[นิยายแปล] ปกรณัมรักข้ามภพ - ตอนที่ 17 การประเมินอันสูงค่า
ฉู่เหลียนที่บังเอิญเดินสวนทางกับเฮ่อฉางตี้กำลังจะเอ่ยเรียกเขา ทว่าชายหนุ่มกลับหันไปอีกทางเสียก่อน สีหน้าของเขาตอนนี้แลดูคร่ำเคร่ง เขาเร่งฝีเท้าและเลี้ยวหายเข้าไปในมุมหนึ่ง
กุ้ยหมัวมัวเห็นดังนั้นก็ถอนใจ “นายหญิงสาม กลับเรือนเราก่อนเถิดเจ้าค่ะ นายหญิงใหญ่อยู่ตรงนี้แล้ว ทุกสิ่งจะต้องเรียบร้อยเป็นแน่ เมื่อคุณชายสามทราบสถานการณ์แล้วก็จะต้องไปช่วยที่เรือนนอกเช่นกัน พวกเราควรกลับไปรอที่เรือนเสียก่อน”
ฉู่เหลียนพองแก้มป่อง ทำสีหน้าหงุดหงิดมองตามทางที่เฮ่อฉางตี้หายไป นางรู้สึกว่าเขาดูเร่งรีบจนเกินไป นอกจากนั้นดูไม่คล้ายว่าเขาจะไปเรียกหาคนมาช่วยเพิ่มแต่อย่างใด มิใช่ว่าเขากำลังไปทางเรือนชิ่งสี่ของเฮ่อเหล่าไท่จวินหรอกหรือ?
ช่างเถอะ นางทำหน้าที่ของตนเสร็จแล้ว ซ้ำยังตกใจจนถึงตอนนี้ นางควรกลับไปพักเสียหน่อย
อีกทางหนึ่ง เฮ่อฉางตี้ก็มาถึงเรือนชิ่งสี่อย่างรวดเร็ว
ข่าวเรื่องไฟไหม้ยังมาไม่ถึงที่นี่ ตอนนี้เหลียวหมัวมัวกำลังสั่งสาวใช้อีกสองคนให้ตัดแต่งดอกไม้ประดับอยู่ เมื่อเห็นเฮ่อฉางตี้รีบเดินเข้าเรือนมา นางก็รีบรุดเดินไปต้อนรับ
“คุณชายสาม เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”
“ท่านย่าอยู่ที่ใด!?” น้ำเสียงของเฮ่อฉางตี้ดูเคร่งเครียด
“เรียนคุณชายสาม เฮ่อเหล่าไท่จวินกำลังพักผ่อนอยู่ด้านในเจ้าค่ะ หากท่านมิได้มีเหตุด่วนอันใด โปรดรอที่ห้องรับแขกสักประเดี๋ยวได้หรือไม่เจ้าคะ”
เฮ่อซานหลางไม่สนมารยาท เขาพุ่งเข้าไปในห้องนอนของเฮ่อเหล่าไท่จวินทันที
เมื่อเข้าไปถึง เขาก็ตะโกนโหวกเหวก “ท่านย่า รีบเข้าเถอะ ส่งคนกับเหรียญตราของท่านไปพระราชวังตามหมอหลวงมาที่นี่เร็วเข้า!”
เฮ่อเหล่าไท่จวินยังหลับไม่สนิทดี เนื่องจากอายุมากแล้ว ขณะที่เฮ่อฉางตี้บุกเข้ามาส่งเสียดัง นางก็ตื่นขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หญิงรับใช้ช่วยกันประคองนางให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจ้องมองหลานชายคนที่สามของตน “โตขนาดนี้แล้ว เหตุใดยังวิ่งไปมาราวกับเด็กเล็ก ๆ อยู่เล่า? ใครในจวนเราล้มป่วยหรือ? ถึงขั้นต้องใช้เหรียญตราข้าตามหมอหลวงมา? ภรรยาของเจ้าหรือ?”
เฮ่อเหล่าไท่จวินนั้นอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด แม้จะถูกปลุกเรียกอย่างหยาบคาย ทว่านางก็ยังหยอกล้อเฮ่อซานหลางอย่างใจดี
เมื่อสาวใช้ช่วยเฮ่อเหล่าไท่จวินสวมเสื้อคลุมเสร็จ เฮ่อซานหลางก็ก้าวยาว ๆ มาประชิดตัวนางพอดี คิ้วของเขาขมวดแน่น
เมื่อเฮ่อเหล่าไท่จวินเห็นสีหน้าของหลานชาย นางก็เคร่งเครียดขึ้น ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่
“ซานหลาง ทำไมสีหน้าเจ้าเคร่งเครียดนัก?”
เฮ่อฉางตี้นั่งลงข้างเฮ่อเหล่าไท่จวินและจับมือนางไว้ข้างหนึ่ง “ท่านย่า ห้องครัวใหญ่ที่เรือนในถูกเพลิงไหม้แล้ว พี่สะใภ้ใหญ่ได้รับบาดเจ็บ ท่านต้องส่งคนไปตามหมอหลวง และร้องขอหมอที่ดีที่สุด หัวหน้าหมอหลิวผู้นั้น”
“อะไรนะ!” เฮ่อเหล่าไท่จวินไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ นางเร่งตามเหลียวหมัวมัวให้ไปนำตราหยกซึ่งใช้แสดงฐานะฮูหยินของนางออกมา เช่นนี้จึงจะสามารถส่งคนไปที่โรงพยาบาลหลวงเพื่อขอความช่วยเหลือได้
เฮ่อเหล่าไท่จวินวิตกกังวลจนนั่งไม่ติด ความร้อนรนของนางที่มีถูกแสดงออกมาชัดเจน จนเผลอสั่งเสียงแข็งให้สาวใช้ข้างกายนำเสื้อมา “เร็วเข้า ช่วยข้าแต่งตัว ข้าต้องไปดูว่าหลานสะใภ้เป็นอย่างไรแล้ว”
ตอนนี้เอง เฮ่อฉางตี้ใจเย็นลง “ท่านย่า อย่าได้กังวลไป ตอนที่ข้าผ่านไปที่ห้องครัว ข้าได้สั่งคนเอาไว้ให้ช่วยจัดการแล้ว ท่านกังวลไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น กลับจะทำให้ร่างกายย่ำแย่ลง เหตุใดท่านไม่รออยู่ที่นี่เล่า ประเดี๋ยวไหลเยว่ก็มารายงานแล้ว”
เฮ่อเหล่าไท่จวินย่อมเคยประสบพบเหตุการณ์มามากมายในชีวิต นางจึงเพียงตื่นตกใจไปชั่วครู่อย่างควบคุมมิได้ เมื่อได้ยินหลานชายกล่าวเช่นนั้น จึงค่อยวางใจได้ในที่สุด
“ซานหลาง คราวนี้เจ้าทำได้ดียิ่ง สามารถรับภาระหน้าที่ได้แล้ว”
เฮ่อฉางตี้กำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในชีวิตก่อนของตนจึงไม่ได้ยินคำพูดของเฮ่อเหล่าไท่จวินผู้เป็นย่าแม้แต่น้อย
เมื่อเฮ่อเหล่าไท่จวินสวมใส่เสื้ออีกชั้นหนึ่งและเดินมานั่งเก้าอี้ เฮ่อฉางตี้ก็รีบเข้ามานั่งติดกับท่านย่าของตนแทบจะในทันที ความลังเลใจปรากฏขึ้นในดวงตาเขา เมื่อคิดว่าจะกล่าวถึงเรื่องต่อไปอย่างไรดี
เฮ่อเหล่าไท่จวินพยายามคลายความร้อนใจด้วยการนั่งนับลูกประคำในมือ ขณะที่ดวงตาของนางจับจ้องเพียงประตูทางเข้าเรือนไม่วางตา เพียงหวังให้มีใครสักคนเข้ามาแจ้งข่าวโดยเร็ว
ทันใดนั้นเฮ่อฉางตี้ก็กล่าว
“ท่านย่า หลานมีเรื่องต้องขอร้องท่าน”
เฮ่อเหล่าไท่จวินมองหลานชายคนเล็กของนาง หลายชายคนนี้เกิดมาหน้าตาดี ถูกเลี้ยงดูในตระกูลขุนนาง ดังนั้นแม้จะฉลาดเฉลียวสักเพียงใด แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ ทว่ายามนี้หลานชายคนดีของนาง หลังจากแต่งงานไปกลับดูมั่นคงและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
“เมื่อไรกันที่เจ้าสามที่รักของข้าจำต้องขอร้องต่อผู้อื่นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราต่างเอาอกเอาใจเจ้ามาตลอดหรอกหรือ”
เฮ่อเหล่าไท่จวินกล่าวอย่างอารียิ่ง ใครที่ได้ยินต่างต้องรู้ว่านางนับเป็นผู้ที่ตามใจหลานชายคนนี้มาก ๆ คนหนึ่ง มิเช่นนั้นนางคงไม่เข้าวังด้วยตัวเอง เพียงเพื่อร้องขอพระราชทานการแต่งงานจากไทเฮาให้เขาเป็นการเฉพาะ
ทว่าเฮ่อซานหลางกลับมีสีหน้าอึดอัดใจ “ท่านย่า หากพี่สะใภ้เป็นอะไรไป ท่านอย่าให้ฉู่เหลียนมารับหน้าที่แทนนางได้หรือไม่”
ครั้นได้ยินคำขอของเฮ่อซานหลาง เฮ่อเหล่าไท่จวินก็สับสนยิ่ง
นางนิ่วหน้าเห็นว่าแปลกนัก “เจ้าเป็นอะไรไปหลานรัก? แม้ภรรยาเจ้าจะเพิ่งแต่งเข้าตระกูลเฮ่อ ทว่านางก็ดูมีน้ำอดน้ำทน หากพี่สะใภ้ใหญ่เจ้าได้รับบาดเจ็บ นางก็เป็นนายหญิงเพียงคนเดียวในตระกูลเฮ่อที่ยังแข็งแรง แม้จะเด็กไปสักหน่อย ย่าเจ้าก็ยังคอยอยู่ดูแลให้! และหากนางตั้งใจทำงานดี การให้นางดูแลจวนจะเป็นปัญหาอะไร?”
เฮ่อซานหลางรู้สึกได้จากน้ำเสียงผู้เป็นย่าของตนกำลังเอื้อยเอ่ยปกป้องฉู่เหลียนอยู่ ความรู้สึกไม่พอใจเริ่มก่อตัว เขาลอบด่าฉู่เหลียนในใจว่านางช่างประจบประแจงคนเก่งนัก เพิ่งเข้าตระกูลเฮ่อไม่นาน นางก็เอาชนะใจผู้ใหญ่ในตระกูลทั้งหลายได้
ทว่ากลับเป็นเขาเองที่มีความเห็นไม่ตรงกับย่าของตน
เฮ่อซานหลางเม้มปากข่มความหงุดหงิดไว้ในใจแล้วกล่าว “ท่านย่า มิใช่ข้าจะไม่ยอมให้เหลียนเอ๋อร์จัดการบ้าน ทว่านางยังเด็กที่เพิ่งเติบใหญ่ จวนอิ้งมีสตรีมากมาย พวกเขาจะสอนเหลียนเอ๋อร์ทุกสิ่งได้อย่างไร? นางยังขาดประสบการณ์นัก! ให้นางค่อย ๆ ติดตามเรียนรู้ข้างกายท่าน จนคุ้นเคยแล้วค่อยให้รับผิดชอบสิ่งใหญ่โตก็ยังไม่สาย”
เมื่อเฮ่อเหล่าไท่จวินได้ยินความตั้งใจเบื้องหลังคำพูดนั้น นางจึงมองเขาอย่างตำหนิ
“เช่นนั้นซานหลางของเราก็เป็นพวกตามใจภรรยาเสียจริง เอาเถิด เจ้าพูดถูก ภรรยาเจ้ายังเด็กนัก นางควรเรียนรู้อยู่ข้างกายข้า ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ลืมภรรยาเจ้าหรอก ย่าของเจ้าคนนี้คงเกิดมาเพื่อทำงานหนักกระมัง อายุถึงเพียงนี้ยังต้องมานั่งกังวลเรื่องเหล่านี้อีก”
แม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าสิ่งที่เฮ่อซานหลางกล่าวมาก็สมเหตุสมผล ฉู่เหลียนเสียมารดาตั้งแต่ยังเล็ก ยังมีคำกล่าวที่ว่า “เมื่อมีมารดาบุญธรรม บิดาจึงแปรเป็นบิดาบุญธรรม” นับเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่ฉู่เหลียนเพียงถูกหมางเมินและไม่ได้รับการศึกษา การเติบโตในสภาวะเช่นนั้น พวกนางย่อมไม่สามารถเรียกร้องได้ทุกอย่าง ย้อนไปในจวนอิ้ง นางคงมิได้รับการสั่งสอนมากนัก ดังนั้นเฮ่อเหล่าไท่จวินจึงคิดว่าการให้ฉู่เหลียนติดตามเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ จากนางก่อนก็ย่อมสมเหตุสมผล อย่างไรเสียฉู่เหลียนก็ดูเฉลียวฉลาด ไม่ช้าเร็วนางย่อมต้องได้รับหน้าที่ดูแลจวนอิ้ง เช่นนั้นการให้นางเตรียมตัวไว้เสียแต่เนิ่น ๆ ย่อมเป็นผลดี
เฮ่อซานหลางทำตามที่ตนวางเป้าหมายไว้สำเร็จ เขาลอบถอนใจโล่งอกและรีบปฏิเสธท่านย่าของตนที่พร่ำรำพันว่านางชราแล้ว
แท้จริงมิอาจกล่าวว่าเฮ่อเหล่าไท่จวินชราแล้ว นางยังอายุไม่ถึงหกสิบปี แม้จะมีริ้วรอยบนใบหน้า ทว่าสุขภาพก็ยังแข็งแรงดี
สำหรับเฮ่อซานหลางแล้ว สิ่งเดียวที่สำคัญคือ ตราบใดที่อำนาจในการจัดการจวนไม่ตกสู่มือฉู่เหลียน แผนร้ายเล็ก ๆ ของนางย่อมไม่สำเร็จ!
“เหตุใดจึงยังไม่มีใครกลับมารายงานอีก?” เฮ่อเหล่าไท่จวินเริ่มหมดความอดทนกับการรอคอยเสียแล้ว
เฮ่อฉางตี้ที่กำลังจะลุกไปสืบหาสาเหตุ ก็พบกลุ่มคนเดินมาจากทางสวนด้านนอก ผู้ที่เดินนำคนกลุ่มนั้นมากลับเป็นโจวซื่อ!
ผู้ตามโจวซื่อมาคือหญิงรับใช้รุ่นใหญ่คนหนึ่งของนาง และที่เดินอยู่ด้านหลังขวาสุดคือไหลเยว่
เฮ่อฉางตี้และเฮ่อเหล่าไท่จวินเห็นเต็มตา
เป็นเฮ่อเหล่าไท่จวินที่ตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นเบื้องหน้าก่อน นางทิ้งตัวลงบนไม้เท้าอย่างหนักหน่วงเมื่อก้าวไปต้อนรับพวกเขา หญิงรับใช้ส่วนตัวของนางเร่งเข้าไปประคอง
“หลานสะใภ้ใหญ่ เจ้าสบายดีหรือ?”
โจวซื่อมุ่นคิ้วขณะก้าวเข้าสู่เรือน ก่อนจะช่วยประคองเฮ่อเหล่าไท่จวินอีกข้างหนึ่ง และพาไปนั่งลงบนตั่งนุ่ม “ท่านย่า หลานสะใภ้สบายดี โปรดอย่ากังวลเจ้าค่ะ”
ได้ยินโจวซื่อกล่าวว่าตนสบายดี เฮ่อเหล่าไท่จวินจึงมองนางอย่างสำรวจเพื่อค้นหาร่องรอยการบาดเจ็บ เมื่อมั่นใจว่าไม่เป็นอะไรจริง ๆ ท้ายที่สุดเฮ่อเหล่าไท่จวินก็ผ่อนคลายลงจนได้
หลังจากนั้น นางจึงหันไปมองเฮ่อฉางตี้ด้วยสีหน้าประหลาด “นี่มันอะไรกันซานหลาง? พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าก็ดูสบายดี เหตุใดเจ้าจึงแตกตื่นมาร้องขอให้ตามหมอหลวง?! นี่เจ้ากำลังสร้างปัญหาแล้ว!”
เฮ่อฉางตี้ตกตะลึงเช่นกัน ความคิดนับไม่ถ้วนจู่โจมหัวของเขา
อะไร? อย่างไร? ในชาติที่แล้วพี่สะใภ้ของเขาถูกไฟแผดเผาจนสาหัส นางถึงกับเสียขาเพราะตามหมอหลวงมาไม่ทัน ทั้งยังมีฉู่เหลียนที่ได้รับหน้าที่จัดการดูแลจวนตระกูลเฮ่อจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ นอกจากนั้นยังลอบโกงเงินจากจวนเพื่อนำไปสนับสนุนเซียนอู่จิ้ง!
ทว่าพี่สะใภ้ใหญ่ยามนี้ยืนตรงหน้าเขาโดยไร้ซึ่งร่องรอยขีดข่วน
สีหน้าเฮ่อฉางตี้หมองหม่นลงอีกครา เขาเม้มปากแน่นอย่างไร้ซึ่งข้อแก้ตัวใด ๆ
โชคดีนัก เป็นโจวซื่อที่สวนขึ้นตอบอย่างว่องไว “ท่านย่าโปรดอย่าตื่นตกใจเลยเจ้าค่ะ”
โจวซื่อหยิบถ้วยชาจากสาวใช้มา ส่งต่อให้เฮ่อเหล่าไท่จวิน ก่อนจะค่อย ๆ อธิบาย “หลานสะใภ้มาเพื่อรายงานว่าในครัวเกิดไฟไหม้ขึ้น แท้จริงแล้วในตอนนั้นหลานกำลังจะเข้าครัวไปต้มยาให้ท่านแม่ หากไม่บังเอิญเจอเข้ากับน้องสะใภ้สามที่สวนด้านนอกและยืนสนทนากันชั่วครู่ หลานคงต้องบาดเจ็บเป็นแน่! น้องสามคงไปได้ยินจากพวกบ่าวรับใช้ว่าหลานเข้าไปในครัวใหญ่แล้ว จึงเข้าใจว่าหลานบาดเจ็บเจ้าค่ะ”
เมื่อกล่าวจบ โจวซื่อก็หันไปหาเสียงสนับสนุนจากเฮ่อฉางตี้ “เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ น้องสาม”
ทุกสิ่งวุ่นวายไปหมด เฮ่อฉางตี้นิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าให้เฮ่อเหล่าไท่จวิน “ใช่ขอรับท่านย่า หลานคิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว”
เหตุผลของโจวซื่อนั้นฟังขึ้น เฮ่อเหล่าไท่จวินจึงพยักหน้า
“แล้วครัวเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างไร? มีใครในจวนได้รับบาดเจ็บหรือไม่? เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
ไหลเยว่ก้าวออกมารายงาน “เรียนเฮ่อเหล่าไท่จวิน เรายังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ขอรับ ไฟไหม้เกิดขึ้นช่วงใกล้เวลาอาหาร ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงเป็นบ่าวรับใช้รุ่นใหญ่และพ่อครัวแม่ครัวไม่กี่คน ส่วนแม่ครัวโจวนั้น… บ่าวเกรงว่านางจะอยู่ไม่พ้นคืนนี้…”
เฮ่อเหล่าไท่จวินเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ถึงกับนิ่งค้างไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนใจเศร้าสร้อย พร้อมสั่งการไหลเยว่ “แจ้งพ่อบ้านใหญ่ให้สืบหาต้นเพลิงให้เจอ และดูแลบ่าวไพร่ที่บาดเจ็บ ส่วนแม่ครัวโจว… หากมีเวลาเจ้าก็ไปเยี่ยมนางเถอะ อย่างไรเราก็มีความสุขกับของหวานที่นางทำมาหลายปี… จะกล่าวอะไรกับนางเสียหน่อยก็สมควรแล้ว”
ไหลเยว่เร่งร้อนออกไปตามคำสั่ง
เฮ่อเหล่าไท่จวินตบหลังมือโจวซื่ออย่างปลอบโยน “โชคดีของเจ้าจริง ๆ! หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ข้าจะพูดกับต้าหลางและลูกสาวทั้งสองของเจ้าได้อย่างไร?! ดียิ่งนักที่ภรรยาของซานหลางอยู่ตรงนั้น นางเป็นผู้นำพาโชคดีมาโดยแท้ นางอาจเป็นดาวนำโชคของตระกูลเฮ่อก็เป็นได้! แต่นางยังเด็กนัก เจ้าเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของนางก็จงดูแลนางให้มากหน่อย ตอนนั้นนางพูดคุยอยู่กับเจ้าในสวน ย่อมต้องเห็นเพลิงไหม้ด้วยเป็นแน่ อาจจะยังตกใจไม่หายกระมัง! พรุ่งนี้ถ้าเจ้าว่างก็ไปเยี่ยมเยียนและดูแลนางเสียหน่อยเถิด”
โจวซื่อคลี่ยิ้มอบอุ่น “หลานเข้าใจแล้ว ได้ยินมาว่าน้องสะใภ้สามนิยมการชงเซนฉะนัก หลานยังมีเซนฉะอย่างดีอยู่ พรุ่งนี้ว่าจะนำไปให้นางตอนไปเยี่ยมเจ้าค่ะ”
“ดีมาก!” เฮ่อเหล่าไท่จวินตบหลังมือโจวซื่อ
เมื่อได้ยินย่าของตนและพี่สะใภ้พูดคุยกันพลางเยินยอถึงสตรีเจ้าปัญหา ในใจของเฮ่อซานหลางพลันรู้สึกราวกับมีคลื่นมรสุมปั่นป่วน
อะไร… เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดสตรีชั่วช้านั้นจึงได้รับการประเมินค่าสูงถึงเพียงนี้!
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^
https://www.kawebook.com/story/6816