[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) - ตอนที่ 20
ตอนที่ 20
สิ่งที่มานะอัญเชิญออกมาคือหญิงสาวที่สวมชุดคลุมน้ำ———อันดีน
「อันดีน ? อันดีนนั่นน่ะเหรอ? หนึ่งในสี่วิญญาณผู้ยิ่งใหญ่แต่กลับโผล่ออกมาในร่างของหญิงสาวตัวกระจ้อยเนี่ยนะ……!」
ดวงตาของเลบอยเบิกกว้างราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อกับภาพตรงหน้า แต่เอมี่นั้นต่างออกไป
「นี่นะเหรอ…อันดีน?」
「……」
「คุคุคุ ฮะฮะฮ่า! ตอนแรกก็คิดว่าจะอัญเชิญอะไรมา…แต่ก็แค่ดวงวิญญาณที่ไม่สมประกอบ!」
「เอมี่ หมายความว่าไง?」
เลบอยที่ถามเอมี่ที่ยังหัวเราะเสียงดังต่อไป
「ก็แหมอันดีนน่ะปกติแล้วจะเป็นร่างหญิงสาวสวยงามใช่ไหมล่ะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่เด็กแก่แดดแบบนี้」
ถูกต้อง…อันดีนที่มานะอัญเชิญมายังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ
เนื่องจากอันดีนดั้งเดิมแล้วเป็นหญิงสาวผู้งดงามแห่งท้องสมุทร แต่อันดีนเวอร์ชั่นมานะเป็นเด็กประถมเท่านั้น
ถึงงั้น……。
「หมายความว่ายังไงน้อ เจ้าพวกปีศาจตัวน้อยเอ๋ย――――กับพวกเจ้าแค่ร่างนี้ก็เพียงพอแล้ว」
「!」
ช่วงเวลาต่อมา อันดีนก็โบกมือและมวลน้ำก็ปรากฏขึ้นในอากาศ
จากนั้น มันหมุนด้วยความเร็วสูง ก็เปลี่ยนรูปร่างคล้ายสว่านและเข้าโจมตีเอมี่และเลบอย
「อุก…..ฮ่าฮ่าฮ่า!」
เอมี่จับหอกนั่นไว้ในมือและพังมันทิ้ง แต่หอกนั่นก็ไม่ได้หายไปและมันเริ่มแยกออกอีกครั้งพร้อมกับเข้าโจมตี
「น่ารำคาญเป็นบ้า……!」
เอมี่ที่ยอมแพ้จะจัดการตัวหอกโดยตรงและเอามันปักลงไปที่พื้น
จากนั้นคลื่นเปลวเพลิงก็แผ่กระจายออกจากจุดที่โจมตีและเสาเพลิงก็ขึ้นมาแทนหอกน้ำทีละอัน
「ก็คิดว่าจะเล่นสนุกสักหน่อย แต่……」
「……อันดีนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกแกเพียงคนเดียว! ――――『ปืนใหญ่วิญญาณน้ำ』!」
「ว่าไงนะ!?」
ขณะที่เลบอยใช้เอมี่เป็นโล่กำบัง เพราะตัวเองใช้เวทย์ไม่ได้ แต่มานะไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดนั่นได้ยิงเลเซอร์น้ำใส่เลบอย
เอมี่พยายามจะจัดการกับมัน แต่อันดีนก็ไม่เปิดช่องว่าง
「อย่ามาล้อเล่นกันนะเว้ย เจ้าวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์แบบเอ้ย……!」
ขณะที่ร่างกายของเอมี่ลุกไหม้อย่างรุนแรง เลเซอร์น้ำที่เข้าใกล้เลบอยก็ระเหยไปจากความร้อน
มานะที่ร่างกายกำลังถูกความร้อนเข้าแผดเผา ได้เปิดใช้เวทย์เพื่อป้องกันทันที
อย่างไรก็ตามการโจมตีของเอมี่ไม่ได้สิ้นสุดแค่นั้น
「คิดว่าจะเอาชนะได้ยังงั้นเหรอ!?」
เปลวไฟที่แยกออกจากตัวเอมี่นั้นแยกออกเป็นชิ้นๆ นับไม่ถ้วนและกระจายอยู่รอบตัวเขา และในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาด
รูปลักษณ์ภายนอกคืออิมป์ที่เผชิญหน้าในโรงงานแห่งนี้ แต่มันกลับดุร้ายแถมยังมีขนาดเท่ามนุษย์
「นี่มัน……」
「……กลุ่มปีศาจงั้นเหรอ」
สิ่งที่เอมี่เรียกออกมาเป็นปีศาจไร้นาม
เอมี่ที่เป็นผู้คุมนรก สามารถเรียกลูกสมุนได้โดยใช้พลังเวทย์จากเจ้านายของเขา เลบอย
「เกี๊ยกกกกกก!」
ปีศาจที่ถูกอัญเชิญมาส่งเสียงหนวกหูและรีบเข้าโจมตีมานะและอันดีน
「เกี๊ยฮ่า!」
อันดีนยกมือขวาขึ้นทันที และมีลูกบอลน้ำเล็กๆปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ
และทันทีที่ลูกบอลน้ำกระทบลงพื้น คลื่นก็ถูกสร้างโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่อันดีนเพื่อชะล้างเหล่าปีศาจที่เข้ามา
แต่……。
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! ช่างอ่อนแอจริงๆเลยนะเจ้าวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์!」
「อ๊ากกกกกกกก!」
「มานะ!」
ขณะที่อันดีนกำลังจัดการกับปีศาจ เอมี่ก็ขว้างหอกเพลิงใส่มานะ
มานะพยายามหลบการโจมตี แต่เอมี่ก็ไล่รุกอย่างไม่ลดละ
「จบกันที!」
จากนั้นเอมี่ก็ขว้างหอกเพลิงใส่มานะที่ลุกขึ้นไม่ทัน
「อะ……『เมจิคชีลด์』……อ๊ากกกกกกกกกกก!」
มานะพยายามป้องกันแล้ว แต่การโจมตีของเอมี่ก็ทะลุโล่เวทย์ของเธอ จนแทงเข้าที่ร่างของมานะ
ถึงกระนั้นก็หลีกเลี่ยงบาดแผลสาหัสได้ด้วยการบิดตัว แต่มันเจาะเข้าสีข้าง ทำให้โดนไฟไหม้อย่างรุนแรง
「อึก………..ไปให้พ้น!」
อันดีนยกแขนของเธอขึ้นเหนือไปบนฟ้าแล้วฟาดลงมาแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ มวลน้ำมหาศาลก็ตกลงมาจากฟ้า
มวลน้ำกลืนกินเหล่าปีศาจอย่างไร้ความปราณีและพัดออกไปด้วยความรุนแรง
หลังจากที่จัดการพวกปีศาจ อันดีนก็รีบไปหามานะทันที
「มานะ!」
ทันใดนั้นอันดีนก็วางมือลงบนบาดแผลของมานะและแสงสีฟ้าอ่อนๆก็ปรากฏขึ้น
แม้ว่าจะดับไฟของเอมี่ได้ แต่ก็ไม่สามารถรักษาแผลได้อย่างสมบูรณ์
「เจ้าปีศาจหนอยแน่……!」
「เห็นได้ชัดว่าแม้แต่หญิงสาวตัวน้อยก็ถึงขีดจำกัดแล้วสินะ」
เอมี่ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเข้าหาอันดีนอย่างสบายๆ
หากเป็นอันดีนร่างดั้งเดิม เป็นไปได้ที่จะรักษาแผลให้มานะและเอาชนะเอมี่ได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากถูกอัญเชิญโดยมานะจึงทำให้อ่อนแอด้วยเหตุผลบางประการ จึงไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงได้
「เอาล่ะหมดเวลาสนุกแล้ว」
「อะ…..มานะ――――」
「อึก……..อันดีน……!」
เอมี่แทงทะลุร่างของอันดีนอย่างไร้ความปราณีด้วยหอกในมือ
จากนั้นหอกเพลิงก็ระเบิดและเผาไหม้ร่างของอันดีนในทันที
「ฮะฮ่ะฮ่าาาาาาา!」
「ฮึม จบแล้วงั้นเหรอ」
หลังจากจัดการกับอันดีนได้เอมี่ก็เข้าโจมตีใส่มานะด้วยหอกในมือ
「เฮ้อ~! อย่างที่คิดไว้ ตอนแรกก็คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออันดีนปรากฏตัว……」
「ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไม อันดีนถึงอ่อนแอลง และเป็นวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ จึงจัดการให้จบไม่ได้ อย่างน้อยก็อีกสักพักกว่าจะอัญเชิญใหม่ได้ล่ะนะ?」
เอมี่พูดขณะที่เหยียบร่างของมานะแล้วเลบอยก็หัวเราะ
「พูดตามตรง ตอนแรกก็คิดว่าจะจัดการให้มันจบๆไป แต่เธอเป็นถึงเจ้านายของอันดีนที่หายาก ดังนั้นน่าจะพากลับไปให้นายท่าน」
「นั่นสินะ น่าจะทำให้นายท่านรู้สึกพึงพอใจได้ในระดับหนึ่งเลยล่ะ」
「เอาล่ะเรามาเริ่มจากตรงนี้กันดีกว่า ในที่สุดก็เข้าสู่เมนดิชได้เสียที……」
เลบอยเลียลิ้นของเขาและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
「……จากที่เห็นดูเหมือนบาเรียจะไม่ถูกทำลาย ท้ายที่สุดแล้วจอมมารแห่งความโลภก็อ่อนแอลงจริงๆ」
「หากเป็นแบบนั้น ชั้นจะไปตามหาให้เร็วที่สุด แม้ว่าจะอ่อนแอ แต่ก็เป็นถึงจอมมาร พวกเราควรจัดการให้ไวที่สุด」
「ถูกต้องแม่สาวน้อยเองก็อยู่ที่นี่ ไม่ต้องกังวลยังไงก็มีโอกาสที่มันจะมาช่วย――――」
「――――มานะ!」
ทันใดนั้นเสียงของชายคนหนึ่งก็ก้องกังวาล
เมื่อเห็นเจ้าของเสียง มานะก็เบิกตากว้างเล็กน้อย
「ทะ……กลับมาทำไม……」
ทั้งสองคนนั้นกลับมาหามานะ
เอมี่และเลบอยเองก็ยิ้มอย่างดุเดือดขณะที่เหยื่อของพวกเขากระโดดมาหาด้วยตัวเอง
「แหม พูดปุ๊บก็มาปั๊บ?」
「แม้ว่าจะอ่อนแอ แต่ก็งี่เง่าด้วยสินะ」
「ยังไงก็เหอะไปจับมันมา」
ในขณะนั้นที่เอมี่กำลังเข้าโจมตี ไม่จำเป็นต้องลังเลเลยแม้แต่น้อยแแต่พวกเขาก็หันหลังให้――――。
「ไอ้พวกโง่! ถ้าแน่จริงก็เข้ามา!」
คาเนะฮิโตะยั่วโมโหด้วยสีหน้าเยาะเย้ย แต่เขายังหันหลังให้เอมี่กับเลบอย พร้อมแสดงท่าทีโง่ๆและวิ่งจากไป
เอมี่และเลบอยที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจ
นอกจากนี้ แมมมอนก็ยืนงง หลังจากนั้นก็รู้ตัวว่าถูกทิ้งไว้จึงรีบตามไปทันที
เลบอยและเอมี่ต่างสับสนเรื่อยๆกับเหตุการณ์ตรงหน้า และท่าทีงี่เง่าของจอมมาร
「ฮะ ฮะ…นั่นนะเหรอจอมมาร……?」
「อ่าาาาา…..น่าจะใช่แมมมอน จอมมารแห่งความโลภอย่างแน่นอน……」
ทั้งสองพูดถึง【จอมมารแห่งความโลภ】เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่านั่นคือตัวจริง ที่เบลเซบับนายของเขาต้องการจริงๆเหรอ แถมเบลเซบับยังกลัวจอมมารที่ดูโง่เง่านั่น
จอมมารคนอื่นๆเองก็ไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตามการที่หันหลังให้ศัตรูนั้นดูยังไงก็เป็นการกระทำของพวกลูกกระจ๊อก
「……เออก็ไม่รู้หรอกว่าคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ย่อมได้ จะตามไป」
เลบอยยิ้มและไปพร้อมกับเอมี่
มานะที่ถูกทิ้งไว้ตามลำพังในโรงงานร้าง แต่เธอไม่มีพลังเวทย์เหลืออยู่มากนัก และที่สำคัญที่สุด เธอไม่สามารถขยับร่างกายได้ดังนั้นเธอทำอะไรไม่ได้
「(จะทำยังไงดี แบบนี้ไอโง่นั่นก็โดนจับได้กันพอดีสิ――――)」
「――――มานะ」
「!?」
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาใกล้มานะ
เมื่อตรวจสอบรูปลักษณ์……。
「ชั้นมาช่วยแล้ว」
น่าแปลกที่คาเนะฮิโตะที่ควรจะหนีไปแล้วอยู่ที่นี่