หลังจากนั้น ฉันใช้เวลาทั้งวันเพื่อซื้อเสบียงอีกสองสามอย่างและออกสำรวจเมืองกับเทียตามที่สัญญาไว้ และรุ่งเช้าวันต่อมา เมื่อเราไปถึงกิลด์ … สถานที่นัดพบของทหารรับจ้างหรือกิลด์นักผจญภัยของประเทศ วาฟเฟอร์เดินเข้ามาหาเราทันทีที่เราเข้าไป
“โอ้! พวกเจ้าสองคน ทางนี้!”
เมื่อหันไปตามทิศทางของเสียง ฉันเห็นวาฟเฟอร์อยู่ที่นั่น โบกมือท่ามกลางนักรบชาวคีโมเนี่ยนจำนวนนับไม่ถ้วน วาฟเฟอร์ค่อนข้างตัวเล็กเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ฉันจึงรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่เขาเรียกเราจากอีกฝั่งหนึ่ง
“อรุณสวัสดิ์ วาฟเฟอร์ซัง” เทียทักทายเขา
“อรุณสวัสดิ์ วาฟเฟอร์ซัง! ขอโทษนะ เรามาช้าไปหรือเปล่า” ฉันถาม
“ข้าไม่คิดอย่างนั้น แต่ต้องขอบคุณที่วันนี้ข้าตื่นเช้าขึ้นนิดหน่อย ข้าได้รับค่าจ้างวานค่อนข้างดี”
เขาพูดอย่างภาคภูมิใจและแสดงแบบฟอร์มคำขอในขณะที่กระดิกหาง
“เอ๊ะ? ดามากุโมะ?” (ผมไม่แน่ใจว่าคือตัวอะไร อาจจะเป็นแมงมุม?)
“ถูกตัอง อีกอย่างที่นี่มีพวกคุโรนูริที่แข็งแกร่งไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่มีคำขอสามดาวมากเท่าไหร่ สำหรับคนไร้ขนอย่างพวกเจ้าทั้งสองก็น่าจะได้ภารกิจระดับหนึ่งหรือสองดาว นั่นก็พอ――”
“อืม คุณวาฟเฟอร์ หากคุณไม่ว่าอะไร เราอยากจะไปกับคุณตามคำขอที่คุณรับ”
วาฟเฟอร์ที่พยายามแนะนำและให้ความช่วยเหลือพวกเราอย่างมีความสุข มองมาที่ฉันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันทีที่ได้ยินคำพูดของฉัน
“ไปกับฉัน? พวกดามากุโมะได้รับการจัดอันดับความยากถึงระดับสามดาว พวกเจ้าสองคนสามารถเอาชนะมันได้งั้นหรือ?”
“ใช่ เรามั่นใจ ใช่มั้ยเทีย?”
“แน่นอน! เอ็ดกับฉันชนะได้แน่… ชื่ออะไรนะ? อืม คุโรนูริ? แค่ฉันก็เอาชนะพวกมันได้!”
แม้ว่าเมื่อวานฉันจะยัดเยียดความรู้ขั้นต่ำ แต่ฉันก็ไม่สามารถให้ประสบการณ์จริงกับเธอได้ อย่างไรก็ตาม ฉันมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา เพราะฉันรู้กำลังของเทียและความแข็งแกร่งของศัตรูชื่อดามากุโมะดี แต่วาฟเฟอร์ซึ่งไม่รู้ กลับครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง
“วูฟฟูมู… ข้าไม่รู้ว่าเอ็ดและเทียเก่งแค่ไหน ดังนั้นข้าจึงยังจัดปาร์ตี้ให้กับพวกเจ้าไม่ได้ในตอนนี้ ดังนั้น รางวัลสำหรับการเอาชนะศัตรูจะถูกแบ่งหลังจากที่ข้าได้เห็นว่าพวกเจ้าสองคนต่อสู้กันอย่างไร ใบรับรองการล่าสัตว์จะเป็นของข้า และถ้าข้ารู้สึกว่าเจ้าสองคนจะเป็นภาระและทำให้ข้าเดินทางช้าลง ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้ากลับไปที่เมืองด้วยตัวเจ้าเอง ถ้าเจ้าเต็มใจยอมรับสิ่งนี้ พวกเจ้าก็ไปกับข้าได้”
“ฉันเข้าใจแล้ว ไม่มีปัญหา” ฉันตอบกลับ
“… เจ้าแน่ใจใช่ไหม? เทียด้วยเหรอ” วาฟเฟอร์ถาม
“ค่า~”
“วูฟ ข้าเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไปล่ากันเลย! พวกเจ้าสองคนพร้อมที่จะไปกันหรือยัง”
“แน่นอน!”
“งั้นเราไปกันเถอะ!”
ดูเหมือนว่าเราได้รับคำขอแล้ว เราจึงออกจากกิลด์ที่เราเพิ่งเข้าไปพร้อมกับวาฟเฟอร์และมุ่งหน้าออกไปนอกเมือง ไม่นานหลังจากนั้น เราก็เบี่ยงออกจากถนนและเดินทางผ่านป่า และหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีบางสิ่งสีดำแผ่กิ่งก้านสาขาปรากฏขึ้นต่อหน้าเรา
“เฮ้ เอ็ด นั่นมัน…!”
“ใช่ คุโรนูริ”
ในโลกนี้มีสัตว์ธรรมดา แต่ไม่มีสัตว์วิเศษที่ทำร้ายผู้คนอย่างอุกอาจเหมือนในโลกของฉันและโลกของเทีย กลับมีพวกคุโรโนริ สิ่งมีชีวิตที่เป็นภัยคุกคามต่อผู้คน
ลักษณะทั่วไปของพวกคุโรโนริคือทั้งตัวของมันถูกปกคลุมด้วยเปลือกคล้ายแมลง และดวงตาของมันก็เป็นเพียงส่วนเดียวบนตัวสีดำที่ส่องประกายสีทองอย่างน่าสงสัย คุโรนุริที่เราเจอในครั้งนี้มีชื่อว่าดามากุโมะ มันมีลำตัวกลมๆ เล็กๆ มีแปดขายาวหนา ทำให้มันเกือบจะเป็นคุโรนุริที่เหมือนแมงมุม ถ้าฉันต้องพูดอย่างนั้น
“วาฟเฟอร์ซัง เพื่อให้คุณรู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง คุณรังเกียจไหมถ้าเราดูแลเจ้านั่นเอง”
“อืม? ก็ดี ถ้าเกิดเจ้าตกอยู่ในอันตราย ข้าจะช่วยเจ้าเอง แต่ถ้าถึงตอนนั้น เจ้าจะต้องพูดว่า “ช่วยฉันด้วย” โอเคไหม?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นก็ขอฝากด้วย เทีย ฉันไปก่อนนะ คอยดูท่าทางของเจ้านั่นอย่างใกล้ชิดให้ที”
“รับทราบ ฉันจะปกป้องนายเอง”
“เย้!”
เมื่อวาฟเฟอร์ยืนดูเงียบๆ และเตรียมพร้อม ส่วนเทียก็ยืนอยู่ข้างหลังฉัน ฉันดึงดาบเหล็กที่พกไว้ที่เอวออกมา แม้ว่าจะยังมีมิธริลบริสุทธิ์หลงเหลืออยู่ใน [Stranger Box] แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้าง “ดาบปีกเงิน” อีกครั้งในระยะเวลาอันสั้น และฉันก็ต้องการใช้มันเพื่อทำด้ามสำหรับ [Sword of Thin Life] ฉันเลยไม่อยากเสียมันไป
แต่เหตุผลหลักๆ เลยก็คือไม่จำเป็นต้องใช้มันสำหรับต่อสู้กับเจ้านี่
“งั้นฉันจะเอาล่ะนะ!”
ฉันย่อตัวลงแล้ววิ่งไปหาดามากุโมะ เราอยู่กลางป่า และถ้าฉันประมาทแม้แต่นิดเดียว ฉันอาจเหยียบโดนรากไม้ที่ยื่นออกมาได้ง่ายๆ แต่ฉันไม่ใช่มือสมัครเล่นที่จะพลาดพลั้งแบบนั้น
ดามากุโมะไม่ได้หยุดนิ่งในขณะที่ฉันตรงไปหามัน มันยกขาข้างหนึ่งขึ้นและพยายามแทงฉันด้วยปล้องปลายแหลม แต่ … ช้าเกินไป
“ฮ่าาาาาา!”
ฉันจับแรงผลักของมันด้วยเท้าขวาของฉัน และเหวี่ยงดาบของฉันเพื่อฟันจากด้านล่างซ้าย และขาของดามากุโมะ ซึ่งควรจะแทงฉัน ลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียงแตก
ถึงกระนั้นก็ยังคงมีเหลืออีกเจ็ดขา อีกสามข้างที่มันยกขึ้นโดยพยุงตัวด้วยขาทั้งสี่กำลังพุ่งเข้ามาหาฉัน แต่พื้นผิวลำตัวของมันถูกปกคลุมด้วยเปลือก ทำให้ไม่มีที่ว่างสำหรับการโจมตีโดยตรงหรือการโจมตีอื่นใด
“ตอนนี้หล่ะ!”
ด้วยแรงเหวี่ยงจากการเฉือนครั้งก่อน ฉันหมุนไปรอบๆ และเฉือนขาแกนเพิ่มเติมอีก 2 ข้างของดามากุโมะ ออก จู่ๆ ดามากุโมะก็เสียการทรงตัว การโจมตีของดามากุโมะพลาดทำให้ฉันพลาดการถูกแทง และขาของมันก็ติดอยู่กับพื้น ฉันใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น ตัดขาดอีกสองครั้งในเสี้ยววินาทีที่ดามากุโมะดึงมันกลับมา
“โอ้ ต้องการที่จะหนีงั้นเหรอ? เทีย!”
ทันใดนั้น ดามากุโมะซึ่งสูญเสียขาไป 5 ขา ก็ตระหนักถึงความอันตราย จึงดันขาที่เหลือของมันเข้ากับต้นไม้รอบๆ และพยายามหนีขึ้นไปข้างบน แน่นอนว่าฉันสามารถแทงผ่านตัวหลักของมันจากด้านล่างได้ แต่นี่เป็นส่วนที่ฉันมอบการแสดงอีกอันให้กับคู่หูของฉัน
“จงปรากฏ [คมมีดวายุ] !”
เทียปล่อยเวทมนตร์ที่อยู่ในดาบวิญญาณสีเงินของเธอในขณะที่ฉันต่อสู้อยู่ เวทมนตร์ที่ปล่อยออกมาจากดาบเปลี่ยนตัวเองเป็นใบมีดเล็ก ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนและโจมตีร่างกายของดามากุโมะ และผ่าร่างกายของมันในคราวเดียว
แม้ว่าจะมีพลังน้อยกว่า 10% เนื่องจากพลังเวทย์ที่อยู่ในดาบ แต่ก็ยังเป็นถึงเวทมนตร์ของเทียซึ่งเป็นสมาชิกปาร์ตี้ผู้กล้า ด้วยขาของมันที่ถูกตัดออกทั้งหมดและบาดแผลจำนวนมากบนลำตัวกลมของมัน ดามากุโมะล้มลงกับพื้นเสียงดังสนั่นและหยุดเคลื่อนไหวทันที
“เย้! เยี่ยมมากเทีย!”
“ฟุฟุฟุ! ฉันยังไม่ได้เอาจริงเลยสักนิด!”
ฉันยกมือขึ้น แล้วเทียก็ตบมันและหัวเราะ เมื่อเราหันหน้าไปวาฟเฟอร์ ซึ่งเฝ้าดูเราตลอดเวลาก็มีความสุขเช่นกัน กระดิกหางและกล่าวคำชมเชยเรา
“พวกเจ้าทั้งคู่น่าทึ่งมาก! ฝีมือดาบของเอ็ดนั้น ค่อนข้างดี แต่ของเทีย นั้นดีกว่าด้วยซ้ำ! เวทมนตร์ที่คนไร้ขนใช้อย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ ในทางเทคนิคแล้วมันคือเวทมนตร์วิญญาณ”
“วูฟ? เวทมนตร์วิญญาณนี้แตกต่างจากเวทมนตร์ทั่วไปงั้นเหรอ?”
“ของมันแน่–“
“อืม นั่นสินะ! เทียเป็นนักเวทย์ที่ยอดเยี่ยมมากใช่ไหมล่ะ! ดังนั้นคุณคิดว่าไง? เราเก่งใช่ไหม”
ฉันถามวาฟเฟอร์ในขณะที่ปิดปากของเทียไว้เบา ๆ ขณะที่เธอมองมาที่ฉันด้วยสายตาไม่พอใจเล็กน้อย ไม่ เพราะฉันไม่ต้องการจะถกกันยาวๆ เกี่ยวกับเวทมนตร์ประเภทต่างๆ ที่นี่
“แน่นอน พวกเจ้าทั้งสองเป็นคนมีความสามารถมากจริงๆ! อย่างไรก็ตาม การกลับไปลงทะเบียนปาร์ตี้นั้นค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นเราจะทำตามคำขอในวันนี้และลงทะเบียนปาร์ตี้อย่างถูกต้องในครั้งต่อไปก็แล้วกัน”
“ขอบคุณมาก ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนด้วย เทียก็ไม่เป็นไรเหมือนกันใช่ไหม?”
“อืม ยังไงก็ได้”
เทียพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่ผมถามความเห็นเธอพร้อมกับเอามือออกจากปาก และมองผมด้วยสายตาเหยียดหยาม อ่า มันจะน่ารำคาญในภายหลัง… ช่วยไม่ได้ ไว้คืนนี้ฉันจะฟังคำบ่นของเธอก็แล้วกัน
“ถ้างั้น พวกเราก็ไปกำจัดคุโรนุริที่เหลือกันเถอะ!” ฉันพูด
“ได้เลย!”
“อา…… โมว~ เวทมนตร์วิญญาณและเวทมนตร์ปกติแตกต่างกันจริงๆ นะ….”
ในขณะที่ยิ้มให้เทียซึ่งพองแก้มของเธอ เราบรรลุข้อตกลงในขณะนี้สำเร็จ เอาล่ะตอนนี้เราผ่านอุปสรรค์แรกไปแล้ว
(T/N: ขอโทษที่ลงช้านะครับ พอดีติดปัญหานิดหน่อย)
MANGA DISCUSSION