[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 159 บทที่ 8 ตอนที่ 16
บทที่ 8 ตอนที่ 16
「หวาาาาาาาาาาา……」
ในขณะที่เหล่าผู้หญิงยังถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศมาคุ โนโซมุยังคงเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้
ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้พลังคิและเสริมแกร่งทางกายภาพ การจ้องมองคนรอบข้างเขาเองก็ไม่สนใจ มันไม่ได้รบกวนสมาธิเขาเลย
เขาสามารถสู้ต่อไปได้อีกสองสามนัดการแข่งขันเลย
ในขระที่ยังคงตั้งจิตแน่วแน่ โนโซมุก็มองไปรอบๆ
รู้สึกได้ถึงความร้อนจากการเหลือบมองหลายๆครั้งกำลังมองหาจิตสังหารที่แตกต่างออกไปจากเหล่านักเรียน
ลมพัดผ่านสนาม กลิ่นของดินพัดเข้าจมูกจากพื้นดินที่ส่องประกาย และการปรากฏตัวของภูติที่โผล่มาในคืนนั้น
ต้องสัมผัสกับพลังภูติและควบคุมมันให้ได้โดยเร็วที่สุด
ตรงกันข้ามกับความคิดของเขา สัมผัสของวิญญาณนั้นเบาบางและไม่สามารถสัมผัสพวกมันได้ดีมากนัก
ข้อเท็จจริงนี้กระตุ้นให้โนโซมุงุดหงิด
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่ามนุษย์ธรรมดาสามารถสัมผัสภูติได้ก็ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ
「ฮ่าาาาาาห์!」
วินาทีถัดมามีกำปั้นเข้ามาจากด้านหลังโนโซมุอย่างรุนแรง
โรโซมุใช้ดาบสะท้อนกลับอย่างรวดเร็ว ปัดป้องกำปั้นที่เข้าหาเขา
「เควินงั้นเหรอ……」
เป็นเพื่อนร่วมปีเผ่าหมาป่าเงิน
เขาไม่ได้พยายามซ่อนจิตสังหารเลยด้วยซ้ำ และจ้องมองโนโซมุพร้อมกับตั้งการ์ด
「ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไปให้แกเอง」
เควินใช้ฟุทเวิร์ตซ้ายในการเริ่ม
ตามสิ่งที่เขาพูดโนโซมุยกดาบขึ้นตรงหน้า
ร่างกายและความคิดของโนโซมุที่อยู่ในโหมดสแตนด์บายกลายเป็นโหมดต่อสู้ในทันที
ในช่วงเวลาที่โนโซมุยืนยันเป้าหมาย เควินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
「ฮ๊ากกกกกกกกกห์!」
ชั่วขณะหนึ่งที่เขาปิดช่องว่างเข้ามาและชูกำปั้นขึ้น เขาเล็งไปที่คางของโนโซมุ
เมื่อกำปั้นทะลวงเข้ามาโนโซมุก็ใช้ดาบปัดป้องอย่างเงียบๆ
เคร้งงงงงงง! เสียงกระแทกดังสะเทือนไปทั่วสนามและพลังคิที่ติดอยู่กับมือของเควินก็กระจัดกระจาย
โนโซมุและเควินพลัดกันรุกรับแล้วหันกลับมาเผชิญหน้าตรงกลางอีกครั้ง
「ฟู่วววววว……」
เควินถอนหายใจด้วยความไม่พอใจ
ถ้ามองใกล้ๆจะเห็นว่าเควินได้รับแผลเล็กๆจากคมดาบของโนโซมุ ซึ่งคมดาบมายาทะลวงการป้องกันของเควินได้
เควิน อาร์ดินัล เป็นสัตว์ร้ายกระหายเลือดที่มีความภาคภูมิใจสูงส่ง แต่ความสามารถของเขาที่ไต่เต้าไปถึงแรงค์ A ไม่ใช่ของเล่นๆ
ทักษะการต่อสู้และประสบการณ์ที่ผ่านมา และเหนือสิ่งอื่นใดในฐานะเผ่าหมาป่าเงิน ยังคงส่งเสียงเตือนถึงอันตรายของศัตรูตรงหน้าเขา
เหนือสิ่งอื่นใดเขาได้เห็นการต่อสู้ของโนโซมุกับจิฮัดด้วยตาตัวเองแล้ว
ตอนนี้เขาไม่คิดจะดูถูกตัวตนของโนโซมุ เบลาตี้แม้แต่น้อย
แต่ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ครอบงำจิตใจเขาคือเขาไม่ชอบชายตรงหน้าที่เป็นศัตรูหัวใจของเขา
「ไม่ชอบเลยว่ะ ไม่ชอบแกเลยจริงๆ……」
เควินเปลี่ยนความโกรธให้เป็นจิตวิญญาณในการต่อสู้และซัดเข้าไปที่ศัตรูตรงหน้า
คิไหลเวียนไปทั่วร่างกล้ามเนื้อและฝั่งส่งเสียงแน่นเปรี๊ยะ
ดวงตาของโนโซมุหรี่ลงเล็กน้อย อาจสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอันแน่วแน่
ทันใดนั้นร่างกายของเควินก็พุ่งเข้ามาดั่งลูกศร
มันกลายเป็นคมเขี้ยวหมาป่าที่พุ่งเข้ามาเป็นเส้นตรง
ในทางกลับกันโนโซมุยกดาบขึ้นเพื่อปัดป้อง
เขาใส่พลังมากกว่าที่เคยลงไปในดาบจำลองและเปิดใช้งานก้าวพริบตา เขาพยายามฟาดมันลงไปในเวลาเดียวกับที่เควินเข้าประชิดตัวเขา
「ชิบหายเกือบไปแล้ว!」
แต่ว่าคมเขี้ยวนั่นก็ไม่ได้เข้าปะทะกับคมดาบ
สัญญาณสำหรับการสิ้นสุดชั้นเรียนดังขึ้น
ดาบของโนโซมุที่จะฟันไหล่และลำตัวของเควินและกำปั้นของเควินที่หยุดลงที่หน้าอกของโนโซมุ
「…………」
「…………」
โนโซมุและเควินมองหน้ากันพักหนึ่ง จากนั้นก็แยกจากกันและหันหลังให้กัน
「……ครั้งหน้า」
เควินหันหลังให้โนโซมุพูดเช่นนั้น
「ครั้งต่อไปที่ได้สู้กับแกจะบดขยี้ให้ได้เลยคอยดู」
การประกาศสงครามที่ชัดเจนอยู่เพียงฝ่ายเดียว
โนโซมุยังคงเดินต่อไปโดยสนไม่สนใจคำพูดของเควิน
แม้ว่ามันจะกวนใจเขาเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็มีความหงุดหงิดที่เข้ามาในหัวเขา
“ผมยังใช้ “มัน” ได้ไม่ดีพอ……”
สิ่งที่ครอบงำจิตใจของโนโซมุคือขุมพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา
เมื่อเขาเดินไปที่ขอบสนามฝึกซ้อมโนโซมุก็กลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปเก็บดาบใส่ฝัก
ไม่มีปัญหาด้านการควบคุมพลัง คิ สภาพร่างกายเองก็ดีเยี่ยม เนื่องจากหยุดฝึกซ้อมกับซอนเน่หนึ่งวันเต็ม วิชาดาบเองก็ใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตามความรู้สึกหงุดหงิดในอกยังคงไม่หายไป
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเหล่านักเรียนกำลังจะออกจากสนาม
ผู้มาเยือนเองก็มุ่งไปยังสถานที่ต่อไปเช่นกัน
ในขณะนั้นเองโนโซมุก็โดนเรียก
「ขออภัย นายคือ โนโซมุ เบลาตี้ใช่ไหม?」
เมื่อได้ยินเสียงโทนต่ำเชิงข่มขู่ โนโซมุเงยหน้าขึ้นและเห็นชายร่างใหญ่ตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นขุนนาง
อายุประมาณ สี่สิบปีงั้นเหรอ ตรงกันข้ามกับริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า ดวงตาและร่างกายที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีทำให้สร้างแรงกดดันออกมาโดยไม่ตั้งใจ
เป็นหนึ่งในขุนนางใหญ่ของประเทศฟอร์ซิน่า อีกอร์ต เฟบูรัล
แต่ว่า โนโซมุนั้นไม่ได้รู้จักเขาและอีกฝ่ายยังเป็นขุนนางอีก
อยู่ดีๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาทำให้เขาต้องระมัดระวังตัว
「ท่านคือ?」
「อืม ไม่รู้จักข้างั้นเหรอ ข้า……」
ก่อนที่อีกอร์ตจะเอ่ยนามของเขา ก็มีคนมาแทรกระหว่างกลาง
คือ ไอริส ดิน่า ที่เข้ามาแทรกบทสนทนา
เธอขัดจังหวะอีกอร์ตขณะที่มองหน้าเขา และเธอก็จ้องมองด้วยความระมัดระวัง
「ไอริส?」
「นานแล้วนะคะที่ไม่ได้พบกันท่านอีกอร์ต มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?」
「มันเป็นเวลานานแล้วนะ ไอริส ดิน่า ฟรานซิส ขอโทษด้วยแต่ข้าไม่มีธุระอะไรกับเจ้า ข้ามีธุระกับชายคนนั้น」
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกอร์ตในที่สุดโนโซมุก็ตระหนักถึงตัวตนของเขาได้
「อีกอร์ตงั้นเหรอ……」
「อีกอร์ต เฟบูรัล ขุนนางแห่งอาณาจักรฟอร์ซิน่า ข้าน่ะเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองของฟรานซิส」
บทพูดยั่วยุของอีกอร์ตทำให้โนโซมุมั่นใจมากขึ้น
「……แล้วมีธุระอันใดเหรอครับ?」
「ขอถามแบบตรงไปตรงมาเลยล่ะกันเจ้าจะทำอย่างไรกับพลังนั่น?」
โนโซมุไม่สามารถตอบได้ในทันที
ขุนนางคนนี้รู้อะไรเกี่ยวกับเขา และมากน้อยแค่ไหน
การมาหาอย่างกะทันหันและพูดอย่างคลุมเครือ ทำให้โนโซมุสงสัย
「……หมายถึงอะไรเหรอครับ?」
โนโซมุตัดสินใจจะหลอกทำเป็นไม่รู้เรื่องไปก่อน
ไม่คิดว่าจะต้องตอบคำถามที่มีความหมายจากคนที่ไม่รู้จัก
ในทางกลับกันอีกอร์ตจ้องมองโนโซมุ
โนโซมุขมวดคิ้วเมื่อเห็นการจ้องมองเช่นนั้นราวกับพยายามบังคับให้เขาเปิดปาก
อีกอร์ตมองโนโซมุครู่หนึ่ง แต่แล้วก็ถอนหายใจราวกับว่าผิดหวัง
「ตอบคำถามด้วยคำถามแบบนี้…………เป็นไอ้ชั่วอย่างที่คิดจริงๆสินะ」
「หมายความว่ายังไง?」
「ช่างเป็นคนที่น่าอดสูอะไรเช่นนี้」
ริ้วรอยบนใบหน้าของโนโซมุเริ่มมีมากขึ้นเมื่อได้ยินคำดูถูก
ในฐานะที่เพิ่งเจอหน้ากันแล้วโดนพูดใส่ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะอึดอัด
「ท่านอีกอร์ต นั่นเป็นคำที่หยาบคายมากสำหรับการพบเจอกันครั้งแรก ที่นี่คืออัลคาร์ซัมและอยู่ในช่วงเทศกาลเปิดสถาบัน ในสายตาของประเทศอื่นๆ ยังไม่มีใครกล้าเสียมารยาทเท่าท่านเลยนะคะ……」
ราวกับพูดแทนโนโซมุ ไอริสบ่นเช่นนั้น
ในทางกลับกันอีกอร์ตไม่สนใจและไล่ไอริสก่อนที่จะพูดจนจบประโยค
「หุบปากไปเลย พวกผู้หญิงที่ไม่รู้จักศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายน่ะ ผู้ชายน่ะมันต้องมีคำตอบไว้ในใจอยู่แล้วสำหรับเรื่องแบบนี้ ไอ้พวกที่ไม่เคยคิดถึงมันนั่นแหละเป็นแค่ไอ้เศษสวะที่ไม่เคยหาความหมายของชีวิต」
อีกอร์ตจ้องไปที่ไอริส
ไม่คุ้มที่จะกังวลอีกต่อไปแล้ว
「ไอริส ดิน่า เธอเองก็เช่นกันอย่าคิดจะแบกรับตระกูลไว้บนแขนเรียวบางนั่นน่าจะดีกว่านะ ถ้าทำแบบนั้นต่อไปไม่นานเธอก็คงถูกคารมคำหวานของผู้ชายแทะโลม……」
「ท่านอีกอร์ตดิฉันเป็นหัวหน้าตระกูลคนถัดไปของตระกูลฟรานซิส นอกจากนี้มันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ฉันเองก็ไม่มีทางให้เลือกหันหลังกลับหรอกนะคะ」
แม้จะเผชิญหน้ากับอีกอร์ตที่น่าหวาดกลัวไอริสก็ยังคงเหมือนเดิม ประกาศว่าจะรักษาศักดิ์ศรีและตัวตนของตนเองเอาไว้
「อืม ช่างโง่เขลา…………….จะไปคาดหวังอะไรกับผู้ชายที่ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้กันหะ ไม่ว่าพรสวรรค์และภูมิหลังจะดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถโชว์ความยิ่งใหญ่ของมันได้ ตัวเจ้าและเพื่อนของเจ้าไม่สมควรมาจมปลักกับไอ้ผู้ชายคนน-……」
「ตั้งแต่เจอหน้าก็พูดแต่เรื่องเห็นแก่ตัวมากเกินไปแล้วนะ……」
นั่นเป็นเหตุผลที่โนโซมุเริ่มทนไม่ไหวกับคำพูดของอีกอร์ต
ก่อนที่เขาจะรู้ตัว โนโซมุก็ยืนอยู่หน้าไอริสและจ้องมองอีกอร์ต
「……อะไรกัน?」
「ผมจำเป็นต้องตอบคำถามที่ถามออกมาอย่างกะทันหันและต้องบอกเบื้องลึกของผมให้ฟังจริงๆงั้นเหรอกับคนที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรก จะเวิ่นเว้อก็อย่าให้มันมากจะดีกว่านะ และการที่ต่อว่าผู้หญิงเนี่ยคือศักดิ์ศรีที่ภาคภูมิใจนักหนางั้นเหรอ?」
น้ำเสียงหยาบๆที่ไม่ธรรมดากับชายตรงหน้านี่เหมือนกับคนบ้า
ภาษาที่หยาบคายต่อขุนนางเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเหล่าคนสำคัญจ้องมอง นั่นเป็นเหตุผลว่ามันคงจะดีกว่าที่เขาไม่บ่นอะไรออกไป
อย่างไรก็ตามที่นี่คืออัลคาร์ซัมไม่สามารถใช้อำนาจของแต่ละประเทศแทรกแซงได้ ด้วยข้อแก้ตัวนั้นอำนาจทางขุนนางจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โนโซมุที่หายไปจากสายตาของอีกอร์ตยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้น
「เหอะ ไอ้คนอย่างแกมันก็ทำได้แค่หลบหลังผู้หญิงแหละวะ……」
「จะว่าอะไรผมก็จะเงียบปากทนฟังอยู่เฉยๆอยู่หรอกนะ แต่ถ้ายังดูถูกสหายของผมอีกต่อไปก็จงเตรียมใจไว้……」
「เหอะ………..คิดจะทำอะไรกันแน่…….ฮะ!」
ในวินาทีถัดมาคิจำนวนมากปกคลุมไปทั่วสนามฝึกซ้อม ในขณะเดียวกันก็เกิดแสงสีเงินจำนวนมากนับไม่ถ้วนวิ่งผ่านตาของอีกอร์ต
อีกอร์ตกลืนคำพูดลงไป ขณะในที่มีความรู้สึกเหมือนกับว่า คอ แขน ขา ลำตัว แยกออกเป็นสี่ส่วน
「…………」
หลังจากตัวแข็งไปสองสามวินาที อีกอร์ตก็ตรวจสอบทั่วร่างที่เป็นประกายสีเงิน
คอของอีกอร์ตยังคงติดกับลำตัวแขนขาเองก็เช่นกัน และไม่มีร่องรอยของการถูกฟันแต่อย่างใด ดาบของโนโซมุยังอยู่ที่เดิม ซึ่งเขาไม่ได้จับมันด้วยซ้ำ
แสงสีเงินที่เขาเห็นคือคมดาบของโนโซมุไม่ผิดแน่พร้อมกับจิตสังหารอันรุนแรงที่ถูกปลดปล่อยออกมา ตมดาบลวงตาได้ตัดผ่านร่างเขาไปหลายสิบครั้งราวกับจะบอกว่า “ถ้ายังพล่ามไม่หยุด ก็เตรียมตัวตาย”
ดาบที่หุ้มไปคินั้นหนามากจนไม่เพียงแต่อีกอร์ตที่รู้สึก แม้แต่ไอริสและแขกคนอื่นๆที่กำลังเฝ้าดูต่างก็เห็นภาพลวงตาว่าตัวเองถูกฆ่าตายจากจิตสังหารนั่น
「นะ โนโซมุ……」
ไอริสดิน่าที่โดนคิอันทรงพลังของโนโซมุส่งเสียงร้องออกมาโดยไม่ตั้งใจ
อีกอร์ตเองก็หน้าซีดและพูดขึ้น
「……เข้าใจแล้ว แกไม่ใช่พวกขี้ขลาดสินะ แต่ส่วนใหญ่ก็คงเป็นได้แค่หมาที่คอยรับใช้นายและแว้งกัดใส่ศัตรู อย่าได้ทอดทิ้งเจ้าของอย่างตระกูลฟรานซิสล่ะ ตระกูลนั่นมีแต่เรื่องเสียหายเยอะกว่าที่แกคิด」
อีกอร์ตที่พูดแค่นั้นก็รีบออกจากสนาม
เมื่อร่างของอีกอร์ตหายไป บรรยากาศตึงเครียดก็หายไปเช่นกัน
นักเรียนและบุคคลสำคัญต่างรีบออกจากสถานที่แห่งนี้เพราะจิตสังหารที่รุนแรงเกินจะรับไหวเห็นภาพลวงตาตัวเองถูกฟันขาดอยู่หลายรอบ เหลือบมองโนโซมุและคนอื่นๆ
「โนโซมุ ไม่เป็น……」
「ขอโทษที ไอริสผมผิดเอง」
「ไม่ ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้มันก็อยู่ในช่วงของเทศกาลเปิดสถาบัน ครอบครัวเฟบูรัลเองก็ไม่คิดว่าจะมาด้วย นอกจากนี้ไอ้พวกคนแบบนั้นน่ะมีอยู่ทุกที่」
ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมาก
ไอริสยิ้มขณะที่กล่าวเสริมแบบนั้น
จากข้อเท็จจริงดูเหมือนว่าจะไม่ต้องกังวลเป็นพิเศษ โนโซมุคิดว่าเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่
อย่างไรก็ตาม มีเงาเล็กน้อยที่เปลี่ยนบนสีหน้าของโนโซมุ
“หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้”
คำพูดในลักษณะเดียวกันกับวิคเตอร์ที่พูดใส่เขาก่อนหน้านี้มันบีบแน่นอยู่ในใจของโนโซมุ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
หลังจากออกจากสนามฝึกอีกอร์ตกลับไปที่สถาบันโซลมินาติและไปหาเม็กเลีย
「เม็กเลีย……」
「คิดอย่างไรบ้างคะ? กับดราก้อนสเลเยอร์……」
「แม้ว่าจะเป็นดราก้อนสเลเยอร์ตามที่เจ้าพูด แต่ในปัจจุบันมันก็ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่อะไรเพียงแต่……」
สิ่งที่ทำให้เขานึกถึงคือคมดาบคิที่ถูกปล่อยออกมา
แม้แต่สำหรับอีกอร์ตที่เคยเผชิญหน้ากับนักรบขุนนางหลายสิบคน มันก็เป็นแค่จิตสังหารที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และหากมันพุ่งเป้าไปยังคนธรรมดาทั่วไปก็ทำให้คนธรรมดาเห็นภาพหลอนได้
เขาไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นเพราะศักดิ์ศรีในตัวเขา ความภาคภูมิใจในฐานะขุนนาง และเหนือสิ่งอื่นใดความภาคภูมิใจในฐานะผู้ชาย แต่พูดตามตรงอีกอร์ตเองก็เหงื่อไหลไม่หยุด
ในขณะเดียวกันก็คิดว่า มันไม่ได้แย่นัก
「ดูเหมือนว่าจะสร้างความประทับใจต่ออีกฝ่ายไม่ได้สินะคะ……」
「เหอะๆ ในประเทศของเรามีจักรวรรดิดิซาร์ตทางตอนเหนือและจักรวรรดิเคร์มาโซนทางตอนใต้ ก็อีแค่ดราก้อนสเลเยอร์คนเดียวมันจะพอเร้อ นอกจากนี้ตามที่เป็นอยู่ดีแล้วที่ปล่อยมันอยู่ในตระกูลฟรานซิส」
ตามความเป็นจริงสถานการณ์ของฟอร์ซิน่าค่อนข้างน่ากลัว
ประเทศนี้ถูกประกบระหว่างขั้วอำนาจอันทรงพลังทางเหนือและใต้ และหากประเทศฟอร์ซิน่ามีดราก้อนสเลเยอร์ จักรวรรดิเคร์มาโซนซึ่งให้กำเนิดเหล่าดราก้อนสเลเยอร์จะตกอยู่ในความยากลำบาก
นอกจากนี้ยังไม่ามีความสัมพันธ์ทางการฑูติที่ดีต่อจักรวรรดิดิซาร์ต แต่เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการเริ่มเจรจา ซึ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างประเทศเกิดขึ้นเล็กน้อย
หากดราก้อนสเลเยอร์เกิดคลั่งในสถานการณ์เช่นนี้ บ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับดราก้อนสเลเยอร์ก็จะได้รับผลกระทบร้ายแรงสุด
「ปล่อยให้ไอ้เผด็จการนั่นเอาน้ำมันลาดกองไฟซะเลย」
「แน่ใจเหรอคะ?」
「เออสิ」
เขาพูดแบบนั้นกับเม็กเลียอีกอร์ตเพิกเฉยต่อคำพูดของเม็กเลียและเริ่มเดิน
ทำลายสถาบันซึ่งถูกสาปแช่งแห่งนี้ให้หายไปจากทวีปตลอดกาล
ตอนสุดท้ายของวัน ช่วงนี้จะไม่ขอฝืนร่างกายแล้วกันเพราะมันเริ่มส่งเสียงเตือนละ
ยังคงเป็นนิยายที่ยาวไม่เปลี่ยนไป และคงจะเป็นเรื่องที่ยาวที่สุดเท่าที่แปลมาตลอดไป
ป.ล.พรุ่งนี้ของดลงนิยายหนึ่งวันเพื่อฟื้นฟูร่างกายอันบอบบาง และจะกลับมาลงใหม่ในวันจันทร์ (จะไปเล่น Select Oblige ต่อ)
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง