่ไม่บอกผมก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย แต่ยาที่ให้พวกพี่ไปหมดแล้วครับ ตอนนี้มีแค่ยาอื่น ขอผมถามทุกท่านที่นั่งอยู่หน่อยว่าถ้าเป็นไปได้เช้าวันนี้วันนี้ประมูลขายสักสิบเม็ด แต่เดี๋ยวจะกินข้าวกันแล้ว จะเสียเวลาทุกคนกินข้าวไม่ได้” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ คนในคลินิกฟังแล้วก็เข้าใจทันที
“หมอกัว ถ้ามีของดีอะไรก็เอาออกมาเลย กินข้าวช้าหน่อยไม่เป็นไร กินข้าวเย็นด้วยกันก็ได้ แบบนี้จะได้ช่วยคุณประหยัดมื้อนึงไง ฮ่า ๆ” ชายวัยกลางคนที่มาเป็นเพื่อนภรรยาคนหนึ่งพูดอย่างยิ้มแย้ม
“ไอ้หนู มีของดีอะไรก็เอาออกมา วันนี้เปิดกิจการ จะกินช้าหน่อยพวกเราก็ทนกันได้ ไม่ต้องสนพวกเราหรอก” หลี่โต้วเทียน ปู่ของหลี่เย่าพูดด้วยเสียงดัง
“ในเมื่อทุกคนตกลงแล้ว งั้นคลินิกไม่ของพวกเราจะเอายาสิบเม็ดมาประมูลขายนะครับ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ผลที่ได้จากยานี่ ผมหาสักคนมาลองกินดีกว่า ไม่ทราบว่ามีคนไหนยอมลองไหมครับ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เมียผม ให้เมียผมกิน” ชายเมื่อสักครู่พูดเสียงดัง หากมองภรรยาเขาผ่าน ๆ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่หากมองโดยละเอียดไม่เหมือนกับมองผ่าน ๆ รอยกระฝ้าทั้งหน้าถูกกลบอยู่ภายใต้แป้ง เหมือนจะเห็นแต่ก็เหมือนจะมองไม่เห็น
“เหล่าผาง ขายเมียตัวเองเหรอ ใช่ได้นะเนี่ย!” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ พูดหยอกล้อขึ้น แต่ในภายหลังคนพวกนั้นถึงได้รู้ว่า ครั้งนี้เหล่าผางที่ดูเหมือนจะโง่เง่ากลับทำเรื่องที่แสนจะฉลาด
กัวไฮว่มองภรรยาของเหล่าผางแล้วผงกศีรษะ จากนั้นภรรยาของเหล่าผางก็เดินมาตรงหน้าของกัวไฮว่
“พี่ ไปลบเครื่องสำอางออกก่อนเถอะ ต่อไปไม่ต้องแต่งหน้าหนาแบบนี้แล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ภรรยาของเหล่าผางก็รีบไปลบเครื่องสำอางทันที ภายใต้การช่วยเหลือของหลิวเย่าซือและเหลิ่งซวงทั้งสองคน ในเวลาไม่ถึงสามนาทีก็ลบแป้งหนา ๆ บนหน้าออกไปจนหมดจด เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยกระฝ้าให้แก่สาธารณชน
“เหล่าผาง แกหน้าแดงทำไมน่ะ หรือว่าอายที่เมียน่าเกลียด” ภรรยาของเหล่าผางมองเหล่าผางแวบหนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงดัง
“ที่รัก ดูคุณพูดเข้า ที่ไหนกันล่ะ ในเมื่อหัวหน้ากัวรักษาโรคยาก ๆ แบบนั้นได้ กระฝ้านิดหน่อยบนหน้าคุณไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ ของเหรอ” เหล่าผางพูดยิ้ม ๆ หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองกัวไฮว่ด้วยสายตาแห่งความคาดหวัง
“วางใจเถอะครับพี่ ของบนหน้าที่พี่ไม่อยากได้ ผมจะจัดการให้หมดภายในครั้งเดียวเอง พี่ได้กำไรแล้วนะคราวนี้ คลินิกไม่ลองยาไม่คิดเงิน ฮ่า ๆ” คำพูดของกัวไฮว่ทำเอาทุกคนหัวเราะกันอีกครั้ง
เจี่ยเสี่ยวเสี่ยวนำกล่องหยกที่ทำขึ้นมาได้ไม่เลวกล่องหนึ่งมาวางไว้ตรงหน้าของทุกคนตามคำสั่งของกัวไฮว่ กล่องใบนี้กัวไฮว่ตั้งใจให้ช่างทำติดต่อกันอยู่หลายคืน ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้นำมาใช้การจริงๆ
เมื่อเปิดกล่องหยก เม็ดยาสามสีเม็ดหนึ่งก็ทำเอาทุกคนลุกฮือขึ้นมา
“คุณพระ นี่มันยาลูกกลอนสามสี เอามาให้ผู้หญิงรักษากระฝ้า คลินิกไม่นี่มือเติบจริง ๆ” แม้คนอื่นจะมองไม่ออกว่าคืออะไร แต่เซียวเฟยหยางมองออกตั้งแต่แวบแรกจึงพูดขึ้นด้วยความตกตะลึง
กัวไฮว่ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นยาสามสีอะไร นี่มันก็แค่ของที่ทำมาจากกากยาเท่านั้น ใช้มือบีบให้แตกจากนั้นก็ละลายผงยาลงไปในน้ำสะอาด แบ่งออกเป็นสองส่วน จากนั้นก็เอาผ้าฝ้ายบริสุทธิ์จุ่มลงไปในส่วนหนึ่งแล้วเช็ดไปบนหน้าของภรรยาเหล่าผาง ถัดมาทุกคนต่างก็อึ้งตะลึงไป กระฝ้าทุกเม็ดที่มีอยู่เดิม หายไปในพริบตาเดียว
“พี่ครับ กินนี่หน่อยสิ เดี๋ยวผมสั่งยาให้ พี่ดื่มยาจีนอีกหน่อย ก่อนพี่อายุเจ็ดสิบปีจะไม่มีกระฝ้าพวกนั้นขึ้นมาอีก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าผางใช่ไหมครับ คืนเมียให้คุณนะ ดูเอาเองเถอะ ฮ่าๆ”
“ยายบ้า ยังไม่รีบของคุณหัวหน้ากัวอีก” เหล่าผางพูดพลางกดศีรษะภรรยาตนเองให้โค้งให้กัวไฮว่ ส่วนคนอื่น ๆ ยังคงอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่กระฝ้าบนหน้าภรรยาเหล่าผางหายไป หายไปจริง ๆ นี่เป็นเรื่องปาฏิหาริย์โดยสิ้นเชิง
“เหล่าผาง กระฝ้าบนหน้าฉันหายไปแล้วจริงเหรอ” ภรรยาลูบเข้าที่ใบหน้าของตนเองก็รู้สึกเหมือนกับว่าเรียบลื่นกว่าก่อนหน้านี้เยอะจึงถามขึ้นเบาๆ
“หายไปแล้ว หายไปแล้วจริง ๆ ที่รัก ถ้าตอนนั้นคุณเป็นแบบนี้นะ พวกเราก็ไม่ต้องเดตตอนกลางคืนกันแล้ว ยังไงผมก็ต้องขอคุณแต่งงานแน่ๆ” เหล้าผางพูดพลางยิ้มหน้าบาน เมื่อก่อนเขาถูกคนฝั่งบ้านภรรยาหลอกเข้าให้ ชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งกับภรรยาที่มีกระฝ้าเต็มใบหน้า ผ่านไปนานเขารู้สึกว่าตนเองถูกหลอกเข้าแล้ว เพราะทุกครั้งที่เดตกันพวกเขามักจะอยู่ใต้โคมไฟแสงสลัว ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ภรรยาเขาสวยขึ้นจริง ๆ สวยจนทำเขารับไม่ได้นิดหน่อย
“ผอ. กัว อยากลองยาอีกไหม ฉันเอง ฉันให้เงินด้วย ขอร้องล่ะ” ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงอายุราวสามสิบต้น ๆ ก็พูดด้วยเสียงดัง