[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) - ตอนที่ 14
ตอนที่ 14
วันถัดมา
หลังจากเลิกเรียนและชั้นกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน ยูเมโนะก็เรียกชั้น
「คาเนะฮิโตะ」
「เอ๊ะ มีอะไรงั้นเหรอ?」
「เอ่อ…ทำไมช่วงนี้กลับบ้านเร็วทุกวันเลยล่ะ……」
「งั้นเหรอ?」
「ใช่แล้ว จริงอยู่ว่าแต่ก่อนก็เคยกลับเร็ว แต่ตอนนี้นายกลับเร็วสุดๆเลยล่ะ」
คิมิยะเองก็เข้าร่วมด้วย
……ชั้นไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย แต่อาจจะเป็นงั้นจริงๆ
เนื่องจากไม่มีความรู้ ประสบการณ์ กับงานปัจจุบันเลย
เพื่อชดเชยสิ่งนี้ ชั้นจึงรีบไปที่หน่วยต่อต้านมายาโดยเร็วและอ่านเอกสารต่างๆ
อย่างไรก็ตามสมาชิกของสาขาที่ห้าไม่ก็ไม่มีใครรู้ว่าชั้นไปทำอะไร
ไม่ได้เจอใครเลยนับตั้งแต่ได้วัดพลังเวทย์ในวันนั้น
ยังไงก็ตาม ตอนนี้ชั้นเหมือนคนว่างงาน แต่ว่าก็มีรายได้ ในกรณีฉุกเฉินก็อยากจะหาวิธีปกป้องตัวเองด้วย
「พอดีได้ที่ทำงานใหม่ ยังไม่ค่อยชินสักเท่าไรเลยต้องกลับบ้านเร็วและเตรียมตัวน่ะ」
「เอ๊ะ…คาเนะฮิโตะทำงานเพิ่มอีกเหรอ?」
「เฮ้ยเฮ้ย…….ถ้าฝืนขนาดนั้นแกตายแหงๆ?」
「ไม่หรอกสบายมาก งานอื่นๆชั้นลาออกหมดแล้วล่ะ เหลืองานนี้งานเดียว」
「อืม งั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าทำงานพาร์ทไทม์เพราะครอบครัวกำลังลำบากอยู่งั้นเหรอ?」
「เอ่อ ตอนนี้ชั้นได้งานที่ได้มากกว่าตอนที่ทำงานพาร์ทไทม์อีกนะ」
เมื่อชั้นพูดแบบนั้น พวกเขาสองคนก็มองหน้ากันและดูทำท่ากังวล
「คาเนะฮิโตะ……..คงไม่ใช่งานที่ไม่ดีใช่ไหม?」
「ทำไมคิดงั้นอะ」
「เพราะฟังไม่ขึ้นน่ะสิ! จู่ๆก็ได้งานที่ค่าตอบแทนมากกว่าเดิมและทำงานแค่ที่เดียว! ไม่ว่าจะมองยังไงก็คงจะเป็นงานผิดกฏหมายแหงๆเลย」
งั้นเหรอ? จริงๆแล้วจะว่าไปงานแบบนั้นก็ไม่เคยหาได้เลยนี่หว่า ก็เลยทำงานพาร์ทไทม์
นอกจากนี้ไม่มีอะไรผิดเลยที่บอกว่ามันเป็นงานอันตราย แต่ไม่ใช่งานผิดกฏหมาย แต่มันอันตรายถึงแก่ชีวิตเลยล่ะ
จากนั้นยูเมโนะก็จ้องมาที่ชั้นด้วยความสงสัยมากขึ้น
「นอกจากนี้ รู้สึกว่าช่วงนี้ดูกระสับกระส่ายแปลกๆนะ จะว่าไงดีล่ะ ดูเหม่อลอยมองไปทางไหนก็ไม่รู้ เผลอไปทำอะไรแปลกๆมารึเปล่าเนี่ย หรือว่าแอบหลีสาวกันหะ?」
「อะ…….เปล่าทำอะไรแบบนั้นนะ?」
ขอโทษแต่ไม่ใช่เฟ้ย
เหตุผลที่ชั้นเอาแต่มองไปรอบๆอย่างที่ยูเมโนะบอกเพราะแมมมอนนี่ล่ะ
ก็บอกแล้วว่าอย่ามากวนตอนมาเรียน เผลอคลาดสายตาหน่อยไปขโมยเงินชาวบ้านมาอีก แถมยังชอบทำอะไรแปลกๆ
เป็นเรื่องจริงที่ชั้นชอบเงิน แต่ไม่เคยคิดจะก่ออาชญากรรม (ป.ล.แล้วที่เอ็งคิดจะขุดแร่ที่สาขาละเห้ย)
นั่นอาจเป็นความแตกต่างระหว่างชั้นกับหมอนั่น
อย่างไรก็ตาม พอคิดดูแล้วท่าทางของชั้นมันก็น่าสงสัยจริงๆนั่นแหละ
「มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ยังไงซะตอนนี้ชั้นรีบอยู่มีงานต้องไปทำ」
「ดะดะดะเดี๋ยวก่อนสิ คาเนะฮิโตะ!」
ถ้าพูดอีกก็คงจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ ชั้นจึงรีบจบบทสนทนาและออกจากโรงเรียน
***
ระหว่างทางไปหน่วยต่อต้านมายา ก็ได้คุยกับแมมมอน
「นี่ ยังหายตัวตามใจชอบไม่ได้อีกเหรอ?」
อย่างที่ยูเมโนะบอกชั้นก่อนหน้านี้ เพราะแมมมอนทำให้ชั้นกลายเป็นพวกน่าสงสัย
สถานการณ์นี้มันจะไม่แปลกหรอกถ้าชั้นอยู่คนเดียวและมองไปทางแมมมอน แต่ถ้าอยู่ในฝูงชนมันก็เหมือนกับชั้นกำลังวางแผนก่ออาชญากรรมเลยล่ะ
จากนั้นแมมมอนก็มองมาที่ชั้น
『อืม….เอ่อ ตอนนี้ข้าคิดว่าน่าจะทำได้แล้ว』
「นั่นหมายความว่า……!」
『มาลองดูดีกว่า』
หลังจากพูดแบบนั้นจู่ๆแมมมอนก็กลายเป็นหมอกและเข้าในในหัวใจของชั้น
ก็ตกใจที่เกิดเรื่องแบบนี้กระทันหัน แต่ไม่รู้สึกแปลกเลยสักนิด
ขณะที่กำลังตรวจร่างกาย ก็มีเสียงดังก้องในหัวชั้น
『ทำได้แล้ว』
「! นี่เสียงแมมมอนเหรอ!」
『อ่า อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในสถานะนี้พวกเราสามารถคุยกันได้โดยไม่ต้องส่งเสียง』
เข้าใจแล้ว……。
ชั้นพูดกับแมมมอนในใจ จินตนาการถึงเสียงของชั้นส่งไปหาแมมมอน
「(……นี่ได้ยินรึเปล่า?)」
『อ่าชัดแจ๋วเลย』
「(เยี่ยม ! ทีนี้ชั้นจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องนายสักที)」
『หากร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งแต่แรก ก็ไม่ต้องกังวล』
「อึก」
『อะฮะฮะ เท่านี้ข้าเองก็สามารถสิงอยู่ในร่างเจ้าได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์ลบตัวตน ช่วยประหยัดพลังเวทย์ได้เยอะ』
「(นั่นหมายความว่าเวลาที่เราจะใช้กาชาประตูหมื่นอสูรจะสั้นลงสินะ!?)」
『เปล่าไม่ถึงขนาดนั้น』
「(อะไรหว้า……)」
โถ่ว สภาพ
จากนั้น เมื่อผิดหวัง แมมมอนก็บ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด
『ท่าทางแบบนั้นมันอะไรของเจ้าหะ? เหตุผลมันก็เพราะพลังเวทย์ของเจ้ามันต่ำนะเว้ย!?』
「(เออ ก็ใช่อะดิ ท้ายที่สุดแล้วชั้นมันก็ใช้เวทย์ไม่ได้นี่ สิ่งที่ใช้ได้ก็คือการเสริมพลังกายที่ทำให้การไหลเวียนพลังเวทย์ของชั้นเร็วขึ้นเท่านั้นเอง?)」
『ไม่ ข้าไม่ได้หมายถึงแบบนั้น หมายความว่าตอนนี้ข้ามีทางเลือกในการใช้เวทย์อื่นมากกว่าใช้เวทย์ลบตัวตนไง』
「(เวทย์อื่น?)」
『ใช่แล้ว…ถ้ายังสามารถสะสมพลังไปได้เรื่อยๆ เวทย์ที่จะเปิดใช้งานได้คือ เวทย์ล่องหน』
「(แล้วที่ไว้ใช้ป้องกันการโจมตี?)」
『ตอนนี้พลังข้าไม่พอถึงกับใช้ของแบบนั้น เพียงแค่ใช้เวทย์ลวงตากับเวทย์ล่องหนได้โอกาสรอดก็มีมากขึ้นไปอีก ตัวอย่างเช่นเวทย์ลวงตา สามารถใช้สร้างภาพลวงตาเป็นเหยื่อล่อได้ และด้วยเวทย์ล่องหน จะสามารถซ่อนตัวไม่ให้ศัตรูเห็นได้ ไว้ใช้หลีกเลี่ยงผู้คนอะไรแบบนี้』
「(อ่า แบบนั้นก็ดี ในกรณีนี้ มั่นใจได้ว่าต้องได้ใช้ประตูหมื่นอสูรแน่นอน)」
ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ ก็มาถึงห้องฝึก
「สมแล้วไม่มีใครอยู่」
『คนอื่นเขาไม่ต้องฝึกกันแล้ว คงมีแค่เจ้านั่นแหละ』
「พูดมากน่า」
ถึงไม่ต้องพูดก็รู้อยู่ว่าตัวเองอ่อนแอ
เฮ้อ……。
「เอ้าแล้วทีนี้ไม่ออกไปข้างนอกเหรอ?」
『จากนี้ไปจะเปิดใช้งานประตูหมื่นอสูรนะ』
「เข้าใจแล้ว หมายถึงทำไมไม่ออกมาข้างนอก มันใช้ในอาคารได้เหรอ?」
『ไม่มีปัญหา――――โค่ย 【ประตูหมื่นอสูร】!』
ขณะที่แมมมอนบ่นเช่นนั้น เมฆสีดำก็ปรากฏขึ้นบนเพดานห้องฝึก เหมือนตอนที่ถูกชายลึกลับโจมตี
เมื่อเมฆสีดำรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีเสาแห่งแสงตกลงมา
「นี่มัน……!」
ตอนนั้นไม่สามารถสงบติได้เลย มันน่าทึ่งจริงๆ
「มันสว่างจ้าจนตาจะบอดขนาดนี้ คนอื่นจะไม่เห็นแน่เร้อ?」
『ไม่ต้องห่วงเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะข้าใช้เวทย์ปกปิดไว้แล้ว กันคนเข้ามา ถ้าเป็นคนที่มีความไวต่อพลังเวทย์ก็น่าจะรู้ตัวก่อนที่ข้าจะใช้แล้วล่ะ』
ดูเหมือนว่าจะใช้เวทย์ปกปิดเอาไว้
ในขณะที่เรากำลังพูดถึงเรื่องนั้นเมฆดำก็แยกตัวออกและประตูก็ตกลงมาที่เสาแห่งแสง
ครืนนนนนนน……。
「อ่า นั่นมัน?」
สิ่งที่ตกลงมาไม่ใช่ประตูสีดำอันแสนงดงามที่ชั้นจำได้ แต่เป็นประตูเหล็กราคาถูก
「มันดูแตกต่างจากที่ชั้นเห็นในตอนนั้นนะ……」
『อะ เฮ้ย ประตูนี้มัน……』
โดยไม่สนใจชั้น แก้มของแมมมอนก็เกร็งเมื่อมองไปที่ประตู
และเมื่อประตูเหล็กเปิดออก――――。
「เกี๊ย」
「……」
『……』
――――ก็มีคนแคระตัวเขียวมาจากด้านใน