[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 126 เจี่ยหยวนลดน้ำหนัก
“งั้นฉันก็ขอให้เธออยู่ที่คลินิกไม่แล้วก็กลายเป็นหมอที่ดีมีชื่อเสียงนะ” เพื่อนรูมเมตคนนั้นพูดยิ้ม ๆ
“พี่ซือซือ เหลิ่งซวง พวกเธอก็ไปเก็บของเถอะ ถึงเวลาแล้วเราไปเจอกันที่ประตูใหญ่กันนะ ฉันจะไปคลินิกสักหน่อยจะได้ไปจัดการห้องพักของพวกเธอ” จู่ ๆ กัวไฮว่ก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าหลาย ๆ คนไปที่คลินิกด้วยกัน ถึงแม้คลินิกจะมีสามชั้น แต่ห้องบนสุดก็ไม่พอจะให้คนจำนวนเยอะขนาดนี้ไปพักอาศัยเลยรีบไปจัดการก่อน
“เจ้าสี่ มีเรื่องอะไรจะมาหาพี่เหรอ อย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่นเลย เหล้าสิบจิน ถ้าตกลงแล้วเราค่อยเจรจากัน ถ้าไม่ได้ก็ไม่คุย” เจี่ยหยวนพูดเสียงดังกับโทรศัพท์
“พี่สองคนดีของผม ผมยังไม่ทันพูดอะไรพี่ก็เริ่มซะแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ อย่างไม่ได้โกรธอะไร “ผมจำได้ว่าโรงแรมตรงทางตัดระหว่างถนนซิ่งหลินกับถนนเซวียนอู่เป็นของพี่ ช่วยเหลือห้องไว้ให้ผมสักยี่สิบห้องได้ไหม เดี๋ยวสักห้าโมงเย็นผมจะเอาคนไปอยู่”
“ยี่สิบห้อง เจ้าสี่ แกเอาห้องเยอะขนาดนั้นไปทำไม ถ้าแกมีแฟนเยอะฉันให้แกอยู่ห้องประธานชั้นบนสุดก็ได้ เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือกันสิ” เจี่ยหยวนพูดยิ้ม ๆ
“ให้ตาย ผมไม่ได้โรคจิตแบบพี่สักหน่อย คลินิกไม่ของผมรับสมัครพนักงานมา จะให้พวกเขาอยู่ที่นั่นก่อนน่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “แล้วก็ยังมีอีกเรื่องที่จะรบกวนพี่สอง คลินิกที่อยู่ข้าง ๆ คลินิกไม่ผิดตัวลงแล้ว พี่ชอบไปสืบข่าวมาหน่อยสิว่าบ้านหลังนั้นเป็นของใคร ช่วยผมจัดการหน่อย ผมจะเอามาทำหอพักพนักงาน หลังจากนี้จะได้ไม่ต้องรบกวนโรงแรมพี่อีก”
“เจ้าสี่ เรื่องที่ถนนซิ่งหลินแกก็ไปหาที่สมาคมแพทย์แผนโบราณสิ คลินิกพวกนั้นเป็นของสมาคมแพทย์แผนโบราณทั้งนั้นแหละ เจ้าสามบอกว่าแกมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับสมาคมแพทย์แผนโบราณ แกก็ไปที่สมาคมแพทย์แผนโบราณเองเลย เรื่องนี้ฉันจัดการไม่ไหวหรอก” เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ “ส่วนที่โรงแรมฉันแกอยากอยู่นานแค่ไหนก็อยู่ไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกจะเปิดคลินิกนี่ได้นานเท่าไหร่ ฮ่าๆ”
“ให้ตาย ผมยังไม่ได้เปิดคลินิกพี่ก็พูดแบบนี้ซะแล้ว” กัวไฮว่ก่นด่า “หลายวันก่อนอาจารย์อา[1] ให้ยาลดน้ำหนักผมมาหลายเม็ดเลย ได้ยินว่าไม่มีผลข้างเคียงแม้แต่นิดเดียว แถมยังมีสรรพคุณทำให้ร่างกายแข็งแรงอีก ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้พี่สองชิม แต่ผมว่าช่างมันเถอะ รอไว้ตอนไปที่ชนบทค่อยลองกับแม่หมูแล้วกัน”
“เจ้าสี่ แกกล้านักนะ ถ้าแกไม่เอายาให้ฉันเราก็ไม่ต้องมาเป็นพี่น้องกันอีก” เจี่ยหยวนพูดเสียงดัง เขารู้แค่ว่ายาของกัวไฮว่ได้ช่วยชีวิตหลี่เย่าเอาไว้ ของของสำนึกลึกลับไม่ใช่อะไรที่จะใช้เงินซื้อมาได้
“พี่สอง ให้พี่กินไม่ได้จริงๆ ถ้าพี่ผอมลงจะยังเป็นเจ้าอ้วนเจี่ยหยวนอีกเหรอ” กัวไฮว่พูดหยอกล้อ “ไว้ตอนบ่ายรอผมที่โรงแรมพี่นั่นแหละ แล้วเรามาคุยกัน” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็วางสายไป
“ผอมลง? ฉันจะผอมลงได้จริงๆ เหรอ” เจี่ยหยวนมองตนเองในกระจก ตีเข้าที่พุงของตนเองก่อนจะพูดยิ้มๆ “ถ้าผอมลงจริง ฉันก็หล่อใช้ได้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ”
เวลาห้าโมงเย็นกัวไฮว่ก็ขับรถกลับมา โดยมีด้วยรถบัสขนาดใหญ่สองคันตามมาด้านหลัง ซึ่งเป็นรถบัสจากบริษัทของเจี่ยหยวน ในเมื่อทิ้งว่างเอาไว้ก็เอามาส่งคนให้ผมหน่อยเถอะ
“หยวนอินเตอร์ เป็นรถบัสจากหยวนอินเตอร์ซะด้วย หรือว่าผอ. เราจะรู้จักกับหยวนอินเตอร์ หรือว่าผู้สนับสนุนคลินิกของพวกเราจะเป็นหยวนอินเตอร์ ถ้าเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็สุดยอดไปเลย” หลี่ว์เฟิงจากคณะแพทย์แผนปัจจุบันพูดเสียงดัง
“หลี่ว์เฟิง แกไม่เคยสืบรายละเอียดของบอสเราเหรอ สี่ตัวอันตราย ตัวอสรพิษ ก็คือกัวไฮว่ผอ. ของพวกเรานั่นแหละ” เฉินเจี่ยตี้พูดยิ้มๆ “แต่ว่าช่วงนี้ช่วงนี้บอสของพวกเราเปลี่ยนไปเยอะเลย หยวนอินเตอร์เป็นบริษัทของเจ้าอ้วนเจี่ยหยวน สี่ตัวอันตรายยังไงล่ะ หรือก็คือพี่สองของผอ. พวกเรานั่นเอง แค่ออกปากก็ได้ใช้รถแล้ว”
“พ่อหนุ่ม ฉันไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม” ในตอนที่รถจะออกโจวเทียนหยางก็มา เขาเองก็มีของน้อย นอกจากมีดหนึ่งชุดที่เขาหยิบติดมือมา ก็ไม่ได้เอาอย่างอื่นมาเลย กัวไฮว่กับเขาทักทายกันเล็กน้อยแล้วก็ให้ทุกคนขึ้นรถไป
ทั้งยี่สิบคนแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อไปขึ้นรถบัส พวกเขาเอากระเป๋าเดินทางขึ้นรถไปจากนั้นรถก็ขับออกจากมหาวิทยาลัยอู่เฉิงเรียงกันไป
“เจ้าสี่ ช่วงนี้คิดถึงพี่บ้างหรือเปล่า พูด…พูดมาสิว่าแกคิดถึง” เจี่ยหยวนพูดพลางโอบกัวไฮว่เอาไว้ “ทำไมแกเจอได้เจอแต่คนสวย ๆ วะ อย่าบอกฉันนะว่าคนสวยที่อยู่ข้าง ๆ น้องสะใภ้ก็เมียแกด้วยน่ะ”
“ซือซือ มานี่สิ ฉันแนะนำให้เธอรู้จักสักหน่อย นี่คือพี่สองเจี่ยหยวนของฉัน เรียกว่าพี่สองก็ได้” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ หลิวเย่าซือเดินไปข้าง ๆ เจี่ยหยวนพร้อมกับตะโกนเรียกพี่สองด้วยความดีอกดีใจ
“ไม่รู้ว่าเธอถูกใจเจ้าสี่ตรงไหนกัน กินดื่มเที่ยวสาวเล่นพนัน ตัวอสรพิษ เธอไม่เคยได้ยินเหรอ เฮ้อ ชายหนุ่มแบบฉันพวกเธอไม่เห็นจะเหลียวแล ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย” เจี่ยหยวนพูดพลางส่ายศีรษะ “ฉันบอกผู้จัดการโรงแรมแล้วล่ะ พวกเธออยู่ที่นี่ได้ มีอะไรก็ไปหาผู้จัดการได้เลย”
“ขอบคุณนะพี่สอง ผมกำลังคิดเรื่องของพี่อยู่ พรุ่งนี้ผมจะไปหาพี่ พี่เตรียมใจไว้ดี ๆ ล่ะ ถ้าผอมไปจะดูไม่ดีเอาได้นะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“อย่าพรุ่งนี้เลย วันนี้แหละ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เอามา แกไม่อ้วนแกไม่รู้ถึงความเจ็บปวดของพี่หรอก ขนาดจะมองน้องชายตัวเองก็ต้องโค้งตัวเลย ความเจ็บปวดแบบนี้แกไม่เข้าใจหรอก” เจี่ยหยวนพูดพร้อมกับดึงกัวไฮว่เอาไว้ เด็กสาวหลายคนต่างก็มองเจี่ยหยวนคนอ้วนด้วยหน้าถอดสี จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในโรงแรม
“เอาเถอะ พี่ไปคลินิกกับผมเถอะ แต่ทางที่ดีพี่จัดการเรื่องที่บริษัทพี่ให้เรียบร้อยก่อน เสร็จแล้วไม่มีใครจำพี่ได้เดี๋ยวจะยุ่งเอา” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เรื่องนี้แกไม่ต้องกังวล พวกเขาจำฉันไม่ได้นั่นแหละดี ฉันจะเอาเงินทุนของบริษัทไปทั้งหมดแล้วก็จะไปเริ่มใหม่ ฮ่า ๆ” เจี่ยหยวนพูดหัวเราะเสียงดังลั่น “เร็ว ๆ เลย ฉันอยากผอม ฉันอยากผอม”
กัวไฮว่ขับรถไม่ถึงสามนาที เขากับเจี่ยหยวนก็มาถึงหน้าประตูคลินิก
“สุดยอดเลย เจ้าสี่ ป้ายคลินิกแกใหญ่ใช้ได้เลยนะเนี่ย อักษรนี้ใครเป็นคนเขียนเหรอ แล้วก็ป้ายนี่ใครเป็นคนทำให้แกเหรอ ไว้พรุ่งนี้ฉันจะเปลี่ยนป้ายชื่อบริษัทด้วยเหมือนกันดีกว่า” เจี่ยหยวนมองไปยังป้ายคลินิกพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“พี่สอง เข้าเถอะ ไปทำธุระให้มันเสร็จๆ ป้ายกาก ๆ นี่พี่ยังชอบอีก ไร้อนาคตจริง ๆ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ อันที่จริงกัวไฮว่เองก็ไม่อาจตัดใจแบ่งไม้หานเถี่ยที่เหลืออยู่ในน้ำเต้าให้เจี่ยหยวนได้ และแน่นอนว่าเจี่ยหยวนเองก็ไม่รู้ว่ากัวไฮว่มีความคิดเช่นนี้
“เจ้าสี่ พี่เย่าบอกแล้วว่าสำนักของแกมีของดี ๆ โดยเฉพาะยาลูกกลอนนั่น แกอย่าเอายาระบายมาหลอกฉันล่ะ แกต้องปฏิบัติกับพี่ใหญ่พี่สองให้เท่าเทียมกันนะ” เจี่ยหยวนพูดพลางถูมือทั้งสอง “คลินิกแกนี่พี่ก็ออกแรงไปไม่น้อยเลย”
“พอได้แล้วครับพี่สองคนดีของผม พี่กินยาเม็ดนี้ไปนะ ห้องน้ำอยู่ข้าง ๆ กินเสร็จก็กินน้ำจากก๊อกเข้าไปเยอะ ๆ เลย เร็ว ๆ เลยด้วย ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นห้ามตระหนก มีน้องคนนี้อยู่” กัวไฮว่พูดยิ้มพร้อมกับยื่นเม็ดยาสีดำขลับไปให้เจี่ยหยวน เจี่ยหยวนก็โยนเข้าไปในปากอย่างไม่ได้เกรงอกเกรงใจ
“รีบไปห้องน้ำเร็วเข้า ไม่งั้นคืนนี้พี่ได้เป็นลมแน่ แล้วก็เก็บกวาดคลินิกผมให้สะอาดด้วยล่ะ”
เจี่ยหยวนวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วราวกับหนีอะไรบางอย่าง จากนั้นในห้องน้ำก็มีเสียงเจี่ยหยวนร้องเรียกน้องสี่ ๆ ดังลั่นราวกับเกิดสงครามขึ้น ทว่ากัวไฮว่กลับไม่ได้สนใจ เขาหยิบน้ำเต้ามาจากนั้นก็นั่งไปบนภูเขาจำลองภายในคลินิกอย่างแช่มช้า ก่อนจะดื่มเหล้าไปทีละคำ ๆ ชีวิตในแดนมนุษย์ไม่เลวเลยจริง ๆ
[1] เป็นคำเรียกของศิษย์น้องของอาจารย์ ใช้เรียกได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง