[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 189 บทที่ 8 ตอนที่ 46
บทที่ 8 ตอนที่ 46
ร่างของเธอสลายหายไปแล้ว……。
ความเจ็บปวดทั้งหมดจางหายไปเหลือเพียงแสงสว่างที่ล่องลอยสู่ท้องนภาและกลิ่นคาวเลือดสดๆที่ยังอยู่ในมือ
ความอบอุ่นและความตื่นเต้นที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และความปิติยินดี
ความตื่นเต้นดีใจผุดเข้ามาในหัวใ
ไม่มีใครที่เคยต่อกรกับเธอได้มากขนาดนี้
ไม่มีใครที่แข็งแกร่งมากพอจะดึงพลังที่แท้จริงของนางออกมา
ไม่มีใครอื่นทำให้ตัวนางนั้นเอาจริงได้
ใช่ ยอดเยี่ยมมาก ไม่มีคำอื่นใดจะกล่าวสรรเสริญไปได้มากกว่านี้
ซ้ำซาก น่าเบื่อ และเป็นนิรันดร์ อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอิ่มเอมไปจนถึงขั้วของหัวใจ
(อาาา แต่ว่ามันยังไม่พอ……)
แม้ว่าจะได้สุขสมอารมณ์หมาย แต่เธอก็ยังปรารถนามากขึ้นไป
มันไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกดีหรือได้ปลดปล่อย
เรียกได้ว่าเธอ “กระหาย” มันมากกว่า
อยากได้มากกว่านี้ อยากซึบซับมากกว่านี้
แม้ว่าความร้อนแผดเผากลืนกินร่างนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งและแม้ว่าเขาพยายามจะดับดวงจิตของเธอ แต่ เธอ “ตัวเล็กๆ” ก็ยังคงแสวงหาความสุขที่ยิ่งกว่า
『ความพึงพอใจ』ที่มากยิ่งกว่านี้『ความสุขที่เหนือขั้น』มากกว่านี้เรื่อยไป
เธอจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไร? เธอจะยืนอยู่ต่อหน้าโนโซมุ เบลาตี้อีกครั้งได้ไหม?
『เข้าใจแล้วภูมิหลังของเขาเองก็ดูน่าสงสัย แต่ว่าช่างน่าเสียดาย ที่ตัวต่อในชีวิตของเขายังคงขาดหายไปอีกงั้นเหรอ……』
สิ่งเดียวที่ฝ่าฟันและเข้าหาเธอได้ในช่วง 150 ปี ที่ผ่านมา ไม่มีใครสู้ชายที่ชื่อ โนโซมุ เบลาตี้ได้
『ช่างโชคดีจริงๆ ปล่อยให้เป็นแบบนั้นจะดีกว่า เพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคน……』
เป็นเพียงแค่คนหยาบคายที่มาแย่งชิงบัลลังก์หน้าด้านๆและปฏิเสธที่จะทรงงานในฐานะราชินี
ก็ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้กำลังพูดอะไรกัน มีความคิดเห็นยังไง แต่ว่าตัวฉันอาจจะเกิดมาเพื่อบางสิ่ง
(อ่า ใช้แล้วล่ะ………….ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะเลียแข้งเลียขาจนวินาทีสุดท้าย)
ใช้พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะสามารถสร้างดวงวิญญาณขึ้นมาใหม่
เหลือเพียงแค่เศษเสี้ยวของวิญญาณของเธอเท่านั้น หากไม่มีแหล่งต้นกำเนิดก็ไม่สามารถฟื้นกลับมาได้
พลังเวทย์ส่วนเกินและร่างกายอันแข็งแกร่งได้จางหายไป
ไม่ใช่งั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง? มันไม่ควรจะมีอะไรเหลืออีกต่อไปแล้ว
ในไม่กี่วินาทีก่อนที่เธอจะหายไปอย่างสมบูรณ์ เธอพยายามค้นหาทางชุบชีวิตตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
ในขณะนั้นก็รู้สึกได้ถึงการมีอยู่อันน้อยนิด
บางสิ่งบางอย่างที่ห่างไกล แต่ก็ใกล้มากเช่นกัน แรงกระตุ้นเล็กน้อยที่เหมือนน้ำที่ซึมออกมาจากแท่งน้ำแข็ง มันเป็นคริสตัลสีเลือดอันหมองคล้ำ
จิตสำนึกที่กระจัดกระจายอยู่ในที่สุดก็ถึงขีดจำกัด
เธอเอื้อมมือไปอย่างสิ้นหวังและพยายามสัมผัสพลังเสี้ยวสุดท้ายของเธอ
ทันทีที่ปลายนิ้วของเธอสัมผัสกับคริสตัลก็เกิดฟองอากาศนับไม่ถ้วน
ในฟองอากาศที่ล่องลอย มีฉากที่เธอไม่เคยเห็นปรากฏขึ้น
สัตว์ร้ายที่อยู่เหนือพื้นที่ป่าเขียวชอุ่ม งูตัวหนึ่งที่อดทนอยู่ในทะเลทรายร้อนอบอ้าว ฝูงแมลงที่กินซากศพที่ตายแล้ว น้ำที่ซึมลงไปในพื้นโลก
ทุกครั้งที่เห็นภาพเหล่านั้นราวกับว่าเวลาทุกอย่างถูกเร่งให้เร็วขึ้น
ในขณะที่เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเธอก็กลับมาสู่ร่างเดิมในทันที
ในทางตรงกันข้ามจิตสำนึกของเธอขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนกับนกบนท้องนภา เหมือนแมลงที่อยู่ในดิน เหมือนวาฬที่อยู่ในมหาสมุทร
และฉากสุดท้ายที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ
ท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด
มีรูอยู่บนท้องฟ้าขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดซึ่งไม่ทราบเวลา
รูที่มีขอบสีแดงเหมือนโลหิต เลือดที่หยดลงมาเปื้อนลงบนปฐพี และร่างของเธอก็ย้อมเป็นสีแดง
อา เข้าใจแล้วว่าผู้ที่เป็นพ่อแม่ของฉัน ต้องการจะทำสิ่งนี้ตั้งแต่ทีแรก
ในที่สุดตัวเธอก็ได้กลายเป็น “ตัวตนอันแท้จริง” และจิตสำนึกของเธอก็ตื่นขึ้นจากเลือดที่แข็งตัว
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ผ่านไปไม่นานในคฤหาสน์ฟรานซิส
คฤหาสน์ที่ถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์แบบเหลือเพียงหินก้อนเดียวและมีหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」
ในหลุมอุกกาบาต โนโซมุหอบหายใจอย่างรุนแรง
ระเบิดทำลายล้าง มันเป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่าเขาได้บดขยี้ทุกอย่าง และคงบดขยี้จิตวิญญาณไปพร้อมกับร่างกาย
รายล้อมไปด้วยแหล่งพลังต้นกำเนิดและควันที่ผุดขึ้นมา โนโซมุหันไปมองไอริสและคนอื่นๆ
เมื่อเห็นว่าทุกคนปลอดภัย โนโซมุก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ปกป้องเอาไว้ได้แล้ว…….
เขาหันหลังกลับและเดินเข้าหาพวกเธอ
หลังจากนั้นไม่กี่ก้าวโนโซมุก็ต้องหันกลับไป
ที่ใจกลางหลุมไม่มีอะไรนอกจากพื้นดินที่กลายเป็นรู
แน่นอนว่าเธอต้องตายไปแล้ว
ความจริงที่ว่าโนโซมุได้ฆ่าคนมันหนักหนา
ความโล่งใจและความรู้สึกผิดเข้าถาโถมพร้อมๆกัน
ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ในใจ โนโซมุพยายามเดินกลับไปหาพรรคพวก
แต่ว่าที่เท้าของเขา ได้ยินเสียงบางอย่างพังทลาย
ขณะที่ก้มหน้าลง โดยมองไปที่เท้า ก็เห็นบางสิ่งแปลกประหลาด
คริสตัลที่บิดเบี้ยวราวกับเพชร มันเปล่งประกายสีเลือดดูน่ากลัวและกำลังแข็งตัว และมันกำลังผุดออกมาจากพื้นดินที่พังทลาย
เขาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองมัน สงสัยว่ามันคืออะไร ในขณะนั้นความหนาวเย็นก็พัดผ่านไปทั่วร่างราวกับถูกเข็มนับพันทิ่มแทง
(อย่าบอกนะว่า เธอกำลังจะกลับมา……)
เขาหันหลับและเอื้อมมือไปหยิบไร้นามที่เก็บเข้าฝัก
แต่ว่าทันใดนั้นก็มีมือหนึ่งโผล่มาจากคริสตัลและทำให้ไร้นามหลุดออกจากมือเขา
「บ้าเอ้ย!?」
หอกคริสตัลพุ่งตามมาเจาะไหล่ซ้ายของโนโซมุ
จากนั้นคริสตัลก็กระพริบเหมือนหัวใจที่เต้นแรง และเริ่มดูดพลังต้นกำเนิดกับพลังเวทย์รอบตัว
ตึกตัก ตึกตัก
ด้วยจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดังก้องคริสตัลสีแดงเข้มกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์ เป็นรูปลักษณ์ที่เหมือนมนุษย์ต่างดาวที่มีผิวและผมสีแดงเข้ม
「อาาาาาา……」
ร่างกายที่ดูน่าดึงดูดใจนั้นกำลังพ่นลมหายใจอันร้อนแรงออกมาและหันมามองโนโซมุ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิโทร่าน่าจะตายไปแล้ว แต่สิ่งที่สร้างร่างกายของเธอนั้นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
พลังที่ไม่ใช้ทั้งคิและพลังเวทย์ หลังจากทำสนธิสัญญาโลหิตกับซีน่า เขาก็กลายเป็นตัวตนที่อ่อนไหวกับวิญญาณ
「วิญญาณอย่างงั้นเหรอ……」
มันเป็นแหล่งพลังงานต้นกำเนิดของโลกใบนี้
「อา ในที่สุดเค้าก็กลับมาแล้ว ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ……」
ทันใดนั้นวิโทร่าก็เข้าหาโนโซมุและกอดเขา
「บ้าน่า!?」
「เฮ้อ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ไม่น่าแปลกใจเลย สำหรับเจ้า มันก็เป็นแค่ชั่วพริบตาใช่ไหมล่ะ」
「หา!?」
「อุมุ……」
เขากระแทกพลังต้นกำเนิดของเทียแมตเข้าไปที่ร่างของเธอ
「แม้ว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง แต่ก็อย่าได้รังเกียจกันเลยนะ ให้เค้าได้กอดอีกสักหน่อยเถอะ……」
ในทางกลับกันวิโทร่าบ่นอย่างไม่พอใจพร้อมเผยเขี้ยวอันแหลมคม
ตัวตนของเธอต่างกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง โนโซมุตะลึงกับการเปลี่ยนไปของเธอ
「นี่เธอยังไม่ตายหรอกเหรอ?」
แน่นอนว่าเขาน่าจะทำลายจิตวิญญาณและกายหยาบไปแล้ว
「อ่า แท้จริงแล้วฉันก็ตายไปแล้วนั่นแหละ ซึ่งควรจะถูกดูดซับเข้าไปที่ชีพจรมังกรและจางหายไป แต่ว่านะด้วยหินแห่งกาลเวลาและพลังสุดท้ายที่สืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่นก็เลยฟื้นคืนชีพกลับมาได้……」
「หมายความว่ายังไง?」
「พลังฟื้นฟูต้นกำเนิดยังไงล่ะ นั่นล่ะคือความสามารถของฉัน แม้ต่อจะให้ถูกบดขยี้ดวงจิต ก็สามารถกลับมาได้ละมั้ง……」
「ความสามารถเหรอ……」
「อ่า ก็นั่นล่ะน้า มันเป็นความสามารถที่ขี้โกงมากเลยใช่ไหมล่ะ แม้จะถูกทำลายร่างกายไปครั้งหนึ่งก็กลับมามีชีวิต แต่ว่าไม่มีหนที่สองหรอกนะ หากรอบนี้ตายอีกรอบก็ตายจริงๆแล้วล่ะ」
แหล่งที่มาของพลังปะทุออกจากร่างกายทำให้สภาพแวดล้อมกลายเป็นสีแดง ไม่เพียงแต่พื้นดินและเศษหินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอากาศโดยรอบ
「หาาาาาาาาาา!?」
เมื่อเผชิญหน้ากับฉากนี้ โนโซมุที่ต่อยวิโทร่าอยู่ก็กระเด็นออกไป
พลังสีแดงมาบรรจบกันที่กำปั้นของโนโซมุ ความเร็วของพื้นที่สีแดงขยายตัวช้าลงเล็กน้อย
「ยังคงเยี่ยมไปเลยนะ」
แหล่งพลังของเทียแมตทำลายพลังของวิโทร่าและผลักร่างของเธอออกไป
เศษซากปรักหักพังที่พังทลายในพื้นที่สีแดงเสื่อมสลายลงและกลายเป็นหยดเลือดทำให้ลางสังหรณ์ของโนโซมุมันชัดเจน
「พยายามกัดกินสภาพแวดล้อมด้วยพลังของตัวเองงั้นเหรอ!」
「ช่ายแล้วล่ะ เห็นได้ชัดว่านี่คือพลังของฉันในร่างวิญญาณ……」
ทุกอย่างถูกแปรสภาพกลายเป็นเลือด และเมื่อมันสลายตัวและไหลลงไปในพื้นแหล่งพลังต้นกำเนิดของเธอก็ปะทุขึ้น
พื้นที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดสีเข้ม และหิมะที่กระจัดกระจายก็กลายเป็นสีแดงสด
ยิ่งไปกว่านั้นอุปสรรคที่คอยแยกตัวเมืองก็กลายเป็นสีแดงและเริ่มพังทลายลง
「บ้าเอ้ย!」
โนโวมุปล่อยพลังของเทียแมตออกมาโดยไม่ลังเล และพยายามปล่อยพลังเพื่อกลบออร่าของวิโทร่าขณะกระโดดถอยหลัง เขาพยายามหยิบไร้นามขึ้นจากพื้น
แต่ว่าวิโทร่าไม่สนใจเลยว่าจะถูกแผดเผา เธอเข้ามาในพื้นที่พลังของเทียแมตและคว้ามือของโนโซมุอีกครั้ง
「หวาาา !? สุดท้ายพลังของเจ้าก็น่าทึ่งจริงๆ แม้แต่ตัวฉันในปัจจุบันก็ยังเอาไม่อยู่……」
เมื่อประกายไฟระหว่างพวกเขาจุดประกายวิโทร่าดึงแขนของโนโซมุและปัดแขนอีกข้างของเขาออกไป
แหล่งพลังต้นกำเนิดของเธอที่กลายเป็นคมดาบโลหิตเข้าใกล้โนโซมุ
「หวาาาาาาา!?」
โนโซมุบิดตัวหลบกระแทกข้อศอกใส่วิโทร่า ขณะที่เธอคว้าแขนของเขาด้วยอีกมือขณะก้าวเข้ามา
เขาหลบช่องว่างระหว่างคมดาบ เขากระโดดขึ้นหมุนตัวและปลดปล่อย『ทะลวงแกนกลาง』เข้าไปในช่องท้องเธออีกครั้ง
「อั่ก!?」
แม้ว่ากำปั้นของโนโซมุจะแทงทะลุท้องเธอไปแล้ว แต่พลังของเทียแมตก็ไม่ได้กลืนกินและเผาร่างของเธอแต่มันจางหายไปเหมือนกับเทียนที่ดับลง
「อย่างที่คาดไว้เลยแม้จะเป็นตัวฉันในปัจจุบันก็ไม่สามารถดูดซับพลังของเทียแมตได้ แต่ว่าสามารถส่งคืนไปยังชีพจรมังกรได้」
「ส่งคืนชีพจรมังกร……」
「สงสัยอะไรงั้นเหรอ? ก็ตอนนี้เค้าเป็นวิญญาณแน่นอนว่าต้องถ่ายเทพลังต้นกำเนิดได้อยู่แล้ว?」
「ถ้างั้น!」
จากนั้นเขาก็กระแทกหมัดลงไปและอัดพลังของเทียแมตลงสู่พื้น
เปิดใช้งาน『ระเบิดทำลายล้าง』ในระยะเผาขนพัดทั้งโนโซมุและวิโทร่าออกไป
「อั่ก!」
「หวาาาาาาา!? ประมาทไปหน่อยแฮะ ไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้พลังของเทียแมตระเบิดในระยะประชิดเช่นนี้」
โนโซมุยืนขึ้นหลังจากกระดอนไปกับพื้น และเอื้อมมือหยิบไร้นาม
「ไม่ยอมหรอกนะ」
ทันใดนั้นพื้นดินสั่นสะเทือนและกำแพงสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้นปิดกั้นโนโซมุ
ในขณะเดียวกันพลังงานต้นกำเนิดสีแดงเกาะกิน『ไร้นาม』ที่ตกลงสู่พื้น และเธอก็หยิบดาบของโนโซมุขึ้นมา
「ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเอาดาบไปทำอะไร แต่จะให้คืนดาบฉันคงรับมือไม่ไหวแน่ๆ เพราะงั้นขอยึดไว้ก่อนนะ」
「อั่ก!」
「เอาล่ะได้เวลาเริ่มเกมอีกครั้ง และคราวนี้ฉันจะชนะให้ดู!」
วิโทร่าโยนไร้นามไปด้านหลังของเธอและใช้พลังของเธอใส่โนโซมุ
สิ่งที่ปรากฏขึ้นคือน้ำแข็งจำนวนมหาศาลที่ปกคลุมท้องฟ้า
การโจมตีที่ทำให้นึกถึงเวทย์วิญญาณของเทียแมตถูกปลดปล่อยใส่โนโซมุที่สูญเสียดาบอันเป็นที่รักไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เมื่อเผชิญหน้ากับวิโทร่าที่กลายเป็นวิญญาณสีแดงสด ไอริสและคนอื่นๆก็พูดไม่ออก
บุคคลที่เดิมทีมีพลังระดับภัยพิบัติธรรมชาติกลายเป็นวิญญาณที่ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก
ดูเหมือนว่าพวกเราจะทำได้แค่ลืมตามองความเป็นจริงตรงหน้า
「นี่คือตัวตนที่แท้จริงของเธองั้นเหรอ?」
「ครับ ถูกต้องแล้วครับ」
「เดิมทีก็เป็นสัตว์ประหลาดอยู่แล้วนี่สัตว์ประหลาดชุบแป้งทอดรึไง……」
ในขณะเดียวกันมาร์และซีน่าถามลูกาโต้
สุภาพบุรุษสวมแว่นตาข้างเดียวมองไปยังวิโทร่าซึ่งลืมตาตื่นด้วยอารมณ์อันลึกซึ้งและเริ่มตอบคำถามพวกเขาอย่างกระตือรือร้น
「อดีตนายท่าน พ่อของท่านวิโทร่าพยายามสร้างแวมไพร์บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อปกป้องทายาท แต่เมื่อได้พยายามผลิตทายาทอันสมบูรณ์แบบ แต่ก็ได้ของชำรุดมาครับ」
ตัวตนที่เหนือกว่าสมบูรณ์แบบ อดีตหัวหน้าตระกูลวาจาร์ตพยายามจะสร้างมัน
แต่ว่าก่อนที่จะได้สร้างมันให้เสร็จก็ถูกฆ่าตาย
สิ่งที่เหลืออยู่คือของชำรุดที่ขาดผู้สร้างมาต่อเติม
「สิ่งที่เขาต้องการคือความตายและความโลภอันรุนแรงที่หมุนวนอยู่ในจิตใจ นั่นคือสิ่งที่เหนือกว่าความตายนั่นก็คือการได้เป็นเหมือนดั่งพระเจ้ายามเมื่อตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าไม่มีวันบรรลุเป้าหมายที่ได้ทำไว้……」
ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายความคิดทั้งหมดของลูกาโต้จ้องมองไปยังชายหนุ่มดราก้อนสเลเยอร์ที่ไปปลุกตัวตนที่แท้จริงของเจ้านายของเขา
「ต้องขอบคุณท่านโนโซมุ เพราะงั้นนายท่านได้เป็นตัวตนที่อยากจะเป็น นั่นคือการเข้าใกล้พระเจ้า」
「บ้าเอ้ย……」
ในขณะนั้นความเจ็บปวดก็ไหลผ่านคอของเธอ ไอริสคุกเข่าลง
「พี่คะ!?」
「นี่ เป็นอะไรไปน่ะ!?」
「นี่มัน……」
ด้านหลังของรอยกัดที่สลักไว้บนคอของไอริสร้อนผ่าวราวกับเตาเหล็กที่มีไฟร้อนแรง
เศษพลังที่แล่นไปทั่วร่างกายของเธอในขณะที่มันถูกผนึกอยู่ทำให้ใบหน้าของเธอแสดงความเจ็บปวดออกมา
จากมือที่คอของเธอ มีเสียงน่าขยะแขยงปรากฏขึ้น ก่อนที่จะรู้ตัวเลือดก็ไหลออกมาจากซอกคอ
โซเมียและลิซ่าเริ่มทำการรักษา แต่เลือดยังไหลไม่หยุด
「ด้วยการตื่นขึ้นของนายท่านทำให้พลังที่อยู่ในตัวท่านไอริสสั่นพ้องงั้นเหรอ」
「……นี่ตั้งเป้าจะปล่อยให้เธอกลายเป็นวิญญาณแบบนั้นแต่แรกรึเปล่า?」
มาร์ตั้งข้อสงสัยแก่ลูกาโต้ที่กำลังตกตะลึง
ในทางกลับกันลูกาโต้ส่ายหัว ราวกับปฏิเสธคำพูดของเขา
「ไม่ กระผมแค่ทำหน้าที่นำพาท่านโนโซมุไปหานายท่านเท่านั้น ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเขาจะควบคุมพลังของเทียแมตได้อย่างเต็มที่ นับประสาอะไรกับการที่สามารถฆ่านายท่านของกระผมได้กันครับ……」
คำพูดของเขาที่มีต่อโนโซมุนั้นมีแต่ความประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าลูกาโต้ไม่ได้คิดว่าวิโทร่าจะแพ้โนโซมุและกลายเป็นวิญญาณ
「ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านโนโซมุน่าจะเป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในขณะเดียวกันนายท่านของกระผมเองก็ได้รับรู้ถึงประสบการณ์ใหม่ๆ หากนายท่านได้เติบโตขึ้นบ้าง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีสำหรับกระผมที่เป็นข้ารับใช้」
「แต่ว่ามันสร้างความเสียหายให้กับมนุษย์อย่างพวกเรานะ」
เมื่อเห็นลูกาโต้ดีใจมาร์ก็ขมวดคิ้ว
ในความเป็นจริงเขตการปกครองอาคาร์ซัมนั้นพังทลายไปแล้วจากพลังของวิโทร่า หากไม่ใช่เพราะกำแพงกั้นเมือง อาคาร์ซัมคงพังทลายจริงๆ
นอกจากนี้สิ่งกีดขวางเองก็เริ่มรับมือไม่ไหว
「เจ็บใจจริงๆ แต่ฝ่ายเรากำลังหมดแรงลงไปทุกที ต้องทำอะไรสักอย่าง เดี๋ยวจะไปไหนน่ะ?」
ในขณะเดียวกันไอริสยืนขึ้นด้วยใบหน้าซีดๆและสะบัดโซเมียกับลิซ่าและเริ่มเดินเข้าไปข้างใน
ด้วยความกังวลเกี่ยวกับท่าทางของเธอมาร์คว้าไหล่และจับเธอเอาไว้
「แฮ่ก แฮ่ก มาร์ปล่อยฉันไปได้ไหม?」
「ไม่ได้หรอกเฟ้ย นอกจากนี้ เธอคิดจะไปตายรึไง」
「ไม่รู้หรอกว่าจะไปตายรึเปล่า แต่ฉันไม่คิดว่าจะแพ้เลยสักนิด สิ่งกีดขวางเองก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว และพลังเวทย์ของลูกาโต้ซังก็อยู่ได้ไม่นาน」
มาร์เหลือบมองลูกาโต้แล้วเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย
「เอ่ออีกประมาณหนึ่งถึงสองนาทีก็ถึงขีดจำกัดแล้ว……」
「หากสิ่งกีดขวางพังทลายพวกเราก็โดนฆ่ากันหมด ถ้าเป็นเช่นนั้นสู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า」
「นั่นสินะครับ แม้แต่กระผมเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น……」
จู่ๆลูกาโต้เองก็พูดสนับสนุนไอริส มาร์ถอนหายใจออกมา
「ถึงจะรู้ว่าตัวเองอาจจะตายแต่ยังทำตัวสงบได้อีกนะ」
「ก็เสียใจอยู่หรอกครับที่ไม่สามารถปรนนิบัตินายท่านได้อีก แต่กระผมก็หวังว่านายท่านจะเติบโตขึ้นบ้าง และกระผมเองก็มีชีวิตอยู่มานานพอตัวแล้วไม่มีอะไรต้องเสียดายครับ」
ลูกาโต้ประกาศเช่นนั้นแม้ว่าต่อให้ตายก็ไม่เสียใจ แต่ไอริสเองก็ต้องไม่ยอม
「ฉันไม่อยากตาย และจะไม่ให้ใครตายด้วย」
「แล้วจะทำเช่นไร? พวกเราไม่สามารถเข้าไปที่นั่นด้วยพลังของนายท่านที่ปลดปล่อยอออกมาได้เลยนะครับ」
ไอริสยกแขนขึ้นด้วยความงุนงง
เมื่อหันความสนใจไปที่มันโซ่สีขาวแววาวลอยอยู่ในอากาศ
มันเป็นโซ่ตรวนผนึกวิญญาณที่โนโซมุสวมมันให้กับเธอเพื่อป้องกันจากพลังของวิโทร่า
「……ฉันมีวิธี」
เธอคว้าโซ่ตรวนผนึกวิญญาณ และเริ่มรวบรวมพลังของเธอเพื่อปลดปล่อยโซ่
「พี่คะ!?」
「ยัยบ้า คิดจะทำอะไรน่ะ? ก็รู้ไม่ใช่เหรอชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย!」
การกระทำของไอริสทำให้โซเมียและคนอื่นๆตกใจ
「ถ้าไม่มีพลังก็ทำได้เพียงแค่เอื้อมไปาหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาทดแทน……」
「มันเป็นไปไม่ได้หรอก ต่อให้เธอจะกลายเป็นแวมไพร์ได้สำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถเทียบเท่ากับนายท่านได้หรอกครับ」
เพื่อพลังด้วยการกลายเป็นแวมไพร์
มันเป็นการกระทำที่มุ่งหน้าไปยังสิ่งนั้น แต่ลูกาโต้ปฏิเสธ
ตัดสินได้จากการที่เธอถูกกัด เธอไม่สามารถทนพลังเวทย์ของวิโทร่าได้ ไม่มีโอกาสที่เธอจะตื่นขึ้นและกลายเป็นแวมไพร์
และตอนนี้วิโทร่าไม่ใช่แวมไพร์อีกต่อไปแล้ว
แวมไพร์ที่เพิ่งลืมตาตื่นจะทำอะไรได้บ้าง
ถึงกระนั้นไอริสก็ไม่สนใจ
「ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะสำเร็จหรือไม่ มันอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ทำ นอกจากนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง ฉันก็อยากจะอยู่ข้างๆเขา……」
เธอพบว่าตัวเองจ้องมองเขาด้วยความรักอันเอ่อล้นขณะที่เขากำลังต่อสู้กับวิโทร่า
ถ้าบอกว่าเธอกำลังร้อนใจก็คงบอกว่าใช่
ความรู้สึกที่เธอเคยคิดจะลืมเลือนความรู้สึกคลั่งรักที่ควรจะตัดมันทิ้งได้แล้วมันกลับมาพรั่งพรูอีกครั้ง
หัวใจของไอริสไม่สามารถหักห้ามให้รักเขาได้อีกต่อไป
「……ใช่ ฉันเองก็เช่นกัน」
ซีน่าเองก็ก้าวไปข้างหน้าราวกับเห็นด้วยกับไอริส
เธอเป็นเพียงเด็กสาวที่ได้รับความช่วยเหลือจากโนโซมุเพียงฝ่ายเดียว แต่เธอก็หลงรักเขาและตัดสินใจละทิ้งความฝันตัวเองเพื่อเขา
เธอเองก็มี “โซ่ตรวนผนึกวิญญาณ” มานานกว่าใครๆ
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเข้าใจพลังนี้ได้ดีกว่าใคร ซึ่งมากกว่าโนโซมุที่ตระหนักถึงตนเองได้ในตอนนี้
「ซีน่าจัง……」
「เขาได้ใช้โซ่ตรวนนี้เพื่อปกป้องเธอ ถ้าอย่างนั้นมันอาจจะตอบสนองกับพลังของเขาก็ได้」
ขณะที่เธอพูดเช่นนั้นซีน่าหลับตาลง ในที่สุดโซ่สีขาวบริสุทธิ์ผุดขึ้นบนร่างกายของเธอคล้ายกับไอริส
เธอลูบโซ่สีขาวที่ลอยอยู่ด้วยความรัก
จากนั้นโซ่ที่ผูกมัดร่างกายก็หลุดออกราวกับตอบสนองความรักของเธอ
「นี่คือความสามารถของโนโซมุคุง เขาใช้โซ่ตรวนนี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวความฝันของเราเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นพลังใหม่ที่ก่อให้เกิดปฏิหาริย์ เขาไม่ได้ใช้โซ่ตรวนเหล่านี้เพื่อผูกมัดพวกเราแต่เป็นการสานต่อความฝัน」
ในอีกแง่หนึ่งมันไม่ใช่『โซ่ตรวนผนึกวิยญาณ』อีกต่อไป
สิ่งนี้คือโซ่ตรวนที่รวบรวมฝันซึ่งแตกสลายเข้าด้วยกัน ใช่พวกเราควรจะเรียกมันว่า『โซ่ตรวนผนวกฝัน』
ซีน่าที่ซึ่งปลดโซ่ตรวนออก ปลดปล่อยพลังเวทย์ของเธอและทำพันธสัญญากับวิญญาณรอบตัว
วิญญาณที่หวาดกลัวพลังของวิโทร่ามารวมตัวกันและเกาะติดซีน่า
「ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ทุกอย่างจะโอเค」
เธอทำสัญญาระหว่างวิญญาณ
อาบไปด้วยแสงสีซีดๆที่เปล่งออกมาจากเหล่าวิญญาณเธอยื่นมือไปหาไอริส
「ยื่นมือมาสิคะ」
ไอริสยืนมือหลังจากได้รับคำแนะนำจากซีน่า เธอค่อยๆโอบมือเข้ารอบตัวของไอริสและหน้าผากของทั้งสองก็แตะกัน
พวกเธอทั้งสองเคยเชื่อมโยงกันยามที่โนโซมุควบคุมตัวเองไม่ได้
และวงจรวิญญาณยังคงอยู่
จากนั้นก็ขยายพลังเวทย์โดยใช้พลังวิญญาณเพื่อเชื่อมต่อวงจรวิญญาณให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
「ลองนึกถึงเขาสิคะ และความปรารถนาของตัวคุณเอง พลังของเขาจะตอบสนองต่อความต้องการของคุณอย่างแน่นอนค่ะ」
「อืม……」
พลังวิญญาณที่เติมเต็มหน้าอกของไอริสและซีน่า
ด้วยกำลังใจอันอบอุ่งที่พวยพุ่งออกมาไอริสมองลึกเข้าไปในจิตใจ
บางทีอาจจะเป็นเพราะอิทธิพลของเวทย์วิญญาณที่เชื่อมต่อกัน ทำให้ทั้งสองต่างเห็นภาพเหมือนกัน
ทิวทัศน์ของเมืองที่พังทลาย และผู้คนที่กำลังหนีตาย
สิ่งที่เธอหวังคือพลังที่จะชี้ทางไปสู่อนาคต
อยากจะปกป้องคนที่รักและเชื่อมโยงฝันของพวกเราเข้าด้วยกัน
โลกที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดอีกครั้ง ตรงหน้ามีคริสตัลสีแดงเข้มและโซ่พันรอบจากทุกด้าน
นี่คือพลังที่วิโทร่าส่งมอบมาเพื่อแปรเปลี่ยนไอริสให้เป็นแวมไพร์ และโซ่ที่โนโซมุใช้ผนึกพลังเพื่อปกป้องเธอ
เมื่อไอริสสัมผัสไปที่คริสตัล โซ่ก็คลายออกและพันรอบร่างกายเธอ
คริสตัลเริ่มเรืองแสงกะพริบและสภาพแวดล้อมที่มืดมิดเริ่มย้อมไปด้วยสีแดงเข้ม
เป็นสัญญาณว่าพลังของวิโทร่าเริ่มกลืนกินร่างของไอริสอีกครั้ง
แต่ตอนนี้ไอริสไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานจากพลังที่ซึมซับเข้าร่างกาย
มีเพียงความเชื่อมั่นและความเชื่อใจที่มีอยู่เต็มอก
เธอก้มหน้าลงและมองโซ่ที่คอยปกป้องเธอเอาไว้
(อยากจะทำอะไร?)
ราวกับว่าโซ่สีขาว『โซ่ตรวนผนวกฝัน』กำลังจะบอกเธอเช่นนั้น
「ฉันอยากยืนเคียงข้างเขาและปกป้องคนที่ฉันรัก เพื่อจุดประสงค์นั้น……」
ราวกับเพิ่มความมั่นใจ
ขณะที่พูดเช่นนั้นโซ่ได้คลายออกเป็นวงแหวนสีขาวนับไม่ถ้วนและเริ่มกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่สีแดงเข้ม
ขอบเขตการมองเห็นค่อยแปรเปลี่ยนเป็นสีขาว หลังจากนี้คริสตัลสีแดงเข้มก็ละลายหายไป
และอีกครั้งนิมิตของเธอได้มืดดับลง
「นี่มัน……」
สิ่งที่เธอได้เห็นคืออัสดงยามรุ่งอรุณ และดวงจันทร์ที่เปล่งประกายส่องแสงแม้เจอกับอัสดงยามเช้า
มันเป็นปรากฏการณ์ชั่วครู่ยามกลางคืนแปรเปลี่ยนเป็นกลางวัน
แต่น่าแปลกที่เธอไม่รู้สึกอะไร
ไม่มีแม้แต่ลม หรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ มันเงียบสงบราวกับเวลาหยุดลง
「ตั้งใจจะบอกว่าอะไร………? ไม่เป็นไรหรอกแค่ฉันไม่คุ้มคลั่งก็เพียงพอแล้ว」
ด้วยความมั่นใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไอริสได้มุ่งหน้าไป
ถ้าไปตามเส้นทางนี้
วินาทีถัดมา จันทรานั้นเปล่งประกายส่องแสงจ้ายามรุ่งอรุณ และแสงจันทร์ได้โอบอ้อมตัวเธอเอาไว้
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ภายใต้การโจมตีของวิโทร่าซึ่งกลายเป็นวิญญาณ โนโซมุที่สูญเสียดาบก็ไม่สามารถตอบโต้ได้
「อั่ก!?」
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
วิโทร่าใช้คมดาบโลหิตที่งอกมาจากแขนของเธอปลดปล่อยใส่โนโซมุ
ฟึบ ฟึบ คมดาบที่สูงกว่าวิโทร่าหลายเท่าเฉือนไปในอากาศ
ในขณะเดียวกันโนโซมุพยายามหลบการโจมตี แต่ก็ถูกหยุดโดยฝนน้ำแข็งที่กระหน่ำลงมา
นอกจากนี้เมื่อหยุดการโจมตีก็จะมีสิ่งที่เหมือนกับ『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』เข้ามาหาเขาอีกด้วย
「ยัยนี่!」
เขาปัดฝูงน้ำแข็งที่เข้ามาใกล้ด้วยระเบิดทำลายล้าง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งพลังของวิโทร่า
「โนโซมุหมอบลง」
「เอ๊ะ!?」
เมื่อเขาถูกต้อนจนมุมก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
คลื่นวายุสีเงินพัดผ่านหัวของโนโซมุซึ่งก้มตัวลง
หญิงสาวที่มีดาบสีเงินเป็นประกายเผชิญหน้ากับคมดาบโลหิต
สายตาของโนโซมุหันไปจ้องมองเธอ ผมยาวสีขาว และใบหน้าที่งดงาม
เหนือสิ่งอื่นใดดวงตาสีแดงเข้มและมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าทำให้โนโซมุเข้าใจได้ว่าเธอคือใคร
「ไอริส………..ทำไมกัน!」
คมดาบโลหิตเข้าใกล้ไอริส มันเป็นคมดาบที่คมมากสามารถแยกร่างของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย
ต่อหน้าคมดาบดังกล่าว ไอริสชักดาบออกจากเอว
คมดาบมิลธิลสีเงินเรืองแสงเฉกเช่นเดียวเส้นผมของเธอฟันคมดาบโลหิตที่เข้ามาใกล้
เมื่อเทียบกับคมดาบของวิโทร่ามันเหมือนกับดาบของเล่น
แต่ว่าทันทีที่คมดาบสีเงินได้สะบัดออกก็ถูกย้อมไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน
「「อะไรนะ!?」」
นอกเหนือจากโนโซมุและวิโทร่าที่ตกใจ ไอริสยังคงก้าวเข้าไปใกล้
พลังเวทย์มหาศาลปะทุขึนในเวลาเดียวกัน มันส่องสว่างสีดำและสีเงิน และเป็นปริมาณที่มากกว่าไอริสคนก่อน
นอกจากนี้เธอยังใช้เวทย์เสริมความสามารถด้วย『ปรับใช้ทันที』และก้าวเข้าหาวิโทร่าพร้อมปลดปล่อยออร่าอันรุนแรง
「บ้าน่า!?」
วิโทร่าหันหลังกลับและก็เห็นว่าดาบของไอริสได้สลักลงไปบนไหล่ของเธอแล้ว
เธอทำหน้าบึ้งพร้อมกับกระโดดถอยหลังพร้อมกับความเจ็บปวด
มันเป็นภาพที่แปลกตาซึ่งเธอที่กลายเป็นวิญญารแล้วจะได้รับบาดเจ็บ
「บ้าอะไรเนี่ย? นี่มัน……」
วิโทร่าพึมพำด้วยสีหน้าตกตะลึงขณะที่จับไหล่ที่มีแผล
หากมองใกล้ๆก็จะเห็นว่ายังมีเลือดสดๆไหลออกมาจากดาบของไอริส ใช่ บาดแผลที่สามารถรักษาได้ทันทีแม้จะโดนดาบของโนโซมุ
「ร่างกายของฉัน อย่ามาล้อกันเล่นนะ?」
เป็นครั้งแรกที่ความกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวิโทร่า
「เธอทำบ้าอะไร!? ไม่สิกลายเป็นตัวบ้าอะไรไปแล้วเนี่ย!?」
「จะไปรู้เหรอคะ………ฉันเองก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรในตอนนี้ เพียงแต่ว่าความปรารถนาของฉันนั้นเป็นจริงแล้ว ฉันมีพลังที่จะโค่นล้มเธอ」
ด้วยผมสีเงินที่พลิ้วไหวเพราะพลังเวทย์ ไอริสมองไปยังโนโซมุและยิ้มออกมา
「……หมายความว่ายังไง?」
ในทางกลับกันวิโทร่ามองไปยังโนโซมุ ดวงตาของเขาเองก็เบิกกว้างและงง
ในความเป็นจริงเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับไอริส
「นี่……」
「อึก!」
วิโทร่าเหวี่ยงแขนยาวๆและปล่อยพลังต้นกำเนิดสีแดงเข้มก้อนใหญ่ออกมา
กระสุนเวทย์จำนวนนับไมาถ้วนถูกปล่อยออกมาและทะลวงอยู่ฝ่ายเดียว
พลังของวิโทร่าถูกทำลายลงด้วยกระสุนเวทย์ที่มีดีแค่จำนวน
「ความแตกต่างของพลังนั่นมันอะไรกัน มันยังไม่พองั้นเหรอ……」
「พลังเวทย์นี้มันคล้ายกับเธอมาก ไอริสรับเอาพลังเวทย์ของเธอเข้าไปและกลายเป็นแวมไพร์งั้นเหรอ!?」
「แวมไพร์? ไม่จริงหรอกน่าพูดอะไรไร้สาระแบบนั้นล่ะโนโซมุ ฉันยังเป็นมนุษย์ปกติดีนะ……」
ไอริสยกริมฝีปากขึ้นด้วยนิ้วของเธอ
ฟันขาวๆที่เผยให้เห็นนั่นว่าเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน ไม่มีฟันสองซี่ที่แหลมคมซึ่งเป็นลักษณะของแวมไพร์
「……แล้วเธอกลายเป็นอะไรล่ะเนี่ย?」
「ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ดูเหมือนว่าพลังของฉันจะพุ่งไปจุดสูงสุดได้เมื่อได้สู้ร่วมกับโนโซมุนะ」
คำพูดที่พูดออกมาด้วยความเชื่อมั่น
แหล่งที่มาและพลังเวทย์ เหนือสิ่งอื่นใดวิโทร่าและไอริสมีความแตกต่างกันในด้านพลังอย่างสิ้นเชิง
แต่ว่าพลังของไอริสกลับถล่มวิโทร่าอยู่ฝ่ายเดียว
ราวกับว่าอัสดงยามเช้าเข้าตัดความมืดมิดยามค่ำคืน
「ในที่สุดก็มีพลังที่จะยืนเคียงข้างนายสักที ไปกันเถอะไปคว้าอนาคตของพวกเราด้วยมือคู่นี้」
คำประกาศที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ด้วยรูปลักษณ์ที่ชวนให้นึกถึงจันทราในยามรุ่งสางไอริสถือดาบบางๆที่มีแสงสีดำและสีเงินเปล่งประกาย
แดมเพียร์
เธอลืมตาตื่นขึ้นจากสายสัมพันธ์ที่พวกเราสร้างขึ้น และยืนหยัดเคียงข้างดราก้อนสเลเยอร์เพื่อคว้าอนาคต
รุ่งอรุณอันยาวนานอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ในที่สุดก็เดินทางมาไกลขนาดนี้แล้ว
วิโทร่าเองก็แข็งแกร่งขึ้น พลังของไอริสเองก็ตื่นขึ้นด้วยความสามารถของโนโซมุ
ตอนต่อไปน่าจะเป็นตอนจบของการต่อสู้อันแสนยาวนานนี่
ฟื้นฟูต้นกำเนิด
ความสามารถของวิโทร่า
เธอได้ใช้ความสามารถที่กระหายความตายเป็นชนวน ปลุกต้นกำเนิดของตัวเองและฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
มันเป็นความสามารถสุดหายากแต่ว่าก็ใช้ได้ครั้งเดียวในชั่วชีวิตของเธอ หลังจากฟื้นชีพขึ้นมาแล้วหากตายอีกรอบ ก็จะตายจริงๆ
วิญญาณโลหิต
วิโทร่าเป็นแวมไพร์ที่มีจิตวิญญาณ
เป็นวิญญาณนอกรีตที่แตกต่างจากวิญญาณทั่วไปที่มีลักษณะของธาตุทั้งหก และตัวเธอนั้นเป็นตัวตนที่แสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง
ในขณะที่ย้อมต้นกำเนิดด้วย「สี」ของเธอเอง เธอยังสามารถเชื่อมต่อกับชีพจรมังกรและมีพลังที่เหนือกว่าเหล่าวิญญาณทั่วไป
แดมเพียร์
เผ่าพันธ์ุใหม่ที่ไอริสดิน่า ฟรานซิส ได้กลายเป็นเพราะพลังของวิโทร่าและพลังของโนโซมุที่ตื่นขึ้น
ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด แต่ได้แสดงแล้วว่ามีพลังเหนือกว่าแวมไพร์ เช่น การที่เธอสามารถใช้กระสุนเวทย์บดขยี้พลัง ของ แวมไพร์วิโทร่าที่กลายเป็นวิญญาณโลหิต
ป.ล.ตอนหน้าตอนท้าย + ตอบจบแยกรูท 3 ตอน + DLC อีกสองสามตอน
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง