[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) - ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
หลังจากตอบรับคำเชิญจากประธานนักเรียน ชั้นตัดสินใจเข้าร่วมกับหน่วยต่อต้านมายา ดังนั้นจึงตัดสินใจขอคำอธิบายแบบละเอียดในภายหลังและกลับบ้าน
สถานที่ชั้นหลับไปดูเหมือนจะเป็นสาขาที่ห้าของหน่วยต่อต้านมายา และนั่นคือที่ทำงานใหม่ชั้นนับแต่นี้ไป
「ไม่คิดว่าสาขาจะอยู่ในที่ทำเลแบบนี้……」
ใช่แล้วสาขาที่ห้านั้นเชื่อมต่อกับสถานีเก็นโร ในเมืองเก็นโร
「ถึงอย่างงั้น สึกิโกะและโยจิต้องโกรธแน่ๆ……」
ชั้นนึกถึงน้องสาวตัวน้อยที่รออยู่ที่บ้าน
เป็นเวลาทั้งวันที่ชั้นถูกชายลึกลับเข้าจู่โจม และชั้นก็ไม่ได้เล่าอะไรให้พวกสึกิโกะฟังเลย ก็เลยกังวล
ประธานบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องโรงเรียนหรืองานพาร์ทไทม์จะถูกยกเลิกโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่จะเป็นงั้นจริงเร้อ
ยังไงก็ตาม ชั้นได้เตรียมตัวสำหรับการทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงมั่นใจในเรื่องการสอบ
จากนั้นแมมมอนที่ลอยอยู่ข้างๆก็พูดขึ้น
『พอมาลองคิดดูแล้ว ตอนที่เจ้าคุยกับพวกนั้น สึกิโกะนี่ใคร?』
「อ๋อ เธอคือน้องสาวของชั้นเอง ส่วนน้องชายอีกคนชื่อโยจิ ดังนั้น จะอยู่ในสภาพแบบนั้นไปตลอดเลยเหรอ?」
ใช่แล้วแมมมอนยังคงลอยอยู่ข้างๆชั้น โดยรักษาระยะห่างอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งน่ารำคาญชะมัด
ราวกับว่าแมมมอนได้ยินเสียงในใจของชั้น ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด
『ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะตามเจ้าไปหรอกนะ แต่เนื่องจากพันธสัญญา ข้าไม่สามารถอยู่ห่างจากเจ้าได้!』
ด้วยความรู้สึกนี้ พวกเราจึงต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน
「แล้วจะแก้ยังไงล่ะ มันคงจะยากถ้าแกตามชั้นไปตลอดเวลา?」
『เฮอะ ถ้าทำได้ตรูทำไปนานละ ไม่อยู่นี่หรอก』
「โถ่วเว้ย น่ารำคาญเป็นบ้า……」
『ตรูเองก็รำคาญเหมือนกัน!』
แมมมอนแยกเขี้ยวใส่ชั้น เมื่อมองเช่นนี้ก็ดูสมกับเป็นปีศาจหน่อย
「แต่ทำไมถึงทำไม่ได้」
『โดยปกติแล้วข้าจะผุบๆโผล่ๆได้ตามที่เจ้าของสัญญาต้องการ แต่ ร่างกายของแกมันอ่อนแอเกินไป ถ้าข้าหายไปพวกเราตายทั้งคู่แน่ๆ』
「หมายความว่าไง」
『ก็ปกติแล้วการทำสัญญากับผู้ทำสัญญานั้นเจ้านายจะต้องมีการส่งต่อพลังเวทย์เพื่อคงร่างของผู้ที่ทำสัญญาด้วย แต่เนื่องจากแกนั้นอ่อนแอเกินไปแถมพลังเวทย์ก็มีเท่าก้นหอย แถมตัวข้าพึ่งปลดผนึกออกมาเลยทำให้ไม่ค่อยมีพลังเวทย์ ร่างกายเจ้าก็ยังไม่คุ้นชินกับพลังเวทย์ดี ถ้าบังคับให้ส่งพลังเวทย์ให้ข้า แกตายห่าแน่』
「เอาจริงดิ……」
ชีวิตโครตเศร้า แต่ก็ช่วยไม่ได้ชั้นมันอ่อนปวกเปียก
「แต่ถ้าเคลื่อนไหวไปแบบนี้ จะไม่ตกเป็นเป้าหมายอีกเหรอ? แม้ว่าคนทั่วไปจะมองไม่เห็น แต่คนที่สำสัญญากับพวกที่พลังเวทย์ตื่นขึ้นจะเป็นปัญหาไม่ใช่เหรอ?」
『แน่นอน ถ้าเคลื่อนไหวตามปกติ ก็โดนจับได้แน่ๆ แต่ตอนนี้ข้าใช้เวทย์ลบตัวตน ดังนั้นก็จะหาเจอยากหน่อย』
「งั้นเหรอ?」
『เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร? แทบไม่มีใครที่จะสามารถมองทะลุเวทย์ของข้าได้หรอกนะ ปกติพอผนึกพังแล้วพลังเวทย์ข้าจะต้องเต็มถัง แต่ก็ใช้ช่วยเจ้าไปจนหมดแล้ว แถมยังโดนบังคับทำสัญญาอีก และพลังเวทย์ที่ฟื้นกลับมาข้าก็ต้องมาใช้ลบตัวตน ตามปกติแล้วเวทย์ลบตัวตนนี่เจ้าต้องเป็นคนเปิดใช้เองด้วยซ้ำรู้ปะ!?』
「ฮะ ชั้นทำอะไรแบบนั้นได้ด้วยเหรอ」
『ก็เออสิวะ แต่พลังเวทย์ของเอ็งมันกระจอกจนไม่มีใช้เลยไง!』
สำหรับชั้น ชั้นไม่เคยใช้เวทย์มาก่อน ดังนั้นชั้นไม่มีสิทธิบ่นอะไรมากนักเพราะใช้ไม่เป็นด้วย
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของแมมมอน พลังเวทย์ของชั้นดูจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก แถมไม่มีพลังมากพอที่จะคงสภาพทางกายภาพได้อีก และปริมาณพลังเวทย์ชั้นเองก็ต่ำโครตๆ พูดง่ายๆชั้นคือตัวถ่วง
อย่างไรก็ตาม บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเวทย์ลบตัวตน ชายลึกลับคนนั้นเองก็ใช้พลังที่ไม่เข้าใจได้เช่นกัน ดังนั้นพวกพลังแฟนตาซีก็น่าจะมีอยู่จริงๆนั่นแหละ
ยังไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไร และถ้าเป็นไปได้ อยากจะให้เป็นแค่ความฝัน แต่ช่างมันเถอะ
เพราะการได้ทำงานกับหน่วยต่อต้านมายาจะทำให้ครอบครัวของเรามีชีวิตเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ในเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องดีที่ได้ทำสัญญากับแมมมอน
ขณะที่คิดเรื่องนั้นอยู่ ในที่สุดก็ถึงบ้าน
เมื่อเข้าไปข้างใน……。
『อาเระ รอก่อนนะ』
「หา มีอะไร」
『……ที่นี่คืออะไร?』
「พูดบ้าอะไรน่ะ ก็บ้านไง?」
เมื่อชั้นพูดแบบนั้น แมมมอนก็แสดงสีหน้าตึงเครียด
『จะจะจะจะจะจะจะเจ้าเรียกสิ่งนี้ว่าบ้าน……?』
「ก็ใช่ไง」
『――――ไม่ว่าจะมองยังไงนี่มันก็ดูเหมือนบ้านขยะที่พร้อมจะพังทุกเมื่อเลยนะเห้ย!』
「พูดบ้าอะไรของเอ็งเนี่ย!」
เป็นเรื่องจริงที่หลังคาทำจากเหล็กลูกฟูกและมีรอยแตกและมีรูอยู่บ้าง แถมยังกันฝนไม่ค่อยได้
ผนังที่ทำจากไม้กระดานบางๆ ที่กำลังเน่าเปื่อย และหน้าต่างที่พังลง ดังนั้นฤดูหนาวก็หนาวโครต
แต่บ้านหลังนี้ก็เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของชั้นกับแม่
จากนั้นแมมมอนก็นึกบางอย่างได้และตัวสั่น
『กะกะแก พอคิดดูแล้ว ไม่ใช่ว่าพูดคุยกับพวกนั้นเพื่อขอกรรมสิทธิ์บ้านแล้วเรอะ นะนะนะนะนี่คงไม่ใช่บ้านของเจ้าจริงๆหรอกใช่ไหม!?』
ใช่แล้วสิ่งที่ผมเจรจากับประธานก็คือการได้รับกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้
ถึงจะตัดสินใจย้ายแล้ว แต่ไม่อยากเสียสถานที่แห่งความทรงจำนี้ไป
นั่นเป็นเหตุผลที่การเจรจาจบลงด้วยการซื้อที่ดินแห่งนี้ได้รับการยกเว้นภาษี
「ถูกต้อง ที่นี่คือบ้านชั้นเอง โฉนดที่ดินก็มีนะ」
『โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย! ฆ่าตรู ฆ่าตรูซะเดี๋ยวนีเเลยยยยยยยยยย ! ข้าคือจอมมารแห่งความโลภนะ ข้าน่ะชอบสิ่งฟุ่มเฟือยที่สุด แล้วทำไมเจ้าถึงโอเคกับบ้านรูหนูแบบนี้ฟะ!』
แมมมอนร้องไห้เล่นใหญ่
「ก็ชั้นโอเคนี่ ก็คุยกับประธานเรียบร้อยแล้วได้ที่แห่งนี้แล้วด้วย แค่พรุ่งนี้ก็ย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนต์ที่หน่วยต่อต้านมายาก็ได้นี่」
『แน่นอนสิฟะ !!? ข้าไม่ยอมอยู่ในบ้านรูหนูแบบนี้หรอก !! ไม่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะพูด ! สิ่งที่ข้าจะพูดก็คือข้าไม่ให้อภัยที่เจ้าขอขยะแบบนี้มาเป็นของเจรจาหรอกนะ!』
「ชั้นแน่ใจว่าแกอาจจะไม่เชื่อ แต่สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของพวกเรา มันมีค่ามากมายยิ่งกว่าเงินทองเสียอีก」
ถ้าที่นี่เป็นเงินชั้นคงปล่อยมันทิ้งไปแล้ว
แต่ว่าที่นี่คือความทรงจำที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่
สำหรับสึกิโกะ โยจิ และชั้น มันคือสถานที่ๆไม่มีที่ใดมาแทนได้
จะไม่ยอมสูญเสียสถานที่แห่งความทรงจำไปได้ง่ายๆหรอก
「อีกทั้งค่าบำรุงรักษาและภาษีที่ดินก็จะได้รับการยกเว้น สถานการณ์ปัจจุบันก็ประมาณนี้ แต่เหมือนได้ที่ดินฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย ในกรณีนี้ก็แค่เก็บเงินสร้างบ้านใหม่ให้ไฉไลก็พอ」
เป็นหนึ่งในทรัพย์สินไม่กี่อย่างของครอบครัวเรา แต่ที่ดินแบบนี้คงไม่มีใครซื้อ
มันไกลจากขนส่งและไม่มีอะไรอยู่เลย
เป็นที่ดินเปล่าพร้อมกับสิ่งก่อสร้างที่จะพังทลายได้ทุกเมื่อ
『บ้าเอ้ยยยยยยย………………! ก็เห็นว่าชอบเงินเหมือนกันแต่บ้านแบบนี้จะไปมีค่าอะไร..! ข้าจะสร้างโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยหินปีศาจเป็นหมื่นๆ……』
แมมมอนมีความทะเยอทะยานแปลกๆหลังจากที่ได้เห็นบ้านของชั้น
ไม่เข้าใจหรอก แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด
แม้ว่าจะลำบากนิดหน่อย แต่ในที่สุดก็กลับบ้านมาได้
จากนั้นเอง……。
「――――พี่คาเนะ พี่คาเนะอิ! พี่หายไปไหนมาคะ!?」
น้องสาวของชั้น สึกิโกะ โยคุโนมะ ยืนอย่างภาคภูมิใจโดยเอามือเท้าเอว