(นิยายแปล)【หง่ำหง่ำค่ะ】สกิล『ยิ่งกินมอนสเตอร์ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น』ของคุณหนูผู้ถูกขับไล่เป็นสกิลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์เลเวลอัพ1ทุกการกิน1ครั้งกลายเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดใน3วันไปซะแล้วค่ะ~ - ตอนที่ 9 สมน้ำหน้า พ่อผู้ขับไล่ชาร์ลอตต์หมดสติด้วยความหวาดกลัว
- Home
- (นิยายแปล)【หง่ำหง่ำค่ะ】สกิล『ยิ่งกินมอนสเตอร์ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น』ของคุณหนูผู้ถูกขับไล่เป็นสกิลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์เลเวลอัพ1ทุกการกิน1ครั้งกลายเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดใน3วันไปซะแล้วค่ะ~
- ตอนที่ 9 สมน้ำหน้า พ่อผู้ขับไล่ชาร์ลอตต์หมดสติด้วยความหวาดกลัว
ตอนที่ 9 สมน้ำหน้า พ่อผู้ขับไล่ชาร์ลอตต์หมดสติด้วยความหวาดกลัว
――เมืองทางเหนือแห่งหนึ่งในราชอาณาจักร
ในถนนหลักนั้นมีแต่ความครึกครื้น ทั่วถนนเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
กองอัศวินหลวงที่ไปปราบปรามกองโจรซึ่งคอยคุกคามประชาชนที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าข้างเคียงได้กลับมาแล้ว
ถ้าจะให้พูดก็เป็นการกลับมาอย่างมีชัย
เบื้องหลังของกองอัศวินที่โบกมือและทำสีหน้าสดใสคือเหล่าโจรที่ถูกมัดมือทั้งสองข้างแล้วถูกพาตัวมา
ที่หัวแถวของกองอัศวินมีบุคคลซึ่งเป็นที่ดึงดูสายตาของสาธารณชนอยู่
「ทุกคนขอขอบคุณที่ออกมาต้อนรับ!」
ผู้ที่โบกมือด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใสคือเจ้าชายลำดับที่1แห่งราชอาณาจักร อัลเซส โรเดนไฮม์
ไม่ใช่แค่นำกองอัศวินหลวงด้วยตัวเองแต่ยังเป็นผู้ครอบครองศาสตร์ต่อสู้อันน่าหวั่นเกรงที่บุกทะลวงเข้าไปยังที่หลบภัยของกลุ่มโจรและทำให้ครึ่งหนึ่งของกลุ่มโจรหมดสภาพอีกด้วย
ในขณะเดียวกันก็มีรูปลักษณ์อันยอดเยี่ยมและเป็นผู้ที่มีจิตใจคำนึงถึงประชาขนเป็นผู้ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างล้มหลาม
「เป็นชายรูปงามตามข่าวลือเลยค่ะ องค์ชายอัลเซส!」
「เท่จริงๆค่ะ……ถึงจะได้ยินมาว่าไม่มีคู่หมั้นแต่จะมีคนที่สนใจอยู่สักคนรึเปล่านะ?」
「หยุดเลยนะคะ พวกเราเอื้อมมือไปไม่ถึงหรอกค่ะ」
「อ๊ะ องค์ชายมองมาทางนี้แล้วค่ะ กรี๊ดดดด!」
พอเจ้าชายอัลเซสโบกมือเสียงกองเชียร์ก็ดังขึ้น
ทั้งเด็กจนถึงผู้ใหญ่ต่างหลงใหลเจ้าชายที่ราวกับกระโดดออกมาจากภาพวาด
「อ๊ะ……」
เด็กสาวโบกมือด้วยความตื่นเต้มมากเกินไปจนไอศกรีมที่ถืออยู่กระเด็นออกไป
และไอศกรีมได้เข้าโจมตีที่แก้มของเจ้าชายอัลเซลโดยตรง
ถนนหลักเงียบลงในทันทีทันใด
「อ๊ะ คือว่า……ขะขะขะ ขอโทษค่ะ!」
สาวน้อยขอโทษจนแทบจะร้องไห้ออกมา แม่ที่อยู่ข้างๆก้มหัวลงอย่างสิ้นหวัง
ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นยะเยือก มีเจ้าชายอัลเซสที่ยิ้มออกมาอย่างสง่างาม
「ไม่ต้องขอโทษหรอก มันหมายความว่าเธอให้การต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นใช่ไหมล่ะ? ที่ช่วยต้อนรับด้วยเสียงเชียร์มากมายขนาดนี้ มีความสุขมากเลยละ」
เจ้าชายเช็ดแก้มด้วยผ้าเช็ดหน้าโดยไม่อารมณ์เสียแต่อย่างใด
「ฝะฝ่าบาทจะยกโทษให้หรือคะ……?」
「แน่นอน ไม่ต้องห่วงหรอก แค่เช็ดมันก็ออกแล้วนี่นา อีกอย่าง……ไอศกรีมรสเลมอนน่ะของโปรดเลยละ」
พอพูดแบบนั้นแล้วเจ้าชายอัลเซสก็เลียไอศกรีมที่เหลือจากการเช็ดซึ่งติดอยู่ที่มุมปาก
ด้วยท่าทางเซ็กซี่นั้นเสียงเชียร์ทางนั้นทางนี้ตามท้องถนนก็ได้ดังขึ้น
เจ้าชายที่ไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยและเต็มไปด้วยอารมณ์ขันคือเจ้าชายอุดมคติสำหรับประชาชน
「เซบาส ช่วยไปซื้อไอศกรีมอันใหม่ให้สาวน้อยคนนั้นที อย่าลืมท็อปปิ้งด้วยนะ」
「รับทราบแล้วครับ」
ด้วยคำสั่งของเจ้าชายอัลเซสคนรับใช้สูงอายุที่ยืนอยู่ข้างหลังจึงเริ่มออกเคลื่อนไหว
นี่คือความห่วงใยของเจ้าชายอัลเซสที่มีความหมายว่า『สาวน้อยคนนั้นคงจะรู้สึกผิดกับเรื่องในวันนี้ไปตลอดอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นแบบนั้น มาสร้างความทรงจำแสนสนุกแทนที่กันเถอะ』
ด้วยเหตุนี้การกลับมาอย่างมีชัยจึงจบลงด้วยความสำเร็จที่ไม่มีการร้องเรียนใดๆ
――――――
「……ฟู่ว ประหม่าจังน้า」
หลังจบการกลับมาอย่างมีชัย เจ้าชายอัลเซสมุ่งหน้าไปตามเส้นทางกลางป่าด้วยรถม้า แยกกับกองอัศวิน มีแค่รถม้าคุ้มกันไม่กี่คัน
ใบหน้าที่อ่อนโยนแต่ไร้ซึ่งความกลัวของเจ้าชายอัลเซสมีสีหน้าเคร่งเครียด เขาผู้ที่เคยทำให้กองอัศวินหัวเราะด้วยมุกตลกก่อนจะมุ่งเข้าไปยังที่ซ่อนของกลุ่มโจรนั้นตอนนี้ประหม่าจนพูดได้เพียงไม่กี่คำและมักจะเช็ดเหงื่อที่หน้าผากด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่อยู่เสมอ
「ไม่เป็นไรครับ หากเป็นฝ่าบาทต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอนครับ」
คนรับใช้สูงอายุที่อยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจเจ้าชายอัลเซส
「……วันนี้แหละผม ผมจะขอแต่งงานกับคุณชาร์ลอตต์ !!」
เจ้าชายอัลเซสกุมกล่องแหวนที่เก็บไว้อย่างดีในกระเป๋าแน่น
เจ้าชายอัลเซสที่เตรียมใจแล้วนั้นได้ก้าวเท้าลงบนเขตพื้นที่ของตระกูลมาร์ควิสเนย์บีที่อยู่กลางป่า
――――――
「ขออภัยที่ให้คอยครับ องค์ชายอัลเซส ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนครับ เช่นนั้น โปรดเชิญทางนี้ครับ」
พ่อของชาร์ลอตต์ มาร์ควิสมัชเชิญเจ้าชายอัลเซสไปที่ห้องรับแขกด้วยใบหน้ายิ้มกว้าง
「โอ๊ะ……คุณชาร์ลอตต์ที่เคยออกมาต้อนรับอยู่ตลอดดูเหมือนจะไม่อยู่ วันนี้ไปไหนเหรอครับ? 」
「อ๋อ ถ้าเป็นยัยนั่นไล่ออกไปแล้วละครับ เพราะยัยนั่นไม่คู่ควรกับตระกูลมาร์ควิสของเราละนะครับ ถ้ามีคนแบบนั้นอยู่เกียรติภูมิของตระกูลมาร์ควิสเนย์บีได้ตกต่ำแน่ครับ วะฮะฮะฮะ!」
「……หา?」
รอยยิ้มของเจ้าชายอัลเซสหายไปจากใบหน้าทันทีในทางกลับกันก็ปล่อยความโกรธออกมาเงียบๆทำให้บรรยากาศโดยรอบร้อนขึ้น
มาร์ควิสมัชยังคงเล่าต่อไปโดยไม่ได้สังเกตถึงเรื่องนั้น
「แหม ยัยชาร์ลอตต์ได้รับกิฟต์ต่ำทรามที่ไม่สามารถพูดต่อหน้าองค์ชายได้เพราะไม่คู่ควรกับตระกูลมาร์ควิสจึงขับไล่ออกไปแล้วละครับ」
「ที่ว่าขับไล่ออกไปเนี่ย ไปที่เมืองไหนครับ……?」
「ไม่ได้ส่งไปที่เมืองหรอกครับ แค่ไล่ออกไปจากทางประตูหน้าน่ะครับ ในป่าแห่งนี้แม้ว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งแต่ก็มีมอนสเตอร์อาศัยอยู่ละนะครับ ป่านนี้อาจจะถูกสไลม์หรือไม่ก็หมาป่ากินไปแล้วก็ได้ครับ วะฮะฮะ!」
「……มาร์ควิสมัช คิดว่าผมมาทำอะไรที่นี่ในวันนี้เหรอครับ」
「เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับ มากระชับความสัมพันธ์กับผมที่เป็นมาร์ควิสแล้วทำให้รากฐานของประเทศมั่นคง――」
「ผิดแล้วครับ ที่ผมมาที่นี่ในวันนี้เพื่อขอคุณชาร์ลอตต์แต่งงานครับ」
「……!?」
มาร์ควิสมัชตัวแข็งทื่อไม่เข้าใจว่ากำลังพูดอะไรอยู่
「ที่ผมมาเยือนที่คฤหาสน์นี้ด้วยตัวเองบ่อยๆก็เพื่อพบกับคุณชาร์ลอตต์ครับ ที่พบกับมาร์ควิสเป็นเพียงขออ้างสำหรับเรื่องนั้นครับ」
น้ำเสียงของเจ้าชายอัลเซสที่ตอบอย่างเรียบง่ายนั้นเย็นชา
「หัวใจของผมเป็นของคุณชาร์ลอตต์ตั้งแต่ที่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณชาร์ลอตต์ที่เข้ามาเล่นในปราสาทตอนอายุ5ขวบ เพื่อให้คุณชาร์ลอตต์หันมามองผมจึงพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ แม้จะเป็นที่กล่าวขานจากประชาชนว่าเป็น『เจ้าชายในอุดมคติ』แต่ท้ายที่สุดคุณชาร์ลอตต์ก็รับรู้แค่เพียงว่าเป็น『เพื่อนสมัยเด็กที่แสนดี』เท่านั้นละนะครับ」
เจ้าชายอัลเซสยิ้มอย่างเศร้าสร้อย
「ไม่จริง ไม่น่าเชื่อ เช่นนั้นทำไมถึงมาขอแต่งงานเอาป่านนี้ละครับ……?」
「เรื่องนั้นเป็นเพราะความไร้ความสามารถของผมครับ จนถึงตอนนี้เคยพยายามขอแต่งงานหลายครั้งแล้วแต่ว่าพออยู่ต่อหน้าคุณชาร์ลอตต์มันก็ประหม่าแล้วพูดอะไรไม่ออกครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นความผิดของผมเองครับ ไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิมาร์ควิสเลยแต่ว่าในประเทศนี้มีกฏหมายระบุว่า『ห้ามมิให้ตัดความสัมพันธ์บุคคลจากครอบครัวหรือตระกูลเนื่องจากกิฟต์ที่ได้รับ』อยู่ครับ คงจะไม่บอกว่าไม่ทราบหรอกนะครับ……?」
「เรื่องนั้น……!」
「เอาละ มาร์ควิส จะขอถามอีกครั้งครับ คิดว่าคุณชาร์ลอตต์ป่านนี้จะเป็นยังไงเหรอครับ? คำพูดเมื่อกี้ให้พูดซ้ำอีกครั้งครับ」
ใบหน้าของเจ้าชายอัลเซสที่มักจะมีรอยยิ้มแจ่มใสอยู่เสมอบัดนี้แม้แต่รอยยิ้มเพียงเล็กน้อยก็ไม่มีอยู่เลย
「เอ่อ ป่านนี้คงอยู่ในเมืองและใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานแน่นอน……」
「ผิดแล้วครับ ก่อนหน้านี้มาร์ควิสบอกว่า『ป่านนี้อาจจะถูกสไลม์หรือไม่ก็หมาป่ากินไปแล้วก็ได้』ครับ」
เมื่อถูกกดดันจากเจ้าชายที่กำลังโกรธอย่างแท้จริงใบหน้าของมาร์ควิสซีดลงทันที
「จากนี้ไปผมจะนำกองกำลังทั้งหมดค้นหาตัวคุณชาร์ลอตต์ครับ มาร์ควิสเองก็ต้องทำเช่นกัน ถ้าหากหาตัวคุณชาร์ลอตต์ไม่พบหรือตายไปแล้วละก็ ในตอนนั้น――」
「หรือว่า จะถอดยศมาร์ควิสแล้วลดขั้นไปเป็นเคานต์เหรอครับ?」
「ผิดแล้วครับ」
「เช่นนั้น ลดขั้นไปเป็นไวเคานต์เหรอครับ?」
「นั่นก็ไม่ใช่ครับ」
「! หรือว่าให้ใช้ชีวิตในฐานะสามัญชน――」
「 เรื่องนั้นก็ไม่ใช่ครับ มาร์ควิสมัช คุณจะต้องถูกนำตัวไปยังแท่นประหารครับ」
「ประหา……?」
มาร์ควิสมัชหัวขาวโพลนในทันที
「เซบาส วัดขนาดซะ」
「รับทราบครับ」
เซบาสคนรับใช้โค้งคำนับแล้วพันเชือกรอบคอของมาร์ควิสมัชเพื่อวัดขนาด
「คือว่า ฝ่าบาท นี่กำลังทำอะไรกันแน่……?」
「วัดขนาดเพื่อทำแท่นประหารแบบพิเศษสำหรับคุณครับ ถ้าคุณชาร์ลอตต์ตายหรือไม่สามารถพากลับมาได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ละก็ ตอนนั้น――」
ถึงตรงนั้นเซบาสได้ใส่แรงเข้าใปในเชือกที่กำลังวัดคอของมาร์ควิสเล็กน้อยตามความประสงค์ของเจ้าชายอัลเซส
เพียงแค่นั้นมาร์ควิสมัชก็น้ำลายฟูมปากและหมดสติไปด้วยความหวาดกลัว