[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 158 บทที่ 8 ตอนที่ 15
บทที่ 8 ตอนที่ 15
วันเทศกาลเปิดสถาบัน
ไม่เพียงแต่แค่เป็นการเปิดสถาบันโซลมินาติปีละครั้งเท่านั้น แต่ยังเป็นงานสำคัญสำหรับเหล่านักเรียนอีกด้วย
ในวันงานจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมในสถาบัน และผู้คนจากทั้งภายในและภายนอกประเทศจะเข้ามา
นักเรียนยังใช้โอกาสเหล่านี้ในการแสดงความสามารถและสร้างคอนเนคชั่นระหว่างผู้คนได้
ในแต่ละสนามฝึกที่ถูกจองเอาไว้จะมีกลุ่มนักเรียนห้าสิบคนและสุ่มนักเรียนที่เข้าร่วมและเปิดการประลองให้รับชมกันแบบสาธารณะ
เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลเปิดสถาบันไม่เพียงแต่จะมีผู้มาเยือนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีเหล่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่เป็นเหล่าขุนนางเข้ารับชม
ผู้ชมทั่วไปต่างชี้นิ้วและส่งเสียงเชียร์ในบางครั้งขณะดูเหล่านักเรียนนั้นกำลังฝึกซ้อม
ที่สนามฝึกซ้อมอื่นๆเองก็มีสถานการณ์แบบเดียวกัน
หนึ่งในสนามฝึกซ้อม ในบรรดานักเรียนปีสาม มีนักเรียนคนหนึ่งที่โดดเด่น
ลิซ่า เฮาวด์
เด็กสาวผมสีแดงเพลิงเป็นหนึ่งในตัวเต็งของชั้นปีที่สามและเชี่ยวชาญด้านการใช้เวทย์สองชั้นและเวทย์ไฟที่โดดเด่น
ตอนนี้เธอกำลังต่อสู้กับนักเรียนห้าคนของชั้นปีที่สาม
「โอร่าาาาาาาา!」
「ฮ๊ากกกกกห์!」
「ว๊ากกกกกกก!」
ลิซ่าปัดดาบยาวของเหล่านักเรียนที่ยื่นเข้ามาจากด้านข้าง
การโจมตีอันทรงพลังถูกปลดปล่อยจากแขนอันบอบบางของเธอ
ความสามารถทางกายภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยการใช้พรสวรรค์ประจำตัว “แม่มดเนวี่” ทำให้เธอแข็งแกร่งดั่งไซคลอปส์
อย่างไรก็ตาม นักเรียนคนอื่นๆไม่เพียงแค่โดนไล่ต้อนเท่านั้น
ขณะที่ลิซ่าชักดาบออก เธอก็ถูกกระสุนเวทย์หลายสิบนัดเข้าโจมตี
กระสุนเวทย์จำนวนมากที่ถูกปล่อยออกมา ในขณะที่ในมือซ้ายเธอถือกริซและก่อตัวเป็นเพลิงลูกใหญ่ ยิงใส่กระสุนเวทย์ที่จะเข้ามาถึงเธอ
มวลเปลวเพลิงที่พุ่งออกมาระเบิดและกลืนกินกระสุนเวทย์จำนวนมากที่เข้ามา เกิดแรงระเบิดสั่นสะท้าน นักเรียนที่อยู่ด้านหลังต่างปลิวกระเด็น
นักเรียนที่ลอยไปในอากาศถูกกระแทกเข้ากับพื้นในอีกไม่กี่วินาทีต่อ
โดนถล่มอยู่ฝ่ายเดียว
ไม่ใช่ว่านักเรียนปีสามนั้นอ่อนแอ
พวกเขาเป็นนักเรียนที่ได้รับการฝึกจากสถาบันแห่งนี้ และพวกเขาเองก็มีผลการสอบระดับต้นๆในการสอบพิเศษ
เพียงแต่ว่า ความสามารถของสาวผมสีแดงเพลิงมันเหลือล้นจนบดบังพวกเขา
「เป็นอะไรไป? มีดีแค่นั้นงั้นเหรอ?」
ขณะที่เธอถือดาบคู่ไว้ในมือ ลิซ่าก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
เมื่อคดีของเคนถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เธอนั้นถูกทรมานด้วยความผิดพลาดและความรู้สึกผิดต่อตนเอง ตัวเธอที่เศร้าหมองเหมือนกับต้นไม้ที่ตายไปแล้ว
一ในตอนนั้นลิซ่าที่ไม่ได้เหลียวมองตัวเองเลย แต่ตัวเธอในตอนนี้ไม่ได้คิดว่าตนเองนั้นอ่อนแอเสียด้วยซ้ำ
เพื่อเผชิญหน้ากับความฝันของเธอและพุ่งเข้าใส่มันอย่างมีชีวิตชีวา
「แฮ่ก แฮ่ก……」
ในทางกลับกันนักเรียนที่พยายามสู้กับลิซ่าก็รู้ถึงกำแพงที่ไม่สามารถก้าวข้ามได้และท้อกันมาก
「นี่ๆ ถ้ามามัวหมดแรงน้ำข้าวต้มในตอนนี้แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะเติบโตขึ้นกันเล่า」
「ลิซ่า เธอแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก ไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่พยายามสักหน่อยปัดโถ่ว」
คามิลล่าซึ่งรออยู่ข้างหลังลิซ่าถอนหายใจ
คามิลล่านั้นสแตนด์บายที่จะร่ายเวทย์ได้ตลอดเวลาเพื่อปกป้องคู่หู่ของเธอ แต่ไม่มีอะไรทำเพราะลิซ่าดันคึกจนเกินไป
「แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้จำลองก็เถอะนะแต่ถ้าไม่เล่นแบบถึงพริกถึงขิงมันก็ไม่ใช่การต่อสู้น่ะสิ」
「ถึงกระนั้นมันก็เกินไปแล้วย่ะ ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลหรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ เล่นใช้พรสวรรค์แต่หัววันในการบดขยี้ชาวบ้านเนี่ยมีใครที่ไหนเขาทำกัน……」
เดินทีสถานะภาพปัจจุบัน พลังเวทย์และพลังกายของเธอก็สูงกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว
ในทางกลับกันหากใช้ “แม่แมดเนวี่” ความสามารถของเธอจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แม้จะมีการจำกัดจำนวนการใช้งานและมีระยะเวลาคูลดาวน์ที่ค่อนข้างจะนาน ซึ่งปกติควรจะใช้ในยามขับคัน
ดังนั้นกลยุทธ์พื้นฐานของลิซ่าจนถึงตอนนี้คือการเปิดช่องว่างของฝ่ายตรงข้ามในขณะที่รักษาความได้เปรียบด้วยความสามารถที่เหนือกว่าด้วยพรสวรรค์ของเธอ เมื่อถึงเวลาต้องใช้งานเธอถึงจะค่อยบุกเข้าโจมตีอย่างดุเดือด
แต่เธอดันเล่นเปิดใช้พรสวรรค์ตั้งแต่เริ่มงานไม่คิดถึงการออมแรงเลยแม้แต่น้อย และเธอพยายามเอาจริงตั้งแต่เริ่มแข่ง
คามิลล่ารู้ว่าลิซ่านั้นพยายามขึ้นมากหลังจากได้คืนดีกับโนโซมุ แต่เธอก็เริ่มกังวลหน่อยๆ
「ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเป็นเทศกาลไหม เพราะยังไงฉันก็อยากจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองในตอนนี้ หากมัวแต่เหลาะแหละและไม่ยอมทำ เมื่อไรจะได้ไปถึงจุดหมายที่ใฝ่ฝันกันล่ะ」
ในทางกลับกัน ลิซ่าที่โดนตำหนิ ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง
ในส่วนของเธอ เธอต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดในวัยที่ยังสามารถเติบโตต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงทุ่มเทเต็มที่แม้ว่าจะเป็นการซ้อมก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนความสามารถของตัวเอง
แม่มดเนวี่ นั้นมีศักยภาพที่จะเอาชนะศัตรูที่เหนือกว่าได้อย่างเพียงพอ
สิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอสามารถหยุดการโจมตีสุดท้ายของโนโซมุซึ่งคุมตัวเองไม่ได้ตอนที่โจมตีใส่อาเซล
และเนื่องจากเธอมองเห็นศักยภาพที่จะแข็งแกร่งมากขึ้น ลิซ่าจึงมั่นฝึกฝนในการใช้แม่มดเนวี่
บางครั้งเธอก็ฝึกจนพลังเวทย์หมดไปข้างหนึ่ง หรือเธอก็สลบไประหว่างใช้งาน แต่นั่นไม่ได้หยุดตัวเธอจากการใช้งานมันอย่างต่อเนื่อง มันไม่ได้เสียหายถึงตายดังนั้นเธอจึงฝืนใช้ต่อไปเพื่อหวังที่จะเติบโตขึ้น
แม้ว่าจะล้มเหลว แต่สภาพแวดล้อมที่อยู่นี้ก็เหมาะแก่การเติบโตของเธอ และตอนนี้เธอยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สามารถลองผิดลองถูกได้ เป็นเรื่องปกติที่เธอจะพยายามมากขึ้น
「นอกจากนี้ ฉันไม่อยากมาเสียใจอีกแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง นั่นคือ “การผจญภัย” ของฉันในช่วงนี้ยังไงล่ะ」
สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ลิซ่าคือเธอไม่อยากวิ่งหนีจากตัวเองอีกแล้วตลอดสองปีที่ผ่านมา
และตัวเขาเองที่ให้โอกาสแก่เธอนั้น เธอไม่อยากให้ความรู้สึกของโนโซมุต้องมาสูญเปล่า
ในการทำเช่นนั้น ต้องฝึกฝน “รากฐาน” ของเราขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยเป้าหมายนั้น เธอสะบัดดาบที่ถืออยู่ในมือทั้งสองข้าง
ความหลงใหลของเธอเป็นสิ่งที่ผลักดันตัวเธอจนถึงทุกวันนี้
รอยยิ้มของเธอที่พูดถึงการก้าวข้ามขีดจำดัดของตัวเอง ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ
รอยยิ้มที่มีชีวิตชีวาไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มันทั้งหดหู่และแสนเศร้า เป็นรอยยิ้มที่สดใสดั่งท้องฟ้า รอยยิ้มที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนคามิลล่าและเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอ
「ถ้างั้น ใครอยากจะสู้กับฉันอีก?」
「ถ้างั้นพวกเราเป็นไง?」
เสียงของบุคคลที่สามดังก้องไปทั่วสนาม
คำพูดของลิซ่าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งการท้าทาย ได้รับการตอบรับจากเด็กผู้หญิงเผ่าแมวป่าที่อยู่ห้องสอง
ข้างๆยังมีเอลฟ์ที่ทำสีหน้าลึกลับ
「มิมูรุจัง ซีน่าจัง……」
「เฮ้อ อดไม่ได้ที่จะสนใจในความสามารถของเจ้าหญิงแห่งเปลวเพลิง รอยยิ้มแบบนั้นหากใครเห็นก็ต้องคลั่งไคล้สินะ」
「ปากก็บอกว่าจะไม่ลดความระมัดระวังลง? แต่ท่าทางดูเตรียมพร้อมเชียวนะ」
「ก็มันเป็นสิ่งที่ต้องทำนี่น่า!」
เธอควงกริซในมือมิมูรุยิ้มทำให้ลิซ่าระมัดระวังตัว
ในทางกลับกันลิซ่ายังคงยกดาบคู่ของเธอขึ้นเพื่อตอบสนองจิตวิญญาณของมิมูรุ
ผู้ดูแลสนามฝึกยกมือขึ้นและให้สัญญาณ
「ย๊ากกกกกกกกกกห์!」
มิมูรุเป็นฝ่ายเปิดก่อน
เสริมพลังกายด้วยคิ และเปิดใช้งานก้าวพริบตา ด้วยอาวุธสุดคล่องแคล่วเฉพาะตัวประจำเผ่าเธอเข้าใกล้พยายามปิดช่องว่างในทันที
แต่ว่าลิซ่าเองก็รับมือด้วยความรวดเร็ว
เธอถือดาบในมือซ้ายด้วยมืออีกข้างหนึ่งร่ายเวทย์สร้างกระสุนเพลิงขึ้นมา จากนั้นก็ยิงใส่มิมูรุที่พุ่งเข้ามา
กระสุนเพลิงที่ถูกปล่อยออกมาเล็งเข้าหามิมูรุอย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ลิซ่ายังใช้แม่มดเนวี่เพิ่มผลพลังเวทย์เป็นสองเท่าซึ่งกระสุนเพลิงใหญ่เท่าหัวคน
ในทางกลับกันมิมูรุไม่ได้สนใจกระสุนเพลิงที่เข้ามาและก้าวไปข้างหน้า
ท้ายที่สุดแล้วก็มีบาเรียเข้ามาป้องกัน ต้องใช้พลังเวทย์ไปจำนวนหนึ่งในการใช้แม่มดเนวี่ แต่เพื่อนที่คอยซัพพอร์ตก็คงไม่มีปัญหาในการจัดการเรื่องนั้น
「ซีน่า ขอบคุณสำหรับบาเรียจ้า!」
ราวกับตอบสนองต่อเสียงของมิมูรุ ซีน่าที่ยืนอยู่ด้านหลังยิงลูกธนูที่เต็มไปด้วยพลังเวทย์
ลูกธนูลอยออกมาพร้อมกับแสงพลังเวทย์สีน้ำเงินทะลุตรงกลางกระสุนเพลิงที่เข้าใกล้มิมูรุ
ทักษะการยิงธนูของซีน่านั้นเป็นที่เรื่องลือในสถาบันนอกจากนี้ลูกธนูที่ถูกเสริมพลังแล้วยังมีพลังในการทะลวงเหล็กกล้าอีกด้วย
ไม่ว่าแม่มดเนวี่จะเพิ่มพลังเวทย์เป็นสองเท่า ก็สามารถบดขยี้กระสุนเพลิงนั่น…..ซึ่งควรจะเป็นแบบนั้น
「ห๊ะ?」
「อาเระ?」
ลูกศรกลับลุกไหม้และกระสุนเปลวเพลิงก็พุ่งเข้าหามิมูรุจากด้านหน้าและระเบิด
「อะจ๊ากกกกกกกกกกก ไฟไหม้แล่ว ไฟไหม้แล้ววววววว หางฉานนนนนนนน!」
มิมูรุตะโกนขณะที่ลมร้อนๆถูกปลดปล่อยมาในระยะประชิด
นอกจากนี้เปลวไฟที่ลอยขึ้นยักลุกลามไปที่เส้นผมและหางของมิมูรุ ซีน่า ลิซ่า และคามิลล่าเห็นมิมูรุพยายามดิ้นรนเพื่อดับไฟ
โชคดีที่ไฟดับได้อย่างรวดเร็ว แต่ผมและหางของมิมูรุกลายเป็นเส้นกรุบกรอบ
「อะหวาหวาหวา ผมฉ้านน หางฉ้านนนนนนน~」
「เอ่อ เอ่อ โทษทีดูเหมือนฉันจะพลาดไปหน่อย ฮุฮุ……」
ในขณะที่มิมูรุกำลังคร่ำครวญกับเส้นผมและหางของเธอที่เสียรูป คามิลล่าเองก็เริ่มร่ายเวทย์รักษา
ผมที่เผาไหม้และขนหางไม่ได้งอกขึ้นมา แต่รอยไหม้หายไปอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ไม่ว่าจะเพิ่มพลังมันมากแค่ไหนมันก็ยังอยู่ในระดับกระสุนเพลิงธรรมดาอยู่
「เกิดอะไรขึ้นเนี้ยว~? ลูกธนูของซีน่าที่ร่ายเวทย์ไว้ไม่น่าจะมีปัญหานี่เมี๊ยว~」
「อะ-อืม ฉันก็ว่าฉันเล็งเข้าเป้าและลูกศรเองก็ติดตรงเป้าหมายอย่างแน่นหนา แต่ความรู้สึกไม่สบายใจนี่มันอะไรกันนะ……?」
「เอ่อถ้างั้น……」
มิมูรุที่กำลังหดหู่ใจกับเส้นผมและขนหางของเธอแสดงความสงสัยต่อลิซ่า
ในทางกลับกันซีน่าก็พูดอะไรไม่ออกและกำลังแวกว่ายไปในอากาศ
เป็นท่าทางที่กระตุ้นความไม่ไว้ใจอย่างชัดเจน
「เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เหมือนจะมีกลิ่นเลือดมาจากร่างของซีน่าเมื่อวันก่อน……..อาร่าเข้าใจแล้ว!」
「เอ่อ……」
มิมูรุปรบมือราวกับนึกอะไรออก
ร่างกายของซีน่าสั่น
หากมิมูรุรู้ถึงสนธิสัญญาโลหิตระหว่างซีน่าและโนโซมุ เธอจะต้องเผยแพร่ข้อมูลไปทั่วสถาบันแน่นอน
หากเป็นแบบนั้นก็จะเข้าหูของโนโซมุด้วย
มันเป็นสถานการณ์อันแสนเลวร้ายสำหรับซีน่า ที่ไม่ต้องการให้โนโซมุรู้ความหมายของพันธสัญญาโลหิต
「ซีน่า ทำไมถึงไม่มาปรึกษาฉันล่ะ? ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็ไม่พูด……」
อย่างไรก็ตาม แม่ซีน่าจะกังวล แต่มิมูรุมีสีหน้าจริงจังและวางมือบนไหล่ซีน่า
ซีน่าหายใจไม่ออกจากบรรยากาศอันแสนอ่อนโยนจากเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งแตกต่างกันคนละขั้ว……。
「นี่เธอเป็นประจำเดือนสินะ สินะ สินะ สินะ (ตะโกน)!?」
「ไม่ใช่เว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยค่ะ!」
「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」
และแล้วเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
เมื่อเธอขึ้นเสียงก็เอามือฟาดหัวของมิมูรุโดยไม่ตั้งใจ แต่นั่นก็ช่วยไม่ได้
สำหรับซีน่าที่กำลังดิ้นรนต่อความรู้สึกผิดและเขินอายที่มีต่อโนโซมุ หากเธอสารภาพไปกับเขาซึ่งเธอกังวลว่าจะได้เป็นที่หนึ่งหรือที่สอง
「……ไม่ใช่เรอะ?」
「ไม่ใช่เลยสักนิดย่ะ! ทำไมถึงคิดอะไรแบบนั้นหะ? หรือมากกว่านั้นทำไมถึงพูดออกมาดังๆว๊าาาาาาาา!」
ซีน่าและมิมูรุตอนนี้กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ไม่ใช่จากเหล่านักเรียนแต่ยังมาจากเหล่าผู้มาเยือนด้วย (T/N:ขายหน้าประชาชีเลยทีนี้)
บางคนระเบิดหัวเราะออกมาขณะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
ใบหน้าของซีน่าเต็มไปด้วยความเขินอายเมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองจากคนรอบข้าง
ในสถานการณ์ที่มีนักเรียนมากมายล้อมรอบตัว เป็นเรื่องธรรมดาที่จะพูดคุยเรื่องเฉพาะเจาะจง
「อืม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้……」
「ยังไงก็ตาม เสียงดังๆของซีน่าก็เป็นที่ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างด้วยแหละนะ…….!」
「หนวกหูน่าาาาาาาาาาาาาาา(ตะโกน)!」
ซีน่าที่ผิวขาวตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงเข้มเพราะความเขินอายขณะบีบหูมิมูรุ
มิมูรุพูดถูก เพราะส่วนหนึ่งก็มาจากการตะโกนของซีน่า
「แม้ว่าจะเป็นวันเปิดสถาบัน ก็ยังคึกครื้นดีนะ」
「เพียงแต่ว่ามิมูรุนั่นแหละตัวปัญหา เป็นตัวปัญหาของจริงเลย」
「งั้นเหรอ? แต่พวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่ใช่รึไง」
คามิลล่าที่เฝ้าดูมิมูรุกับซีน่ายิ้มอย่างมีความสุข
เมื่อสังเกตเห็นสายตาอันอบอุ่น มิมูรุและซีน่าก็เลยฟัดกันและยอมปล่อยตัวมิมูรุในที่สุด
มิมูรุที่โดนหยิกจนหูบวมกำลังขยี้หูขณะน้ำตาคลอเบ้า
ถึงกระนั้น สำหรับตัวซีน่าเอง คำพูดของคามิลล่าทำให้เธอไม่พอใจเล็กน้อย
ในทางกลับกันมิมูรุกล่าวว่า “ไม่เห็นต้องเล่นกันแรงขนาดนี้”
ถึงกระนั้นก็ไม่มีท่าทางแห่งความมืดมนเลย
รอยยิ้มของคามิลล่ายิ้มมากขึ้นไปอีกบรรยากาศอันแสนสงบ
「นี่ ลิซ่าเองก็คิดแบบนั้นใช่ไหม?」
「……เอ๊ะ อะไรเหรอ?」
คามิลล่าที่ถามความเห็นของลิซ่า แต่ดูเหมือนลิซ่าจะใจลอยและจ้องมองสนามฝึกข้างๆมากกว่า
「ลิซ่า เกิดอะไรขึ้น……..อาระ ฉันเข้าใจแล้ว」
「เอ๊ะ อะไรอะ……」
ในระยะสุดท้ายของสายตา เธอเห็นโนโซมุกำลังต่อสู้จำลองที่สนามข้างๆ
นักเรียนมากกว่าสิบคนระมัดระวังและพวกเขากำลังสู้กันด้วยดาบจำลอง
ในหมู่พวกเขา ตัวโนโซมุนั้นโดดเด่น
จำนวนนักเรียนที่อยู่รอบๆเขาคือห้าคน น่าแปลกที่เป็นจำนวนเช่นเดียวกันกับลิซ่า
โนโซมุจัดการพวกเขาในฉับเดียว
ไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า และยังคงความสงบในการใช้ดาบได้อย่างสมบูรณ์
ในขณะที่ปัดดาบจำลองที่เข้ามาจากด้านหน้าเขาก็กระแทกดาบอีกเล่มที่ถูกปัดไปจากด้านข้าง
จากนั้นเขาก็เข้าไปทางด้านหลังของพวกเขาและปล่อยพลังคิใส่คู่ต่อสู้
นอกจากนี้ยังสกัดกั้นการโจมตีของอีกสามคนที่ยังเคลื่อนไหวไปรอบๆ เขาพยายามใช้ประโยชน์จากช่องว่างของโนโซมุที่ปล่อยพลังคิ แต่โนโซมุไม่รอช้าใช้คลื่นกระแทกกระโดดดีดตัวกลับหลัง
เขาฟันดาบจำลองทั้งหมดที่เข้าหาเขาด้วยดาบเล่มเดียว
เมื่อเห็นเช่นนั้นเหล่าผู้มาเยือน ไม่เพียงแต่คามิลล่ายังตกใจ
「ตามปกติแล้วมันแข็งมากเลยไม่ใช่เหรอ แต่เขาสามารถทำให้ดาบที่ถูกทำมาให้แข็งบิ่นไปทั้งหมดเนี่ยนะ」
「เพราะแบบนั้นก็เลยเผลอทำลายสามัญสำนึกของดาบจำลองทั่วไปแล้วน่ะสิ~」
คามิลล่าและมิมูรุต่างชื่นชมด้วยความหวาดกลัว
ในทางกลับกันลิซ่ายังคงมองโนโซมุ
「เอ๊ะ? ลิซ่าสีหน้าแบบนั้นมันอะไรกันนะ」
「เอ๊ะ มันรู้สึกแปลกๆน่ะแบบว่า……」
ด้วยคำพูดเช่นนั้นลิซ่ารีบเอามือปิดหน้าในทันที
อย่างไรก็ตามมิมูรุที่ไม่ทราบถึงความไม่สบายใจของลิซ่าที่มีต่อโนโซมุก็ส่ายหัว
「เฮ้อ? ก็เป็นความจริงล่ะนะที่วิชาดาบของโนโซมุนั้นประหลาดเอามากๆ」
「ตอนนี้ฉันรูัสึกอึดอัดมากเลย……….ซีน่าล่ะรู้สึกยังไงเหรอ?」
ลิซ่าที่ไม่สามารถอธิบายมันออกมาเป็นคำพูดได้ก็ได้แต่ถามซีน่าที่อยู่ข้างๆ
แต่ว่าซีน่ากำลังจ้องมองที่มือขวาของเธอโดยไม่สนใจเสียงเรียกของลิซ่า
นิ้วสีขาวเรียวมีสะเก็ดสีแดงดำเป็นก้อนหนึ่ง มันเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างทำพันธสัญญาเลือด
「……ซีน่าจัง?」
「……เอ๊ะ ถามว่าไงเหรอ?」
「เอ่อซีน่ามือเธอมีแผลอยู่นี่ แล้วไปโดนอะไรมาถึงเป็นแผลแบบนั้น?」
「เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก แล้วมีอะไรงั้นเหรอ?」
เมื่อสังเกตเห็นรอยแผลเป็น มิมูรุเข้าหาซีน่าและซีน่าสบัดมือที่เป็นแผลไปทางด้านหลังและมองเธอด้วยความตกใจ
「มีอะไรงั้นเหรอ ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วงั้นเหรอ?」
「เอ๊ะใช่ ในระหว่างการต่อสู้จำลองเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาไง……」
「แต่รอยแผลมันดูไม่ใหม่เลยนะ?」
「เอ่อคือ……」
อ๊ะーーーー。
มิมูรุจ้องมองสีซ่าด้วยใบหน้าใกล้ๆราวกับจะฟังเสียงของเธอ
ด้วยสายตาที่จ้องราวกับจะสืบค้นซีน่าถอยหลัง
「เอ่อ ทำอะไรน่ะ……」
「ท้ายที่สุดแล้วซีน่าก็ทำตัวแปลกๆตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มาทุบหัวฉันด้วยกำปั้นที่เหมือนกับเหล็กนั่น แถมยังดึงหูฉันอีก เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นฉันก็พูดถึงเรื่องที่ฉันได้กลิ่นเลือดของซีน่าจากบ้านของไอริส ตอนที่เธอกำลังกลับมาที่ห้องในตอนดึก…..อ๊ะ」
ราวกับว่าติดใจอะไรบางอย่างมิมูรุปรบมือ
「เอ๊ะ หรือว่าจริงๆแล้วเป็นแบบนั้นเองเหรอ? ซีน่ากำลังป่วยอยู่ใช่ไหม?」
「เอ๊ะ ว่าไงนะ」
「ไม่เป็นไรใช่ไหม? เลือดหยุดไหลยัง? เดินลำบากไหม ขอโทษที่ฝืนนะ?」
「มันน่าขยะแขยงนะที่จู่ๆก็มาทำใจดีใส่ นอกจากนี้ดูเหมือนจะเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะ?」
「วันนี้ต้องหุงข้าวแดงฉลองแล้ว!」
「ข้าวแดง? อะไรล่ะนั่น?」
「ในตะวันออก เพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งความสุข จะใช้เมล็ดข้าวที่กลายเป็นสีแดงหุงเพื่อรับประทานกัน ถ้าไม่มีเมล็ดข้าวใช้ขนมปังแทนก็ได้?」
「แล้วต้องแสดงความยินดีเรื่องอะไร?」
「แน่นอนว่าฉลอง ซีน่ากับโนโซมุ ที่ ไ ด้ เ สี ย กั น ใ น คื น นั้น!」
「ไม่、ได้、ทำ、อะ、ไร、แ、บ、บ、นั้、น!」
「ซีน่า หูฉ้านนนนนนนนนนนนนนนนนน~~!」
ซีน่าบิดหูของมิมูรุที่พูดอะไรไร้ยางอายออกมาอย่างสุดกำลัง
อย่างไรก็ตามใบหน้าของซีน่านั้นแดงแจ๋เมื่อได้ยินเรื่องแบบนั้น
สำหรับเธอที่ได้ทำพันธสัญญาโลหิตแล้วถือว่าเป็นเรื่องน่าอาย แต่หากบอกว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ทางร่างกายมันน่าอายยิ่งกว่าอีก
「อย่างไรก็ตาม ใบหน้าแดงแจ๋แบบนั้นคือหลักฐานสินะ?」
เมื่อดูการพูดคุยระหว่างเพื่อนสนิทลิซ่าพึมพำ
ในการตอบคำถามของลิซ่ามิมูรุมองไปบนท้องฟ้า
「……หุงข้าวแดงกันเลยดีมะ?」
「ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องน่ายินดี แต่จะให้เธอได้กินพริกแทนที่จะเป็นข้าวแดงนี่แหละ?」
「อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย……」
เห็นได้ชัดว่ามิมูรุไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมข้างแดงของทางตะวันออก
ซีน่าสงสัยว่าเธอพูดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่รู้อะไรหรือเปล่า แต่เธอก็ยังคงตกใจ
ในขณะนั้นก็มีหญิงสาวที่มีผมสีขาวเดินมาจากสนามฝึก
「พวกเธออยู่ที่นี่กันเองเหรอ」
「อะ ไอริสดิน่า จะมาฝึกต่อสู้จำลองเหรอ?」
「อากับนักเรียนปีสี่ โนโซมุล่ะคะ……」
ไอริสเข้าร่วมการฝึกเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
ผมของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาวเนื่องจากใช้พลังเวทย์มากเกินไปและเมื่อถึงจุดหนึ่งเธอก็กังวลเกี่ยวกับปัญหาบุคลิกภาพของเธอและไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้จำลองที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดสถาบันเธอเลยมาเข้าร่วมด้วย
「ไม่แพ้ใครมาห้าคนแล้ว ตอนนี้กำลังจัดการกับอีกห้าคน」
「งั้นเหรอคะ……」
ในตอนท้าย เธอเห็นโนโซมุที่กำลังถล่มคู่ต่อสู้เฉกเช่นวันวาน
เห็นได้ชัดว่าเขายังคงใช้คมดาบมายาแต่ลดพลังลงจนถึงขนาดต่ำสุดและใช้ประโยชน์จากแรงของฝั่งตรงข้าม
ในความเป็นจริงภาพของโนโซมุในการต่อสู้จำลองก็ได้สร้างสถานการณ์แปลกๆมากมายอย่างการทำให้ดาบจำลองที่ทำด้วยเหล็กกล้าบิ่นได้ง่ายๆ และยังควบคุมศัตรูจำนวนมากได้ด้วยตัวคนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น สภาพของโนโซมุยังดูสมบูรณ์พร้อม
คมดาบมายายังถูกหุ้มอยู่ที่คมดาบและมันถูกเสริมพลังแค่เล็กน้อยเท่านั้น
เขายั่วยุฝ่ายตรงข้ามและแสดงสิ่งที่เหนือชั้นออกมาและกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะตั้งหลักได้
ยิ่งไปกว่านั้นยังปรับเปลี่ยนสถานการณ์ที่่เป็นห้าต่อหนึ่ง ให้เป็นหนึ่งต่อหนึ่ง
ในแง่ของการต่อสู้จำลองเรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดี แต่เป็นภาพที่น่าสงสารสำหรับนักเรียนที่ถูกบังคับให้ต่อสู้เหมือนตัวตลกแบบนี้
「อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่ฉันทราบมาดูเหมือนโนโซมุจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ」
「เอ๋?」
ขณะที่มิมูรุสงสัย ไอริสเท้าคางและชี้ไปยังสนามฝึก
มีบุคคลสำคัญที่แต่งตัวดีจากประเทศต่างๆ
แม้จะมีผู้มีเกียรติจำนวนมากที่คอยจับจ้องการเคลื่อนไหวของโนโซมุ แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก
คนที่มาสังเกตการณ์โนโซมุนั้นมีหลากหลายตั้งแต่สวมหมวกยันเสื้อคลุม ไปจนถึง อัศวินหญิงในชุดเกราะ แม้กระทั่งพวกที่สวมทักซิโด้ อาจกล่าวได้ว่าโนโซมุกำลังดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายโดยไม่คำนึงถึงประเทศและเชื้อชาติ
「เห็นได้ชัดว่ามีคนจากกิลด์นักผจญภัย สมาชิกของอัศวินของจักรวรรดิเคร์มาโซน พ่อค้าจากสุมายาและอื่นๆ」
「ว้าวว……มีแมวมองมากขนาดนั้นเชียวเหรอ……」
「มิมูรุ ดิฉันไม่ได้พูดแบบนั้น แม้มันจะจำเป็นสำหรับเธอ และจุดประสงค์สำหรับการสอดแนมคือโนโซมุ มีคนไม่มากที่จะเข้าหาเธอ」
ขณะที่มิมูรุขยับและน้ำลายไหล ซีน่าพูดขึ้น
「รู้แล้วล่ะน่า แล้วซีน่าล่ะ?」
「ฉันเหรอ เอ่อ……」
「เป็นอะไรไป?」
ซีน่าจ้องมองไปยังคนๆหนึ่ง สีหน้าของเธอขุ่นมัวด้วยเหตุผลบางอย่าง
เมื่อมิมูรุและคนอื่นๆสังเกตเห็น ตามสายตาของซีน่าก็พบคู่หูน่าสงสัยที่สวมฮู้ด
「ใครน่ะ……」
「บางทีอาจจะเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสเผ่าเอลฟ์และลูกน้องเขา」
「เอ๊ะ ก็หมายความว่าซีน่ากำลังโดนพวกนั้นหมายตาเหรอ?」
「ใช่แล้วค่ะ」
เอลฟ์ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าอื่น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเล็กน้อยเกี่ยวกับการเห็นเอลฟ์ในอัลคาร์ซัม และแน่นอนว่าไม่มีบันทึกว่าพวกเขาจะเข้าร่วม
「ซีน่า ดูไม่ค่อยมีความสุขเลยนะ」
「งั้นเหรอคะ……」
แม้ว่าเธอจะพบญาติของเธอแต่สีหน้าของซีน่าดูไม่มีความสุข
ซีน่าเงียบเพราะมีบางอย่างที่ยากจะพูดออกมา แต่ลิซ่าและคนอื่นๆก็เข้าใจได้และไม่ถามอะไรอีก
ราวกับจะเปลี่ยนเรื่องไอริสพูดต่อ
「เอาล่ะ ดูเหมือนว่ามิมูรุกับคุณซีน่าจะสร้างความวุ่นวายอะไรไว้สินะคะ?」
「ใช่จริงๆแล้วมันเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของซีน่า……」
「……แต่งงาน?」
น้ำเสียงของไอริสนั้นทุ้มขึ้น
ดวงตาของเธอจ้องมองมาอย่างลึกซึ้งและตั้งคำถาม
「ไม่ใช่นะ! มิมูรูเธอน่ะหยุดพูดเลย!」
「เอ๊ะ ! แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นเลยนะ~~」
แล้วสายตาของไอริสกับซีน่าก็สบกัน
ทั้งคู่ต่างมีความรู้สึกผิดต่อกันและกัน บางทีอาจจะเป็นความอึดอัดใจที่อธิบายไม่ได้ และก็มองกันอย่างเป็นธรรมชาติ
มิมูรุและคนอื่นๆที่เฝ้าดูไอริสและซีน่าจ้องมองกันก็ได้แต่สงสัย
ยังคงยาวแบบคงเส้นคงวา 20 หน้าบวกตลอด แปลเรื่องอื่นก็ไม่เท่านี้นะ
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง