[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 141 เปิดคลินิกไม่ (6)
ผ่านไปประมาณสิบนาที คนในคลินิกต่างก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ เริ่มเดินกรูเข้ามาในห้อง ใบหน้ากัวไฮว่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาปาดกระบี่เฟยเจี้ยนเล่มเล็กไปบนนิ้วมืออย่างไม่สนความเป็นความตายของคนในอ่างไม้
“พ่อหนุ่ม ศิษย์พี่ฉันเป็นไงบ้าง” เซียวอวิ๋นเทียนอดไม่ได้ที่จะถาม
“ไม่ทราบครับ เดี่ยวตอนเขาฟื้นขึ้นมาก็ถามเขาดู” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “อย่ามัวนิ่งเฉย ใครอยากรักษาก็เร็วเข้า วันนี้คลินิกไม่เปิดทำการคิดค่ารักษาแค่ครึ่งเดียว แค่สิบคนเท่านั้น แล้วคราวหลังก็อย่ามาบอกล่ะว่าคลินิกไม่ของพวกเราไม่รักษาให้น่ะ”
แขกที่มาต่างก็มองหน้ากัน ไม่มีใครปริปาก คนที่ถูกโยนเข้าไปในอ่างไม้ตอนนี้เป็นตายอย่างไรไม่มีใครรู้ ใครจะกล้าให้เขารักษาอีกล่ะ
“เสี่ยวไฮว่ ฉันรักษาภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ที่โรงพยาบาลประจำเมืองอู่เฉิงมาตลอดแต่ก็ไม่เห็นจะดีขึ้นเลย วันนี้เธอช่วยดูให้ฉันหน่อยได้ไหม” ประมาณสามสี่นาทีผ่านไป ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้น เขาคือรองหัวหน้าหน่วยงานดูแลเมืองอู่เฉิง จางต้าเฉิง
“พี่สอง สามพันหยวน รับไว้ก่อนแล้วเดี๋ยวดูอาการ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ จากนั้นภายในคลินิกต่างก็มีท่าทางตกอกตกใจ
“คลินิกไม่นี่ ราคาไม่น้อยเลยนะ” ต่งคุนหรี่ตาพร้อมกับพูดขึ้น
“ก็ไม่ได้สูงนะ วันนี้เปิดกิจการเลยลดราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ที่พวกคุณรักษากันครั้งหนึ่งสองร้อยหยวน รักษารอบหนึ่งสิบครั้งก็เป็นสองพันหยวน แถมยังรักษาไม่ถึงต้นตออีก ผมรักษาถึงต้นตอครั้งหนึ่งได้แค่สามพันหยวน ไม่เห็นจะสูงเลยสักนิด” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เสี่ยวไฮว่ ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ฉันนี่รักษามาแล้วหลายปีนะ ถ้าเธอช่วยฉันรักษาจนถึงต้นตอได้ อย่าว่าแต่สามพันเลย สามหมื่นฉันก็ยอม” จางต้าเฉิงพูดเสียงดัง “จะให้ฉันถอดเสื้อหรือเปล่า”
“ฮ่า ๆ ไม่ต้องหรอกครับ ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ไม่ต้องถอดเสื้อ เดี๋ยวคุณไปนวดสักหน่อย แล้วเดี๋ยวให้ซูถูประคบร้อนแผ่นยาก็พอแล้ว” กัวไฮว่พูดพลางทาบมือไปที่ไหล่ของจางต้าเฉิง จากนั้นก็ช่วยนวดให้เขาด้วยท่าทางแปลก ๆ สักระยะ คนจากสมาคมแพทย์แปนปัจจุบันต่างก็เบ้ปาก ส่วนคนชายชราทั้งห้าจากสมาคมแพทย์แผนโบราณต่างก็ตกใจอึ้ง
“นวดแบบเฉียนคุน พ่อหนุ่ม เธอใช้วิธีนวดแบบเฉียนคุนเหรอ” จางต้าเจิงถามด้วยเสียงดังลั่น
“เหล่าจาง นั่งลงก่อน จะตื่นเต้นอะไรกัน จะใช่นวดแบบเฉียนคุนหรือเปล่าก็รอดูที่ผลลัพธ์เถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ผ่านไปประมาณห้านาที จางต้าเฉิงก็เริ่มมีท่าทางอิ่มสุข
“หมอกัว ร้อน ฉันรู้สึกร้อนหัวไหล่จังเลย” จางต้าเฉิงพูดเบา ๆ
“ร้อนก็ถูกแล้ว ทนไว้ ถ้าอยากให้หายดีก็ทนสักไม่กี่นาที” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ จางต้าเฉิงก็ผงกศีรษะเล็กน้อย
“ซูถู ไปทำยาตามที่ฉันสอนไปเมื่อวานนะ แล้วก็เอาแผ่นยามาด้วย ส่งมาตอนร้อน ๆ เลยนะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ จากนั้นซูถูก็วิ่งเข้าไปในห้องยาอย่างว่องไว แล้วก็รีบนึกถึงตำรับยาที่กัวไฮว่บอกตัวเองเมื่อวาน จากนั้นไม่นานสมุนไพรก็ถูกบดเป็นผงยา ใช้คู่กันกับแผ่นยา
เสียง “แปะ” ดังขึ้น กัวไฮว่ยื่นมือเข้าไปในเสื้อผ้าของจางต้าเฉิงพร้อมกับแปะแผ่นยาเอาไว้ “เสร็จแล้วเหรอหมอกัว” จางต้าเฉิงถามขึ้นเบา ๆ
“ทางนั้นมีบาร์โหนอยู่ ขึ้นไปออกกำลังหน่อยสิครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องไหล่หรอก ถ้ายังเจ็บอีกจะคืนเงินค่ารักษาสิบเท่าเลย” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม
จางต้าเฉิงไม่เชื่อเลยลองแกว่งแขนดูก็พบว่าไม่เจ็บแล้วจริง ๆ ทว่าจะให้เขาลองโหนบาร์ เขาก็ยังไม่เชื่อใจ เพราะเขารู้ปัญหาแขนของตนเองดี
“กล้า ๆ ไปโหนหน่อยสิครับ คนอื่นเขารอขำคลินิกไม่กันอยู่นะ ถ้าคุณไม่ไปเดี๋ยวพวกเขาจะผิดหวังเอา” กัวไฮว่หรี่ตาพูด คนจากสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันบางคนรู้จักจางต้าเฉิง และรู้เรื่องภาวะอักเสบรอบข้อไหล่มานิดหน่อย เลยเตรียมรอดูท่าทางเจ็บปวดของจางต้าเฉิงแล้ว
จางต้าเฉิงกัดฟันจับบาร์โหนเอาไว้แน่น จากนั้นก็สูดลมหายใจโหนขึ้นไป ไม่เจ็บ ไม่เจ็บแล้วจริงๆ ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ที่เจ็บมานานหลายปีหายดีแล้วจริง ๆ จางต้าเฉิงโหนตัวขึ้นไป ไม่เจ็บแล้วจริง ๆ จึงมองกัวไฮว่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ “หมอกัว เดี๋ยวผมจะให้เงินคุณ ก็ไม่เยอะแยะอะไรหรอก วันนี้คลินิกไม่เปิดกิจการผมให้คุณไม่เยอะ แค่หมื่นเดียวเท่านั้น”
“คุณพี่จาง พูดแบบนั้นไม่ได้นะ ตามจรรยาบรรณแพทย์รับค่ารักษามาแล้วคลินิกไม่ของพวกเราจะรับเงินคุณอีกไม่ได้ เมื่อกี้ตอนที่นวดให้คุณผมเห็นว่าหัวเข่าคุณมีปัญหา คุณแปะแผ่นยาไว้ที่ไหล่สักสามวันนะแล้วเอามาแปะที่เข่าอีกสามวัน อาการปวดเข่าก็จะดีขึ้นด้วย ฮ่า ๆ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม
“หมอกัว ผมปวดไมเกรนมาระยะนึงแล้ว ช่วยผมรักษาหน่อยได้ไหม” ชายชราผู้หนึ่งพูดยิ้ม ๆ พลางเดินออกมา
กัวไฮว่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรมาก เขาทาบนิ้วไปบนข้อมือของชายชรา จากนั้นประมาณสิบกว่านาทีกัวไฮว่ก็ผงกศีรษะ “นายท่าน สามพันหยวน ไปจ่ายเงินทางโน้นนะครับ เสี่ยวโม่ เดี๋ยวเธอสั่งยาให้ปู่เขาหน่อยนะ สั่งยามาสามชุด นายท่านครับ ผมขอบอกคุณหน่อยว่ายานี่ใช้ได้กับคุณคนเดียวนะ ห้ามให้คนอื่น ไม่งั้นถ้าเขาตายไปผมไม่รับผิดชอบด้วยนะ”
“พ่อหนุ่ม เธอแน่ใจนะว่าจะเอาแค่สามพัน” ชายชราถามยิ้มๆ “ถึงฉันจะไม่ได้มีเงินเยอะเท่าตาแก่เจี่ย แต่เงินห้าล้านก็พอให้ได้อยู่นะ”
“แค่สั่งยาพื้นๆ ให้คุณเอง ไม่แพงหรอก ยาสามชุดถ้าไม่ดีไว้คุณเก็บเงินมาพังป้ายร้านผมก็ได้ ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ส่วนชายชราก็ยิ้มพลางตามเหอโม่ไปเอายา บางทีเด็กนี่อาจจะรักษาไมเกรนให้ตนได้ก็ได้
“สามคนแล้ว ยังเหลืออีกเจ็ดคน ผู้อาวุโสเซี่ยแห่งมวยเจ็ดพิการพานายท่านมาไม่ได้จะให้รักษาเหรอครับ เฮ้อ ดูทรงต้องปลุกเหล่าเซียวแล้วล่ะสิ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นมือลงไปจุ่มในอ่างไม้ จากนั้นก็ลากเซียวเฟยหยางออกมา เขาถอนเข็มออกจากร่างของเซียวเฟยหยางอย่างว่องไว ไม่นานเซียวเฟยหยางก็ลืมตาขึ้น
“ศิษย์พี่ ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกยังไงบ้าง” เซียวอวิ๋นเทียนรีบร้อนถาม
“พ่อหนุ่ม ขอบใจเธอมากนะ อยากใช้เซียวเฟยหยางเมื่อไหร่เธอออกปากมาได้เลย ปีนี้ฉันอายุแปดสิบสี่แล้ว ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตได้อีกนานเท่าไหร่ แต่วันเวลาที่เหลือ ถ้าพ่อหนุ่มมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยออกหน้าฉันก็จะทำสุดความสามารถ” เซียวเฟยหยางพูดด้วยความหนักแน่น จะใครก็ไม่ชัดเจนเท่าเขา พิษหยินทรมานตนเองมากว่าสามสิบปีได้หายไปจากหลอดเลือดของตนแล้วจริง ๆ ถึงแม้ในหลอดเลือดเขาจะยังมีพิษหยินหลงเหลืออยู่แต่เขาก็เชื่อว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้จะช่วยเขาจัดการจนหมดได้
“ฮ่าๆ ตลกแล้วครับเหล่าเซียว มวยแปดรูปลักษณ์จ่ายค่ารักษาไปให้แล้วยี่สิบล้าน เดี๋ยวผมจะช่วยเหล่าเซียวรักษาเอง เข้าไปพักในห้องก่อนเถอะครับ เดี๋ยวตอนเที่ยงเรามาดื่มเหล้าด้วยกัน ผมว่าเหล่าเซียวน่าจะไม่ได้ดื่มเหล้ามานานแล้วใช่ไหม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ เซียวเฟยหยางผงกศีรษะอย่างรุนแรง เมื่อพูดถึงเหล้า เซียวเฟยหยางก็นึกได้ว่าเพราะตนเองได้รับผลกระทบจากพิษหยินเลยไม่ได้ดื่มเหล้ามาเกือบยี่สิบปีแล้ว