เมื่อพวกเราเข้าใกล้ระยะมากขึ้น ตัวตนของสิ่งนั้นก็เริ่มชัดเจนขึ้น
มีแปดสัญญาณ แต่ไม่มีสัญญาณใดที่เป็นของมนุษย์
“ปีศาจเจ็ดตนและมอนสเตอร์หนึ่งตัว … ”
มันเป็นดการรวมตัวที่แปลก……หรือค่อนข้างที่จะเป็นการรวมตัวที่ไม่น่าเป็นไปได้ตั้งแต่แรก
มอนสเตอร์บางตัวเคยเห็นในเมืองอิซตาร์อยู่บ้าง
หาดูยากแต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
อย่างไรก็ตาม ปีศาจนั้นแตกต่างกัน
ตอนที่ฉันอยู่ในตี้ของผู้กล้า ฉันได้ยินจากลิน่าว่า ประเทศที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นแดนปีศาจนั่นเป็นที่อยู่ของเหล่าปีศาจเป็นปรปักษ์กับอาณาจักรมหาอำนาจทั้งสาม จักรวรรดิและประเทศศักดิสิทธิ์มาช้านาน
นอกจากนี้ ครั้งที่ผมอยู่ในตี้ผู้กล้า เคยได้รับข้อมูลสิ่งต่างๆ จากอัศวิน มันมีข้อมูลมีเกี่ยวกับ “ปีศาจ” ด้วย
แน่นอน ฉันอ่านมันอย่างระมัดระวัง
เห็นได้ชัดว่าแดนปีศาจได้ทำสงครามที่กับสามมหาอำนาจรวมถึงอาณาจักรอื่นๆหลายครั้ง
ปัจจุบันไม่มีราชาปีศาจที่คอยควบคุมทวีปปีศาจ และดูเหมือนเวทมนต์ของเมืองจะไม่ทำงาน
อย่างไรก็ตาม ฉันยังไม่รู้ว่าปีศาจคิดจะทำอะไร
ดังนั้นเผ่าปีศาจถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศและหมดสิทธิ์ที่จะเหยีบดินแดนมหาอำนาจทั้ง 3 นี้….
มันควรจะเป็นแบบนั้น
แต่
“ถูกบุกรุกหรือเปล่า?”
เคยได้ยินจากอัศวินของอาณาจักรแห่งหนึ่งว่า อาณาจักรมีระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม……
แต่ อะไรล่ะ มังพังไปแล้ว
“ฉันต้องรายงานในภายหลัง … ”
หากมีปิศาจ เป็นไปได้สูงว่าสถานการณ์ที่ผิดปกตินี้เกิดจากปีศาจ
เมื่ออยู่ใกล้มัน ฉันรู้สึกได้ถึงพลังเวทย์มนตร์แบบเดียวกับที่บรรจุอยู่ในหินสีดำนั้น
บางทีมันอาจเป็นเบาะแสในการแก้ไข
“ยุย มีปีศาจอยู่ข้างหน้า”
“ปีศาจสินะ……เอ๋ อะไรนะ! ปีศาจ!?”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ยุยจะตกใจ
ปีศาจไม่ควรจะมีอยู่ในประเทศนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการรักษาความปลอดภัยในเมืองถูกทำลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หากไม่ดำเนินการเปิดเผยเส้นทางการบุกรุกปีศาจก็จะหลั่งไหลเข้ามาในอาณาจักรมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เมื่อเทียบกับตอนนี้แล้ว……
“ผมกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ที่มีปีศาจอยู่ บางทีผมอาจจะแก้ไขปัญหาความผิดปกตินี้ได้”
“ทำไมคุณคิดอย่างนั้น ปีศาจมันอันตรายนะ ไหนจะมอนสเตอร์…… ”
“เกรงว่าจะ……ไม่สิ แปดเก้าส่วนเป็นฝีมือของปีศาจแน่นอน…… ดูเหมือนหนึ่งในปีศาจพวกนั้นจะมีพลังเวทที่เหมือนกับหินสีดำด้วยนะ”
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงพลังเวทด้วยระยะห่างขนาดนี้
แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง สัมผัสได้เพียงสัญญาณของมอนสเตอร์เท่านั้นได้อย่างชัดเจน
“ก็พวกปีศาจมันน่ากลัว แต่…ก็ช่วยไม่ได้ อิชตาร์อาจตกอันตรายได้…”
ยุยพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
ฉันไม่รู้ว่าฉันกับยุยจะสามารถเอาชนะปีศาจได้ไหม
ยุยเป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยม แต่คราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่มอนสเตอร์
วิธีการต่อสู้ระหว่างมอนสเตอร์และปีศาจสมควรจะต้องเปลี่ยนแปลง
อาจเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากสำหรับนักผจญภัยที่เก่งในการล่ามอนสเตอร์
“ยุย ได้เวลาแล้ว ผมจะเสริมกำลังให้คุณเพื่อการต่อสู้”
“เอิ่ม…..รบกวนด้วยนะ”
ฉันพูดอย่างนั้นและเสริมกำลังของฉันและยุยเพื่อความพร้อมสำหรับการปะทะ
จากนั้นค่อย ๆ เดินไปที่ปีศาจช้า
◇
ไม่กี่นาทีต่อมา …
เมื่อฉันเดินผ่านป่า ฉันเห็นกระท่อมไม้
กระท่อมสภาพค่อนข้างทรุดโทรม และดูเหมือนไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น
เป็นกระท่อมที่กำลังจะพังทลาย
อย่างไรก็ตาม ตัวกระท่อมดูเหมือนจะทนทานอย่างน่าประหลาด ตรงกันข้ามกับสภาพที่เห็นจากภายนอก
ไม่โดดเด่นแต่กลับมีความแข็งแรง
น่าจะเป็นปีศาจที่ทำมัน
“ด้านในนี้ … ไม่ใช่ เป็นชั้นใต้ดิน… ”
ฉันพูดพึมพำและหยุดฝีเท้าของตัวเองไว้
เห็นได้ชัดว่ามีปีศาจและมอนสเตอร์อยู่ใต้พื้นดินที่เรายืนอยู่ตอนนี้
ห้องใต้ดิน……
มันอาจจะถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนต์ของปีศาจ
“เฮ้ นายจะทำอะไรน่ะ”
“ใช่แล้ว งั้นตอนนี้ก็ต้อง…”
ฉันพูดอย่างนั้นและยื่นมือออกไป
ยุยมองที่มือของฉันในขณะที่เอียงศีรษะของเธอ
“จับมือได้ไหม”
“เอ๋?”
ทันทีที่ยุยทำเสียงแปลกๆ เธอมองฉันที่ยื่นมือให้ด้วยหน้าที่แดง
“มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ?”
“เปล่า ก็นั่นนะ … จับมือคุณใช่ม๊า?”
ยุยพยายามเลี่ยงที่จะมองฉันด้วยเหตุผลบางอย่าง
ใบหน้าที่แดงระเรื่อราวกับตกใจ
นี่เธอเป็นอะไรกันแน่?
ถ้าไม่จับมือก็ร่ายเวทให้ไม่ได้นะสิ……
“ลอยด์ ที่ว่าจับมือ ……”
เธอถามพลางมองมาที่ฉัน
“คือฉันกังวล…… ”
“อ๋อ……ผมจะร่ายเวทปิดบังตัวตนนะครับ เพราะถ้าอยู่แบบนี้พวกมันอาจจะสัมผัสถึงเราได้”
จากตรงนี้เราจำเป็นต้องปิดบังตัวตนให้มากที่สุด
ถ้าพลาด อย่างนั้นการปิดบังตัวตนก็คงจะไร้ความหมาย
ตราบใดที่ใช้การปิดบังตัวตน คุณก็สามารถที่จะซ่อนเงาและกลิ่นอายของคุณได้
นอกจากนี้ ในขณะที่ใช้การปิดบังตัวตน คนอื่นๆจะไม่ได้ยินเสียง และจะไม่เวทตรวจจับตราจเจออย่างแน่นอน
เมื่อยุ้ยได้ยินเช่นนั้น เธอก็หน้าแดง
“งั้นก็พูดตั้งแต่แรกสิ!”
ยุยพูดแล้วบีบมือฉัน
มือของฉันที่ยุยจังส่งเสียงออกมา
“เอ่อ มันเจ็บ…”
“งั้นตอนนี้เราไปกันเถอะ!”
“เอ่อ……ไปกัน”
ฉันกับยุยปกปิดตัวตนและเดินเข้าไปในกระท่อม
MANGA DISCUSSION