[นิยายแปล] ผ่าสวรรค์ราชันอมตะ - ตอนที่ 117 กัวไฮว่ฝังเข็ม
ท่ามกลางสายตาของฝูงชน หญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นใส่หมวกเบสบอลและผ้าปิดปากคนหนึ่งเดินไปยังด้านหน้าของฝูงชน
“เธอคือเหอโม่ นักศึกษาใหม่ปีหนึ่ง” นักศึกษาใหม่ปีหนึ่งของคณะแพทย์แผนปัจจุบันคนหนึ่งพูดยิ้มๆ “เธอมีหมวกเยอะมากเลยล่ะ แต่ว่าพวกเราไม่เคยเห็นเธอเอาผ้าปิดปากลงมาก่อน ไม่รู้หน้าตาเป็นไง”
“รูปร่างไม่แย่เลย!” กัวไฮว่มองเหอโม่แวบหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ
“ถ้านายชนะฉัน ฉันจะกราบนายเป็นอาจารย์แล้วก็เรียนการแพทย์แผนโบราณ ฉันว่านี่คงเป็นความหวังของนายเลยใช่ไหมล่ะ” เหอโม่มองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น
“มามหาลัยอู่เฉิงรอบนี้ไม่เสียเที่ยวนะเนี่ย อย่างน้อยก็ได้รับสาวสวยมาเป็นศิษย์” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ชนะแล้วค่อยว่ากันเถอะ” เหอโม่พูดเบาๆ “ท่านคณบดีคะ ผู้ป่วยจะผ่าตัดตรงนี้เลยเหรอคะ สภาพตรงนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่”
“ไปผ่าตัดในห้องผ่าตัดอาคารหมอเทพเถอะ” หวงฮั่นหลินพูดยิ้มๆ ถ้าแพ้ละก็ เรื่องอาคารหมอเทพน่ะเรื่องเล็กน้อย แต่ว่าถ้าตนแพ้ให้นักเรียนแบบนี้ถือเป็นความเสียหายอันมหาศาลของตน
“เสี่ยวไฮว่ ต้องหาห้องผ่าตัดให้เธอด้วยหรือเปล่า” หลิวเฉินกังเห็นว่ากัวไฮว่ไม่รีบไม่ร้อนก็ถามยิ้มๆ
“เขาเป็นหมอแผนปัจจุบัน ใช้ของยิ่งใหญ่ไฮโซ แต่พวกเราเป็นแค่รากหญ้า ไม่ต้องใช้ห้องผ่าตัดหรอก อยู่ที่นี่แหละ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “หัวหน้าหลิวครับ บนรถคุณน่าจะมีเอกซเรย์นะครับ ช่วยถ่ายเอกซเรย์ให้ผู้ป่วยก่อนเถอะ แล้วรอให้ผมรักษาเนื้องอกให้ผู้ป่วยเสร็จ คุณค่อยเอามาเปรียบเทียบ คณบดีหวงจะได้ไม่พูดซี้ซั้ว”
หลิวชิงเจิงพยักหน้า จากนั้นก็เอกซเรย์ให้ผู้ป่วย เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่เลวเลย และบทสนทนาของเด็กหนุ่มกับเมื่อสักครู่นี้ทำให้เขารู้สึกกินใจ
“หมอหลิว ให้เด็กนี่รักษาผมจริงๆ เหรอ” ขั้นตอนอื่นๆ ได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ทว่าผู้ป่วยไม่ทำเสียแล้ว ในตัวผมมีเนื้องอก แล้วทางโรงพยาบาลของพวกคุณก็บอกว่าทางคณะแพทย์จะทำการรักษาให้ฟรี ผมหลงเชื่อถึงได้มาที่นี่ สุดท้ายก็ให้เด็กนี่มารักษาให้ คุณจะให้ผมวางใจได้ยังไง
“จากอายุของคุณแล้วเนี่ยผมเรียกคุณว่าลุงได้เลยนะ เนื้องอกลุงนี่หนักมากนะครับ ผมไม่ทราบว่าลุงรู้หรือเปล่า” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ก็คือเนื้องอกลุงเนี่ยเป็นของเสีย ถ้ารักษาไม่ทันเวลาก็จะกลายเป็นมะเร็งได้”
“ฉันรู้ ทางโรงพยาบาลบอกฉันแล้วว่าให้ฉันตัดออกตั้งแต่แรก แล้วก็ตัดออกให้หมดด้วย ไม่งั้นอาจจะงอกมาใหม่ได้อีก” ชายอายุราวสี่สิบปีพูดเบาๆ
“งั้นลุงน่าจะเคยได้ยินนะครับว่ายิ่งตัดเนื้องอกออกยิ่งเสี่ยง ถ้าตัดไม่หมดก็จะงอกมาอีกเยอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม มีอะไรเธอก็พูดมาตรงๆ เถอะ อันที่จริงตอนแรกฉันไม่คิดจะรักษาโรคนี้ด้วยซ้ำ ที่บ้านฉันไม่มีเงิน ในครอบครัวมีแต่คนแก่กับเด็ก ถ้าจ่ายเงินผ่าตัดไปบ้านเราก็เจ๊งพอดี” ชายวัยกลางคนพูดเบาๆ
“ผมเข้าใจที่ลุงกังวลนะครับ เอาอย่างนี้ ผมจะช่วยลุงรักษาเนื้องอก ถ้าสำเร็จก็วินกันทั้งสองฝ่าย แล้วลุงก็ตั้งใจทำงาน หาเลี้ยงครอบครัว ผมเองก็ให้งานลุงได้ ถ้าลุงอยากจะมาทำกับผม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ถ้าไม่สำเร็จอย่างที่ลุงคิดเอาไว้ ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้หนึ่งล้าน เงินนี่พอที่จะให้ลุงไปผ่าตัดใหม่ ถ้าลุงอยากทำงาน ก็มาหาผมได้ เป็นไงครับ”
“พ่อหนุ่ม ถ้าเธอพูดแบบนี้ เธอจะทำยังไงก็ตามใจเลย ถ้าเธอทำให้ฉันรอดได้ ฉันก็จะไม่หือไม่อืออะไรทั้งสิ้น” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น หนึ่งล้าน มีเงินหนึ่งล้านเรื่องที่ลูกจะเข้าเรียน เรื่องที่แม่ป่วย จากนี้ไปเมียเขาจะไม่ต้องทำงานขายวิญญาณอีกแล้ว ขายตัวเองไปแล้วก็ได้เงินมาหนึ่งล้าน ตอนนี้เหล่าฟ่านถึงขั้นรอให้เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้รักษาตนเองผิดพลาดแล้วให้เงินเขามาหนึ่งล้าน
“รักษาเนื้องอกลุงไม่ยากเลย ลุงไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เพื่อนๆ ทุกคนก็ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ เดี๋ยวรอดูอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว ฉันจะบรรยายพลางรักษาเนื้องอกผู้ป่วยท่านนี้เอง”
นักศึกษาคณะแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนจีนต่างก็ตะลึงอึ้งไป เด็กหนุ่มที่ยังเด็กกว่าพวกเขาไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ กำลังรักษาเนื้องอกอยู่ แล้วก็ให้พวกเขามุงอยู่รายล้อม
“คณบดีหลิว ไปเอายามาตามตำรับนี้นะครับ แล้วก็ต้มน้ำสามถ้วย แล้วเดี๋ยวให้คนส่งมาให้” กัวไฮว่หยิบกระดาษและปากกาออกมาจากตัว จากนั้นก็เขียนไปสองแผ่นแล้วยื่นแผ่นหนึ่งให้หลิวเฉินกัง
“เย่าซือคนสวย เธอช่วยไปเอายามาตามตำรับยานี่หน่อยสิ” กัวไฮว่ยื่นกระดาษอีกแผ่นให้หลินเย่าซือ หลิวเย่าซือรับกระดาษมา เธอผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องยาจีน
“เหลิ่งซวงคนสวย ถ้าเธออยากจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าฉันรักษาเนื้องอกในครั้งนี้ยังไงล่ะก็ มาเป็นลูกมือฉันสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ส่วนอวี้เอ๋อร์มองกัวไฮว่หน้าถอดสี เวลาพี่รักษาต้องการลูกมือตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เห็นชัดๆ ว่าจะแต๊ะอั๋งคนอื่นเขา
กัวไฮว่ถอดเสื้อตัวบนของเหล่าฟ่านออก ในมือของเขาไม่รู้ว่ามีเข็มขนาดสั้นยาวไม่เท่ากันอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ที่เซลล์เนื้องอกแพร่ไปได้เนี่ยขึ้นอยู่ที่สารอาหาร ดูฉันฝังเข็มดีๆ นะ เดี๋ยวคุณตั้งสติดีๆ นะครับ” ในขณะที่พูด กัวไฮว่ก็ลงมือฝังเข็มเจ็ดเล่มไปบนตัวของเหล่าฟ่าน เหลิ่งซวงมองตำแหน่งของเข็มทั้งเจ็ดแล้วก็เริ่มงุนงง จากนั้นสีหน้าก็เต็มไปด้วยความยินดี
“นี่แค่ก้าวแรก สารอาหารของเซลล์เนื้องอกถูกตัดขาดแล้ว ต่อไปเซลล์เนื้องอกก็จะค่อยๆ หายไปถึงแม้จะไม่ผ่าตัด แต่ว่านานมากกว่าจะหายไป กระบวนการก็ทรมานมากด้วย” ตอนที่กัวไฮว่อธิบายให้เหลิ่งซวงฟังอยู่นั้น หลิวเย่าซือก็จัดยาเสร็จและนำกลับมาพอดี
“ให้เซลล์เนื้องอกได้ดูดซึมยาหน่อย ให้พวกมันละลายเหลือศูนย์ จากนั้นก็ค่อยๆ จัดการพวกมัน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ เขายื่นมือไปหยิบผงยาที่ทำมาเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ฝังเข็มไปบนตัวเหล่าฟ่านอีกครั้ง จากนั้นก็ผสมผงยาเข้ากับน้ำ จากนั้นก็นำเข้าไปในกายของเหล่าฟ่านตามเข็มที่ฝัง
“เหล่าฟ่าน รู้สึกไม่สบายท้องนิดหน่อยใช่ไหม เดี๋ยวก็จะดีขึ้นแล้วล่ะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ซือซือคนสวย เธอก็ไม่ต้องกังวลนะ ถึงในยาที่ให้เธอไปเอามาจะมียาพิษอยู่ แต่วิธีใช้พิษดับพิษก็มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว”
กัวไฮว่มองยาที่ซึมเข้าไปในร่างกายเหล่าฟ่านทีละหยดๆ ก็ยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย สิ่งที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งไว้ให้จะไปแพ้การแพทย์แผนปัจจุบันที่พัฒนาเป็นหลายร้อยปีได้ยังไงกัน
“เหล่าฟ่าน ใส่เสื้อเถอะ ออกจากประตูนี่แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงนั้นมีห้องน้ำอยู่ ไปจัดการเรื่องส่วนตัวเถอะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เย่าซือคนสวย น่าจะต้มยาเสร็จแล้วล่ะ เธอไปเอามาหน่อยสิ”
หลิวเย่าซือผงกศีรษะเล็กน้อย จากนั้นเธอก็หมุนตัววิ่งไปยังสถานที่ต้มยา
“กัวไฮว่ พูดตามตรงนะ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เชื่อเลยว่านายจะรักษาผู้ป่วยเนื้องอกให้หายดีได้ เพราะว่านายเด็กมากเลย ถึงฉันจะแก่กว่านายไม่กี่ปี แต่นับตั้งแต่ที่ฉันได้สัมผัสกับการแพทย์แผนโบราณ ฉันก็รู้ว่าฉันมีพรสวรรค์ธรรมดาๆ แต่ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเก่งกว่าฉันอีก” เหลิ่งซวงมองกัวไฮว่พร้อมกับพูดยิ้มๆ