[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 128 รวมตัวที่คลินิกไม่
“รถที่อยู่ด้านหน้า รบกวนหยุดเพื่อรับการตรวจสอบด้วยครับ” เจี่ยหยวนไม่ได้ขับรถไว เมื่อสักครู่เขาก็เพิ่งจะวางสาย ทว่าด้านหลังดันมีรถตำรวจสามคันตามรถของตัวเองอยู่
“เวรเอ๊ย ไอ้โง่นี่” เจี่ยหยวนอดด่าออกมาไม่ได้ จากนั้นเขาก็จอดเลียบข้างถนน
“เปิดประตู ๆ เมื่อกี้ยังเล่นอยู่เลยไม่ใช่เหรอ รีบเปิดประตูเลย ฉันติดต่อบริษัทของพี่หยวนแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่หยวนมาคงจัดการแกแน่” รถเฟอร์รารี่ของซุนเจี้ยนจอดอยู่ด้านหน้ารถของเจี่ยหยวน หลังจากลงรถไป ซุนเจี้ยนก็ลากเจี่ยหยวนลงมาจากรถ
“ไอ้น้อง สุดยอดไปเลย กล้าเอารถตำรวจมาขวางฉันเนี่ย” เจี่ยหยวนตะคอกเสียงดัง
“ป้าบ!” ซุนเจี้ยนตบเข้าที่ศีรษะของเจี่ยหยวน “มาเรียกฉันว่าไอ้น้องได้ไง จริงจังหน่อย ฉันไม่เคยเห็นแกมาก่อนเลย นี่มันรถพี่หยวน สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง ไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือไง กล้ามากเลยนะเนี่ย รถพี่หยวนยังกล้าขโมยเลยเหรอ”
“ซุนเจี้ยนไอ้เวร ฉันเนี่ยแหละเจี่ยหยวน เบิกตาของแกดูให้ชัด ๆ” เจี่ยหยวนตวาดเสียงดังก่อนจะยื่นมือไปตบเข้าที่ศีรษะของซุนเจี้ยน
“ปลอมเป็นพี่หยวน แถมยังตบฉันอีก แกคอยดู แกคอยดูเลย” ซุนเจี้ยนพูดเสียงดัง
“ซุนเจี้ยน สมญานามใหญ่ สูงร้อยเจ็ดสิบเอ็ดเซ็น แต่งงานแล้ว เลี้ยงนักศึกษามหาลัยอยู่คนหนึ่ง เลี้ยงดาราชั้นรองอยู่อีกคน นักศึกษาอยู่ที่ตึกสิบแปดโครงการที่อยู่ของหยวนอินเตอร์ ส่วนดาราอยู่ที่คฤหาสน์ซิงเหยี่ย แม่มันเถอะ ฉันใช่เจี่ยหยวนไหมล่ะ” เจี่ยหยวนตะโกนเสียงดังใส่ซุนเจี้ยน
“ให้ตาย กะ…แกเข้าไปในรถฉันเลยนะ” ซุนเจี้ยนพูดพลางผลักเจี่ยหยวนเข้าไปในรถ “แกเป็นใครกันแน่ ทำไมแกรู้เรื่องเยอะขนาดนี้”
“โว้ย จะตกใจไปทำไม วันนี้แกทำฉันปวดหัว ฉันจะจำไว้ขึ้นใจเลย ฉันจำได้ว่าเมียแกได้เทควันโดสายดำ ไม่รู้ว่าแค่ตีนเดียวจะทำกระดูกแกหักไปกี่ท่อนนะ” เจี่ยหยวนมองซุนเจี้ยนพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“เป็นไปไม่ได้ พี่หยวนหนักร้อยห้าสิบกว่า วันก่อนฉันยังไปกินข้าวดื่มเหล้ากับเขาอยู่เลย ทำไมผ่านไปไม่กี่วันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปแล้วล่ะ” ซุนเจี้ยนพูดเบา ๆ เขายังคงไม่อาจะเชื่อสายตาตัวเอง
“พวกเราไม่ได้แค่กินข้าวดื่มเหล้านะ ยังไปใต้หล้าอู่เฉิงอีกต่างหาก แกไปหาเด็กมหาลัยมาสองคน ตอนหลังเมียแกก็โทรศัพท์ตามกลับ พี่พูดถูกไหมล่ะ” เจี่ยหยวนมองซุนเจี้ยนที่มีสีหน้าอึ้งตะลึงก็พูดยิ้ม ๆ
“พะ…พี่หยวน พี่จริง ๆ เหรอ” คราวนี้ซุนเจี้ยนเชื่อแล้ว เพราะว่าคืนนั้นพวกเขาสองคนอยู่ในห้อง เรื่องนี้มีเพียงเจี่ยหยวนเท่านั้นที่รู้ “พี่หยวน ผมผิดไปแล้ว แต่พี่ก็ไม่ถูกนะ ทำไมพี่เปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ล่ะ”
“ป้าบ! เด็กบ้านี่ กล้าตบหัวฉันเหรอ” เจี่ยหยวนตบเข้าที่ศีรษะของซุนเจี้ยนอีกครั้ง ซุนเจี้ยนก้มศีรษะลง ก่อนจะหัวเราะแหะ ๆ เมื่อกี้เขาตบเจี้ยหยวนไปเสียแรงแลย
“พี่หยวน ไป เราไปนั่งด้านนู้นกันหน่อย พี่เป็นแบบนี้พี่เข้าไปประตูใหญ่หยวนอินเตอร์ไม่ได้แน่ เดี๋ยวถ้าใครตบพี่เข้าอีกพี่ได้ซวยแน่” ซุนเจี้ยนพูดยิ้ม ๆ จากนั้นทั้งสองคนก็ขับรถตามกันไปที่บริษัทจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดไม่เล็กแห่งหนึ่งในศูนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์เมืองอู่เฉิง
“พี่ไฮว่ อรุณสวัสดิ์” อวี้เอ๋อร์ยิ้มทักทายกัวไฮว่ ในตอนนี้อวี้เอ๋อร์ หลิวเย่าซือและเหลิ่งซวงปรากฏตัวอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม ส่วนกัวไฮว่ก็กินแทบจะอิ่มแล้ว “เมื่อวานไปหาหลิงหลิงที่ฟู่จงอีกหรือเปล่า”
“อวี้เอ๋อร์เมียรัก ฟ้าดินเป็นพยาน เมื่อคืนฉันอยู่กับพี่สองทั้งคืน ข้าวจะมั่วซั่วไม่ได้ฉันใด คำพูดจะพูดมั่วซั่วไม่ได้ฉันนั้น” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“ฮึ เชื่อก็แย่แล้ว” อวี้เอ๋อร์พูดพลางไปหยิบของกิน ถึงแม้ข้าวบนแดนมนุษย์นี่จะไม่ได้อร่อยอะไร แต่ว่ากัวไฮว่มักจะพูดว่า การกินก็เป็นการฝึกอย่างหนึ่ง งั้นก็กินอย่างพิถีพิถันไปซะเถอะ
นักศึกษาที่กัวไฮว่รับมาจากมหาวิทยาลัยอู่เฉิงต่างก็ทยอยกันมาที่ห้องอาหารของโรมแรม ท่าทางของพวกเขาดูไม่เลวเลย ดูท่าทุกคนต่างพักผ่อนกันอย่างเต็มอิ่ม
“น้องกัวไฮว่ พรุ่งนี้ฉันไม่อยู่นี่แล้วล่ะ เมื่อกี้ฉันถามฟรอนต์แล้ว บอกว่าที่นี่คืนนึงตั้งแปดร้อยแปด พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปอยู่ที่มหาลัย ตอนเช้าก็นั่งรถเมล์มาที่นี่ ตื่นเช้าสักหน่อยก็ได้แล้วล่ะ” หลี่อวี้เดินไปยังด้านข้างของกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้นเบา ๆ
“ธุรกิจในครอบครัว ไม่ต้องจ่ายเงิน อยู่ที่นี่ก็ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอไม่มีเวลาว่างให้เสียเปล่าไปหรอกนะ ฉันจัดตารางเรียนให้พวกเธอไว้เต็มหมดแล้ว คลินิกไม่ของพวกเราไม่ต้องการคนธรรมดา ๆ หรอกนะ แล้วก็จะไม่มีหมอธรรมดา ๆ ด้วย” กัวไฮว่พูดด้วยเสียงดัง เหล่านักศึกษาที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอาหารต่างก็มองไปยังกัวไฮว่ พร้อมกับพยักหน้าด้วยความจริงจัง พวกเขาต่างก็เคารพนับถือกัวไฮว่มากขึ้น
“ทุกคนกินกันอิ่มแล้วก็ไปที่คลินิกด้วยกันเถอะ เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาพวกเธอไปทำความรู้จักกับสถานที่ทำงาน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ทั้งยี่สิบคนต่อแถวเรียงกัน พวกเขาไม่ได้ขับรถไป แค่เดินตรงไปยังคลินิกไม่
“ถึงแล้ว คลินิกไม่” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ เขาพาฝูงชนมายังหน้าประตูคลินิก ทุก ๆ คนยกเว้นอวี้เอ๋อร์ต่างก็ตกตะลึงกับป้ายขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า อักษรสามตัวคำว่า ‘คลินิกไม่’ ทำเอาคนที่มีความรู้ด้านพู่กันจีนอันน้อยนิดต่างก็รู้สึกได้ถึงความกดดัน ป้ายขนาดมหึมานี่ก็ทำให้นักศึกษาทุกคนรู้สึกแบบเดียวกัน นี่มันวัสดุอะไรกัน มาห้อยอยู่ข้างบนได้ยังไงกัน
“เข้าไปเถอะ เดินดูตามสบายได้เลย” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“พี่เจี่ยตี้ มาดูโต๊ะนี่สิ พี่มีความรู้เรื่องไม้นี่ ดูสิว่าเป็นวัสดุอะไร โต๊ะนี่ดูมีพลังมาก ๆ เลย” เฉาเฉียนคุนพุ่งตัวไปพูดกับเฉินเจี่ยตี้ ส่วนเฉินเจี่ยตี้ไม่ได้ตอบกลับ เขากำลังตกตะลึงกับเก้าอี้เตี้ยที่ตนเองกำลังนั่งอยู่ ทั้งไม้ ทั้งงานแกะสลัก ของแบบนี้มันศิลปะชัด ๆ ศิลปะของแท้ จะมาให้คนนั่งได้ยังไงกัน คิดไปคิดมา เฉินเจี่ยตี้ก็ลุกขึ้น
“อาจารย์คะ ไม่ทราบว่าเฟอร์นิเจอร์พวกนี้เอามาจากไหนเหรอ บอกฉันหน่อยได้ไหม อีกไม่กี่วันจะวันเกิดคุณปู่แล้ว ฉันอยากให้ของขวัญวันเกิดท่านหน่อย” เหอโม่ที่ไม่พูดไม่จาอยู่ตลอดก็พูดขึ้นเบา ๆ ไม้จันทน์จื่อจิน อย่าว่าแต่เฟอร์นิเจอร์แบบนี้เลย แม้แต่เขาเองก็หาไม่ได้หรอก มีหลายคนที่อยากได้ไม้จันทน์จื่อจินก็ถึงขั้นเสี่ยงอันตรายไปขุดมาจากหลุมศพบรรพบุรุษ
“ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าอาจารย์แล้ว เดี๋ยวฉันจะหาของขวัญวันเกิดปู่เธอมาให้เอง ถึงตอนนี้เธอพอใจอย่างแน่นอน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ส่วยเหอโม่พยักหน้าเบา ๆ ดูท่าทางที่ให้เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นอาจารย์ก็ไม่เลวสักเท่าไหร่
“วันนี้ไม่พูดถึงเรื่องอื่นแล้ว ในเมื่อฉันเลือกพวกเธอมา ฉันก็หวังว่าพวกเธอจะอยู่ที่คลินิกไม่ต่อกันหมด และจำ ‘หกไม่รักษา’ ของคลินิกไม่ไว้ให้ดีล่ะ ไม่รักษาคนไม่กตัญญู ไม่รักษาคนพูดปด ไม่รักษาคนไม่เคารพ ไม่รักษาคนชั่ว ไม่รักษาผู้ไม่ปรองดอง ไม่รักษาผู้ไม่สนในการแพทย์” กัวไฮว่พูดเสียงดัง
“สุดยอด สุดยอดจริง ๆ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั่น ไม่รักษาคนที่ไม่อยากรักษา” เฉาเฉียนคุนพูดเสียงดัง “กัวไฮว่ ต่อไปจะให้พวกเราเรียกนายยังไงดี ให้เรียนผอ. หรือว่าจะให้เรียกหัวหน้าดี”
“ฮ่าๆ เรียกหัวหน้าดีว่า หรือว่าพวกเธออยากเรียกอะไรก็ตามใจ คนรุ่นเดียวกันทั้งนั้น ขอแค่พวกเธอไม่ทำเรื่องผิดกฎฉันก็จะไม่โกรธ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ผอ. ครับ ถ้าอยากให้พวกเราอยู่คลินิกไม่ต่อจริง ๆ ผมว่าคุณควรจะแสดงความสามารถมาหน่อยนะ ของที่อยู่ตรงหน้านี่ตระการตาก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้พวกเรานับถือคุณได้ก็มีแค่ความสามารถทางการแพทย์เท่านั้น” เฉินเจี่ยตี้พูดเสียงดัง
“รอดูเถอะ ไว้วันเปิดคลินิกฉันจะให้พวกเธอดูจนจุใจแน่”