[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 140 เปิดคลินิกไม่ (5)
“พ่อหนุ่ม ฉันไม่ต่อปากต่อคำกับเธอแล้ว ถ้าเธอรักษาพิษให้เหล่าเซียวให้หายดีได้ล่ะก็ ต่อไปถ้าพวกเราชาวแพทย์แผนปัจจุบันเจอคลินิกไม่ของเธอก็จะยอมอ่อนน้อม ไหว้เธอเป็นอาจารย์” ต่งคุนพูดเบาๆ
“ในเมื่อทุกคนก็อยู่นี่กันหมด งั้นผมก็อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ให้พวกคุณได้เห็นว่าคลินิกไม่ของผมใช้การแพทย์แผนโบราณรักษาเหล่าเซียวยังไง” กัวไฮว่ลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดเสียงดัง “เย่าซือ เดี๋ยวฉันเขียนใบสั่งยาเธอไปเอายามาตามนี้นะ เซียวเฉียน เจี่ยตี้ หลังคลินิกมีถังไม้อยู่ถังนึง ไปยกถังไม้มาไว้ในคลินิก แล้วก็ให้อาโจวต้มน้ำมาสักหน่อย ส่วนคนอื่น ๆ มานี่ วันนี้ฉันจะสอนวิธีใช้เข็มขยายหลอดเลือดให้พวกเธอ” ในขณะที่พูด ในมือของกัวไฮว่ก็มีกล่องเพิ่มขึ้นมากล่องหนึ่ง หลังจากที่เปิดขึ้นมาก็พบว่าภายในกล่องมีเข็มอยู่หลากหลายชนิด
“เหล่าเซียว ผมจะขับพิษในร่างกายของคุณออกหมดในครั้งเดียวไม่ได้ ครั้งนี้ผมแค่จะเอาพิษออกจากหลอดเลือดหัวใจคุณ ถ้าวันหลังมีฝนตกฟ้าอึมครึมคุณก็จะได้ไม่เจ็บมาก” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม
เซียวเฟยหยางมีสีหน้าปลื้มปิติ กัวไฮว่คนนี้เหมือนกับที่ศิษย์น้องของเขาบอกไม่มีผิด เป็นไปได้มากว่าจะเป็นหมอจากสำนักลึกลับแห่งหนึ่ง ต่อให้เขาฝันก็คิดฝันไม่ถึงว่าจะมีคนรักษาเขาได้ด้วย
“พ่อหนุ่ม ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ” กรรมการจากสมาคมแพทย์แผนโบราณทั้งสี่รายลุกขึ้นมาพูด
“ท่านผู้อาวุโสทั้งสี่ วันนี้คลินิกไม่เปิดกิจการ ไม่รบกวนพวกคุณหรอกครับ พวกคุณช่วยดูไม่ให้ใครมาก่อนความวุ่นวายก็พอแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “เหล่าเซียว รบกวนถอดเสื้อท่อนบนด้วยครับ”
เซียวเฟยหยางไม่สนว่าตอนนี้จะมีสักกี่คน เขาเคยทำเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ง่ายกว่าเดิม เขาปลดปล่อยพลังปราณออกมาทำให้เสื้อผ้าฉีกขาดเป็นแผ่นออกภายในชั่วพริบตาเดียว
“เหล่าเซียวสุดยอดไปเลย ไม่คิดเลยว่าลมปราณถูกพิษหยินกัดกินไปแต่ยังรักษาเซียนเทียนระยะสูงสุดเอาไว้ได้ ช่วยสอนผมหน่อยได้ไหมครับ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้ม “ลำดับถัดไปผมจะฝังเข็ม เหล่าเซียวคุณต้องร่วมมือเต็มที่นะครับ ไม่งั้นอย่าว่าแต่ช่วยคุณถอนพิษเลย อาจทำให้พิษโจมตีหัวใจจนเหล่าเซียวต้องทิ้งชีวิตไว้ที่คลินิกไม่ของผม คลินิกไม่ผมไม่ต้องเปิดกิจการกันพอดี”
“พ่อหนุ่มระวังหน่อยนะ เธอฝังเข็มอย่างตั้งใจก็พอแล้ว ฉันจะร่วมมือกับเธออย่างเต็มที่เอง” เซียวเฟยหยางพูดเบา ๆ
กัวไฮว่มองไปรอบด้าน ทุกคนต่างไม่ปริปากพูดอะไร นายท่านและนายหญิงตระกูลกัวต่างก็พยักหน้าให้กับกัวไฮว่ เขายกยิ้มเล็ก ๆ ตรงมุมปาก จากนั้นทั้งสองมือก็ฝังเข็มแปดสิบเอ็ดเล่มไปบนตัวของเหล่าเซียวด้วยความว่องไว คนที่อยู่ในที่นั้นไม่ทันมองว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ ก็มีเข็มฝังอยู่ทั่วร่างของเซียวเฟยหยาง
“ที่แท้ตอนที่เขาฝังเข็มให้เหล่าฉินวันนั้นยังมีสำรองอยู่ การแพทย์เจริญ การแพทย์เจริญขึ้นแล้วล่ะ” หลินฉางเทียนพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น บางทีท่ามกลางผู้คน อาจมีเพียงแค่เขาที่มองวิธีรักษาออก เมื่อสักครู่กัวไฮว่ฝังไปแปดสิบเอ็ดเข็ม ทำให้เส้นเลือดทุกส่วนในร่างกายของเซียวเฟยหยางยกเว้นเส้นเลือดหัวใจถูกตัดตอน และส่งผลให้พิษหยินในร่างกายของเซียวเฟยหยางไม่อาจไม่รวมตัวที่เส้นเลือดหัวใจได้
“เหล่าเซียว รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ” กัวไฮว่ถามอย่างยิ้มแย้ม
“เส้นเลือดถูกตัดตอน ตอนนี้ฉันไม่ใช่ยอดฝีมือเซียนเทียนอะไรนั่นแล้ว แต่เป็นไอ้แก่นอนรอความตาย ฮ่า ๆ” เซียวเฟยหยางพูดอย่างยิ้มแย้ม เส้นเลือดถูกตัดตอน ถึงแม้จะไม่อาจใช้กำลังภายใน ทว่าพิษหยินในร่างกายก็ไม่อาจไหลเวียนได้เช่นกัน จึงทำให้เขาสบายเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็สบายที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบสามสิบปี
“เหล่าเซียว เดี๋ยวคุณจะรู้สึกเจ็บมาก ถ้าคุณทนไม่ไหวก็บอกผมหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมจะทำให้คุณเป็นลมเอง แต่ถ้าคุณทนไหว ในหัวซย่าก็จะมียอดฝีมือระยะไคกวงเพิ่มมาอีกคนแล้วล่ะ ฮ่า ๆ จะเลือกยังไงก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะ” เมื่อกัวไฮว่พูดเสร็จ ก็มีเข็มยาวประมาณครึ่งเมตรเล่มหนึ่งเพิ่มมาอยู่ในมือ ในขณะที่ผู้คนต่างก็ตกอกตกใจกันอยู่นั่นเอง เขาก็ค่อย ๆ แทงเข็มจากแขนซ้ายลงไปในร่างกายของเซียวเฟยหยาง
“อ๊าก อ๊าก!” สีหน้าของเซียวเฟยหยางพลันเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม เส้นเลือดดำทั้งตัวโป่งพองขึ้นมา เข็มทั้งแปดสิบเอ็ดเล่มบนร่างกายก็เริ่มสั่น ถึงขั้นที่ได้ยินเสียงดังเป็นระลอก ๆ
“เหล่าเซียว รู้สึกไม่เลวเลยใช่ไหมครับ สนุกกว่าที่มีพิษหยินอยู่ในร่างกายคุณเลยใช่ไหมล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ทุกคนต่างก็มองทั้งสองราวกับมองโรคจิต เซียวเฟยหยางไม่ได้เป็นลม กัวไฮว่กลับหัวเราะออกมาได้
“พ่อหนุ่ม ศิษย์พี่เขาม่านตาขยายใหญ่ขึ้น ไม่เป็นไรใช่ไหม” เซียวอวิ๋นเทียนถามเบา ๆ
“มีปัญหาแน่ ม่านตาขยายใหญ่ทำไมจะไม่มีปัญหาล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “แต่ทั้งหมดนี่เหล่าเซียวเป็นคนเลือกเอง ในเมื่ออยากบรรลุเขตแดนเซียนเทียนในทันควัน งั้นก็ต้องเตรียมตายไว้แล้ว”
“เฟยหยาง พี่อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ ถ้าพี่เป็นอะไรไป ผมไม่มีหน้ากลับสำนักแน่” เซียวอวิ๋นเทียนบ่นพึมพำ
“ดูท่านผู้อาวุโสเซียวพูดเข้า วันนี้ผมเพิ่งเปิดกิจการ จะมีเรื่องอะไรได้ล่ะ ในเมื่อคุณกังวลใจ งั้นผมปลุกเซียวเหล่าก็ได้” ในขณะที่พูด ก็มีเข็มเพิ่มขึ้นมาอยู่ในมือกัวไฮว่ แล้วก็ฝังลงไปตรงศีรษะของเซียวเฟยหยาง จากนั้นเซียวเฟยหยางก็เบิกตาโพล่งขึ้นมา ทั้งร่างกายของเขาระเบิดลมปราณออกมา กลุ่มคนที่นั่งอยู่แถวหน้าต่างก็สัมผัสได้ถึงแรงอันโหดเหี้ยมระลอกหนึ่ง เจี่ยกูอวิ๋นถึงขั้นล้มลงไปกองกับพื้น
“ผมไม่ใช่คนประเภทที่ทำร้ายคนกลุ่มใหญ่เพื่อช่วยเหลือคนคนเดียว ทุกท่านครับ คนที่ทนไม่ไหวให้ไปข้างหลัง” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ พลางวาดมือไปในอากาศ แรงอันโหดเหี้ยมที่ปกคลุมร่างกายของเจี่ยกูอวิ๋นเมื่อสักครู่ก็สลายหายไป
“ที่แท้พ่อหนุ่มไม่เพียงมีความสามารถด้านการแพทย์ แต่ยังมีเขตแดนบำเพ็ญเพียรเหนือกว่าพวกเราเยอะเลย” หมอยุทธอู๋ซู่ซานพูดพลางส่ายศีรษะ เขาทนทุกข์บำเพ็ญมาหลายปี แต่ยังสู้เด็กคนนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ
“เจี่ยตี้ข้างนอกเตรียมน้ำเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” กัวไฮว่ถามเสียงดัง
“เรียบร้อยแล้วครับ!” ถึงแม้เฉินเจี่ยตี้จะเรียนกับกัวไฮว่ได้แค่สองวัน ทว่าก็รับรู้ได้ถึงความเก่งกาจของกัวไฮว่แล้ว กัวไฮว่ให้เขาไปเตรียมน้ำร้อน ถ้าไม่เตรียมน้ำเอาไว้ให้ดีก็จะส่งผลต่อกระบวนการรักษาทั้งหมดได้
“เย่าซือ ใส่ยานั่นไปในถังให้หมดเลย” กัวไฮว่พูดด้วยเสียงดังอีกครั้ง “อวี้เอ๋อร์ ไปหั่นไท่ซุ่ยมาห้าสิบกรัม ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพิษหยินจะทำอะไรไท่ซุ่ยได้” พูดเสร็จก็ไฮว่ก็แบกเซียวเฟยหยางที่มีเข็มฝังอยู่ทั่วทั้งตัวพร้อมกับโยนลงไปในอ่างน้ำ
เดิมทีต้องเสี่ยงอันตรายกับควันร้อนในอ่างน้ำ ทว่าในขณะที่เซียวเฟยหยางถูกโยนลงไปนั่นเอง จู่ ๆ ก็ไม่มีไอร้อนเลยแม้แต่น้อย เฉินจย่าตี้ที่ยืนอยู่ข้างอ่างน้ำก็นิ่งอึ้งขึ้นมา เขามองเซียวเฟยหยางในอ่างแวบหนึ่ง และก็สัมผัสได้ว่าตาแก่นั่นเหมือนกำลังถูกแช่แข็ง
“พี่ไฮว่ นี่ไท่ซุ่ย” อวี้เอ๋อร์ส่งจานในมือที่มีสิ่งที่ดูเหมือนเนื้อก้อนหนึ่งไปให้กัวไฮว่
“เหล่าเซียว ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว จะเซียนเทียนระยะหลังหรือจะระยะไคกวงก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะ ถ้าบรรลุ แค่ผมให้ยาคุณไปทานนิดหน่อย ก็จะสามารถจัดการพิษหยินที่เหลือในตัวคุณได้แล้ว” กัวไฮว่พูดพลางโยนไท่ซุ่ยในมือลงไป จากนั้นไอร้อนในอ่างที่ตอนแรกนั้นไม่มีก็เดือดพล่านอีกครั้ง
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก! เจ็บจังเลย ฉันทนไม่ไหวแล้ว” เซียวเฟยหยางตะโกนเสียงดัง “พ่อหนุ่ม ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ในช่วงขณะที่เซียวเฟยหยางกำลังจะหมดสตินั่นเอง กัวไฮว่ก็แทงเข็มไปบนตัวของเซียวเฟยหยาง ทำให้เซียวเฟยหยางเป็นลมไป
“ดูทรงแล้วจะบรรลุเขตแดนเซียนเทียนไม่ง่ายเลยจริงๆ” กัวไฮว่ส่ายศีรษะพูด