[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 13 พี่ไฮว่ ฉันเอา ฉันเอาอีก
“นี่เถ้าแก่หาแก้วสะอาดๆมาให้หน่อยสิ ทางที่ดีเอาแก้วไม้นะ ถ้าไม่มีก็เอาแก้วคริสตัลมาสักสี่ใบก็ได้”กัวไฮว่ตะโกนเสียงดังบอกไปทางข้างนอก
“ไอ้หนูให้คนแก่อย่างฉันนั่งพักหน่อยได้ไหม”คนที่พูดพร้อมทั้งเดินเข้ามาไม่ใช่เถ้าแก่แต่เป็นชายชราที่ผมขาวทั้งหัวในมือเขาถือกล่องที่ดูดีเอาไว้กล่องหนึ่ง
“ไอ้แก่หัวหงอกนี่”กัวไฮว่เงยศีรษะขึ้นมองชายชราผู้ที่เดินเข้ามาแวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“ฉันแซ่เริ่นชื่อเริ่นเสวียนเช่อทั้งโรงเรียนเรียกฉันว่านายท่านหกเริ่น”ชายชราเปิดกล่องไม้พลางพูดยิ้มๆขึ้นว่า“ไม่ทราบว่าพ่อหนุ่มชื่ออะไร”
“คุณคือนายท่านหกเริ่นผู้คำนวณญาณทิพย์เมืองอู่เฉิงเหรอ”โหยวโยวโยวพลันตกตะลึงถามขึ้นด้วยเสียงค่อย
“ผู้คำนวณญาณทิพย์เมืองอู่เฉิง? ผมชื่อกัวไฮว่ในเมื่อท่านคือผู้คำนวณญาณทิพย์ ไม่ทราบว่าท่านต้องการแก้วผมไปทำไม”กัวไฮว่หรี่ตาถาม
“ฮ่าๆ หากมีเหล้าดีคนแก่อย่างฉันย่อมไม่ปฏิเสธ พ่อหนุ่มเป็นผู้ยิ่งใหญ่นักฉันก็เลยมาผูกวาสนาด้วยสักหน่อย”เริ่นเสวียนเช่อพูดยิ้มๆ
“สุดยอด สุดยอดจริงๆ เด็กนั่นก็มีวาสนากับเขาด้วย ปู่หกผู้สูงศักดิ์”กัวไฮว่ใช้วิชาอ่านจิตกลับเห็นว่าผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้านี้มีพลังงานอันพิเศษปกป้องอยู่จึงไม่อาจทะลวงดูได้ กัวไฮว่เองก็ไม่ได้ดึงดันยอมแพ้โดยทันที
“แก้วเหล้าไม้จันทน์จื่อจินชุดนี้ฉันแกะสลักขึ้นมาเองกับมือเมื่อปีไหนไม่แน่ใจ ฉันใช้ญาณสัมผัสได้ว่าจะได้ใช้ในภายหน้าไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้จริงๆฮ่าๆ”เริ่นเสวียนเช่อพูดพลางจัดแจงแก้วทั้งห้าใบไว้บนโต๊ะ“พ่อหนุ่มรีบเติมให้เต็มเร็วฉันอยากกินเต็มทนแล้ว”
“เหล้าก็ต้องรู้วิธีดื่ม ชีวิตก็ต้องมีความสุข ดื่มเหล้ากับนายท่านยังสบายใจกว่าดื่มกับพวกพี่ๆทั้งสามคนซะอีก”กัวไฮว่พูดพลางเอาขวดน้ำเต้าออกมาแล้วเทเหล้าไปประมาณสองในสามของแก้วทั้งห้าใบ
“พี่ไฮว่ที่นี่โรงเรียนนะ พวกเราดื่มเหล้าไม่ได้”ถังซีพูดขึ้นเบาๆ
“เสี่ยวถังซีแก้วไม้จันทน์จื่อจินที่นายท่านทำเอาไว้ดื่มเหล้านี่สุดยอดไม่เป็นสองรองใครเลยนะ ถ้าพลาดไปแล้วล่ะก็เสียหายครั้งใหญ่เลยนะ นายท่านเรามาดื่มกันเถอะ เชิญ”กัวไฮว่พูดจบก็ยกแก้วของตนเองขึ้นมาดื่มหมดรวดเดียว
“ถ้าพ่อหนุ่มชอบแก้วเหล้าชุดนี้ฉันให้เธอก็ได้นะ”เขาพูดพลางกรอกเหล้าเข้าไปในปาก“เหล้า…เหล้านี่ พ่อหนุ่มฉันว่ามีแค่ที่สวรรค์ล่ะมั้งที่จะมีเหล้าแบบนี้”เริ่นเสวียนเช่อเบิกตาโพล่งพลางส่ายศีรษะ“พ่อหนุ่มนี่เธอทำร้ายกันหรือเปล่าเนี่ย แก้วชุดนี้ฉันให้เธอนะต่อไปฉันคงกินเหล้าอื่นไม่ลงแล้วล่ะ”พูดจบเริ่นเสวียนเช่อก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องอาหารไป
“เดี๋ยวก่อนครับนายท่าน ไม่ทราบว่าถ้าเหล้านี่ปรากฏอยู่ในงานการกุศลที่จะจัดขึ้นในอีกสามวันหลังจากนี้จะได้ที่หนึ่งไหมครับ”กัวไฮว่มองเริ่นเสวียนเช่อก่อนจะถามขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มร้าย
“ฮ่าๆ พ่อหนุ่มตัดใจลงเหรอ แก่แล้วพวกเราแก่มากแล้วจริงๆ สามวันหลังจากนี้ไว้เจอกันนะ”เริ่นเสวียนเช่อหัวเราะลั่นไม่ได้กลับไปยังร้านอาหารเล็กๆของตนแต่เดินออกไปยังตึกโรงอาหาร
“เสี่ยวซีอย่าดื่มเหล้าเลยเธอไม่เห็นนายท่านเหรอ พอดื่มเสร็จก็เหมือนคนบ้าไปเลย พูดจาเลอะเทอะแถมยังเขียนบนหนังสืออีกว่าดื่มเหล้าเสร็จแล้วจะมีความต้องการที่ซีเหมินชิ่งกับพานจินเหลียน[1]อยู่ด้วยกัน คราวนั้นไม่ใช่เพราะโลภกินเหล้าไปหรอกหรือ”เมื่อซูเยี่ยเห็นถังซีหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาก็ห้ามโดยทันทีจากนั้นก็พูดขึ้นเสียงเบา
“เยี่ยจื่อพูดอะไรของเธอน่ะ”เมื่อถังซีได้ยินที่ซูเยี่ยพูดก็หน้าแดงระเรื่อ
“เอามา ตาบ้าเอามาให้ฉัน ฉันอยากได้อีก”โหยวโยวโยวใช้ปากจิบเหล้าในแก้วเพียงแวบเดียวเท่านั้นเธอก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วดื่มจนหมดรวดเดียว จากนั้นก็มองหน้าพร้อมตะโกนใส่กัวไฮว่
“ในห้องอาหารคึกคักกันอีกครั้ง คุณพี่โรคจิตเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว”เว็บบอร์ดโรงเรียนที่เดิมสงบลงแล้วนั้นก็พลันสนุกสนานขึ้นมาอีกครั้ง
“แม่มันเถอะเฉียนตัวตัวถ้าสิ่งที่แกพูดไม่เป็นความจริง ฉันไม่เอาชีวิตแกไว้แน่”เด็กหนุ่มท่าทางดูจริงจังที่อยู่ในหอพักห้อง1817 คนหนึ่งปิดคอมพิวเตอร์แล้วรีบวิ่งไปยังร้านอาหารราวกับบินอย่างไรอย่างนั้น
“เสี่ยวถังซีถ้าเธอไม่กินแก้วนี้ก็ให้โยวโยวกินเถอะ เธอก็เห็นแล้วนี่ว่ายายนั่นยังกินไม่พอน่ะ”กัวไฮว่มองถังซีแล้วพูดยิ้มๆ
“ไม่ให้ฉันจะกินเอง”ถังซีพูดพลางดื่มเหล้าหมดรวดเดียว
“พี่ไฮว่เอามาให้ฉัน ฉันอยากกิน เอามาให้ฉัน”ในเวลาไม่นานถังซีก็พูดแบบเดียวกันกับโหยวโยวโยว
“เสี่ยวซีพวกเธอเป็นอะไรกันเนี่ย ก็แค่เหล้าแก้วเดียวไม่ใช่เหรอ”ซูเยี่ยเองก็ดื่มเหล้าหมดรวดเดียวเช่นกัน
“ตาบ้า ขอร้องล่ะ วันหลังฉันจะไม่อคติกับนายอีกแล้ว เอามา เอามาให้ฉันอีกแก้วนึง”ซูเยี่ยมองกัวไฮว่พร้อมพูดด้วยความกระหายสุดขีด
“นักฆ่าดาวโรงเรียน นักล้มดาวโรงเรียน ต่อไปนี้พี่โรคจิตคนนี้จะเป็นพี่ฉันแล้วล่ะ”บนเว็บบอร์ดคนที่ชื่อว่าเฉียนตัวตัวโพสต์กระทู้สุดท้าย ทั้งยังแนบคลิปเสียงเอาไว้ด้วย เมื่อทำทั้งหมดเสร็จเขาก็ออกจากเว็บบอร์ดไป
“คุณพระ ตาโรคจิตนี่ใครกันแน่ เจ๋งจังเลย ฉันอยากรู้จักกับเขาจัง”ในห้องนอนของนักเรียนหญิงยังจะคึกคักกว่าห้องนอนของนักเรียนชายซะอีก เด็กหนุ่มผู้แสนจะหล่อเหลาคนนั้นดังในโรงเรียนมัธยมแห่งมหาวิทยาลัยอู่เฉิงแล้ว
“ดื่มอีกไม่ได้ นี่แก้วสุดท้ายแล้วไม่งั้นเธอจะไปเรียนตอนบ่ายไม่ได้นะ นี่ยาแก้แฮ้งค์พวกเธอรีบกินเลย กินเหล้า กินข้าวกันอิ่มแล้วก็กลับกันไปก่อนเถอะ”กัวไฮว่พูดพลางยื่นเม็ดยากลมๆสามเม็ดส่งไปให้ทั้งสามคน
“เฮ้อผู้หญิงนี่พอโกรธแล้วถึงตายจริงๆไม่รู้ว่าเสี่ยวอวี้เอ๋อร์ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง คิดๆดูแล้วเด็กนี่กับเสี่ยวอวี้เอ๋อร์ต่างกันลิบลับ”กัวไฮว่เดินพลางคิดไป“อวี้เอ๋อร์บอกว่าเทพธิดาฉางเอ๋องามกว่านางร้อยเท่าอยู่ในสรวงสวรรค์หลายปียังไม่รู้เลยว่าเทพธิดาฉางเอ๋อหน้าตาเป็นอย่างไร เฮ้อล้มเหลว ล้มเหลวเสียจริง”
“แปล๊บ!”ไม่ไกลนักก็มีสายฟ้าฟาดเส้นหนึ่งตามมาด้วยเสียงฟ้าร้อง
“ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว คราวหน้าคราวหลังจะไม่คิดอะไรมั่วซั่วอีกแล้ว”กัวไฮว่ตะโกนเสียงดังแล้วรีบวิ่งไปยังตึกหอพักอย่างไวราวกับบิน
“นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลย หากยังมีครั้งหน้าฟ้าฟาดนี่จะตกอยู่บนหัวเจ้าแน่ จะคอยดูว่าเจ้าจะยังมีชีวิตที่มีความสุขต่อไปได้อย่างไร”สตรีในวังแห่งจันทรายิ้มเล็กๆตรงมุมปากจากนั้นก็หัวเราะลั่นขึ้นมา
ภายในปราสาทโบราณของอเมริกา หญิงสาวเอวคอดผู้หนึ่งยืนหันหลังให้ผู้อาวุโส
“คุณหนูเงินทุนรวมไปถึงความสัมพันธ์ทั้งหมดของตระกูลโลซานจะโอนให้ภายใต้ชื่อคุณหนูนะครับ คุณหนูอยากจะไปที่จีนจริงๆเหรอ”ผู้อาวุโสมองหญิงสาวพร้อมพูดเสียงค่อย
“ดีมากต่อไปปราสาทนี่ก็จะเป็นของคุณ ลืมฉันไปซะก็พอแล้ว”พูดจบหญิงสาวคนนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตาผู้อาวุโส
“นายท่านครับเด็กสาวเอเชียที่แลกเปลี่ยนทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลโลซานกับท่านเอาทรัพย์สินของตระกูลโลซานออกไปจากอเมริกาแล้วครับจุดมุ่งหมายคือประเทศจีนจะให้ตามรอยต่อไหมครับ”ชายหนุ่มใส่ชุดสีดำพูดกับผู้อาวุโสรายหนึ่งด้วยเสียงเบาอยู่ภายในปราสาทโบราณแห่งหนึ่งในประเทศอเมริกา
“ไม่ต้องอย่าไปหาเรื่องเด็กคนนั้นโดยเด็ดขาด ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไรก็ช่วยเธอให้เต็มที่ บอกทุกตระกูลที่เกี่ยวข้องด้วยนะว่าไม่อนุญาตให้ไปสืบข่าวเด็กคนนั้นอีก”ผู้อาวุโสพูดขึ้นด้วยความตระหนก
“เทพแห่งจิตเจ้าคงมีชีวิตที่ราบรื่นดีสินะ ฮ่าๆ”เด็กสาวยิ้มหญิงบนเครื่องบินกำลังที่มุ่งหน้าไปยังเมืองอู่เฉิง
“ฮัดเช้ย แค่แปบเดียวเองหรือว่าเด็กสามคนนั่นจะคิดถึงฉันแล้วฮ่าๆ เสน่ห์ล้นเหลือจริงๆเลย ช่วยไม่ได้”กัวไฮว่หัวเราะพลางเดินเข้าไปในตึกหอพัก
“คุณไฮว่กลับมาแล้วเหรอ ผมยังคิดว่าคุณจะไม่กลับมาพักแล้วซะอีก”กัวไฮว่เพิ่งจะมาปรากฎตัวอยู่ในตึกหอพักหลี่หลงก็พูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“พี่หลงมีอะไรหรือเปล่าครับ”กัวไฮว่มองหน้าหลี่หลงแล้วถามขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอกแค่มีคนมาหายนายน่ะ รออยู่ที่ประตูห้องนายแล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเหมือนกัน นายระวังตัวล่ะ”หลี่หลงพูดจบก็หมุนตัวเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง
“ทหารมาใช้ขุนพลต้านน้ำมาใช้ดินต้าน[2]ข้าเคยโดนสายฟ้าเก้าชั้นฟาดเข้ายังไม่ตายเลย ถูกเนรเทศมายังแดนมนุษย์ก็ยังไม่ตาย ถ้าถูกพวกเจ้าทำให้ตายขึ้นมา พูดแล้วก็เสียหน้านัก”คิดไปๆลิฟต์ก็หยุดอยู่ที่ชั้นสิบแปด
[1]ทั้งสองเป็นตัวละครในเรื่องซ้องกั๋งและเรื่องบุปผาในกุณฑีทองทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
[2]อุปมาว่าถึงไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็สามารถรับมือได้
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ^^
https://www.kawebook.com/story/6815