[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 190 บทที่ 8 ตอนที่ 47
บทที่ 8 ตอนที่ 47
ลูกศรสีดำและสีเงินประมาณหนึ่งกลืนกินแหล่งพลังของวิโทร่า
ไอริสไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านพ้นเธอเข้าหาวิโทร่า ไม่ลังเลที่จะใช้ดาบที่อาบพลังเวทย์ฟันใส่วิโทร่า
「ฮึบ!」
วิโทร่าสกัดกั้นด้วยคมดาบโลหิต แต่ดาบของไอริสก็ตัดผ่านมันได้อย่างง่ายดาย และเกิดแผลที่อกของวิโทร่า
「เฮ้อ ตื้นเกินไปเหรอคะเนี่ย!」
「อั่ก ยัยบ้านี่!」
วิโทร่าที่เริ่มร้อนรนก่อนจะใช้พลังของเธอเข้าใส่ไอริสเพื่อสร้างระยะห่าง
เมื่อพลังต้นกำเนิดกระทบเข้ากับไอริส เธอก็กระโดดออกไปไกล
เธอร้อนรนใจอย่างมาก
ตัวตนนอกรีต ไอริสดิน่า ฟรานซิส พลังของเธอสามารถทำลายพลังต้นกำเนิดของวิโทร่าได้อย่างง่ายดาย และโดนต้อนอยู่ฝ่ายเดียว มันทำให้นึกถึงความตายที่เธอจะได้พบมันอีกครั้ง ทำให้วิโทร่าหงุดหงิดเป็นที่สุด
「น่ารังเกียจยิ่งนัก ! ความรู้สึกนั่นมันอะไรกัน!」
วิโทร่ายกมือขวาขึ้นสูงเพื่อสร้างลูกบอลสีแดงเข้มขนาดใหญ่
ลูกบอลวงกลมสีแดงเข้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับเติมเต็มความหงุดหงิดของเธอ มากจนกลืนกินพื้นที่เกือบทั้งหมด
「ย๊าาาาาาาาา!」
แต่ว่าลูกศรสีดำและสีเงินก็พุ่งออกมาจากม่านหมอกทะลุพลังที่เธอรวบรวมเอาไว้
มันเป็นเวทย์ระดับกลาง『ศรอเวจี』。
แต่ว่าการที่พลังงานต้นกำเนิดถูกลบออกไปด้วยพลังเวทย์ระดับกลางทำให้วิโทร่ายิ่งร้อนรนมากขึ้นไป
「อืม พลังและความเร็วในการร่ายนี่สุดยอดมากจริงๆ เฮ้อแต่เอาจริงๆก็แอบหนักใจนิดหน่อยที่ว่าได้หยิบยืมพลังของเธอมาใช้」
「นี่แก……」
「อะแฮ่ม โทษทีพอดีเผลอคุยกับตัวเองมากไปหน่อย พอจะมองพวกเราเป็นคู่ต่อสู้ได้บ้างรึยังล่ะ?」
วินาทีถัดมาความหนาวเย็นก็ไหลไปทั่วตัววิโทร่า
ทันทีที่เธอกระโดดออกจากจุดนั้นคมดาบทั้งห้าสีก็ลอยเข้ามา
「เดี๋ยวก่อนสิ!?」
ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด แต่เมื่อหันไปมองทิศทางของคมดาบที่ผ่านมาก็พบว่าโนโซมุยืนอยู่กับดาบคู่ใจ
เขาอ้อมไปเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของวิโทร่าที่กำลังสู้กับไอริสและไปเอาดาบอันเป็นที่รักของเขาออกมา
「กึด ! หลีกไปซะ!」
「ไม่ยอมหรอก!」
วิโทร่าใช้『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』ขึ้นมาหลายรอบ แต่ว่าไอริสที่ใช้โลหิตเป็นกำแพงปกป้องโนโซมุที่กำลังพุ่งเข้าไปโจมตี
เมื่อเทียบกับเวทย์ของวิโทร่ามันก็แค่เวทย์ต๊อกต๋อยแต่ว่า『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นโนโซมุก็ปลดปล่อยจิตสังหารอันรุนแรงพร้อมกับคมดาบของเขา
「อั่ก!」
คมดาบที่ลอยมาระเบิดออกและทำลายพลังของวิโทร่าจนหมด จากนั้นก็ตัดร่างของวิโทร่า
ดวงตาของวิโทร่าเบิกกว้างเมื่อเธอถูกผ่าครึ่งจากไหล่ข้างหนึ่ง
「อะไรกัน !? สกิลนั่นไม่ควรจะทรงพลังขนาดนั้นแท้ๆ!」
「อ่า ธรรมดามันก็คงไม่พอจริงๆนั่นแหละ แต่ผมเลียนแบบการฟันของไอริสและซ้อนทับมันเป็นสิบเท่า」
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น
เดิมทีโนโซมุสามารถใช้『คมดาบผ่ามายา』ได้ในเวลาครึ่งวินาที แต่ว่าก็ไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะใช้มันซ้อนกับในเวลาไม่กี่วินาที
จนถึงตอนนี้เมื่อครู่มันผ่านไปแค่สองสามวินาที แต่เมื่อไอริสเข้ามาช่วยเขาจึงสามารถ『สำรอง』คมดาบได้จนถึงตอนนี้
「อ่อก!」
ในระหว่างที่ร่างของวิโทร่าถูกตัดขาด โนโซมุก็เข้าไปหาพร้อมกับกำปั้นที่เต็มไปด้วยพลังของเทียแมต
หลังจากฟื้นฟูเสร็จแล้ว เธอก็ยกมือจับกำปั้นของโนโซมุ
「หนอย……」
เมื่อเผชิญหน้ากันระหว่างพลังของทั้งสอง แต่โนโซมุกลับมีความเชื่อมั่นในพลังของเทียแมต
「ถ้าเป็นตอนนี้ก็ไม่สามารถปล่อยพลังต้นกำเนิดของผมลงชีพจรมังกรได้ใช่ไหมล่ะ?」
「อะ!?」
เมื่อได้ยินคำพูดของโนโซมุ ดวงตาของวิโทร่าก็เบิกกว้าง
แม้ว่าเธอจะมีพลังมากมายมหาศาล แต่เธอที่เป็นวิญญาณ โดยธรรมชาติแล้วควรจะเชี่ยวชาญในการใช้พลังงานต้นกำเนิดได้อย่างเต็มที่
(เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากพลังเวทย์ของไอริสแล้ว เธอก็เริ่มสูญเสียความสามารถในการควบคุมพลังต้นกำเนิด เธอคนนั้นไม่เพียงเป็นแหล่งที่มาของพลังให้วิโทร่า แต่ยังรวมถึงความสามารถของเธอ……)
「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกห์!」
「กร๊อดดดดดดดดดดดดด!?」
โนโซมุที่เห็นวิโทร่าเริ่มร้อนรนก็ดึงพลังของเขาออกมามากขึ้นอีก
แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นทำให้วิโทร่าปลิวออกไปจนเปิดช่องว่างขนาดใหญ่ เมื่อเห็นเช่นนั้นโนโซมุย่อตัวลงและเก็บดาบเข้าไปในฝักอีกครั้ง
ความหนาวเย็นไหลเข้ามาในกระดูกสันหลัง วิโทร่าหันสายตามองไปบนท้องฟ้า
พลังต้นกำเนิดของเธอกลายเป็นน้ำแข็งและเข้าโจมตีโนโซมุจากจุดบอด
「โนโซมุ ข้างบน!」
「อืม!」
โนโซมุตอบสนองต่อเสียงไอริส และกระโดดออกจากตรงนั้น ทันทีหลังจากนั้นน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตี
「เฮ้อ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้แล้วนะ!」
ดราก้อนสเลเยอร์ที่มีพลัง『ทำลายล้าง』และหญิงสาวผมสีเงินที่มีพลังในการต่อกรกับแวมไพร์
ตัดสินใจแล้วว่าการโจมตีครึ่งๆกลางๆไม่ได้ผลอีกต่อไปวิโทร่าเปลี่ยนพลังชีวิตทั้งหมดของเธอให้เป็นการโจมตี
(สิ่งที่ต้องทำคืออย่าให้ทั้งสองได้ร่วมมือกันเด็ดขาด ต้องไม่ให้พวกนั้นได้ประสานงานกัน เมื่อพิจารณาจากการที่เธอสามารถหักล้างพลังทางฝั่งนี้ได้ แทนที่จะเล็งไปที่ โนโซมุ เบลาตี้ ที่มีพลังและความเร็วมากล้น แทนที่จะใช้เวทย์วงกว้าง ใช้พลังรวมไปจุดๆหนึ่งและเล็งไปยังเธอคนนั้น)
เมื่อพิจารณาได้แบบนั้นเธอก็เลิกใช้อาภรณ์ปีศาจเหมันต์
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของไอริสนั้นลดกำลังฝั่งนี้ได้อย่างมาก
「อะไรกัน……」
องค์ประกอบต้นกำเนิด พลังเวทย์ และชีพจรมังกรถูกดึงดูดมาในเวลาเดียวกัน ทั้งองค์ประกอบที่สร้างร่างกายและจิตวิญญาณของตัวเธอนั้น กำลังมารวมกันที่จุดเดียว
ร่างของวิโทร่าได้สลายหายไปกลายเป็นหอกน้ำแข็งเพียงอันเดียวที่ย้อมไปด้วยโลหิต
เธอไม่ใช้ร่างที่มีเนื้อหนังอีกต่อไป ในฐานะวิญญาณ เธอสามารถมีรูปลักษณ์ได้ตามต้องการ
หอกน้ำแข็งนั้นใหญ่เกินกว่าใครจะแบกรับได้
ความยาวของมันยาวประมาณหกคนนอนเรียงกัน
ปลายขนาดมหึมาและด้าบจับที่ถูกปกคลุมไปด้วยหนามแหลมนั้นทั้งอันตรายและงดงามในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะมุ่งเน้นไปยังการทะลวง และมันชี้ไปทางไอริส
「อึก!」
ความเร็วที่ถูกเร่งไปจนถึงขีดสุด
ไอริสสร้างสิ่งกีดขวางจำนวนมาก แม้จะเสียเปรียบ แต่เธอก็ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างและเผชิญหน้ากับมัน
「ไอริส!」
โนโซมุกระโดดเข้าหาจากด้านข้างและผลักเธอลง
หอกน้ำแข็งที่พุ่งมาในวินาทีสุดท้ายทะลุกำแพงแยกตัวเมืองในพริบตาและบินขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เมื่อมันขึ้นไปข้างบนก็พุ่งลงมาอีกครั้ง
「หนอยยยยยยยย!」
「อ๊ากกกกกกก!」
โนโซมุยกร่างของไอริสกระโดดออกจากจุดนั้น ทันทีหลังจากนั้นวิโทร่าก็พุ่งชนกับพื้นทำให้พื้นที่โดยรอบแตกกระจายและเกิดแผ่นดินไหว
นอกจากนี้หอกน้ำแข็งยังโผล่ขึ้นมาอีกครั้งและพุ่งเข้าหาโนโซมุและพรรคพวก
「แย่แล้ว!」
โนโซมุที่โดนกับดักเล่นงานก็ทำได้แต่ต้องปัดป้องหอกน้ำแข็งเหล่านั้น
วิโทร่ากระโดดขึ้นไปในอากาศและหายตัวไปในท้องฟ้าอีกครั้ง และอาจจะพุ่งเข้ามาอีกก็ได้
แน่นอนว่าอาจจะมีวิโทร่าที่พุ่งเข้ามาจากจุดบอด
เขาพยายามนำดาบคู่ใจมาถือไว้ในมือข้างหนึ่งและหันคมดาบเพื่อสะท้อนภาพให้เห็น แต่ความเร็วของอีกฝ่ายนั้นเร็วเกินไปจนมองตามไม่ทัน
「โนโซมุ ปล่อยฉันได้แล้ว ตาบ้า」
「อะ ! ขอโทษที ไอริส!」
เขาปล่อยไอริสลง และใช้ดาบคาตานะด้วยมือทั้งสอง แต่ก็ยังโดนโจมตีเพียงฝ่ายเดียว
「เอาไงดี……」
ไอริสยิงกระสุนเวทย์ใส่วิโทร่าที่พุ่งเข้ามา แต่มันไม่โดนเธอเลยสักนิด
ความเร็วมันห่างชั้นเกินไป อีกทั้งกระสุนเวทย์นั้นรุนแรงไม่พอ
「ให้ตายสิ เร็วขึ้นเรื่อยๆเลยนะ」
ขณะที่พุ่งเข้าชาร์จใส่ซ้ำๆความเร็วก็ทวีคูณมากขึ้น
กลยุทธ์ของวิโทร่านั้นคิดเช่นเดียวกับโนโซมุก็คือการรวบรวมพลังไว้ที่จุดเดียวแทนที่จะทำการโจมตีแบบวงกว้าง
คงเป็นเพราะรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่จุดๆเดียว ความแข็งแกร่งของหอกน้ำแข็งนั้นแม้แต่ดาบของโนโซมุก็ตามไม่ทัน
ยิ่งไปกว่านั้นวิโทร่านั้นยังเข้าโจมตีนอกระยะมองเห็นของมนุษย์
มันเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับโนโซมุและไอริสซี่งเชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิดและระยะกลาง
「อึก!」
「หนอย……」
หลังจากเร่งความเร็วซ้ำแล้วซ้ำเล่า วิโทร่าก็เร่งความเร็วจนยิ่งกว่าตาของมนูษย์จะมองเห็น
หอกน้ำแข็งที่เร็วเหนือเสียงไปแล้ว แทง บดขยี้ และพัดทุกสิ่งที่ขวางทางจนหมดสิ้น
โนโซมุและไอริสยังคงเคลื่อนไหวไปรอบๆและหลีกเลี่ยงการโจมตี แต่ก็ต้องเหนื่อยล้าจากเศษซากปรักหักพังที่กระจัดกระจาย
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแพ้แน่ๆ
เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นโนโซมุกระโดดไปข้างๆไอริส
เขาเริ่มคุยกับไอริสในขณะที่วิ่งหลบภัยกันอยู่
「ไอริส ผมจะหยุดวิโทร่าให้เอง จากนั้นให้เธอใช้เวทย์ระเบิดเอาที่ใหญ่ที่สุดเลย」
โนโซมุชักดาบออกมาจากฝัก
ไอริสอดไม่ได้ที่จะร้องเสียงหลงหลังจากคิดว่าเขาจะทำอะไร
「เดี๋ยวก่อน ต่อให้นายจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ไม่มีทางที่จะหยุดสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้หรอกนะ!」
「แต่ว่าพลังเวทย์เองก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีนั่นได้ใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้ตัวหอกเองมันก็ค่อยๆเรียวบางและยาวขึ้นเรื่อยๆ……」
ความเร็วในตอนนี้ไอริสมองไม่เห็นด้วยซ้ำ
ไม่มีพลังเวทย์แบบไหนที่จะหยุดยั้งความเร็วเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นความหนาของหอกนั้นใหญ่เท่าแขนและปลายของหอกมันก็แหลมคมอย่างเห็นได้ชัด
หอกที่หนาแน่นเป็นพิเศษและแหลมคมโจมตีจากระยะไกล
เป้าหมายนั้นโจมตีแบบสุ่มไม่สามารถคาดเดาทิศทางได้ และดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ไอริสจะหยุดมันด้วยดาบของเธอ
「แน่นอนว่าพลังเวทย์ของฉันหยุดยัยแวมไพร์นั่นไม่ได้แน่ แต่ว่านายน่ะจะบอกว่าตัวเองมองเห็นหอกความเร็วเหนือเสียงนั่นเหรอ?」
「ก็เห็นแบบคลุมเครือ ไม่ได้ชัดเจนนัก……」
「อย่างที่คิด นายเองก็หลุดโลกไปกับเขาแล้วสินะ……」
หอกที่ไอริสมองไม่เห็นแต่โนโซมุสามารถมองเห็นได้ลางๆ ทำให้ไอริสถอนหายใจออกมา
ระหว่างที่ทั้งสองคนยืนหันหลังให้กันมีบรรยากาศผ่อนคลาย ไม่มีบรรยากาศตึงเครียด
「แต่ว่าช่างเถอะขอแค่ได้สู้เคียงข้างนาย ฉันก็มีความสุขเหนือสิ่งอื่นใดแล้วล่ะ」
「จู่ๆ มาพูดอะไรแบบนี้เนี่ย……」
「ก็ฉันน่ะโดนนายปกป้องมาตลอดเลยนี่ แต่ว่าการได้สู้เคียงข้างกันมันดีกว่าการที่ถูกปกป้องอยู่ฝ่ายเดียวนะ」
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นหัวใจเขาก็เต้นแรง
นั่นคือความจริงที่โนโซมุไม่มีโอกาสได้สู้ร่วมกับไอริสสักเท่าไหร่
ความร้อนที่ผุดออกมาจากอกอย่างช้าๆ โดยปกติมันทำให้ผ่อนคลายและเห็นโลกได้กว้างกว่าที่ผ่านมา
『ทั้งคู่ไม่เป็นไรใช่ไหม?』
「เสียงนี้มัน……」
「ซีน่าจัง?」
ในขณะนั้นเสียงของซีน่าก็ลอยเข้ามาในหูพวกเราสองคน
หากมองเข้ามาใกล้ๆ ก็จะเห็นวิญญาณสีเขียวลอยอยู่ข้างๆหูของโนโซมุเปล่งแสงจางๆ
ต้องขอบคุณที่การดึงพลังของวิโทร่าทำให้เธอสามารถดึงเหล่าวิญญาณมาเป็นเพื่อนได้
『ฉันจะขอให้เหล่าวิญญาณช่วยพันธนาการเจ้าหญิงแวมไพร์ ฉันจะบอกเวลาและทิศทางที่พุ่งเข้ามาให้』
「……ได้ยินแบบนั้นก็วางใจ」
『อืม ไว้ใจฉันได้เลย』
ทันทีหลังจากนั้นก็มีแสงคล้ายอุกาบาตก็พุ่งออกมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน
『เอาล่ะ ณ ตำแหน่ง หกสิบองศาไปทางซ้าย แปดสิบองศาจากความสูงเหนือศีรษะ!』
「รับทราบ!」
「โอ้ว!」
หอกน้ำแข็งสีแดงเข้มพุ่งมาจากด้านบนอีกครั้ง ทันทีที่โนโซมุกระโดดออกจากจุดนี้ มังก็แทงลงพื้น
หอกน้ำแข็งที่ตกลงพื้นดินก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
และทำการชาร์จลงมาอีกครั้ง
『ลูกต่อไปมาจากทางด้านหลังโนโซมุ คราวนี้จะพุ่งมาทางพื้นดิน!」
「เข้าใจแล้ว!」
ด้วยความช่วยเหลือของซีน่า ตอนนี้โนโซมุและไอริสสามารถเตรียมการได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์
ดูเหมือนว่าวิโทร่าจะเริ่มชินกับร่างนี้และความแม่นยำในการพุ่งเข้าหาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
จากนั้นหลังจากพุ่งเข้าชาร์จหลายครั้ง เธอก็พุ่งไปบนท้องฟ้าด้วยแรงที่มากกว่าเดิม และเริ่มหมุนเพื่อเพิ่มความเร็วมากขึ้นอีก
『ตอนนี้เธอกำลังเร่งความเร็วมากยิ่งขึ้นและกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า จะเร่งความเร็วได้มากแค่ไหนกัน? แม้แต่ตอนนี้วิญญาณแห่งลมก็ตามไม่ทัน』
หอกน้ำแข็งยังเร่งความเร็วขนาดที่ควงสว่านซ้ำๆ
ในที่สุดวิโทร่าก็บินออกจากขอบเขตการรับรู้ของซีน่า
『เอ่อ ฉันมองไม่เห็นแล้ว』
「แล้วเอายังไงดี?」
『จะขยายขอบเขตการรับรู้ให้ได้มากที่สุด แต่ว่าความแม่นยำมันจะลดลง……」
「ไม่ต้องห่วง พวกเราชินแล้วล่ะขอแค่รู้ทิศทางและเวลาแล้ว จะคอยดูแแลส่วนที่เหลือเอง」
『……เข้าใจแล้ว อย่าตายนะโนโซมุคุง』
「ทั้งคู่สนิทกันไปหน่อยมั้ย หืมมมมมมมม」
『ก็ไม่สนิทถึงขั้นชิดเชื้อแบบไอริสหรอกนะ แต่อย่างน้อยพวกเราก็สนิทไม่แพ้กันหรอก เอาล่ะถึงเวลาแล้ว』
โนโซมุและไอริสนั้นพูดคุยกันอีกเล็กน้อยหลังจากนั้นก็เตรียมพร้อม
พลังเวทย์สีดำและสีเงินแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็วและองค์ประกอบต้นกำเนิดทั้งห้าก็ซ้อนทับใน “ไร้นาม”
ในทางกลับกัน ไอริสยังย้อมดาบของเธอด้วยพลังเวทย์สีดำและสีเงินลงบนดาบ และร่ายเวทย์เสริมแกร่งอีกหลายสิบครั้งในคราวเดียว
หนึ่งวินาทีผ่านไป สองวินาทีผ่านไป อากาศบริสุทธิ์ลอยไปในอากาศ และมีเพียงเสียงสายลมที่ดังก้องอยู่ในหู
ความเงียบเพียงชั่วครู่ แม้ว่าคมดาบแห่งความตายจะพุ่งเข้าหาในไม่ช้า แต่หัวใจของพวกเขากลับสงบ
『อ่าเจอแล้ว มันกำลังพุ่งมาทางไอริสไปทางขวา สามนาฬิกา กำลังเข้าหาในอีกสามวินาที!』
「อืม!」
โนโซมุเคลื่อนไหวทันที ในขณะนั้น ก็ทุ่มสมาธิทั้งหมดลงไป
โลกที่สะท้อนในขอบเขตการมองเห็นหยุดนิ่งและกลายเป็นสีเทา
หนึ่งวินาทีผ่านไป ในโลกที่ถูกย้อมไปด้วยสีเทา จุดสีแดงเข้มที่เข้าใกล้ด้วยความเร็วสูงจะมองเห็นได้ชัดเจน
「ฮย๊ากกกกกกกกกก!」
สองวินาทีผ่านไป เขาเหยียบเท้าขวาไปด้านข้างของไอริส และเสริมความแข็งแกร่งให้สอดคล้องกับการประสานงานของกล้ามเนื้อ
สามวินาทีผ่านไป เขาดึงไร้นามออกมา ในขณะที่ข้อต่อทุกส่วนของเขา กำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุดเขาก็ชักดาบออกมาและปลดปล่อยคมดาบผ่ามายาออกมา
คมดาบผ่ามายา・ชั่วพริบตา
คมดาบสังหารที่รุนแรงที่สุดในทุกเพลงดาบที่โนโซมุมี และพลังของเขาในฐานะดราก้อนสเลเยอร์พุ่งชนกับหอกน้ำแข็งของวิโทร่า ซึ่งกำลังเข้าใกล้ด้วยความเร็วเหนือเสียง
「อึก!?」
「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกห์!」
แรงกระแทกอันรุนแรงที่ราวกับจะบดขยี้กระดูกทั้งตัวพุ่งเข้าร่างของโนโซมุ
ในขณะเดียวกันพื้นรอบๆแตกกระจายพร้อมกับคลื่นกระแทกที่ระเบิดราวกับสังหารทุกสิ่ง
หอกสีแดงฉานที่ปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน มีความประหลาดใจออกมาจากหอกน้ำแข็ง
ไม่คิดว่าจะได้เข้าปะทะกัน หรือบางทีอาจจะไม่ได้คิดว่าจะต้องดวลพลังกัน
ไม่ว่าจะกรณีไหนการต่อสู้ครั้งนี้ก็มาถึงจุดจบ
「ลาขาดล่ะ ยัยแวมไพร์เฮงซวย……」
ไอริสกระโดดข้ามโนโซมุที่กำลังปะทะกับหอกน้ำแข็งและยกดาบของเธอขึ่้น
ดาบเวทมนตร์・จันทราคราส
ดาบเวทมนตร์ที่เป็นไพ่ตายของเธอ ซ้อนทับด้วยพลังเวทย์ที่เสริมความคม
คมดาบที่อาบไปด้วยพลังเวทย์สีดำและสีเงินหลายชั้นเปล่งประกายล่ะฟันลงมาหักด้ามหอกน้ำแข็งสีแดงเข้มออกเป็นสี่ส่วน
「อั่ก!?」
「ย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาห์!」
เสียงคร่ำครวญดังมาจากหอกสีแดงฉาน แรงต้านนั้นหายไปจาก คมดาบผ่ามายา ชั่วพริบตา
จากนั้นหอกน้ำแข็งก็ถูกหักในแนวตั้ง
ส่วนไอริสที่ตัดผ่านในแนวนอนก็ทำให้หอกนั้นแตกออกเผยให้เห็นร่างของเจ้าหญิงแวมไพร์
เธอไม่ใช่วิญญาณอีกต่อไปแล้ว
ผิวสีแดงเข้มกลับคืนสู่สีขาว และร่างกายที่ควรประกอบด้วยพลังต้นกำเนิดกลับสู่ร่างกายที่มีเนื้อหนัง
「ฉันคนนี้ แพ้อย่างงั้นเหรอ……」
「สลายร่างวิญญาณงั้นเหรอ?」
「อา ลูกสาวของตระกูลฟรานซิสเอ๋ย เพราะพลังของเจ้า ฉันไม่สามารถขยับร่างกายอีกต่อไปแล้วล่ะ」
เมื่อล้มลงกับพื้นวิโทร่าดูท่าจะขยับตัวไม่ไหวแล้ว
ร่างกายของเธอไม่มีบาดแผลใดๆ แต่พลังเวทย์ของเธอนั้นลดลงอย่างมาก เธอในตอนนี้ร่างกายผอมแห้งเหมือนกับคนป่วย
「เอาล่ะ ฆ่าฉันซะสิ ทุกอย่างจะได้จบลงจริงๆ」
วิโทร่าเหลือบมองโนโซมุ และ ไอริส และยิ้มอย่างพอใจก่อนจะบอกให้สังหารตัวเธอ
ไอริสค่อยๆแทงจันทราคราสเข้าไปบนหน้าอกของวิโทร่า แต่ว่าก็ทำลายเวทย์ที่อาบคมดาบอย่างรวดเร็ว
「ไม่ฆ่าอย่างงั้นเหรอ?」
「เหตุผลที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการฑูตกับตระกูลฟรานซิส และขยายอาณาเขตกับฟอร์ซิน่า ในเวลานี้พวกเธอก็ต้องมาทำหน้าที่ให้สำเร็จ」
พวกเรายังต้องสร้างความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างตระกูลฟรานซิสและวาจาร์ตและด้วยเหตุนี้ จักรวรรดิฟอร์ซิน่าและดิซาร์ตจะเป็นพันธมิตรกัน
ไอริสเข้าหาวิโทร่าด้วยความมั่นใจ
「ใช่ นอกจากนี้เธอยังทำลายเมืองแห่งนี้ไปมาก เธอต้องรับผิดชอบผลของการกระทำของตัวเอง อย่างน้อยที่สุดก็ทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่คิดจะตาย」
เพราะเหตุนี้เธอต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมค่าปฏิกรรมสงคราม
「……แบบนั้นก็ดีเหมือนกันน้า มันเป็นอภิสิทธิ์ของผู้ชนะ เอาล่ะฉันยอมรับเงื่อนไขของเธอทั้งหมด ถ้างั้นโนโซมุ เบลาตี้ เจ้าต้องการอะไรจากฉันล่ะ?」
วิโทร่าที่ยอมรับข้อตกลงของไอริสยังคงเหลือบมองโนโซมุ
มีความร้อนในดวงตาราวกับว่าเธอกำลังคาดหวังอะไรสักอย่าง
「ผมเหรอ ? ไม่มี……」
「โนโซมุ แบบนั้นมันไม่ดีเลยสักนิด ชัยชนะครั้งนี้มันเป็นของนายนะ นอกจากนี้นายต้องกังวลกับสถานะทางสังคมของนายสิ อย่างน้อยนายก็ต้องเรียกร้องค่าทดแทนนะ」
ด้วยความสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับดวงตาของวิโทร่า ไอริส นั้นไม่ยอมให้โนโซมุปฏิเสธรางวัล
แม้ในช่วงเวลาแบบนี้ ก็ยังจะทำตัวใสซื่อ แม้ว่าไอริสจะชอบตัวเขาในด้านนี้ แต่ในโอกาสนี้เธอก็อยากให้โนโซมุได้รับรางวัลที่เหมาะสม
เหนือสิ่งอื่นใด วิโทร่าที่โลภมากต้องการทุกสิ่งและบังคับให้โนโซมุต้องต่อสู้ เป็นความเห็นที่ว่าต้องให้เธอได้ชดใช้อย่างถูกต้อง
「เอ่อจะพูดอะไรได้ล่ะในตอนนี้……..ถ้าอย่างนั้นขอให้เธอเป็นหนึ่งในผู้อุปถัมภ์ของผม ช่วยผมในยามที่ต้องการความช่วยเหลือก็แล้วกัน」
เมื่มองแวบแรกดูเหมือนจะเป็นคำขอที่ดูไร้พิษสง แต่ว่านี่เป็นคำขอที่ดีที่สุดและสะดวกสบายสำหรับโนโซมุ เนื่องจากมันไม่ได้ระบุทั้งในด้านจำนวนเงินและเขาสามารถเรียกร้องเท่าไหร่ก็ได้ในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม สำหรับเขา มันก็เป็นเหมือน『ประกัน』ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องในครั้งนี้
เพราะตอนนี้ตัวตนของเขาในฐานะดราก้อนสเลเยอร์ถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์
มันเป็นคำขอพื้นฐานบนข้อเท็จจริงที่ว่าสามารถใช้เป็นข้ออ้างในการปกป้องตนเองและคนสำคัญของเขา การได้แบ็คอัพเป็นผู้มีอำนาจจากจักรวรรดิดิซาร์ตถือเป็นเรื่องดีอย่างมาก
ในทางกลับกัน วิโทร่าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำขอของโนโซมุ
「……เอ๊ะ เอาแค่นั้นจริงเหรอ? แต่พวกเราเป็นแวมไพร์นะ」
「เอ่อก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรมาช่วยตัวผมที่สถานะของดราก้อนสเลเยอร์ถูกเปิดเผยไปแล้วนี่ครับ นอกจากนี้ไอริสและคนอื่นๆเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอด้วยใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นการพึ่งพาและอยู่ภายใต้อิทธิพลของเธอย่อมส่งผลดีกว่า」
「ถึงแบบนั้นก็เถอะนะ มันยังมีวิธีที่ดีกว่านี้นะรู้ไหม……」
「เอ่อผมไม่มีอำนาจทางการเมืองเลย ก็เลยไม่รู้หรอกว่าจะต้องเรียกร้องแบบไหนจะเป็นการดีที่สุด เป็นประชาชนธรรมดาทั่วไป」
โนโซมุยิ้มเจื้อนๆออกมา ราวกับว่าเขาคิดหาทางลงที่ดีที่สุดได้แค่นี้
วิโทร่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พยักหน้าเล็กน้อย
「เอาแบบนั้นก็ได้ ฉันจะสนับสนุนด้วยทุกอย่างที่ฉันมี แต่ว่าขอยกเว้นกรณีของไอริสดิน่า ที่จะไม่สามารถยืมอำนาจของฉันมาใช้ได้……」
「เอ๊ะ ไหงเปนงั้นอะ? ไม่ได้ต้องการให้ครอบคลุมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ผมก็แค่ต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อยสำหรับตัวเอง……」
「พูดอะไรแบบนั้นกันเล่าเจ้าบื้อ เจ้าบอกเองว่าต้องการอำนาจทางการเมือง? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ฉันก็ต้องทุ่มหมดหน้าตักเพื่อให้เจ้ามีหน้ามีตาในสังคม หากเจ้าใช้ฉันแบบขอไปที เดี๋ยวก็หน้าแหกหมดหรอก?」
แต่ว่าคำพูดเหล่านั้นก็ถูกต้อง การหยิบยืมพลังอำนาจของวิโทร่าเพียงแค่ครั้งสองครั้งมันไม่ได้ช่วยอะไร
ถัดจากเธอ ไอริสกำลังมองไปที่วิโทร่าขณะที่กระวนกระจายใจ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
แม้ว่าการต่อสู้จะจบลง แต่บรรยากาศกลับอบอุ่น และขอบเขตแยกตัวเมืองก็หายไป
จากนั้น ซีน่าที่คอยซัพพอร์ตจากด้านหลัง มาร์ และ ลูกาโต้ ก็รีบวิ่งเข้ามา
「คุณโนโซมุ พี่ไอริส ไม่เป็นไรนะคะ!?」
「โซเมียจัง สบายดีไหม!?」
「อ่า เหล่าวิญญาณกลัวหัวหดกันหมดแล้วเนี่ยปัดโถ่ว!」
ซีน่าวิ่งไปหาโนโซมุ และโซเมียวิ่งไปหาไอริส
จากนั้นมาร์ก็กางแขนออกและโอบกอดทั้งสี่คน
วิคเตอร์ มีน่า และลิซ่า กำลังเฝ้าดูพวกเขาจากด้านหลัง
「นายท่าน นายท่านของกระผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ?」
ในขณะเดียวกันลูกาโต้ก็เข้าหาวิโทร่า
เขาดูกังวลเล็กน้อยขณะที่ก้มตัวไปกอดเธอ แต่เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัย ก็ยิ้มด้วยความโล่งอก
「ขอโทษด้วยนะลูกัตจัง」
ลูกาโต้วาดวงเวทย์และสร้างร่มแห่งความมืด ก่อนที่จะรู้ตัวดวงอาทิตย์ก็ขึ้นบนท้องฟ้าเสียแล้ว
แสงแดดนั้นเป็นอันตรายต่อแวมไพร์ โดยปกติแล้ววิโทร่าคงไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้พลังเวทย์ของเธอหมด เธออ่อนแอลงมาก
「เอ่อ ขอโทษนะลูกัตจัง ฝากดูแลทุกคนด้วย」
「ไม่หรอกครับ เป็นภารกิจของกระผมที่จะต้องทำตามคำสั่งท่าน แต่ว่านายท่านของข้าก็เติบโตขึ้นแล้วนะครับ」
พ่อบ้านที่รับใช้วิโทร่ามานานหลายร้อยปีแสดงความเคารพต่อนายท่าน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ เพื่อให้เธอได้ยิน
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น วิโทร่าก็ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
「พอใจรึเปล่าครับ?」
「……ไม่หรอก ยังไม่พอ แต่ว่าฉันก็ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการจริงๆมาสักที」
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังมองไปทางไหนลูกาโต้ก็มองตามอย่างเงียบๆ
รอยยิ้มนั้นแตกต่างจากรอยยิ้มปกติ มันเป็นรอยยิ้มที่มีความหมายมากทีเดียว
「นั่นสินะครับ……」
「เอาล่ะ ตอนนี้ก็ต้องแข็งใจไว้ เล่นเอาซะหมดก็อกเลย ตอนนี้ขยับไม่ได้แล้ว หมดแรงหยอดน้ำข้าวต้มของจริงแล้วล่ะ」
ดราก้อนสเลเยอร์ที่มีโซ่ผูกมัดร่างกายของเขา วิโทร่าหันมองเขาเล็กน้อยก่อนจะมองท้องฟ้า
「ไอ ทุกคน!」
ในขณะเดียวกันทิม่าและจิฮัดก็ได้พาทหารจำนวนมากมา
ทิม่าเข้ากอดไอริสและดีใจที่เธอปลอดภัย
จิฮัดเหลือบมองพวกเขา และเข้าล้อมรอบวิโทร่าพร้อมกับทหารทั้งหมด
「ท่านวิโทร่า ขออนุญาตจับกุมท่าน ท่านรู้ไหมว่าท่านทำอะไรลงไป?」
「อ่านั่นเองก็เป็นสิทธิ์ของผู้ชนะสิน้า ฉันแพ้อย่างหมดรูปเลยล่ะให้กับดราก้อนสเลเยอร์สุดหล่อคนนั้นและบุตรสาวแห่งรุ่งอรุณ ไม่ใช่นายซะหน่อย」
วิโทร่ายิ้มออกมา เหล่าทหารต่างแสดงท่าทีตึงเครียด
ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน แต่ศัตรูคือสัตว์ประหลาดที่จะทำลายล้างอาคาร์ซัม แม้ว่าตอนนี้จะหมดแรง แต่ก็เป็นตัวตนที่น่าหวาดกลัว
ในความเป็นจริงแม้แต่จิฮัดเองก็มีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก
「ทำไมถึงต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย?」
「นี่ ลืมสัญญาที่ให้กันไว้แล้วรึไง?」
ท่ามกลางพวกเขา คำพูดหนึ่งดังขึ้นมา
คนที่เรียกร้องคือ โนโซมุ และไอริส
「รู้แล้วล่ะน่า พ่อหนุ่มสุดหล่อร้อนแรงดั่งดวงตะวันและแม่สาวแสนสวยดุจน้ำค้างแข็ง ฉันจะยอมรับโทษแต่โดยดี」
หลับตาลงอย่างช้าๆและเธอก็หลับไป
ลูกาโต้ชูร่มเวทมนตร์ของเขาโอบกอดนายท่านและโค้งคำนับให้กับโนโซมุและไอริส
จากนั้นพวกจิฮัดก็เข้าจับกุม
โนโซมุและไอริส เห็นวิโทร่าและลูกาโต้โดนคุมตัวไป เกิดความงุนงงระหว่างพวกเขาเล็กน้อย แต่ว่าก็เงียบสงบ
โซ่สีขาวที่เปล่งประกายอยู่บนร่างของโนโซมุหายไป และผมสีเงินของไอริสก็ค่อยๆกลับเป็นสีดำดั่งเดิม
「ไอริส ผมของเธอ……」
「อืมเพราะพลังเวทย์ของฉันกลับมาแล้ว เป็นยังไงบ้างล่ะ เหมาะกับฉันไหม?」
ไอริสม้วนผมของเธอที่กลับสีเดิมและค่อยๆโชว์ให้เขาเห็น
「งดงามมากเลยล่ะ ผมสีเงินเองก็งดงามเหมือนกัน แต่สีดำน่ะเหมาะกับไอริสที่สุด」
คำพูดที่ออกมาจากปากเขาทำให้ไอริสหน้าแดง
ตอนนี้ท้องฟ้าไร้ซึ่งเมฆ รอยยิ้มกว้างๆ ของเธอปรากฏให้เห็นเด่นชัด และหัวใจของเขาเองก็เริ่มเต้น รอยยิ้มโผล่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
ผมสีขาวของเธอที่เคยเป็นปมในใจของโนโซมุ
ด้วยความที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จึงได้หันดาบใส่พรรคพวก มันเป็นความรู้สึกผิดบาปที่จะตราตรึงไปชั่วชีวิต แต่ว่ารอยยิ้มตรงหน้าก็ทำให้หัวใจของเขาที่เย็นดุจน้ำแข็งละลายลง
หากมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็จะเห็นดวงอาทิตย์ยามเช้า
「ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลง……」
「อ่า แต่ว่าระหว่างนายและฉันยังมีเรื่องที่ต้องสะสางกันอีกเยอะเลย」
โนโซมุนั้นตัวตนของเขาหลุดรอดไปในสาธารณะชนในฐานะดราก้อนสเลเยอร์ เขาต้องอธิบายให้กับผู้คนทั้งหมด รวมถึงพันธสัญญาโลหิตที่ได้ทำกับซีน่า
และไอริสตัวตนของเธอที่ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไป เธอเองก็ต้องชี้แจงตัวตนของเธอเช่นกัน
บางทีอาจจะเจอพายุลูกใหญ่เข้าหาอีกในอนาคต
แต่สำหรับตอนนี้ทั้งสองจ้องมองกันท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้า ยิ้มออกมาท่ามกลางรุ่งอรุณของค่ำคืนอันยาวนานที่จบลง
「นั่นสินะ โนโซมุ ถ้ามีเวลาสักหน่อย พอจะไปเดตกับฉันได้ไหม?」
「เอ๊ะ?」
「……ฉันมีบางอย่างอยากจะสารภาพกับนาย」